บ้านผลบอล สรุปหลังเกม พรีเมียร์ลีก ดุเดือดแอนฟิลด์! ทัลบียิงนำแต่ “มูคิเอเล่ OG” ช่วยลิเวอร์พูลไล่เจ๊าซันเดอร์แลนด์ 1-1 ยังสะดุดลุ้นพื้นที่ยุโรป

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล 1-1 ซันเดอร์แลนด์ วันนี้ 4/12/68 – บ้านกีฬา

ศึกพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูลของบ้านใหม่ยุคอาร์เน่ สล็อต เปิดรังรับทีมน้องใหม่จอมซ่าอย่างซันเดอร์แลนด์ เกมนี้แฟนบอลตามลุ้นผ่านสกอร์แบบ ผลบอล สดแน่นตาราง เพราะเจ้าถิ่นต้องการสามแต้มเพื่อลุ้นพื้นที่ยุโรป ส่วนทีมเยือนหวังสร้างเซอร์ไพรส์ต่อเนื่อง และสุดท้ายจบแบบดราม่า เมื่อประตูตัวเองของ นอร์ดี้ มูคิเอเล่ ช่วยให้หงส์แดงแบ่งแต้ม 1-1 หลังโดน เช็มส์ดิน ทัลบี ซัดให้ทีมเยือนนำก่อน

🕐 ครึ่งแรก: ลิเวอร์พูลบุกทั้งเกมแต่จบไม่คม

เสียงนกหวีดเริ่มเกม ลิเวอร์พูลยืนระบบ 4-2-3-1 ครองบอลเหนือกว่าชัดเจน ไล่ส่วนสูงตั้งแต่แดนหน้า บดให้ซันเดอร์แลนด์ต้องตั้งโซนรับลึกแทบจะตลอดครึ่งแรก จังหวะเข้าทำของหงส์แดงมาจากการประสานงานของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์, อเล็กซานเดอร์ อีซัก และโคดี้ กัคโป แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ หลายลูกยิงไปติดบล็อกแนวรับทีมเยือนที่มี ดานี่ บอลลาร์ด กับ โอมาร์ อัลเดเรเต้ ช่วยกันเคลียร์

แม้รูปเกมจะบุกอยู่ข้างเดียว แต่แฟนเจ้าถิ่นที่เช็ก ผลบอลสด ผ่านมือถือเห็นสถิติแล้วคงได้แต่ส่ายหน้า เพราะโอกาสยิงกว่า 10 ครั้งของลิเวอร์พูลในครึ่งแรกกลับเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้เลย ขณะที่ซันเดอร์แลนด์แทบไม่มีโอกาสจะแจ้ง เน้นรอสวนกลับด้วยความเร็วของ เช็มส์ดิน ทัลบี และ นอร์ดี้ มูคิเอเล่ มากกว่า

จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังเสมอ 0-0 แต่ความกดดันกองอยู่ฝั่งหงส์แดงเต็มๆ

🔥 ครึ่งหลัง: ซันเดอร์แลนด์ช็อกแอนฟิลด์ ก่อนมูคิเอเล่พังโอจีช่วยเจ้าถิ่นรอด

เริ่มครึ่งหลัง อาร์เน่ สล็อต แก้เกมทันที ถอด โคดี้ กัคโป ออก ส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงมาลากเลื้อยทางขวาเพื่อเพิ่มมิติในพื้นที่สุดท้าย เกมรุกลิเวอร์พูลยังคงโหมต่อเนื่อง แต่ซันเดอร์แลนด์เริ่มตอบโต้ได้บ้างจากจังหวะวูบวาบของ ทัลบี ที่คอยฉีกมารับบอลทางซ้าย

นาที 54 เอนโซ เลอ เฟ เสียฟาวล์โดนใบเหลือง แต่หลังจากนั้นไม่นานรูปเกมกลับพลิกฝั่ง นาที 67 เลอ เฟ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนแทงทะลุช่องให้ เช็มส์ดิน ทัลบี หลุดเข้าไปซัดผ่าน อลิสซอน แบบเฉียบคม ซันเดอร์แลนด์ขึ้นนำ 1-0 เงียบทั้งแอนฟิลด์ในเสี้ยววินาที ขณะที่แฟนทีมเยือนและคนที่จ้องจอ บ้านผลบอล กระโดดเฮกันลั่น

โดนนำแบบนี้ ลิเวอร์พูลไม่มีทางเลือก ต้องเปิดหน้าแลกเต็มกำลัง ส่งทั้ง เคอร์ติส โจนส์, ฮูโก้ เอคิติเก้ ก่อนใส่สองตัวรุกสดอย่าง มิลอช เคอร์เกซ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า ลงมาเพิ่มความจัดจ้าน นาที 81 ความกดดันแปรเปลี่ยนเป็นความผิดพลาด เมื่อบอลเปิดกดดันเข้าเขตโทษของซันเดอร์แลนด์ไปโดน นอร์ดี้ มูคิเอเล่ สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง กลายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ให้ลิเวอร์พูลแบบดราม่าที่สุด

ช่วงท้ายเกมแม้เจ้าถิ่นจะพยายามโหมบุกต่อ หวังกลับมาเก็บสามแต้ม แต่แนวรับทีมเยือนยืนกันอย่างมีวินัย นายด่าน โรบิน โรฟส์ ช่วยเซฟจังหวะสำคัญไว้ได้หมด จบเกมลิเวอร์พูลทำได้เพียงเสมอซันเดอร์แลนด์ 1-1 โอกาสไล่จี้ท็อปโฟร์สะดุดอีกครั้ง

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริง, ตัวสำรอง และนักเตะโดดเด่น

🔴 ลิเวอร์พูล (4-2-3-1)

ผู้เล่นตัวจริง

  • ผู้รักษาประตู: อลิสซอน เบ็คเกอร์ (6.4)
  • กองหลัง: โจ โกเมซ (6.1, ใบเหลือง), อิบราฮิมา โกนาเต้ (7.1), เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (7.4, กัปตัน), แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (6.5)
  • กองกลางตัวรับ: ไรอัน กราเวนเบิร์ช (7.0), โดมินิค โซบอสไล (6.4)
  • กองกลางตัวรุก: ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (7.0), อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (6.9), โคดี้ กัคโป (6.4)
  • ศูนย์หน้า: อเล็กซานเดอร์ อีซัก (6.3)

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (6.6) แทน กัคโป นาที 46
  • เคอร์ติส โจนส์ (6.9) แทน โกเมซ นาที 65
  • ฮูโก้ เอคิติเก้ (6.1) แทน แม็ค อัลลิสเตอร์ นาที 74
  • มิลอช เคอร์เกซ (6.6) แทน โรเบิร์ตสัน นาที 86
  • เฟเดริโก้ เคียซ่า (7.4) แทน อีซัก นาที 86

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม

  • จอร์จี้ มามาร์แดชวิลี่
  • วาตารุ เอนโดะ
  • เทรย์ นโยนี
  • ริโอ อึงกูโมฮา

⚪ ซันเดอร์แลนด์ (4-4-2)

ผู้เล่นตัวจริง

  • ผู้รักษาประตู: โรบิน โรฟส์ (7.5)
  • กองหลัง: ทราทัน ฮูม (6.6), ดานี่ บอลลาร์ด (6.6), โอมาร์ อัลเดเรเต้ (7.2), เรนาน มานดาวา (7.2)
  • กองกลาง: นอร์ดี้ มูคิเอเล่ (6.3 – ทำเข้าประตูตัวเอง), เอนโซ เลอ เฟ (6.1, ใบเหลือง), นายิม ซาดิกี้ (6.7), เช็มส์ดิน ทัลบี (7.2 – ผู้ทำประตู)
  • กองหน้า: กรานิต ชาก้า (7.5, กัปตัน), ไบรอัน บร็อบบีย์ (6.4)

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • วิลสัน อีซิดอร์ (6.7) แทน บร็อบบีย์ นาที 62
  • ลุทชาเรล เกร์ททรูด้า (6.2) แทน เลอ เฟ นาที 79
  • ลุค โอ’เนียน (6.8) แทน ทัลบี นาที 90+1

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม

  • แอนโธนี แพทเตอร์สัน
  • แดน นีล
  • ไซม่อน อดิงกรา
  • โรมเมน มันเดิล
  • แบร์ทร็องด์ ตราโอเร่
  • เอลีเซร์ มาเยนดา

⭐ นักเตะโดดเด่นในเกมนี้

ฝั่งลิเวอร์พูลเด่นสุดคือ เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่คุมเกมรับและดันเกมขึ้นสูงช่วยทีมลุ้นประตู ส่วนซันเดอร์แลนด์มีทั้ง กรานิต ชาก้า ที่ปั้นเกมกลางสนาม, เช็มส์ดิน ทัลบี ผู้ทำประตูนำ และ โรบิน โรฟส์ ที่เซฟช่วยทีมตลอด 90 นาที

📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

หากมองเชิงแท็กติก เกมนี้ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของคู่ต่อสู้ระหว่างทีมที่เน้นครองบอลกับทีมที่เล่นรัดกุมรอจังหวะสวนกลับ การ วิเคราะห์บอล แบบเจาะรายละเอียด จะเห็นชัดว่าลิเวอร์พูลยืน 4-2-3-1 เปิดเกมบุกจากแดนหลังผ่าน ฟาน ไดจ์ค กับ โกนาเต้ ที่กล้าดันไลน์ขึ้นสูง กราเวนเบิร์ชกับโซบอสไลทำหน้าที่เป็นคู่มิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะ คอยเปลี่ยนแกนจากซ้ายไปขวาให้ เวิร์ตซ์ และ กัคโป หาพื้นที่ระหว่างไลน์รับซันเดอร์แลนด์

ปัญหาของหงส์แดงคือการจบสกอร์ เมื่อบอลมาถึง อีซัก พื้นที่ในกรอบเขตโทษถูกบีบจนแทบหายใจไม่ออก บอลจำนวนมากเลยต้องยิงไกล หรือเปิดหวังลุ้นจังหวะสองในกรอบเขตโทษ การเข้ามาของ ซาลาห์ และเคียซ่า ช่วยเพิ่มการดวลตัวต่อตัวริมเส้น แต่ก็ยังเจอการยืนคุมโซนแบบหนาแน่นจนต้องอาศัยจังหวะผิดพลาดของคู่แข่งถึงจะได้ประตู

ในทางกลับกัน ซันเดอร์แลนด์ของ เรชิส เลอ บรีส์ เลือกระบบ 4-4-2 ที่ยืดหยุ่นเป็น 4-5-1 ยามไม่มีบอล แพ็กกลางสนามให้แน่น ชาก้ากับซาดิกี้ช่วยกันตัดเกม บีบให้ลิเวอร์พูลต้องเล่นด้านนอก แล้วปล่อยให้ ทัลบี กับมูคิเอเล่ ฉีกไปรอกลับลึกๆ เมื่อแย่งบอลได้ก็ใช้การจ่ายทะลุช่องจาก เลอ เฟ เปิดไลน์สวนกลับอย่างที่เห็นในประตูขึ้นนำ

เกมรับของซันเดอร์แลนด์อาจจะดูดราม่าตรงที่เสียประตูจากโอว์นโกลของ มูคิเอเล่ แต่โดยภาพรวมการตั้งโซนในกรอบเขตโทษและการเคลื่อนที่ปิดช่องยิงถือว่ายอดเยี่ยม แทบไม่เปิดพื้นที่ให้ลิเวอร์พูลได้โอกาสจ่อๆ มากนัก ถ้าไม่มีลูกสกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง พวกเขามีโอกาสสูงที่จะบุกมาคว้าชัยออกจากแอนฟิลด์ด้วยซ้ำ

📈 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมตอกย้ำรูปเกมที่เห็นชัด ลิเวอร์พูลครองบอลมากถึง 66% ต่อ 34% ของซันเดอร์แลนด์ และจ่ายบอลรวม 599 ครั้ง ด้วยความแม่นยำระดับ 92% ในขณะที่ทีมเยือนจ่ายเพียง 248 ครั้ง แม่นยำ 85% แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้จบเพียงเสมอคือประสิทธิภาพในพื้นที่สุดท้าย หงส์แดงมีโอกาสยิงทั้งหมด 20 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ส่วนซันเดอร์แลนด์ยิง 8 เข้ากรอบ 4 เท่ากัน แสดงว่าทุกครั้งที่ทีมเยือนหลุดมาสร้างโอกาสลุ้นประตูจะได้จบสกอร์คุณภาพแทบทุกครั้ง

ด้านเกมรับลิเวอร์พูลทำฟาวล์ 10 ครั้ง ได้ใบเหลือง 1 ใบจาก โจ โกเมซ ส่วนซันเดอร์แลนด์ทำฟาวล์น้อยกว่าเพียง 5 ครั้ง แต่ก็โดนใบเหลือง 1 ใบจาก เอนโซ เลอ เฟ เกมริมเส้นหงส์แดงสร้างความกดดันได้ดี มีเตะมุม 7 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนมีเพียง 3 ครั้ง บ่งบอกว่าลิเวอร์พูลบุกต่อเนื่องตลอด แต่ยังขาดความเฉียบคมในการเปลี่ยนโอกาสเป็นสามแต้มเต็มๆ

⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม

  • ⏰ 45+1’ แอนฟิลด์ยังไร้สกอร์ ลิเวอร์พูล 0-0 ซันเดอร์แลนด์ จบครึ่งแรก
  • 🔁 46’ ลิเวอร์พูลเปลี่ยนคนแรก ส่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงแทน โคดี้ กัคโป เพื่อเร่งเกมรุก
  • 🟨 54’ เอนโซ เลอ เฟ ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองให้ซันเดอร์แลนด์
  • 🟨 55’ โจ โกเมซ ทำฟาวล์หนักริมเส้น โดนใบเหลืองฝั่งลิเวอร์พูล
  • 🔁 62’ ซันเดอร์แลนด์ถอด ไบรอัน บร็อบบีย์ ส่ง วิลสัน อีซิดอร์ ลงยืนกองหน้า
  • 🔁 65’ ลิเวอร์พูลปรับเกมรับ-รุก ถอด โกเมซ ส่ง เคอร์ติส โจนส์ ลงเติมเกมแดนกลาง
  • ⚽ 67’ ประตู! เอนโซ เลอ เฟ แทงทะลุช่องให้ เช็มส์ดิน ทัลบี วิ่งหลุดเข้าไปยิงผ่านอลิสซอน ซันเดอร์แลนด์นำ 1-0
  • 🔁 74’ หงส์แดงส่ง ฮูโก้ เอคิติเก้ ลงแทน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เพิ่มความสดในแดนหน้า
  • 🔁 79’ ซันเดอร์แลนด์ส่ง ลุทชาเรล เกร์ททรูด้า แทน เลอ เฟ เพื่อเสริมความเหนียวเกมรับ
  • ⚽ 81’ ดราม่าแอนฟิลด์! บอลเปิดกดดันเข้ากรอบเขตโทษไปโดน นอร์ดี้ มูคิเอเล่ สกัดเข้าประตูตัวเอง ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1
  • 🔁 86’ ลิเวอร์พูลเปลี่ยนรวดเดียวสองคน มิลอช เคอร์เกซ แทน แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ เฟเดริโก้ เคียซ่า แทน อเล็กซานเดอร์ อีซัก
  • 🔁 90+1’ ซันเดอร์แลนด์ปิดเกมรับเต็มรูปแบบ ส่ง ลุค โอ’เนียน ลงแทน เช็มส์ดิน ทัลบี
  • ⏰ 90+ นาทีท้าย จบเกม ลิเวอร์พูล 1-1 ซันเดอร์แลนด์ แบ่งแต้มกันไปทีมละคะแนน

🏆 Player of the Match – กรานิต ชาก้า ผู้นำแดนกลางแมวดำ

รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมนี้ตกเป็นของ กรานิต ชาก้า มิดฟิลด์กัปตันทีมซันเดอร์แลนด์ ที่โชว์คลาสผู้นำแบบเต็มตัว คะแนน 7.5 จาก Sofascore สะท้อนทุกอย่างได้ดี ชาก้าอ่านเกมได้ยอดเยี่ยม คอยตัดฟาวล์จำเป็น ช่วยบังโซนหน้ากรอบเขตโทษ ปล่อยให้แนวรุกอย่าง ทัลบี และมูคิเอเล่ มีพื้นที่ออกบอลสวนกลับ

นอกจากงานเกมรับ เขายังเป็นจุดเริ่มต้นของหลายจังหวะลุ้นประตู ด้วยการวางบอลยาวและเปลี่ยนแกนที่แม่นยำ ในนัดที่ทีมต้องวิ่งไล่บอลเกือบทั้งเกม การมีผู้นำอย่างชาก้าคุมจังหวะกลางสนามคือเหตุผลสำคัญที่ซันเดอร์แลนด์บุกมาคว้า 1 แต้มอันล้ำค่าจากแอนฟิลด์ได้สำเร็จ

📌 สถานการณ์บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

หลังจบเกมนี้ ตามภาพ บ้านผลบอล บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลลงเล่น 14 นัด เก็บได้ 22 คะแนน จากผลงานชนะ 7 เสมอ 1 แพ้ 6 ลูกได้-เสียเท่ากันที่ 21-21 รั้งอันดับ 8 ของลีก ยังตามหลังโซนท็อปโฟร์อยู่พอสมควร ขณะที่ซันเดอร์แลนด์กลายเป็น “ม้ามืดโหดเงียบ” มี 23 แต้มจาก 14 นัด ชนะ 6 เสมอ 5 แพ้ 3 รั้งอันดับ 6 เหนือหงส์แดง 1 คะแนน และห่างอันดับ 4 อย่างเชลซีเพียงแต้มเดียวเท่านั้น

ความหมายของผลเสมอนัดนี้คือ ลิเวอร์พูลยังไม่สามารถทะยานเข้าใกล้พื้นที่ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้อย่างที่หวัง ต้องเร่งเก็บชัยในเกมต่อๆ ไป ส่วนซันเดอร์แลนด์ยังยึดหัวตารางกลุ่มบนต่อไป และสะท้อนว่าพวกเขาไม่ใช่แค่น้องใหม่ที่จะมาเที่ยวเดียวแล้วร่วงกลับลงไปง่ายๆ

📅 ตารางบอลและโปรแกรมบอลนัดถัดไป

มองไปข้างหน้าในหน้า โปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก หงส์แดงมีงานหนักต่อเนื่อง เมื่อต้องบุกเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ในเกมลีกถัดไป ก่อนจะไปเยือน อินเตอร์ มิลาน ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ถือเป็นช่วงโปรแกรมโหดที่ต้องบริหารสภาพร่างกายและความมั่นใจให้ดี หากพลาดซ้ำอีกอาจหลุดจากเส้นทางลุ้นอันดับหัวตารางยาวๆ

ด้านซันเดอร์แลนด์ก็ไม่ต่างกัน เพราะโปรแกรมข้างหน้าคือการบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อด้วยเปิดบ้านทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สองเกมนี้จะพิสูจน์ชัดว่าแมวดำพร้อมจะอยู่ในกลุ่มลุ้นตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปจริงแค่ไหน

📺 ติดตาม บ้านผลบอล ครบทุกคู่ได้ที่ บ้านกีฬา

แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะของแอนฟิลด์และทุกสนามใหญ่ ไม่ว่าจะเช็ก บ้านผลบอล, ไลฟ์สกอร์, ไฮไลต์มันส์ๆ หรืออัปเดตข่าวตลาดนักเตะ สามารถติดตามได้ที่ “บ้านกีฬา” เราจัดให้ครบทั้งสรุปแมตช์แบบเจาะลึก สายเดือดชอบตัวเลขก็ไม่พลาดสถิติแน่นๆ ส่วนสายเชียร์ก็มีมุมมองแท็กติกและเรื่องเล่าข้างสนามให้ตามอ่านกันทุกวัน

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา