จาก : ผลบอลสด อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ระหว่าง เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-1 วัดฟอร์ด วันนี้ 2/12/68 – บ้านกีฬา
ศึก EFL Championship อังกฤษ เกมนี้ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เปิดเซนต์ แอนดรูว์ส รับการมาเยือนของวัตฟอร์ด เกมที่แฟนบอลเกาะหน้าจอรอเช็กทั้ง ผลบอล และส่องหน้าเว็บ บ้านผลบอล กันแบบเรียลไทม์ เพราะเป็นการวัดกันของสองทีมที่ต้องการแต้มเพื่อยกระดับสถานการณ์ในตาราง คะแนนสุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น 2-1 แต่ระหว่างทางเต็มไปด้วยจังหวะดุเดือดทั้งใบเหลือง เกมสวนกลับ และจังหวะลุ้นประตูจนท้ายเกม
⏱️ ครึ่งแรก: เพ็กปลดล็อก – เกรย์ซัดเพิ่ม เจ้าถิ่นนำ 2-0
เปิดเกมมาเบอร์มิงแฮมของกุนซือ คริส เดวีส์ วางแผน 4-2-3-1 เน้นเซ็ตเกมจากแดนหลัง ใช้คู่กลางอย่าง ซึง-โฮ เพ็ก กับ ทอมมี่ ดอยล์ คุมจังหวะให้แนวรุกสามประสาน เดมาไร เกรย์, เจย์ แสตนส์ฟิลด์ และเพอร์รี โรเบิร์ตส์ ปั้นโอกาสให้ มาร์วิน ดัคช์ หน้าเป้ายิงจบสกอร์ ส่วนวัตฟอร์ดของ ฆาบี การ์เซีย มาในระบบ 4-4-2 เน้นเกมริมเส้น ทอม อินซ์ กับ มาลี มาร์ก ดูมเบีย คอยโยนเข้าใส่คู่หน้าทั้ง ลาสส์ เคียร์รัมการ์ด กับ ออธมาน มาอัมมา
ช่วงต้นเกมทั้งสองทีมสลับกันครองบอล แม้สถิติจะออกมาว่าเบอร์มิงแฮมครองบอล 52% ต่อ 48% แต่ภาพในสนามสูสี จังหวะปะทะกลางสนามแน่น ขณะที่วัตฟอร์ดอาศัยเกมเพรสสูงบีบให้เจ้าถิ่นจ่ายพลาด
นาที 24 เจ้าบ้านได้ใบเหลืองแรกของเกมเมื่อ ทอมมี่ ดอยล์ เข้าตัดฟาวล์ ฮาริส คิพเรียนู ตรงกลางสนาม ก่อนที่เกมจะเปิดแลกกันมันส์ และในนาที 31 แฟนเจ้าถิ่นก็ได้เฮทั้งสนาม เมื่อ ซึง-โฮ เพ็ก เติมขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษ รับบอลหน้าประตูแล้วซัดเต็มข้อผ่านมือ นีล แบ็กซ์เตอร์ เข้าไปอย่างสวยงาม เบอร์มิงแฮมนำ 1-0
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก นาที 43 เบอร์มิงแฮมใช้ความเฉียบคมลงโทษแนวรับวัตฟอร์ดอีกครั้ง แสตนส์ฟิลด์ จ่ายให้ เดมาไร เกรย์ หลุดเข้าซ้ายก่อนกดเรียดเสียบเสา กลายเป็นประตู 2-0 ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าบ้านควบคุมสถานการณ์ได้เด็ดขาด
🔁 ครึ่งหลัง: แตนอาละวาดฮึดไล่ แต่ไม่ทัน
ครึ่งหลังวัตฟอร์ดไม่มีทางเลือก ต้องเปิดเกมสู้เต็มตัว นาที 59 การ์เซียเปลี่ยนหมาก ส่ง จอร์จี้ ชัคเวตัดเซ แทน ทอม อินซ์ จากนั้นนาที 60 เปลี่ยนรวดเดียวสองคน เอโด คาเยมเบ กับ วิตอร์ เซเมโด้ ลงมาแทน ฮาริส คิพเรียนู และ ลาสส์ เคียร์รัมการ์ด เพื่อเติมพลังกลางสนามและแนวรุก
ผลของการกล้าเสี่ยงเห็นทันตา นาที 61 วัตฟอร์ดตีไข่แตกสำเร็จ เมื่อ มาธิว โบลา เติมสูงทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ ออธมาน มาอัมมา โฉบเข้ายิงจ่อๆ ไม่เหลือ ไล่มา 2-1 ทำให้จังหวะเกมหลังจากนั้นเดือดขึ้นทันที
เบอร์มิงแฮมเริ่มเน้นเกมรับมากขึ้น มีการเปลี่ยนตัวนาที 69 ส่ง เคชี แอนเดอร์สัน ลงมาแทนเกรย์ เพื่อช่วยแพ็กเกมริมเส้น และนาที 73 เปลี่ยนพร้อมกันสองคน อัลฟอนส์ แซมป์สเต็ด ลงแทน บรายท์ โอบาโดเยโอ-ซามูเอล และ ลินดอน ไดค์ส แทน ดัคช์ เพื่อเพิ่มความสดในแดนหน้า
ท้ายเกมความกดดันถาโถมจนเห็นชัดในใบเหลือง นาที 76 อิมร็อง ลูซ่า โดนจดชื่อจากจังหวะฟาวล์นอกเกม ก่อนที่นาที 78 แสตนส์ฟิลด์จะโดนเหลือง และนาที 80 เพอร์รี โรเบิร์ตส์ เจอเหลืองจากการถ่วงเวลา
ช่วงท้ายการ์เซียเสี่ยงเพิ่ม ส่ง มุสซ่า ซิสโซโก้ ลงมาแทน มาอัมมา ในนาที 85 แต่แนวรับเจ้าถิ่นยืนกันแน่น เซ็นเตอร์ทั้ง คอนสแตนติน คลาเรอร์ และ ฟิลิป นอยมันน์ เคลียร์ลูกโด่งได้หมด ช่วงทดเจ็บ เบอร์มิงแฮมส่ง ลูอิส คูมาส กับ มาร์ค เลียวนาร์ด ลงมาฆ่าเวลา ก่อนปิดเกมด้วยชัยชนะ 2-1 คว้าแต้มสำคัญแบบสมศักดิ์ศรีต่อหน้าแฟนบอล พร้อมให้แฟนๆ ตามเช็กในหน้า ผลบอลสด กันอย่างสะใจ
🧩 รายชื่อ 11 ตัวจริงและคะแนนผู้เล่น
🟦 เบอร์มิงแฮม ซิตี้ (4-2-3-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.86
ผู้รักษาประตู
- J. Beadle – 6.5 เซฟจังหวะสำคัญช่วงท้าย ช่วยล็อกสกอร์
กองหลัง
- LB: A. Cochrane – 7.5 เติมเกมรุกทางซ้ายตลอด 90 นาที และช่วยตัดบอลหลายครั้ง
- CB: C. Klarer (กัปตัน) – 7.3 คุมแนวรับกลาง ประกบกองหน้าคู่แข่งได้อยู่หมัด
- CB: P. Neumann – 6.5 เล่นง่าย เน้นเคลียร์บอล ป้องกันลูกกลางอากาศ
- RB: B. Osayi-Samuel – 6.2 เติมสูงบ่อย แต่ถูกเปลี่ยนออกเพราะเริ่มล้า
กองกลางตัวรับ/เชื่อมเกม
- S. Paik – 7.6 ห้องเครื่องเกาหลีใต้ อ่านเกมดี ยิงเปิดหัวให้ทีมขึ้นนำ และเป็นศูนย์กลางการจ่ายบอล
- T. Doyle – 6.8 คุมจังหวะเกมแดนกลาง เข้าปะทะหนัก ได้ใบเหลืองแต่ยังคุมสมดุลได้ดี
สามตัวรุกด้านหลังหน้าเป้า
- LW: D. Gray – 7.4 สร้างความปั่นป่วนทางซ้าย ยิงหนึ่งจ่ายหนึ่งก่อนถูกถอดพัก
- AM: J. Stansfield – 6.9 เคลื่อนที่หาพื้นที่ดี มีส่วนกับประตูที่สอง และบีบเกมเพรสสูง
- RW: P. Roberts – 6.9 โชว์เทคนิคเลี้ยงกินตัวหลายครั้ง ช่วยดึงคู่แข่งจนแนวรับวัตฟอร์ดระส่ำ
กองหน้า
- M. Ducksch – 6.5 วิ่งเปิดช่องให้เพื่อน แม้ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดแต่ทำงานหนักตลอดเวลา
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- Keshi Anderson – 6.5 (น.69 แทน Gray) ลงมาช่วยบีบเกมริมเส้นฝั่งซ้าย
- Alfons Sampsted – 6.7 (น.73 แทน Osayi-Samuel) เติมเกมรุกฝั่งขวา แถมช่วยปิดพื้นที่ได้ดี
- Lyndon Dykes – 6.7 (น.73 แทน Ducksch) ตัวใหญ่ ใช้พักบอลและไล่บีบเซ็นเตอร์วัตฟอร์ด
- Lewis Koumas – ลงช่วงทดเจ็บ (น.90+2 แทน Roberts) ช่วยปิดพื้นที่แดนหน้า
- Marc Leonard – ลงช่วงทดเจ็บ (น.90+2 แทน Stansfield) ลงมาคุมบอลและดึงเวลาในแดนกลาง
🟡 วัตฟอร์ด (4-4-2) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.56
ผู้รักษาประตู
- N. Baxter – 6.1 เซฟได้หลายครั้ง แต่รับสองลูกยิงคมๆ ของเพ็กกับเกรย์ไม่อยู่
กองหลัง
- RB: J. Ngakia – 7.3 เล่นเกมรับแน่น แท็กเกิลชนะหลายจังหวะ
- CB: K. K. Biakolo – 6.0 มีหลุดตำแหน่งบ้างเวลาโดนเจาะเร็ว
- CB: M. Pollock – 6.8 คุมลูกกลางอากาศใช้ได้ แต่รับมือสปีดแนวรุกเจ้าบ้านลำบาก
- LB: M. Bola – 6.7 แอสซิสต์ลูกตีไข่แตกให้มาอัมมา ถือเป็นอาวุธสำคัญทางซ้าย
กองกลาง
- RM: T. Ince – 6.8 พยายามเปิดบอลจากริมเส้น แต่โดนเบียดจนต้องถูกเปลี่ยนออก
- CM: I. Louza (กัปตัน) – 7.0 จ่ายบอลนิ่ง สร้างจังหวะรุก แต่เจอเหลืองจากฟาวล์นอกเกม
- CM: H. Kyprianou – 5.8 ได้เหลืองเร็วตั้งแต่ต้นเกม ทำให้เล่นลำบาก และถูกถอดออกชั่วโมงแรก
- LM: M. Doumbia – 6.0 พยายามลากตัดเข้ากลางแต่เจอเพรสหนัก
กองหน้า
- L. Kjerrumgaard – 6.2 พยายามพักบอลให้เพื่อน แต่แทบไม่มีโอกาสยิงจ่อๆ
- O. Maamma – 7.3 ฮีโร่คนทำประตูให้ทีม ไล่สกอร์มา 2-1 เคลื่อนที่หาพื้นที่ตลอด
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- Giorgi Chakvetadze – 6.8 (น.59 แทน Ince) เพิ่มมิติการเลี้ยงจี้แนวรับเจ้าถิ่น
- Edo Kayembe – 6.6 (น.60 แทน Kyprianou) เติมพละกำลังแดนกลาง ช่วยดันทีมขึ้นสูง
- Vivaldo – 6.4 (น.60 แทน Kjerrumgaard) เล่นบทหน้าเป้า แต่มักโดนตัดบอลจังหวะสุดท้าย
- Moussa Sissoko – 6.6 (น.85 แทน Maamma) ลงมาช่วยบุก-รับตรงกลางช่วงท้าย
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในเชิง วิเคราะห์บอล รูปเกมนี้สะท้อนให้เห็นชัดว่า 4-2-3-1 ของเบอร์มิงแฮมถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมพื้นที่แดนกลางเป็นหลัก คู่กลาง เพ็ก–ดอยล์ ยืนต่ำคอยปิดช่องหน้ากรอบเขตโทษ ทำให้คู่หน้าวัตฟอร์ดต้องถอยลงมารับบอลลึก เมื่อแย่งบอลได้ เจ้าถิ่นจะเปลี่ยนโหมดเป็นเกมสวนกลับด้วยการจ่ายทะลุช่องให้สามตัวรุกด้านหลังหน้าเป้า โดยเฉพาะเกรย์ที่ใช้สปีดจัดจ้านฉีกไปริมเส้นก่อนตัดเข้ากลาง
ด้านเกมรับ เบอร์มิงแฮมเลือกยืนบล็อกกลาง ไม่ขึ้นไล่สูงเกินไป ปล่อยให้วัตฟอร์ดครองบอลในโซนไม่อันตราย แล้วคอยดักตัดบอลจังหวะสุดท้าย ซึ่งเห็นได้จากการที่คู่เซ็นเตอร์เคลียร์ลูกครอสเข้าเขตโทษได้แทบทั้งหมด แม้จะต้องรับเกมโต้กลับหลังจากโดนตีไข่แตก แต่โครงสร้างเกมรับยังไม่แตก จึงรักษาสกอร์ได้จนจบ
ฝั่งวัตฟอร์ด ระบบ 4-4-2 มีจุดเด่นตรงเกมริมเส้น แต่ปัญหาคือคู่กลางอย่าง คิพเรียนู กับ ลูซ่า ต้องรับมือกับตัวเพลย์เมกเกอร์เจ้าถิ่นถึงสองคน พอโดนเพรสสวนกลับเร็ว หลายครั้งเปิดพื้นที่ให้เพ็กมีเวลาวางบอลสวยๆ เกมรับแถวสองจึงเปราะบาง แม้ช่วงครึ่งหลังเมื่อส่ง คาเยมเบ และชัคเวตัดเซ ลงมาจะช่วยให้ทีมบุกได้ลื่นขึ้น แต่การจบสกอร์ยังไม่คมพอจะเอาแต้มกลับบ้าน
📈 สถิติการแข่งขัน
ภาพรวมสถิติระบุว่าเบอร์มิงแฮมยิงทั้งหมด 10 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง ขณะที่วัตฟอร์ดยิงมากกว่า 12 ครั้ง เข้ากรอบเท่ากัน 4 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าแตนอาละวาดไม่ได้มาเล่นรับอย่างเดียว แต่เจ้าถิ่นเฉียบคมกว่าในจังหวะสำคัญ การครองบอลอยู่ที่ 52% ต่อ 48% ใกล้เคียงกัน ฟาวล์เท่ากัน 10 ต่อ 10 ใบเหลืองเป็นฝั่งเบอร์มิงแฮม 3 ใบ ส่วนวัตฟอร์ด 2 ใบ ลูกเตะมุม 6 ต่อ 6 ชี้ชัดว่าเป็นเกมที่เปิดแลกกันตลอด 90 นาที แต่ความแน่นอนในพื้นที่สุดท้ายทำให้เจ้าถิ่นคว้าชัย
🕒 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ 20′ ฮาริส คิพเรียนู (วัตฟอร์ด) โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์กลางสนาม
- ⚠️ 24′ ทอมมี่ ดอยล์ (เบอร์มิงแฮม) รับใบเหลืองหลังเข้าสกัดหนัก
- ⚽ 31′ เบอร์มิงแฮมขึ้นนำ 1-0 ซึง-โฮ เพ็ก ซัดเน้นๆ หน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบตาข่าย
- ⚽ 43′ เจ้าถิ่นหนี 2-0 เดมาไร เกรย์ ยิงจบจากการทำชิ่งกับ เจย์ แสตนส์ฟิลด์ ก่อนพักครึ่ง
- ⏱️ HT: เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-0 วัตฟอร์ด
- 🔄 59′ วัตฟอร์ดเปลี่ยนตัว ส่ง จอร์จี้ ชัคเวตัดเซ ลงแทน ทอม อินซ์ เติมมิติริมเส้น
- 🔄 60′ วัตฟอร์ดเปลี่ยนอีกรวดเดียวสองคน คาเยมเบ แทน คิพเรียนู และ เซเมโด้ แทน เคียร์รัมการ์ด
- ⚽ 61′ วัตฟอร์ดตีไข่แตก 2-1 ออธมาน มาอัมมา แปเข้าไปจากแอสซิสต์ของ มาธิว โบลา
- 🔄 69′ เบอร์มิงแฮมส่ง เคชี แอนเดอร์สัน สำรองรุกแทน เกรย์
- 🔄 73′ เบอร์มิงแฮมเปลี่ยนพร้อมกันสองคน ลินดอน ไดค์ส แทน ดัคช์ และ แซมป์สเต็ด แทน โอซายี-ซามูเอล
- ⚠️ 76′ อิมร็อง ลูซ่า (วัตฟอร์ด) โดนใบเหลืองจากฟาวล์นอกเกม
- ⚠️ 78′ แสตนส์ฟิลด์ (เบอร์มิงแฮม) รับใบเหลืองจากจังหวะเสียบช้า
- ⚠️ 80′ เพอร์รี โรเบิร์ตส์ (เบอร์มิงแฮม) ได้เหลืองข้อหาถ่วงเวลา
- 🔄 85′ วัตฟอร์ดส่ง มุสซ่า ซิสโซโก้ ลงแทน มาอัมมา เพื่อไล่ตีเสมอ
- 🔄 90+2′ เบอร์มิงแฮมส่ง ลูอิส คูมาส และ มาร์ค เลียวนาร์ด ลงสนามแทน โรเบิร์ตส์ กับ แสตนส์ฟิลด์ ช่วงทดเจ็บ
- ⏱️ FT: เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-1 วัตฟอร์ด
🌟 Player of the match
ซึง-โฮ เพ็ก มิดฟิลด์ทีมชาติเกาหลีใต้ของเบอร์มิงแฮม ถูกโหวตเป็น Player of the Match จาก Sofascore ด้วยเรตติ้งราว 7.8 บทบาทของเขาไม่ได้มีแค่ประตูขึ้นนำ 1-0 แต่ยังเป็นตัวเชื่อมระหว่างแนวรับกับเกมรุก คอยไล่เพรส เก็บบอลสอง และจ่ายบอลทะลุช่องให้ปีกสองฝั่งทำเกม จุดยืนของเพ็กทำให้คู่กลางวัตฟอร์ดเสียจังหวะบ่อยครั้ง และกลายเป็นหัวใจหลักของชัยชนะในค่ำคืนนี้อย่างแท้จริง
📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนแชมเปียนชิพ
สามแต้มเกมนี้ทำให้เบอร์มิงแฮมขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 7 ของตาราง มี 28 คะแนนจาก 18 นัด ประตูได้เสีย +7 ไล่หลังกลุ่มเพลย์ออฟอย่างบริสตอล ซิตี้ และเพรสตัน แค่ไม่กี่แต้มเท่านั้น เส้นทางลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟเลื่อนชั้นยังเปิดกว้างเต็มที่ หากรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อเนื่อง
ด้านวัตฟอร์ดหลังแพ้หลุดมือยังคงรั้งอันดับ 15 มี 24 คะแนนจาก 18 นัด ประตูได้เสีย +1 อยู่โซนกลางตาราง แต่ช่องว่างกับโซนล่างยังไม่ห่างมากนัก หากสะดุดต่อเนื่องมีสิทธิ์โดนดูดลงไปลุ้นหนีตกชั้น บ้านกีฬา มองว่าแตนอาละวาดต้องรีบเก็บชัยในบ้านให้ได้โดยเร็วเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา
📅 ตารางบอลและโปรแกรมนัดถัดไป
ตารางบอล เมื่อมองไปที่ โปรแกรมบอล นัดถัดไป เบอร์มิงแฮมต้องเจองานหินต่อเนื่อง โดยจะบุกเยือนเซาแธมป์ตัน ในวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 22.00 น. ก่อนจะยกพลไปเยือนควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ส (QPR) วันที่ 10 ธันวาคม เวลา 03.00 น. สองเกมนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญว่าพวกเขาพร้อมขึ้นไปยึดพื้นที่เพลย์ออฟหรือไม่
ฝั่งวัตฟอร์ดได้กลับไปเล่นในบ้านต่อเนื่อง เริ่มจากเปิดรังรับเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ วันที่ 10 ธันวาคม เวลา 02.45 น. จากนั้นเปิดบ้านชนกับนอริช ซิตี้ วันที่ 6 ธันวาคม เวลา 19.30 น. หากเก็บชัยได้ทั้งสองเกม โอกาสขยับขึ้นครึ่งบนของตารางยังสดใส
📺 ติดตามบ้านผลบอล ที่บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากเช็กสกอร์แบบเรียลไทม์ อัปเดตฟอร์มทีมรัก รวมถึงเกาะติดทุกคู่เด็ดของแชมเปียนชิพ และลีกดังยุโรป อย่าลืมติดตามหน้า บ้านผลบอล และคอนเทนต์เจาะลึกจาก บ้านกีฬา เราจะพาไปอินกับทุกจังหวะ ทั้งก่อนแข่ง ระหว่างเกม และหลังจบ 90 นาทีแบบครบจบในที่เดียว
