บ้านผลบอล สรุปหลังเกม พรีเมียร์ลีก ดราม่าถล่มตาข่าย ฟิล โฟเด้น ผนึกฮาแลนด์พาแมนฯ ซิตี้บุกยิงฟูแล่ม 5-4 ไล่ล่าจ่าฝูงเดือดต่อเนื่อง

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง ฟูแล่ม 4-5 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันนี้ 3/12/68 – บ้านกีฬา

ศึกพรีเมียร์ลีกที่คราเวน ค็อตเทจ เกมนี้บอกได้คำเดียวว่า “หายใจไม่ทัน” เพราะเสียงประตูดังรัวตั้งแต่ต้นจนจบ จบเกมนี้แฟนเช็กผลผ่าน ผลบอลสด และหน้าจอทุกสำนักต้องขยี้ตา เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้บุกชนะฟูแล่มแบบสุดมัน 5-4 กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ดุเดือดที่สุดของซีซั่นทันที

⏱️ ครึ่งแรก: เรือใบสปีดจัด นำห่าง 3-1

เปิดฉากมาแมนฯ ซิตี้เดินเครื่องใส่ทันที ใช้สามแนวรุกอย่าง เจเรมี่ โดคู – เออร์ลิง ฮาแลนด์ – ฟิล โฟเด้น ไล่บี้แนวรับฟูแล่มจนตั้งเกมไม่ติด นาที 17 ฮาแลนด์ฉีกไปรับบอลในเขตโทษ ก่อนกดเต็มข้อให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 แบบคมกริบ

ฟูแล่มพยายามตั้งสติ เล่นตามจังหวะตัวเอง ใช้การต่อบอลสั้นที่แม่นยำ แต่ยังเจอการเพรสซิ่งของซิตี้บีบจนผิดพลาด นาที 37 “ทิจานี ไรน์เดอร์ส” เติมสูงขึ้นมากดประตูให้เรือใบหนี 2-0 จากนั้นนาที 44 ซิตี้โชว์บอลชั้นครู ไรน์เดอร์สแทงทะลุให้โฟเด้นหลุดยิงส่งสกอร์ไหลเป็น 3-0 ทีมเยือนคุมเกมแบบเบ็ดเสร็จ

แต่ก่อนหมดครึ่งแรกเจ้าถิ่นไม่ยอมตายง่าย นาที 45+2 แฮร์รี่ วิลสัน โยนบอลให้ เอมิล สมิธ โรว์ สอดเข้ามาซัดตีไข่แตก 1-3 ส่งฟูแล่มกลับเข้าห้องแต่งตัวพร้อมความหวัง

🔥 ครึ่งหลัง: ฝั่งละสาม! เกมเปิดหน้าแลกจนเสียงนกหวีดสุดท้าย

ครึ่งหลังเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังสั่งลูกทีมเดินเกมรุกต่อเนื่อง และได้ผลทันที นาที 48 โฟเด้นรับบอลในเขตโทษแล้วกดเรียดเสียบมุม เป็นประตูที่สองของตัวเองและทำให้สกอร์ไหลเป็น 4-1

นาที 54 ดราม่าเพิ่มระดับเมื่อจังหวะป้องกันในเขตโทษ “ซานเดอร์ แบร์ก” มิดฟิลด์ฟูแล่มพลาดสกัดเข้าประตูตัวเอง กลายเป็นประตู 5-1 ให้แมนฯ ซิตี้เหมือนเกมจะปิดกล่อง แต่หลังจากนั้นเรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด

มาร์โก ซิลวา แก้เกมด้วยการส่ง ซามูเอล ชุคควูเซ และ ทิโมธี กาสตาญ ลงมาเติมความสด เกมรุกเจ้าถิ่นเปลี่ยนทันตา นาที 57 อเล็กซ์ อิโวบี ซัลโวให้ฟูแล่มไล่มา 2-5 ก่อนที่ชุคควูเซจะระเบิดฟอร์ม นาที 72 กดเม็ดแรกไล่มา 3-5 และนาที 78 เติมอีกลูกเป็น 4-5 ทำให้ช่วงท้ายเกมกลายเป็นสงครามประสาทของจริง

แม้ฟูแล่มจะโหมบุกสุดกำลัง ครองบอลมากกว่า ยิงรวม 12 ครั้ง แต่แนวรับแมนฯ ซิตี้ยังประคองสถานการณ์ไว้ได้ จบ 90 นาทีเต็มไปด้วยเสียงเฮและเสียงเสียดาย เรือใบสีฟ้าบุกคว้า 3 แต้มสำคัญแบบใจหายใจคว่ำ

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว

🏠 ฟูแล่ม (4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู

  • เบิร์นด์ เลโน่ 5.1

กองหลัง

  • เคนนี่ เตเต้ 6.1 (ออก 46’)
  • โยอาคิม อันเดอร์เซน (กัปตัน) 5.6
  • คาลวิน บาสซีย์ 5.9
  • ไรอัน เซสเซญง 4.8

กองกลางตัวรับ

  • ซานเดอร์ แบร์ก 6.4
  • ซาซ่า ลูคิช 6.5 (ออก 46’)

กองกลางตัวรุก

  • แฮร์รี่ วิลสัน 6.3 (ออก 82’)
  • เอมิล สมิธ โรว์ 7.0 (ยิง 1-3 นาที 45+2, ออก 74’)
  • อเล็กซ์ อิโวบี 7.8 (ยิง 2-5 นาที 57’)

ศูนย์หน้า

  • ราอูล ฆิเมเนซ 6.7 (ออก 73’)

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • ทิโมธี กาสตาญ 6.7 (แทน เตเต้ 46’)
  • ซามูเอล ชุคควูเซ 8.9 (เหมาสอง นาที 72, 78 แทน ลูคิช 46’)
  • โจนาห์ คูซี-อาซาเร 6.5 (แทน ฆิเมเนซ 73’)
  • โจชัว คิง 6.5 (แทน สมิธ โรว์ 74’)
  • เควิน 6.9 (แทน วิลสัน 82’)

ตัวสำรองไม่ได้ใช้
เบนจามิน เลอก็อมต์, ฆอร์เก้ กวินก้า, แฮร์ริสัน รีด, ทอม แคร์นีย์

🛫 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3)

ผู้รักษาประตู

  • จานลุยจิ ดอนนารุมมา 6.4

กองหลัง

  • นาธาน โอ’รีลลี่ 5.3
  • รูเบน ดิอาส 6.0
  • ยอสโก้ กวาร์ดิโอล 6.7
  • ทิจานี ไรน์เดอร์ส 7.4 (ยิงนำ 0-2 นาที 37, ออก 82’)

กองกลาง

  • มาเธอุส นูเนส 6.4
  • แบร์นาร์โด ซิลวา (กัปตัน) 6.9
  • นิโก้ กอนซาเลซ 6.8 (ออก 64’)

กองหน้า

  • เจเรมี่ โดคู 6.5 (ออก 64’)
  • ฟิล โฟเด้น 9.3 (ยิงสอง นาที 44, 48 ออก 90+’)
  • เออร์ลิง ฮาแลนด์ 8.5 (ยิงเปิดหัว นาที 17)

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • จอห์น สโตนส์ 6.3 (แทน กอนซาเลซ 64’)
  • ซาวินโญ่ 6.8 (แทน โดคู 64’)
  • รายาน แชร์กี 6.9 (แทน ไรน์เดอร์ส 82’ ได้ใบเหลืองช่วงทดเจ็บ)
  • นาธาน อาเก้ (แทน โฟเด้น ช่วงทดเวลา 90+’)

ตัวสำรองไม่ได้ใช้
เจมส์ ทรัฟฟอร์ด, ริโก้ ลูอิส, อับดูกอดีร์ คูซานอฟ, รายาน ไอต์-นูรี, โอมาร์ มาร์มูช

เกมนี้ตัวเด่นของฟูแล่มคือ ชุคควูเซ กับ อิโวบี ส่วนฝั่งซิตี้คือ โฟเด้น, ฮาแลนด์ และไรน์เดอร์ส ที่สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับเจ้าถิ่นตลอด 90 นาที

📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในเชิงแผนการเล่น หากมองมุม วิเคราะห์บอล เกมนี้ ฟูแล่มของมาร์โก ซิลวา ใช้ 4-2-3-1 เน้นครองบอลจากแดนหลังขึ้นไปทีละจังหวะ ตัวคู่กลางอย่างแบร์กกับลูคิชคอยถ่ายบอลออกปีกให้วิลสันกับอิโวบี ขณะที่สมิธ โรว์ทำหน้าที่เชื่อมเกมระหว่างกลางสนามกับฆิเมเนซ จุดแข็งคือการต่อบอลสั้นแม่นยำและการขยับหาพื้นที่ แต่จุดอ่อนคือเมื่อเสียบอลแดนกลางแล้วการลงมาปิดช่องหน้ากองหลังยังช้า ทำให้โดนสวนกลับเร็วของซิตี้ลงโทษอยู่หลายครั้ง

ด้านแมนฯ ซิตี้ของเป๊ป ยืนระบบ 4-3-3 แต่ยืดหยุ่นสูง เมื่อได้บอล ไรน์เดอร์สจะขยับดันสูงเติมเป็นวิงแบ็ก ซิลวาและนูเนสสลับกันรับ–รุกเพื่อเปิดพื้นที่ให้โฟเด้นและโดคูหุบเข้าใน ส่วนฮาแลนด์ยืนค้ำคอยดึงเซ็นเตอร์ฟูแล่มให้หลุดตำแหน่ง การโจมตีของซิตี้เน้นสปีดบอลและการวิ่งสอดแนวลึก ทำให้แม้จะไม่ได้ครองบอลมากกว่า แต่ได้โอกาสคุณภาพสูง (xG สูงถึง 2.21)

เกมรับฟูแล่มมีปัญหาชัดเจนกับการรับมือบอลทะลุช่องและการสลับตำแหน่งของแนวรุกซิตี้ โดยเฉพาะโฟเด้นที่หลุดมารับบอลระหว่างไลน์กองกลาง–กองหลังบ่อยครั้ง ขณะที่ฝั่งซิตี้เองก็ไม่ได้เหนียวแน่นนัก เมื่อเป๊ปเปลี่ยนตัวถอดปีกความเร็วอย่างโดคูออก เกมสวนกลับลดความคม และการยืนโซนในช่วงท้ายถูกฟูแล่มบุกกดดันจนช่องว่างริมเส้นเปิด ทำให้เสียสามประตูในครึ่งหลัง

📈 สถิติการแข่งขันบอกอะไรบ้าง

ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพอย่างชัดเจน ฟูแล่มครองบอลราว 56% ต่อ 44% ของแมนฯ ซิตี้ ผ่านบอลมากกว่าประมาณ 469 ต่อ 408 ครั้ง และมีความแม่นยำในการจ่ายบอลถึง 91% ขณะที่ซิตี้อยู่ราว 90% แสดงให้เห็นว่าเจ้าบ้านเล่นบอลกับพื้นได้ดีและคุมจังหวะในช่วงยาวๆ ของเกม

อย่างไรก็ดี ความคมยังเทไปทางทีมเยือน xG ของซิตี้พุ่งไปกว่า 2.21 จากโอกาสยิง 11 ครั้ง ขณะที่ฟูแล่มมีโอกาส 12 ครั้งแต่ xG เพียง 0.90 เท่านั้น บ่งบอกว่าจำนวนครั้งในการยิงของเจ้าถิ่นไม่ได้เป็นโอกาสทองมากนัก แม้จะกดดันจนได้ประตูจากจังหวะต่อบอลสวยๆ และลูกยิงเฉียบของชุคควูเซก็ตาม

ลูกเตะมุม ฟูแล่มได้ถึง 7 ครั้ง เหนือกว่าซิตี้ที่ได้เพียง 2 ครั้ง ฟาวล์ใกล้เคียงกัน 9 ต่อ 7 ใบเหลืองมีให้เห็นแค่ฝั่งทีมเยือน 1 ใบ ส่วนจำนวนแท็กเกิลและการแย่งบอลค่อนข้างสูสี สะท้อนว่าเกมนี้ต่อสู้กันดุดันและเปิดหน้าแลกแบบไม่มีใครยอมใคร

⏱️ เหตุการณ์สำคัญในเกม

  • ⚽ 17’ แมนฯ ซิตี้ขึ้นนำ 0-1 – เออร์ลิง ฮาแลนด์ ซัดไม่เหลือ
  • ⚽ 37’ 0-2 แมนฯ ซิตี้ – ทิจานี ไรน์เดอร์ส เติมมาซัดเสียบตาข่าย
  • ⚽ 44’ 0-3 แมนฯ ซิตี้ – ฟิล โฟเด้น ยิงประตูแรกของตัวเองในเกมนี้
  • ⚽ 45+2’ ฟูแล่มไล่ 1-3 – เอมิล สมิธ โรว์ ยิงตีไข่แตกให้เจ้าบ้านก่อนพักครึ่ง
  • 🔄 46’ ฟูแล่มเปลี่ยนสองคน – ทิโมธี กาสตาญ แทน เตเต้, ซามูเอล ชุคควูเซ แทน ลูคิช
  • ⚽ 48’ 1-4 แมนฯ ซิตี้ – โฟเด้นบวกเพิ่มเป็นเบิ้ลส่วนตัว
  • ⚽ 54’ 1-5 แมนฯ ซิตี้ – ซานเดอร์ แบร์ก สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง
  • ⚽ 57’ ฟูแล่มไล่ 2-5 – อเล็กซ์ อิโวบี ซัดจ่อๆ ให้ความหวังกลับมา
  • 🔄 64’ ซิตี้ส่ง จอห์น สโตนส์ และ ซาวินโญ่ ลงมาแทน กอนซาเลซ กับ โดคู
  • ⚽ 72’ ฟูแล่ม 3-5 – ซามูเอล ชุคควูเซ ยิงประตูแรกของตัวเอง
  • 🔄 73’ ฟูแล่มส่ง โจนาห์ คูซี-อาซาเร แทน ฆิเมเนซ เพื่อเร่งเกมรุก
  • 🔄 74’ โจชัว คิง ลงแทน สมิธ โรว์ เพิ่มความสดแดนหน้า
  • ⚽ 78’ ฟูแล่ม 4-5 – ชุคควูเซยิงเบิ้ล จุดไฟให้เกมลุ้นจนหยดสุดท้าย
  • 🔄 82’ ฟูแล่มส่ง เควิน ลงแทน วิลสัน / ซิตี้ส่ง รายาน แชร์กี แทน ไรน์เดอร์ส
  • 🟨 90+5’ รายาน แชร์กี โดนใบเหลืองข้อหาเล่นถ่วงเวลา
  • 🔄 90+7’ ซิตี้ใช้โควต้าเปลี่ยน นาธาน อาเก้ ลงมาช่วยปิดเกมแทน โฟเด้น

🌟 Player of the Match: Phil Foden

แม้สกอร์จะไหลรัว แต่ชื่อที่โดดเด่นที่สุดหนีไม่พ้น “ฟิล โฟเด้น” เจ้าของเรตติ้ง 9.3 จาก Sofascore แนวรุกทีมชาติอังกฤษมีส่วนกับเกมรุกของแมนฯ ซิตี้แทบทุกคลื่น ทั้งเชื่อมบอลระหว่างไลน์, ดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้เพื่อน และจบสกอร์เองสองประตูแบบเฉียบขาด ลูก 0-3 นาที 44 ทำให้เกมเทไปฝั่งซิตี้อย่างชัดเจน ก่อนที่ประตู 1-4 ต้นครึ่งหลังจะเหมือนยิงตัดกำลังเจ้าถิ่น

นอกจากประตู โฟเด้นยังสร้างโอกาสให้เพื่อนหลายครั้ง เลี้ยงกินตัวสำเร็จบ่อย และช่วยเพรสซิ่งแดนบนจนฟูแล่มต่อบอลไม่สะดวก การยืนตำแหน่งที่ยืดหยุ่นระหว่างริมเส้นกับครึ่งช่องทำให้แนวรับเจ้าถิ่นปวดหัวทั้งเกม สมศักดิ์ศรีรางวัล Player of the Match อย่างแท้จริง

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

ชัยชนะนัดนี้ทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้เก็บเพิ่มเป็น 28 คะแนนจาก 14 นัด สถิติ 9 ชนะ 1 เสมอ 4 แซงแรงกดดันไปยังจ่าฝูงอาร์เซน่อลที่มี 30 แต้มแบบจ่อคอหอย การลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้างเต็มที่ และด้วยฟอร์มการยิงประตูถล่มทลายแบบนี้ ทีมของเป๊ปยังถูกยกให้เป็นตัวเต็งในสายตาแฟน บ้านผลบอล อย่างไม่ต้องสงสัย

ส่วนฟูแล่มหยุดอยู่ที่ 17 คะแนนจาก 14 นัด รั้งอันดับ 15 ของตาราง ยังมีระยะห่างจากโซนตกชั้นพอสมควร แต่การเสียประตูถึง 24 ลูกแสดงให้เห็นว่าต้องเร่งแก้เกมรับโดยด่วน หากยังปล่อยให้ถูกยิงง่ายๆ แบบนี้ โปรแกรมโหดช่วงปลายปีอาจทำให้ทีมหลุดไปลุ้นหนีตกชั้นแบบเต็มตัวได้เช่นกัน

📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป

มองไปที่ โปรแกรมบอล นัดต่อไป ฟูแล่มจะกลับมาเล่นในถิ่นคราเวน ค็อตเทจพบคริสตัล พาเลซ วันที่ 7 ธันวาคม ก่อนจะบุกไปเยือนเบิร์นลี่ย์ในวันที่ 14 ธันวาคม ซึ่งทั้งสองเกมถือว่าสำคัญมากต่อการโกยแต้มหนีโซนท้ายตาราง

ด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของซันเดอร์แลนด์ในพรีเมียร์ลีก วันที่ 6 ธันวาคม แล้วต่อด้วยทริปใหญ่บุกเยือนเรอัล มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก วันที่ 11 ธันวาคม โปรแกรมชุกและหนักแบบนี้ เป๊ปต้องบริหารขุมกำลังให้ดี หากอยากรักษาโมเมนตัมไล่ล่าทุกถ้วยในซีซั่นนี้

🏠 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา

แฟนบอลที่อยากเกาะติดทุกจังหวะเกมมันส์แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสรุปหลังเกม, สถิติละเอียด หรืออัปเดต บ้านผลบอล แบบเรียลไทม์ บ้านกีฬา พร้อมเสิร์ฟให้ครบจบในที่เดียว ทั้งข่าวร้อนพรีเมียร์ลีก ลาลีกา บอลถ้วยยุโรป ไปจนถึงลีกดังทั่วโลก เข้ามาเช็กทุกวันไม่มีพลาดแน่นอน

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา