มาเรสก้าไม่แก้ตัว! รับตรงๆ เชลซี เล่นห่วยเอง บุกพังคาถ้ำลีดส์ 1-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

มาเรสก้ายอมรับเจ็บจริง เกมนี้สมควรแพ้

เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือชาวอิตาเลียนของ เชลซี ออกมายอมรับแบบไม่มีกั๊ก หลังทีมบุกพ่าย ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-3 ที่เอลแลนด์ โร้ด ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันที่ 3 ธันวาคม ว่าลูกทีมของเขา “เล่นแย่ทุกด้าน” และสมควรเป็นฝ่ายแพ้อย่างไม่มีข้อแก้ตัว

ก่อนเกมหลายฝ่ายมองว่า “สิงห์บลูส์” ดูเหนือกว่าชัดเจน ทั้งในแง่ขุมกำลังและฟอร์มช่วงหลังที่เพิ่งชนะบาร์เซโลน่า และเสมออาร์เซน่อลมาได้ ทำให้หลายคนคาดว่าจะเก็บสามคะแนนแบบไม่ยาก แต่รูปเกมกลับตาลปัตร เชลซีโดนลีดส์วิ่งสู้ฟัด ไล่บี้ไล่เพรสจนเสียกระบวน แถมจบด้วยสกอร์ 1-3 อย่างหมดรูป

มาเรสก้าพูดหนักแน่นหลังจบเกมว่า
“นี่เป็นค่ำคืนที่แย่มากๆ พวกเขาสมควรเป็นผู้ชนะด้วยประการทั้งปวง พวกเขาทำได้ดีกว่าเราในทุกด้าน มันไม่มีเรื่องดีๆ เรื่องไหนที่เราสามารถเก็บมาจากเกมนี้ได้เลย สิ่งเดียวที่เราทำได้คือการพยายามทำความเข้าใจว่าเราทำพลาดตรงจุดไหนและรีเซ็ตตัวเองให้ได้ เพราะเราจะต้องลงเล่นอีกเกมใน 48 ชั่วโมงหลังจากนี้”

ประโยคนี้สะท้อนชัดเจนว่าเขาไม่พยายามโทษผู้ตัดสิน ไม่โทษสภาพสนาม แต่เลือกชี้ไปที่ตัวเองและลูกทีมเต็มๆ ว่าต้องกลับไปทบทวนทุกอย่างใหม่

ฝันร้ายของเชลซีที่เอลแลนด์ โร้ด

มาเรสก้าเสริมต่อด้วยน้ำเสียงผิดหวังว่า เขาอยากให้ทุกคนในทีมรู้สึก “เจ็บจริง” กับความพ่ายแพ้ครั้งนี้

ผมหวังว่าคืนนี้เราจะนอนฝันร้ายกัน เพราะอีกฝ่ายทำได้ดีกว่าเราหมดไม่ว่าจะทั้งจังหวะที่ได้ครองบอล, จังหวะท่ไม่ได้เล่นกับบอล หรือจังหวะเข้าหาบอลที่กระฉอกออกมา

คำพูดนี้เป็นการสะกิดไปถึงลูกทีมแบบตรงๆ ว่าโดนลีดส์เอาชนะทั้งเรื่องความมุ่งมั่น ความเร็ว ความดุดัน และการแย่งบอลในทุกพื้นที่ของสนาม เกมนี้เชลซีไม่สามารถยกระดับความเข้มข้นให้เท่ากับฝั่งเจ้าถิ่นได้เลย

สำหรับแฟนบอลที่ตาม ผลบอล เกมนี้อยู่ จะเห็นชัดว่าลีดส์เล่นด้วยสภาพทีมที่กระหายชัยชนะมากกว่า ไล่บี้ทุกจังหวะ ไม่ปล่อยให้ “สิงห์บลูส์” มีเวลาคิดหรือออกบอลสบายๆ ทำให้เกมรุกของเชลซีดูติดๆ ขัดๆ และแทบไม่มีช่วงที่กดดันเจ้าบ้านได้ยาวๆ

ทำไมต้องรีบถอดเอสเตเวาออกตั้งแต่พักครึ่ง

อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากคือการที่มาเรสก้าตัดสินใจถอด เอสเตเวา วิลเลี่ยน ปีกดาวรุ่งชาวบราซิล ออกจากสนามตั้งแต่ช่วงพักครึ่ง ทั้งที่เจ้าหนูวัย 18 ปีรายนี้ถือเป็นหนึ่งในความหวังเรื่องความสร้างสรรค์เกมรุกของทีม

เฮดโค้ชเชลซีอธิบายสั้นๆ แต่ชัดเจนว่า เขาไม่อยากเสี่ยงให้ทีมต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน
“เราเปลี่ยนเขาก็เพราะเขาโดนใบเหลืองไปตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อคุณมีอายุแค่ 18 ปีแล้วน่ะบางครั้งคุณก็จะคุมอารมณ์ไม่อยู่ ดังนั้นมันเลยเป็นการดีกว่าที่จะเปลี่ยนเขาออกเพื่อเลี่ยงการโดนใบแดง

จากมุมมองโค้ช การป้องกันไม่ให้ทีมเสียเปรียบตัวผู้เล่นถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในเกมที่รูปเกมเป็นรองอยู่แล้ว และต้องเจอคู่แข่งที่ใช้พลังวิ่งและความดุดันเล่นงานตลอดทั้งสนาม

บทเรียนสำคัญที่เชลซีต้องเก็บไปใช้

สำหรับสโมสรใหญ่ที่มีเป้าหมายลุยหัวตารางอย่างเชลซี ความพ่ายแพ้แบบนี้เป็นเหมือน “กระจก” บานใหญ่ที่สะท้อนให้เห็นหลายจุดที่ยังต้องแก้ ทั้งเรื่องสภาพจิตใจเมื่อโดนนำก่อน, การรับมือกับทีมที่เพรสซิ่งหนัก, รวมถึงการจัดการจังหวะเกมรับ–รุกในวันที่ฟอร์มไม่เข้าที่

ในระยะยาว แฟนบอลชาวไทยที่ติดตามบอลอังกฤษจะเห็นภาพชัดว่า ทีมใหญ่ไม่ได้ชนะเพราะชื่อชั้นเสมอไป หากวันไหนทัศนคติ ความมุ่งมั่น และความดุดันในสนามไม่ถึงมาตรฐาน ก็พร้อมโดนทีมที่มีแรงวิ่งและใจสู้ “ลงโทษ” ได้ทุกเมื่อ เหมือนที่ลีดส์ทำกับเชลซีในเกมนี้

การออกมายอมรับตรงๆ ของมาเรสก้า อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ห้องแต่งตัวเชลซีกลับมาโฟกัสอีกครั้ง เพราะเมื่อโค้ชไม่ปัดความผิดไปที่ปัจจัยภายนอก นักเตะก็ยิ่งต้องรับผิดชอบผลงานในสนามของตัวเองให้มากขึ้น

แฟนบอลรอติดตาม เชลซีจะลุกขึ้นอย่างไรหลังฝันร้ายที่ลีดส์

แม้ความพ่ายแพ้ 1-3 ต่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด จะทำให้แฟน “สิงห์บลูส์” ผิดหวัง แต่โปรแกรมอัดแน่นใน พรีเมียร์ลีก บังคับให้เชลซีต้องลืมฝันร้ายให้เร็วที่สุด เพราะอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมงยังมีเกมใหม่รออยู่ข้างหน้า

นี่คือช่วงเวลาทดสอบทั้งมาเรสก้าและลูกทีม ว่าจะใช้ความเจ็บครั้งนี้เป็นแรงผลักดัน หรือปล่อยให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสะดุดยาวๆ ในซีซั่นปัจจุบัน แฟนบอลจึงจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า “เชลซีหลังพ่ายลีดส์” จะออกมาหน้าตาแบบไหนในเกมถัดไป

ใครที่อยากตามทุกมุมมองเกมใหญ่ ผลงานของสโมสรดัง และข่าวร้อนในโลกฟุตบอลแบบจัดเต็ม อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา