ผู้นำสามชาติเจ้าภาพรวมตัว เปิดฉากบิ๊กอีเวนต์ ฟุตบอลโลก 2026
บรรยากาศก่อนศึก ฟุตบอลโลก 2026 ร้อนตั้งแต่ยังไม่เริ่มเขี่ยลูก เมื่อผู้นำรัฐบาลจากสามชาติเจ้าภาพร่วมอย่าง แคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา ยืนยันเข้าร่วมงานพิธี จับสลากรอบสุดท้าย (Final Draw) อย่างเป็นทางการที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ในงานนี้จะมีการประกาศสายการแข่งขันของทัวร์นาเมนต์เวิลด์คัพยุคใหม่ที่มีถึง 48 ทีมชาติ แบ่งออกเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ซึ่งถือเป็นหมุดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกเริ่มคำนวณเส้นทางสู่แชมป์กันตั้งแต่วันจับสลาก
ดีลระดับผู้นำประเทศกับพิธีจับสลากครั้งประวัติศาสตร์
ในฝั่งการเมืองระดับสูง งานนี้ไม่ใช่แค่พิธีการธรรมดา เพราะมีการคอนเฟิร์มแล้วว่า ผู้นำทั้งสามชาติจะเข้าร่วมครบ
- นายกรัฐมนตรีแคนาดา Mark Carney
- ประธานาธิบดีเม็กซิโก Claudia Sheinbaum
- ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Donald J. Trump
ทั้งหมดจะมานั่งชมพิธีจับสลากเคียงข้างผู้บริหาร FIFA และแขกวีไอพีจากทั่วโลก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า ศึก FIFA World Cup 2026™ ไม่ใช่แค่ฟุตบอล แต่คือการรวมพลังด้านกีฬา เศรษฐกิจ การเมือง และการท่องเที่ยวของทั้งทวีปอเมริกาเหนือ
สังเวียนจัดงาน: John F. Kennedy Center ใจกลางวอชิงตัน ดี.ซี.
พิธี Final Draw จะมีขึ้นในวันที่ 5 ธันวาคม ที่ John F. Kennedy Center for the Performing Arts ศูนย์ศิลปะการแสดงชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ใจกลางกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
เวทีระดับโลกแห่งนี้จะเปลี่ยนจากเวทีการแสดงศิลปะ มาเป็นเวทีประกาศชะตากรรมของชาติฟุตบอลยักษ์ใหญ่และม้ามืดจากทั่วโลก ว่าใครจะต้องเจองานหนักตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม และใครอาจเปิดทางโล่งสู่รอบน็อกเอาต์
รูปแบบใหม่ 48 ทีม 12 กลุ่ม – จุดเปลี่ยนวงการฟุตบอลโลก
ฟุตบอลโลกหนนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้ระบบ 48 ทีม เต็มรูปแบบ แบ่งออกเป็น 12 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ทำให้จำนวนแมตช์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และเปิดโอกาสให้ชาติสมาชิกมากขึ้นได้สัมผัสบรรยากาศเวิลด์คัพ
การจับสลากครั้งนี้จึงสำคัญเป็นพิเศษ เพราะไม่ใช่แค่รู้ว่าอยู่กลุ่มไหน แต่ยังมีผลต่อการเดินเกมในรอบต่อๆ ไป ทั้งเรื่องระยะเดินทาง การพักฟื้น และโปรแกรมที่ถี่ขึ้นสำหรับนักเตะระดับท็อปจากลีกใหญ่ทั้งยุโรปและอเมริกาใต้
ดีเทลเจ้าภาพร่วม: แคนาดา – เม็กซิโก – สหรัฐอเมริกา
สามชาติในทวีปอเมริกาเหนือจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ โดยมีรายละเอียดการจัดแมตช์คร่าวๆ ตามนี้
เม็กซิโก: เจ้าภาพเวิลด์คัพ 3 สมัย – เปิดสนามแมตช์แรก
เม็กซิโก กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก เป็นครั้งที่สาม และได้รับเกียรติจัด นัดเปิดสนาม ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2026 ที่ Mexico City Stadium
เม็กซิโกจะรับหน้าที่จัดทั้งหมด 13 นัด ท่ามกลางบรรยากาศแฟนบอลละตินที่ขึ้นชื่อเรื่องความเดือด ทั้งเสียงเชียร์ สีสันบนอัฒจันทร์ และวัฒนธรรมลูกหนังที่ฝังลึกในชีวิตประจำวัน
แคนาดา: เดบิวต์เจ้าภาพเวิลด์คัพชายเต็มตัว
ในฝั่ง แคนาดา นี่คือการเปิดตัวในฐานะเจ้าภาพ FIFA World Cup ครั้งแรก หลังจากเคยจัด ฟุตบอลโลกหญิง 2015 มาแล้ว และได้รับเสียงชื่นชมเรื่องการจัดการสนามและบรรยากาศโดยรวม
แคนาดาจะจัด 13 แมตช์ เช่นกัน โดยแมตช์เปิดสนามในประเทศจะมีขึ้นที่ Toronto Stadium ในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2026 นับเป็นการประกาศให้โลกเห็นว่า แคนาดาไม่ได้มีดีแค่ฮ็อกกี้น้ำแข็ง แต่กำลังดันฟุตบอลขึ้นมาเป็นกีฬาหลักอีกชนิดของชาติ
สหรัฐอเมริกา: แบกภาระหลัก 78 นัด ปิดท้ายด้วยนัดชิง
สหรัฐอเมริกา กลับมารับบทเจ้าภาพฟุตบอลโลกอีกครั้งในรอบ 32 ปี นับจาก FIFA World Cup 1994™ ที่เคยจุดกระแสฟุตบอลในแดนมะกันอย่างลุกโชน
คราวนี้สหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมากถึง 78 นัด เริ่มจากเกมเปิดสนามฝั่งอเมริกาในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2026 ที่ Los Angeles Stadium ก่อนจะรูดม่านปิดทัวร์นาเมนต์ด้วย นัดชิงชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2026 ที่นิวยอร์ก–นิวเจอร์ซีย์ ซึ่งจะเป็นจุดสูงสุดของทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ตัวเลขแฟนบอล–บัตรชมเกม บอกทุกอย่างว่า “ยิ่งใหญ่จริง”
ทัวร์นาเมนต์นี้มีบัตรให้แฟนบอลจับจองมากกว่า 6 ล้านใบ และตามรายงานล่าสุดมีการขายตั๋วไปแล้วเกือบ 2 ล้านใบ ก่อนที่บอลจะเริ่มเตะจริง นั่นหมายความว่าแฟนบอลจากทั่วโลกเตรียมยกขบวนมาที่อเมริกาเหนือกันแบบล้นทวีป
บรรยากาศทั้งในสนามและในเมืองเจ้าภาพจึงถูกคาดหวังว่าจะเต็มไปด้วยสีสันของธงชาติจากทุกมุมโลก เสียงร้องเพลงเชียร์ และขบวนแฟนบอลที่ทำให้ฟุตบอลโลกกลายเป็นเทศกาลระดับโลกอย่างแท้จริง
มุมมองสำคัญสำหรับแฟนบอลไทยและวงการลูกหนังทั่วโลก
สำหรับแฟนบอลไทย การจับสลาก ฟุตบอลโลก 2026 ไม่ได้เป็นเพียงข่าวต่างประเทศธรรมดา แต่คือการวางภาพรวมของฟุตบอลโลกยุคใหม่ที่เน้นการขยายฐานแฟนบอลและตลาดลูกหนังไปยังภูมิภาคต่างๆ รวมถึงเอเชียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
การที่เวิลด์คัพขยายเป็น 48 ทีม ทำให้ชาติจากเอเชียมีโอกาสเพิ่มขึ้นในรอบสุดท้าย และยังส่งผลต่อภาพรวมของลีกอาชีพ การพัฒนานักเตะเยาวชน และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของฟุตบอลในหลายประเทศ รวมถึงไทยที่กำลังพยายามยกระดับตัวเองในระดับนานาชาติ
ความหมายระยะยาวของพิธีจับสลากต่อโลกฟุตบอล
ถ้าย้อนมองทุกยุคของฟุตบอลโลก พิธี จับสลากรอบสุดท้าย คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดก่อนบอลจะเตะจริง มันคือโมเมนต์ที่โค้ช นักเตะ และแฟนบอลเริ่มวางแผน ตั้งความหวัง และบางคนก็เริ่ม “ทำการบ้าน” ตั้งแต่ยังไม่รู้เลยว่าใครจะฟอร์มดีหรือหลุดฟอร์มในช่วงทัวร์นาเมนต์
ในมุมของธุรกิจและการจัดการกีฬา การจับสลากยังเชื่อมโยงกับการเดินทางของทีม สื่อมวลชน สปอนเซอร์ และการเตรียมความพร้อมของแต่ละเมืองเจ้าภาพ เพราะการรู้โปรแกรมล่วงหน้าทำให้ทุกฝ่ายบริหารจัดการได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่ความปลอดภัย การขนส่ง ไปจนถึงการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาวของทั้งสามชาติ
แฟนบอลเตรียมตัวลุ้น และรอติดตามทุกซีนเดือดไปกับ บ้านกีฬา
เมื่อผู้นำสามชาติใหญ่ในอเมริกาเหนือเตรียมนั่งแถวหน้าดูการจับสลาก FIFA World Cup 2026™ แฟนบอลทั่วโลก รวมถึงแฟนบอลไทยก็เตรียมตัวลุ้นกันได้เต็มที่ว่า ทีมรัก ทีมใหญ่ และม้ามืดทั้งหลายจะไปโผล่ในกลุ่มแห่งความตาย หรือได้เส้นทางที่เปิดโอกาสให้ไปไกลถึงดวงดาว
บ้านกีฬา ขออยู่ข้างแฟนบอลไทยเหมือนเดิม อัปเดตทุกความเคลื่อนไหว ตั้งแต่พิธีจับสลาก โปรแกรมการแข่งขัน ไปจนถึงฟอร์มร้อนในสนามจริง ใครที่อยากตามทุกจังหวะของโลกฟุตบอล อย่าลืมติดตามข่าวฟุตบอลมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

