เวียดนามล่าแค้น! ท้าชนฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย หวังสลายคำสาปเหรียญเงินซีเกมส์

เวียดนาม…เงาที่ไล่ล่าทีมชาติไทยมาตลอดเกือบ 20 ปี

ถ้าในโลก ฟุตซอลหญิง อาเซียน “ไทย” คือเจ้าบัลลังก์ที่ยืนหนึ่งเรื่องเหรียญ เหรียญทอง ในมหกรรม ซีเกมส์ 2025 ฝั่งตรงข้ามก็ต้องยกให้ “ทีมชาติไทย คู่ปรับตลอดกาลของเวียดนาม” ที่ยืนประกบโพเดียมฝั่งเหรียญเงินราวกับเงา ตามมาไม่เคยหายไปไหน

ตลอด 5 ครั้งที่ฟุตซอลหญิงถูกบรรจุในซีเกมส์ (2007, 2011, 2013, 2017, 2021) เวียดนาม ขึ้นโพเดียมด้วยเหรียญเงินทั้ง 5 สมัยเต็ม ๆ และเกือบทุกครั้ง “ต้นเหตุแห่งความผิดหวัง” ก็วนกลับมาที่ชื่อเดิม – ทีมชาติไทย ที่ยืนขวางอยู่หน้าบันไดขั้นสุดท้ายเหมือนประตูด่านสุดท้ายที่ผ่านไม่ได้เสียที

นี่แหละทีมที่กำลังหายใจรดต้นคอไทยอย่างแท้จริง จาก “เหรียญเงินซีเกมส์” สู่ “แชมป์อาเซียน 2024” ที่ทำให้ทุกคนต้องเริ่มมองเวียดนาม ด้วยสายตาแบบใหม่ว่า พวกเธอไม่ใช่แค่ผู้ตามอีกต่อไป

จากเหรียญเงินซีเกมส์ ถึงแชมป์อาเซียน 2024 จุดเปลี่ยนที่ไทยต้องระวัง

จุดพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของเวียดนามเกิดในปี 2024 เมื่อพวกเธอผงาดคว้าแชมป์ อาเซียน Women’s Futsal Championship 2024 ที่ฟิลิปปินส์ ด้วยการเฉือนชนะทีมชาติไทย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ นัดชิงที่ PhilSports Arena

ถ้วยแชมป์นั้นไม่ใช่แค่ถ้วยใบแรกในระดับภูมิภาค แต่มันคือ “การปลดล็อกทางจิตวิทยา” ครั้งใหญ่ของทั้งทีมและทั้งประเทศ เวียดนามพิสูจน์ให้ตัวเองและเพื่อนร่วมอาเซียนเห็นแบบจะ ๆ ว่า

พวกเธอไม่ใช่แค่ทีมที่จบด้วยเหรียญเงินตามหลังไทยอีกต่อไป

โมเมนตัมจากแชมป์อาเซียน ส่งต่อไปถึงเวทีเอเชียในทันที เวียดนามทะยานเข้ารอบสุดท้ายศึก AFC Women’s Futsal Asian Cup 2025 ที่จีนในฐานะแชมป์กลุ่มรอบคัดเลือก ก่อนจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศอย่างมั่นหน้า

แต่ตรงจุดนั้นเอง กลับกลายเป็นอีกหนึ่งรอยแผลลึกในใจ เกมพ่ายญี่ปุ่น 0-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้เวียดนามต้องอกหักชวดตั๋วไป FIFA Futsal Women’s World Cup 2025 ที่ฟิลิปปินส์ ทั้งที่ก่อนทัวร์นาเมนต์ หลายสายตามองว่าพวกเธอมีโอกาสลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ไปเวิลด์คัพเหมือนกัน

ทีมอันดับ 11 โลก ภายใต้โค้ช Nguyen Dinh Hoang

วันนี้ ฟุตซอลหญิงเวียดนามยืนอยู่ในฐานะทีมอันดับ 11 ของโลก ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เพราะการวางรากฐานที่จริงจัง ภายใต้การคุมทีมของ Nguyen Dinh Hoang เฮดโค้ชที่เข้ามายกระดับโครงสร้างและวางสไตล์การเล่นแบบร่วมสมัยให้กับทีมชุดนี้

เขาเป็นคนที่กล้าปรับ กล้าปั้น และกล้าเปลี่ยนภาพลักษณ์เวียดนามจากทีมรองบัลลังก์ ให้กลายเป็นทีมที่พร้อมขึ้นไปชนหน้าเสื่อกับบิ๊กทีมของเอเชีย

โค้ชโฮอังเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่ออาเซียนว่า เป้าหมายหลักของเวียดนามในซีเกมส์ครั้งที่ 33 คือ “การเข้าชิงชนะเลิศ” เป็นอย่างน้อยที่สุด และต้องการใช้ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นเวทีลุ้นเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้ได้เป็นครั้งแรก

ในช่วงปี 2024–2025 ทีมของเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่การไปทัวร์นาเมนต์ แต่เดินสายเก็บประสบการณ์อย่างเป็นระบบ ทั้งการคว้าแชมป์ NSDF Women’s Futsal 2024 ที่ไทย การครองแชมป์อาเซียน และการขยับอันดับขึ้นสู่อันดับ 11 ของโลกตามแรงกิ้งฟีฟ่า ทุกก้าวที่เดินคือการสะสมความมั่นใจ เพื่อมาระเบิดในซีเกมส์บนแผ่นดินไทย

ก่อนซีเกมส์ 2025 เวียดนามยังยกพลบินไปเก็บตัวที่จีน ลงอุ่นเครื่องกับทีมชาติหญิงจีน 2 นัด เสมอ 2-2 และชนะ 2-1 ใช้เกมเหล่านี้เป็นห้องทดลองแท็กติกครั้งสุดท้าย ก่อนจะบินกลับโฮจิมินห์เก็บรายละเอียดอีกโค้ง แล้วเตรียมตัวมาไทยแบบไม่มีอะไรค้างคา

ทั้งหมดนี้สะท้อนชัดเจนว่า เวียดนามไม่ได้มาซีเกมส์เพื่อ “ขอเหรียญอะไรติดมือกลับบ้าน” แต่ถูกแพลนมาอย่างจริงจังเพื่อ “มาชนไทยบนเส้นทางล่าเหรียญทอง” แบบเต็มตัว

ซีเกมส์หนนี้ไร้กัปตัน Thanh Hang จุดเปลี่ยนในห้องแต่งตัว

สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของรายชื่อเวียดนามชุดลุยซีเกมส์หนนี้ คือการหายไปของกัปตันทีมคนสำคัญอย่าง Trinh Nguyen Thanh Hang

แข้งหมายเลข 9 รายนี้เคยเป็นผู้นำเกม ทั้งในทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องระดับนานาชาติและชิงแชมป์เอเชีย เป็นหัวใจสำคัญทั้งในสนามและในห้องแต่งตัว การไม่มีชื่อของเธอในชุดล่าสุดเท่ากับว่า เวียดนามกำลังเดินเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านอย่างเป็นทางการ

เมื่อผู้นำรุ่นใหญ่อย่าง Thanh Hang ไม่อยู่ในโผ สายตาแฟนบอลจึงหันไปจับจ้องที่ชื่อ LE THI THANH NGAN แนวรุกตัวจิ๋วแต่พิษสงจัดจ้าน ที่กำลังไต่สถานะเป็นสตาร์ตัวใหม่ของทีม

ดาวยิงตัวจิ๋ว Thanh Ngan และกองหน้าชุดพีคของเวียดนาม

ชื่อของ Thanh Ngan หมายเลข 6 โผล่บนสกอร์บอร์ดบ่อยครั้งในเกมสำคัญของเวียดนามในช่วงหลัง ทั้งในรายการภูมิภาคและระดับเอเชีย เธอไม่ใช่แค่คนจบสกอร์ แต่ยังเป็นตัวเร่งจังหวะเกมรุกที่ทำให้คู่แข่งตั้งตัวไม่ทัน

ถ้าไทยมี “ดาริกา–เจนจิรา–อารียา” เป็นแกนเกมรุก เวียดนามก็มี Thanh Ngan เป็นหัวหอกของรุ่นใหม่ พร้อมด้วยเพื่อนร่วมแนวรุกที่กำลังอยู่ในช่วงพีคอย่าง Tran Nguyet Vi และ Nguyen Phuong Anh ท็อปสกอร์จากชุดแชมป์อาเซียน ที่แฟนฟุตซอลอาเซียนเริ่มคุ้นชื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ

นี่คือโฉมหน้าของเวียดนามยุคใหม่ – ทีมที่อาจขาดผู้นำรุ่นใหญ่ แต่ได้พลังสด พลังหิว และความดุดันของแนวรุกเลือดใหม่เข้ามาทดแทน

โครงสร้างกลุ่มซีเกมส์ 2025 แยกสายชัด ไทย–เวียดนามรอชนในนัดชิง

ผลการจับสลากฟุตซอลหญิงซีเกมส์ 2025 วางเวียดนามอยู่กลุ่มบี ร่วมกับ เมียนมา และอินโดนีเซีย ส่วนไทยอยู่กลุ่มเอ กับมาเลเซียและฟิลิปปินส์

โครงสร้างแบบนี้ทำให้หลายสำนักวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า

“ถ้าไม่มีอะไรพลิกโผ คู่ชิงเหรียญทองน่าจะเป็น ไทย – เวียดนาม อีกครั้ง”

เพราะทั้งสองทีมถูก “แยกสายกันไป” อย่างชัดเจน เปิดทางให้ต่างฝ่ายต่างลุ้นผ่านรอบแบ่งกลุ่มและรอบน็อกเอาต์ โดยมีจุดนัดพบอยู่ที่รอบชิงเหรียญทอง ซึ่งจะกลายเป็นการรีแมตช์นัดชิงอาเซียน 2024 ที่เวียดนามเคยหักอกไทยมาแล้ว 2-1 ในช่วงต่อเวลา

และอย่าลืมว่า ในซีเกมส์ 2017 เวียดนามเองก็เคยโดนสาวไทยบุกกดคาบ้านมาแล้วเช่นกัน คราวนี้เมื่อย้ายเวทีมาเตะบนแผ่นดินไทย พวกเธอจึงหวังใช้โอกาสนี้ “ล้างแค้น” และ “ล้างตา” ไปพร้อมกัน

สำหรับเวียดนาม นี่คือโอกาสล้าง “คำสาปเหรียญเงินซีเกมส์” ที่ยืดเยื้อมายาวนานเกือบ 20 ปี
สำหรับไทย นี่คือภารกิจป้องกันบัลลังก์ และยืนยันศักดิ์ศรีเจ้าฟุตซอลหญิงอาเซียนว่า ยังไม่มีใครมาแย่งมงกุฎไปได้ง่าย ๆ

ศึกที่มากกว่าผลสกอร์…เดิมพันของประวัติศาสตร์และความภูมิใจ

แม้จะเป็นทัวร์นาเมนต์ในปฏิทินซีเกมส์ แต่การดวลกันของไทยกับเวียดนามในฟุตซอลหญิง มันเกินกว่าคำว่า “แข่งเอาเหรียญ” ไปไกลแล้ว นี่คือการวัดกันของระบบลีกภายในประเทศ การพัฒนาทีมชาติระยะยาว และโครงสร้างเยาวชนที่แต่ละชาติลงทุนลงแรงกันมาเป็นสิบปี

ทุกแมตช์ที่สองทีมเจอกัน มักเต็มไปด้วยแท็กติกที่แพรวพราว ความดุเดือดในเกม และอารมณ์ร่วมของแฟนบอลทั้งสองฝั่ง ไม่ต่างจากดาร์บี้ระดับภูมิภาค บวกกับสถานะของทั้งสองทีมที่ยืนอยู่บนหัวแถวของเอเชีย ยิ่งทำให้เกมนี้เป็น “เวทีสอบไล่” ว่าใครพร้อมจะก้าวไปยืนชนกับยักษ์ใหญ่ระดับท็อปของทวีปในอนาคต

สำหรับแฟนบอลไทย การได้เห็นการพัฒนาของฟุตซอลหญิงไม่ใช่แค่เรื่องผลการแข่งขัน แต่มันคือแรงบันดาลใจให้เด็กผู้หญิงรุ่นใหม่กล้าลุกขึ้นมาเล่นกีฬา กล้าฝัน และกล้าเดินตามรอยพี่ ๆ ทีมชาติบนเส้นทางอาชีพนักกีฬาอย่างจริงจัง

มองข้างหน้ากับศึกซีเกมส์บนแผ่นดินไทย

ซีเกมส์หนนี้ จึงไม่ใช่แค่ทัวร์นาเมนต์อีกหนึ่งรายการ แต่คือบทใหม่ของสงครามลูกหนังในร่มระหว่างไทยกับเวียดนาม ถ้าไทยป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ก็จะย้ำชัดว่า “บัลลังก์นี้ยังเป็นของเรา” แต่ถ้าเวียดนามแหกคำสาปเหรียญเงินได้สำเร็จ ภูมิทัศน์ฟุตซอลหญิงอาเซียนอาจเปลี่ยนไปตลอดกาล

ไม่ว่าผลสุดท้ายเหรียญทองจะตกเป็นของใคร ศึกนี้การันตีได้อย่างหนึ่งแน่ ๆ คือแฟนบอลจะได้ชมเกมระดับคุณภาพที่เต็มไปด้วยแท็กติก ความเข้มข้น และดราม่าที่ห้ามกะพริบตา

แฟนฟุตซอลที่ไม่อยากพลาดทุกจังหวะสำคัญของศึกไทย–เวียดนาม รวมถึงความเคลื่อนไหวซีเกมส์ 2025 และข่าวบอลมันส์ ๆ รอบโลก อย่าลืมติดตามความอัปเดตจัดเต็มได้ที่ ฟุตซอลสดบ้านกีฬา