
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-1 เชลซี วันนี้ 4/12/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกนัดนี้ที่เอลแลนด์ โรด กลายเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่แฟนบอลสายเช็ก ผลบอลสด ต้องหันมามอง ลีดส์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านอัด เชลซี 3-1 แบบเหนือความคาดหมาย ทั้งที่รูปเกมเป็นรองเรื่องการครองบอล แต่เล่นดุดัน มีวินัย และคมกว่าในจังหวะสุดท้าย ทำให้เก็บสามแต้มสำคัญหนีโซนตกชั้น ส่วนเชลซีของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ครองบอลขึงอยู่แทบตลอด แต่เจาะไม่เข้า แถมโดนเกมสวนกลับของเจ้าถิ่นลงโทษเต็ม ๆ
⏱ ครึ่งแรก: ลูกตั้งเตะ–สวนกลับทำงาน ลีดส์นำห่าง 2-0
เสียงเชียร์จากกองเชียร์เจ้าถิ่นยังไม่ทันแผ่ว นาทีที่ 6 ลีดส์ก็ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะลูกตั้งเตะเปิดเข้าเขตโทษ และเป็น ยาค็อบ บีโญล โฉบขึ้นโขกผ่านมือ โรเบิร์ต ซานเชซ เข้าไปอย่างเฉียบขาด จุดประกายความเดือดให้สนามเอลแลนด์ โรดตั้งแต่ต้นเกม
หลังจากได้ประตูนำ ลีดส์ถอยตั้งรับในระบบ 3-5-2 ปล่อยให้เชลซีครองบอล และรอจังหวะสวนกลับเป็นหลัก เชลซีพยายามขึงเกมด้วยการผ่านบอลสั้นจากคู่มิดฟิลด์ เอ็นโซ่ แฟร์นานเดซ กับ อังเดร ซานโตส ต่อเนื่อง แต่จังหวะจบสกอร์ไม่คม และติดแนวรับเจ้าถิ่นที่เล่นกันแน่นเปรี๊ยะ
ปลายครึ่งแรก นาทีที่ 43 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮลั่นอีกครั้ง เมื่อ อาโอะ ทานากะ เติมขึ้นมาจบสกอร์ในเขตโทษ ฝังเข้าไปเป็น 2-0 จากจังหวะต่อบอลเร็วทางฝั่งขวา ส่งให้ลีดส์ลงห้องแต่งตัวด้วยความได้เปรียบทั้งสกอร์และสภาพจิตใจ
🔁 ครึ่งหลัง: เชลซีตีไข่แตกแต่โดนปิดกล่อง 3-1
กลับมาครึ่งหลัง เชลซีแก้เกมทันที ส่ง มาโล กุสโต้ และ เปโดร เนโต้ ลงมาเพิ่มความจัดจ้านเกมรุก ผลชัดเจน นาทีที่ 50 สิงห์บลูส์ได้ประตูตีตื้น 2-1 จากจังหวะ เปโดร เนโต้ ลากตัดเข้าในก่อนถวายพานให้ เจมี่ กิตเทนส์ ยิงจ่อ ๆ ไม่เหลือ ทำให้รูปเกมกลับมาลุ้นอีกครั้ง
ช่วงกลางครึ่งหลัง เชลซีเดินหน้าบุกเต็มกำลัง เปลี่ยนส่ง โคล พาล์เมอร์ กับ อเลฆานโดร การ์นาโช่ ลงมาเพิ่มมิติในพื้นที่สุดท้าย แต่ยิ่งเปิดเกมมาก ช่องว่างด้านหลังก็ยิ่งใหญ่ นาทีที่ 72 ลีดส์ฉวยโอกาสสวนกลับเร็ว บอลไหลถึง โดมินิก แคลเวิร์ต-ลูวิน พลิกหนีตัวประกบแล้วสับไกส่งบอลเสียบเสาอย่างเด็ดขาด กลายเป็นประตูปิดกล่อง 3-1
ท้ายเกมเจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวถ่วงเวลา เก็บรูปเกมรัดกุม และรับมือกับการโหมบุกของเชลซีได้อยู่ หมดเวลา ลีดส์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านดับสิงห์บลูส์ 3-1 เก็บสามแต้มโคตรสำคัญ ส่วนเชลซีอกหักกลับลอนดอนแบบมือเปล่า

🧾 รายชื่อ 11 ตัวจริงและคะแนนผู้เล่น
🔰 ลีดส์ ยูไนเต็ด (3-5-2)
ผู้รักษาประตู
- ลอเรนโซ่ เปร์รี (GK) – 6.6
กองหลัง
- โจ รอดอน – 6.5
- ยาก็อบ บีโญล – 7.7 (ทำประตู 1-0)
- ปาสกาล สตรู้ยค์ – 6.7
กองกลาง
- เจย์เดน โบเกิล – 6.4
- กุ๊ดมันด์ กุ๊ดมุนด์สสัน – 7.2
- อาร์เน่ สตาคห์ – 7.1
- อีธาน แอมพาดู (กัปตัน) – 7.2
- อาโอะ ทานากะ – 7.3 (ยิงประตู 2-0)
กองหน้า
- ลูคัส เอ็นเมชา – 6.2
- โดมินิก แคลเวิร์ต-ลูวิน – 8.3 (ยิงประตู 3-1, Player of the Match)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- อิเลีย กรูเยฟ – 6.7 (น.67 แทน ทานากะ)
- โนอาห์ โอคาฟอร์ – 7.1 (น.67 แทน เอ็นเมชา)
- โจเอล ปีโร – 6.6 (น.86 แทน แคลเวิร์ต-ลูวิน)
- เจมส์ จัสติน – 6.7 (น.87 แทน โบเกิล)
- เซบาสเตียน บอร์นาว – – (น.90+ แทน กุ๊ดมุนด์สสัน)
ตัวสำรองไม่ได้ลง
- คาร์ล ดาร์โลว์ (GK)
- แจ็ค แฮร์ริสัน
- เบรนเดน แอรอนสัน
- วิลฟรีด ฌญ็อตโต้
🔵 เชลซี (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- โรเบิร์ต ซานเชซ (GK) – 6.5
กองหลัง
- เทรวอห์ ชาโลบาห์ – 6.1
- ทอซิน อดาราบิโอยอ – 6.2
- เบอนัวต์ บาเดียชิล – 6.1
- มาร์ก กูกูเรยา – 6.1
มิดฟิลด์ตัวรับ
- เอ็นโซ่ แฟร์นานเดซ (กัปตัน) – 6.8
- อังเดร ซานโตส – 6.8
แนวรุกตัวรุก
- เอสเตวาว (ริมเส้นขวา) – 6.4
- เจา เปโดร – 6.2
- เจมี่ กิตเทนส์ – 7.5 (ยิงประตูตีไข่แตก 2-1)
กองหน้า
- เลียม เดลัป – 6.6
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- มาโล กุสโต้ – 6.6 (น.46 แทน บาเดียชิล)
- เปโดร เนโต้ – 7.6 (น.46 แทน เอสเตวาว, 1 แอสซิสต์)
- โคล พาล์เมอร์ – 6.1 (น.61 แทน เดลัป)
- อเลฆานโดร การ์นาโช่ – 6.9 (น.61 แทน กิตเทนส์)
- มาร์ก กียู – 6.4 (น.77 แทน ซานโตส)
ตัวสำรองไม่ได้ลง
- ฟิลิป เยอร์เกนเซน (GK)
- จอช อาเคมปง
- รีซ เจมส์
- ยอเรล ฮาโต้
ผู้เล่นบาดเจ็บ/ติดโทษแบนที่ไม่มีชื่อ
- ลีดส์: ฌอน ลองสตาฟฟ์, แดเนียล เจมส์ (เจ็บ)
- เชลซี: มิคไฮโล มูดริก, มอยเซส ไกเซโด (ติดโทษแบน), เลวี โคลวิลล์, ดารีโอ เอสซูโก (เจ็บ), โรเมโอ ลาเวีย (เช็กความฟิต)
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
บ้านกีฬา มองรูปเกมนี้ชัดเจนว่าเป็นตัวอย่างคลาสสิกของบอล “มีแผน มีวินัย” สู้บอล “ครองบอลแต่ไร้ไอเดีย” ถ้าเอามา วิเคราะห์บอล แบบละเอียด ลีดส์ใช้ระบบ 3-5-2 เน้นการบีบพื้นที่แดนกลาง กองหลังสามคนยืนคุมกรอบเขตโทษอย่างหนาแน่น แอมพาดูยืนคุมจังหวะหน้าแผงหลัง คอยสวนจังหวะสองให้ ทานากะ กับ สตาคห์ ไล่เพรสสูงเป็นระยะ เมื่อแย่งบอลได้ บอลถูกแทงออกข้างไปที่วิงแบ็ก โบเกิล หรือ กุ๊ดมุนด์สสัน เพื่อเปิดเข้าใน หรือฝากให้ เอ็นเมชา ดึงจังหวะก่อนแทงต่อให้ แคลเวิร์ต-ลูวิน ทำหน้าที่พักบอลและปั่นป่วนแนวรับเชลซี
ด้านเกมรับ เจ้าถิ่นอ่านเกมเชลซีออกหมด สิงห์บลูส์พยายามต่อบอลจากหลังขึ้นหน้าในระบบ 4-2-3-1 ใช้คู่กลาง แฟร์นานเดซ–ซานโตส เป็นฐานคุมบอล แล้วให้ตัวรุกสามคนหาพื้นที่ระหว่างไลน์ แต่ลีดส์บีบช่องกลางแน่นมาก บังคับให้เชลซีออกข้างบ่อย ๆ เมื่อบอลถึงริมเส้น กองหลังฝั่งเจ้าบ้านขยับออกมาซ้อนเร็ว ทำให้โอกาสเปิดบอลแบบได้เปรียบมีไม่มาก
เกมรุกของเชลซีดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังส่ง เปโดร เนโต้ กับ กุสโต้ ลงมา เนโต้ใช้ความเร็วและความมั่นใจพาบอลเข้าเขตโทษ ลากดึงตัวประกบแล้วจ่ายทะลุช่องให้ กิตเทนส์ ยิงตีไข่แตก แต่หลังจากนั้น ลีดส์ปรับเกมเป็นตั้งบล็อกต่ำกว่าเดิม ปิดพื้นที่หน้าเขตโทษ แล้วคอยดักบอลจังหวะที่สอง อีกทั้งกองหลังอย่าง บีโญล กับ แอมพาดู เก็บลูกกลางอากาศเกือบหมด
ประตู 3-1 ของ แคลเวิร์ต-ลูวิน ก็สะท้อนแท็คติกนี้ชัดเจน เชลซีดันไลน์ขึ้นสูงเกินไปเพื่อหวังตีเสมอ ทันทีที่ลีดส์แย่งบอลได้ บอลถูกแทงลึกทะลุช่องหลังเซ็นเตอร์สิงห์บลูส์ ดาวยิงเบอร์ 9 ใช้พละกำลังเบียดแล้วหลุดไปยิงไม่เหลือ เป็นการปิดจ็อบแบบทีมที่มีหมัดหนักกว่า แม้สถิติเกมจะเป็นรองก็ตาม

📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขหลังเกมบอกทุกอย่าง ลีดส์ยิงทั้งหมด 14 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง เปลี่ยนเป็น 3 ประตู ขณะที่เชลซียิง 11 ครั้ง เข้ากรอบเพียง 2 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงความคมและคุณภาพของจังหวะจบสกอร์เจ้าบ้าน แม้เชลซีจะครองบอลถึง 71% ต่อ 29% ของลีดส์ และจ่ายบอลมากถึง 596 ครั้ง (ลีดส์ 197 ครั้ง) ด้วยความแม่นยำ 94% เทียบกับ 82% ของเจ้าถิ่น แต่การครองบอลที่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นโอกาสลุ้นประตูคุณภาพ กลายเป็นตัวเลขที่ “สวยแต่ไร้ผล” ทั้งสองทีมทำฟาวล์ใกล้เคียงกัน ลีดส์ 10 ครั้ง เชลซี 13 ครั้ง ได้ลูกเตะมุม ลีดส์ 4 ครั้ง เชลซี 2 ครั้ง ชี้ให้เห็นว่าเจ้าบ้านอันตรายทุกครั้งที่ได้เล่นเกมสวนและลูกเซ็ตพีซ ขณะที่จังหวะล้ำหน้าเป็นของลีดส์ 3 ครั้ง เชลซี 1 ครั้ง บ่งบอกว่าเจ้าถิ่นกล้าเล่นบอลทะลุช่องหลังแนวรับคู่แข่งตลอดทั้งเกม
🕰️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⏱️ 6′ ลีดส์นำ 1-0 – ยาก็อบ บีโญล โหม่งจากลูกตั้งเตะ ส่งบอลเสียบตาข่ายให้เจ้าถิ่นออกนำเร็ว
- 🟨 35′ อาร์เน่ สตาคห์ ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองให้ลีดส์
- 🟨 39′ เอสเตวาว พุ่งเสียบหนัก โดนใบเหลืองฝั่งเชลซี
- ⚽ 43′ ลีดส์หนี 2-0 – อาโอะ ทานากะ เติมขึ้นมายิงในเขตโทษ หลังรับบอลต่อจาก เจย์เดน โบเกิล
- ⏱️ HT ลีดส์ 2-0 เชลซี – เจ้าบ้านคมกว่า นำห่างสองเม็ดก่อนพักครึ่ง
- 🔁 46′ เชลซีเปลี่ยนตัว – ส่ง มาโล กุสโต้ และ เปโดร เนโต้ ลงแทน บาเดียชิล กับ เอสเตวาว เติมความสดริมเส้น
- ⚽ 50′ เชลซีไล่ 2-1 – เปโดร เนโต้ ลุยฝั่งขวาก่อนจ่ายให้ เจมี่ กิตเทนส์ ยิงผ่านมือ เปร์รี เข้าไป
- 🔁 61′ เชลซีเติมรุก – โคล พาล์เมอร์ ลงแทน เลียม เดลัป และ อเลฆานโดร การ์นาโช่ ลงแทน กิตเทนส์
- 🔁 67′ ลีดส์เสริมแดนกลาง – อิเลีย กรูเยฟ กับ โนอาห์ โอคาฟอร์ ลงแทน ทานากะ และ เอ็นเมชา
- ⚽ 72′ ลีดส์หนี 3-1 – โดมินิก แคลเวิร์ต-ลูวิน หลุดกับดักล้ำหน้า ก่อนยิงผ่าน ซานเชซ อย่างใจเย็น
- 🔁 77′ เชลซีส่ง มาร์ก กียู ลงแทน อังเดร ซานโตส เติมกองหน้าตัวเป้า
- 🔁 86’–87′ ลีดส์ทยอยเปลี่ยนตัว – ปีโร กับ จัสติน ลงมาแทน แคลเวิร์ต-ลูวิน และ โบเกิล เพื่อเก็บแรงและถ่วงเวลา
- ⏱️ 90+’ บอร์นาว ลงแทน กุ๊ดมุนด์สสัน ช่วยปิดเกมให้ลีดส์ เก็บชัยชนะสำเร็จ
⭐ Player of the Match
โดมินิก แคลเวิร์ต-ลูวิน คือคนที่แบกแนวรุกลีดส์ทั้งเกม การพักบอล บังบอล ชนเซ็นเตอร์ของเชลซี ทำให้เกมโต้กลับของเจ้าถิ่นมีเป้าหมายชัดเจน นอกจากประตู 3-1 ที่เขายิงปิดบัญชีอย่างเฉียบขาดแล้ว ตลอด 72 นาทีในสนาม เขาชนะดวลลูกกลางอากาศหลายครั้ง ดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้เพื่อนเล่นง่าย จึงไม่แปลกที่ได้รับคะแนน 8.3 สูงสุดในสนาม และถูกยกให้เป็น Player of the Match แบบไร้ข้อโต้แย้ง

🧮 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ชัยชนะนัดนี้ส่งผลใหญ่ต่อทิศทางฤดูกาลของทั้งสองทีม ตามภาพในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกล่าสุด ลีดส์ ยูไนเต็ด ขยับมี 14 คะแนน อยู่โซนล่างของตารางแต่เริ่มหายใจโล่งขึ้น เพราะทิ้งโซนตกชั้นออกไปได้สามแต้ม และสร้างโมเมนตัมสำคัญในการหนีตายช่วงโค้งยาวของซีซัน
ในทางกลับกัน เชลซียังคงรั้งอันดับ 4 มี 24 คะแนน พลาดโอกาสไล่จี้สามทีมนำอย่าง อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแอสตัน วิลล่า ช่องว่างกับจ่าฝูงมากถึง 9 แต้ม เกมนี้สะท้อนชัดว่าถ้าไม่ยกระดับคุณภาพการจบสกอร์และความแน่นอนในเกมเยือน ความฝันลุ้นแชมป์หรืออย่างน้อยการการันตีโควตาแชมเปียนส์ลีกอาจกลายเป็นงานที่ยากกว่าเดิมมาก
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก นัดถัดไป
มองไปที่ โปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีกนัดต่อไป แฟนบอลเตรียมจดวันที่กันให้ดี ลีดส์ ยูไนเต็ด มีงานหนักต่อเนื่อง เปิดบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล ในเกมที่สัญญาว่าจะเดือดไม่แพ้วันนี้ ก่อนจะออกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแกร่งในรัง
ขณะที่เชลซีต้องรีบตั้งหลัก เกมถัดไปในลีกคือการบุกเยือน บอร์นมัธ ซึ่งแม้ชื่อชั้นจะเป็นรอง แต่ผลงานในบ้านไม่ธรรมดา หากสิงห์บลูส์ยังเสียประตูง่ายและใช้โอกาสเปลืองแบบเกมนี้ โอกาสสะดุดซ้ำก็มีสูง หลังจากนั้นยังมีศึกใหญ่ระดับยุโรปกับอตาลันต้าในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกรออยู่ โปรแกรมหินแบบนี้ ถ้าไม่รีบเรียกฟอร์มกลับมา สถานการณ์อาจยิ่งบีบคั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ
📢 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา
ใครที่อยากตามทุกจังหวะสำคัญของพรีเมียร์ลีก และลีกดังทั่วยุโรป บ้านกีฬา ชวนให้เกาะติดอัปเดต บ้านผลบอล แบบสดใหม่ ทั้งสกอร์เรียลไทม์ รายงานหลังเกมเชิงลึก ตารางคะแนน อันดับดาวซัลโว ไปจนถึงบทวิเคราะห์ก่อน–หลังแข่งสไตล์ดุดันไม่อวยทีมไหนแฟนไหนเป็นพิเศษ แค่ตามอ่านเรา คุณจะไม่พลาดทุกอารมณ์ของเกมลูกหนังตลอดทั้งฤดูกาล

