ด่วนเช็กสิทธิ! ลงทะเบียนน้ำท่วม 2568 รับเงินเยียวยา 9,000 บาทต่อครัวเรือน พร้อมมาตรการช่วยเหลือรอบด้าน

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ภาพรวม “ลงทะเบียนน้ำท่วม 2568” เงินเยียวยา 9,000 บาทคืออะไร

สถานการณ์ น้ำท่วมภาคใต้ รอบนี้ ไม่ได้กระทบแค่บ้านเรือน แต่กระทบทั้งรายได้ งาน และคุณภาพชีวิตของคนทั้งครอบครัว รัฐบาลจึงมอบหมายให้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นหน่วยหลักในการจ่าย เงินเยียวยาน้ำท่วม แบบเหมาจ่าย ครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้ผู้ที่เข้าเกณฑ์ที่กำหนดในช่วงฤดูฝน ปี 2568

เงินก้อนนี้ถือเป็น “เข็มขัดเส้นแรก” ในการพยุงชีวิตหลังน้ำลด ใช้ซ่อมบ้าน ซื้อเครื่องใช้จำเป็น จัดการค่าใช้จ่ายเร่งด่วน ขณะที่มาตรการอื่น ๆ เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การจ้างงานเร่งด่วน และศูนย์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า จะเข้ามาช่วยเสริมภายหลัง

หัวใจสำคัญตอนนี้คือ ใครเข้าเกณฑ์บ้าง และ ลงทะเบียนน้ำท่วม 2568 อย่างไรให้ไม่พลาดสิทธิ บ้านกีฬาเลยจัดทุกขั้นตอนให้ครบในบทความเดียว

ใครมีสิทธิ์รับเงินเยียวยา 9,000 บาทบ้าง

เงื่อนไขหลักมาจากมติ ครม. และหลักเกณฑ์ที่ ปภ. ประกาศใช้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 โดยกำหนดว่า จะจ่ายเงินแบบเหมาจ่าย ครัวเรือนละ 9,000 บาท สำหรับ “ที่อยู่อาศัยประจำ” ที่เข้าข่าย 4 กรณีนี้

  1. บ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขัง ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
  2. บ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขัง เกิน 7 วันขึ้นไป
  3. บ้านพักอาศัยถูกน้ำ “ล้อมรอบ” จนไม่สามารถดำรงชีวิตตามปกติได้ติดต่อกัน เกิน 7 วัน
  4. ที่อยู่อาศัยในอาคารสูง น้ำอาจไม่ท่วมถึงชั้นที่พัก แต่ระดับน้ำด้านล่างทำให้ขึ้น–ลงลำบาก ใช้ชีวิตปกติไม่ได้ติดต่อกัน เกิน 7 วัน

แต่ไม่ใช่ว่าบ้านน้ำท่วมทุกพื้นที่จะได้อัตโนมัติ ต้องเข้าเงื่อนไขสำคัญเพิ่มดังนี้

  • บ้านต้องอยู่ในพื้นที่ที่มี ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือ เขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
  • ต้องมี หนังสือรับรองผู้ประสบภัย จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต./เทศบาล)
  • ต้องผ่านการประชาคมหมู่บ้าน และการตรวจสอบข้อมูลจาก
    • คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.)
    • คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.)
  • เมื่อตรวจสอบครบแล้ว ปภ. จะส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสิน โอนเงินเข้าบัญชีหรือพร้อมเพย์ของผู้มีสิทธิ

พูดง่าย ๆ คือ ต้องมีทั้ง “สภาพน้ำท่วมจริง” และ “เอกสาร–การรับรองในระบบ” ครบทั้งสองขา

ลงทะเบียนน้ำท่วม 2568 ทำที่ไหน มีให้เลือก 2 ช่องทาง

ตอนนี้ ปภ. เปิดให้ประชาชนผู้ประสบภัยลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ ออนไลน์ และยื่นเอกสารด้วยตนเอง โดยผ่านระบบกลางที่เว็บไซต์ flood68.disaster.go.th ซึ่งเป็นเว็บอย่างเป็นทางการของ ปภ. สำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ

1. ลงทะเบียนออนไลน์

เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตคล่อง มีสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ พร้อมสัญญาณเน็ต

ขั้นตอนคร่าว ๆ

  • เข้าเว็บไซต์ https://flood68.disaster.go.th
  • คลิกแถบสีเหลือง “แบบคำร้อง ขอรับความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในช่วงฤดูฝน 2568”
  • กรอกข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่ เบอร์โทร ช่องทางรับเงิน และรายละเอียดความเสียหายให้ครบ
  • อัปโหลดเอกสารตามที่ระบบกำหนด (ถ้ามีฟังก์ชันแนบไฟล์)
  • บันทึกข้อมูล ตรวจทานอีกครั้ง ก่อนกดยืนยัน

จุดที่สำคัญมากคือ ถึงจะลงทะเบียนออนไลน์เสร็จแล้ว ยังต้อง นำเอกสารตัวจริง ไปยื่นยืนยันกับ อบต./เทศบาล ในพื้นที่อีกครั้ง เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบและลงนามรับรองสิทธิของเรา

2. ลงทะเบียนผ่านแบบฟอร์ม (ยื่นเอกสารด้วยตนเอง)

เหมาะกับผู้สูงอายุ คนที่ไม่สะดวกใช้อินเทอร์เน็ต หรือพื้นที่ที่สัญญาณไม่เสถียร

  • ดาวน์โหลดแบบคำร้องจากลิงก์ในเว็บไซต์ flood68.disaster.go.th หรือขอรับที่ อบต./เทศบาล
  • กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน อ่านเงื่อนไขให้ชัด อย่าข้ามช่องสำคัญ
  • แนบสำเนาเอกสารที่ต้องใช้ให้ครบเซ็ต
  • นำแบบคำร้องและเอกสารไปยื่นที่
    • อบต.
    • เทศบาล
    • หรือหน่วยงานที่รับเรื่องในพื้นที่ประสบภัย

เจ้าหน้าที่จะช่วยตรวจสอบเบื้องต้น ถ้าข้อมูลถูกต้องครบถ้วน ก็จะส่งต่อให้คณะกรรมการระดับอำเภอ–จังหวัดตรวจรับรองต่อไป

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมก่อนลงทะเบียน

จากหลักเกณฑ์ที่ ปภ. และสื่อทางการต่าง ๆ เผยแพร่ เอกสารที่ใช้ประกอบการขึ้นทะเบียนสำคัญมาก เพราะเป็นหลักฐานยืนยันว่าเรามีสิทธิจริง ไม่ได้ลงข้อมูลลอย ๆ

เอกสารหลัก ๆ ได้แก่

  • บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง + สำเนา)
  • ทะเบียนบ้านของที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบ
  • กรณีบ้านเช่า หรืออยู่ในที่พักอาศัยอื่น ๆ
    • สัญญาเช่า
    • หรือหนังสือรับรองการอยู่อาศัยจริงจาก อปท.
  • ถ้าเป็นที่พักอื่นนอกระบบปกติ
    • ต้องมีการลงนามรับรองจากกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้นำชุมชน ร่วมลงชื่อไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของผู้เกี่ยวข้อง

คำแนะนำสำคัญคือ ควร ถ่ายรูปหรือสแกนเอกสารสำคัญเก็บในโทรศัพท์/คลาวด์ ไว้ด้วย เผื่อเอกสารกระดาษเปียกน้ำ หาย หรือเสียหาย จะได้มีสำรองสำหรับใช้ติดต่อราชการในอนาคต

ขั้นตอนหลังลงทะเบียน รอเงินอย่างเดียวหรือยังต้องทำอะไรอีก

หลังจากยื่นคำร้องแล้ว กระบวนการไม่ได้จบแค่ “ลงทะเบียนสำเร็จ”

โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนต่อไปนี้

  1. หน่วยงานท้องถิ่นตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น
  2. คณะกรรมการระดับหมู่บ้าน/ชุมชน ประชาคมรับรองว่าเป็นผู้ประสบภัยจริง
  3. ก.ช.ภ.อ. (ระดับอำเภอ) และ ก.ช.ภ.จ. (ระดับจังหวัด) ตรวจสอบ–ยืนยัน
  4. ปภ. รวมข้อมูลรายชื่อผู้มีสิทธิ ส่งให้ธนาคารออมสินเพื่อโอนเงิน
  5. เงินโอนเข้าบัญชี/พร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน

ในหลายจังหวัดมีการแนะนำให้ประชาชน ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน โดยเฉพาะกับธนาคารออมสิน เพื่อให้การโอนเงินช่วยเหลือเร็วและแม่นยำขึ้น

บางสำนักข่าวยังรายงานว่า บนเว็บไซต์ flood68.disaster.go.th จะมีเมนูสำหรับตรวจสอบสถานะการขอรับเงินเยียวยา และตารางกำหนดการโอนเงินเยียวยาในแต่ละช่วง ให้ประชาชนตามเช็กสิทธิได้เอง ไม่ต้องรอถามอย่างเดียว

เงินช่วยเหลือกรณีน้ำท่วมขังนาน มีเพิ่มแบบ “ขั้นบันได”

นอกจากเหมาจ่าย 9,000 บาทต่อครัวเรือนแล้ว บางพื้นที่ที่น้ำท่วมขังนานเป็นเดือน ยังมี เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมแบบขั้นบันได ตามระยะเวลาน้ำท่วมขัง เช่น ในกรณีจังหวัดนครศรีธรรมราช มีเกณฑ์ช่วยเหลือเพิ่มเติมแบบนี้

  • น้ำท่วมขัง 31–60 วัน: เพิ่มครัวเรือนละ 5,000 บาท
  • น้ำท่วมขัง 61–90 วัน: เพิ่มครัวเรือนละ 10,000 บาท
  • น้ำท่วมขัง 91–120 วัน: เพิ่มครัวเรือนละ 15,000 บาท
  • น้ำท่วมขัง 121 วันขึ้นไป: เพิ่มครัวเรือนละ 20,000 บาท

แต่เกณฑ์นี้อาจถูกนำไปปรับใช้ต่างกันตามมติในแต่ละจังหวัด ควรติดตามประกาศจากจังหวัดของตัวเองและ ปภ. จังหวัดอย่างใกล้ชิด

7 มาตรการด่วนจากกระทรวงแรงงาน ช่วยนายจ้าง–ลูกจ้างหลังน้ำท่วม

ไม่ใช่แค่เงินเหมาจ่ายจาก ปภ. เท่านั้น ฝั่ง กระทรวงแรงงาน ยังปล่อย 7 มาตรการเร่งด่วนมาช่วยทั้งนายจ้างและลูกจ้างในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ เช่น สงขลา หาดใหญ่ และจังหวัดข้างเคียง

สรุปสาระสำคัญของ 7 มาตรการ เช่น

  1. โครงการจ้างงานเร่งด่วน
    • ค่าจ้างวันละประมาณ 300 บาท
    • ระยะเวลาไม่เกิน 10 วัน
    • รองรับผู้เข้าร่วมราว 4,000 คน (บางข่าวระบุจำนวนและพื้นที่ชัดเจนตามจังหวัด)
  2. เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจาก “กองทุนผู้ใช้แรงงาน”
    • สำหรับช่วยเยียวยาสถานประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ
  3. เงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน
    • ให้ลูกจ้างนำไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือใช้ฟื้นฟูอาชีพ
  4. เงินกู้กองทุนความปลอดภัยในการทำงาน
    • สำหรับนายจ้างที่เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือสถานประกอบกิจการเสียหาย
    • ใช้ปรับปรุง ซ่อมแซมให้กลับมาปลอดภัย
  5. เงินชดเชยกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัย
    • จ่ายค่าจ้างบางส่วน (เช่น 50% ของค่าจ้าง) เป็นระยะเวลาหนึ่ง สำหรับผู้ประกันตนที่หยุดงานจากภัยพิบัติ
  6. เงินค่าทำศพผู้ประกันตนที่เสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัติ
    • มาตรา 33 ประมาณ 50,000 บาท
    • มาตรา 40 ประมาณ 25,000 บาท
  7. ศูนย์ซ่อมรถจักรยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรีหรือคิดค่าใช้จ่ายต่ำ
    • เปิดเป็นจุดบริการหลายสิบจุดใน 9 จังหวัดภาคใต้

มาตรการชุดนี้ถือเป็นอีก “เลเยอร์” ของการช่วยเหลือ ที่คนทำงานและเจ้าของกิจการไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยลดภาระความเสียหายระยะกลาง–ยาวได้ดีมาก

เคล็ดลับสำคัญสำหรับครอบครัวในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม

แม้น้ำรอบนี้จะลดเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ แต่ประสบการณ์บอกเราว่า “น้ำท่วม” เป็นภัยที่วนกลับมาได้เสมอ การเตรียมตัวล่วงหน้าเลยกลายเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ต่างจากการเตรียมร่างกายก่อนเข้าแข่งขันใหญ่

ข้อแนะนำเชิงปรับตัวที่ทุกบ้านทำได้ เช่น

  • จัด “แฟ้มเอกสารสำคัญ” ให้พร้อมหยิบ
    • รวมบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เอกสารสิทธิบ้าน–ที่ดิน สมุดบัญชี สัญญาเช่า ฯลฯ
    • เก็บไว้ในถุงกันน้ำ หรือกล่องพลาสติกปิดสนิท และวางไว้ที่สูง
  • สแกนหรือถ่ายรูปเอกสารเก็บในมือถือ และสำรองไว้บนคลาวด์
    • เผื่อเอกสารเปียกน้ำหรือสูญหาย ยังมีสำเนาใช้ยื่นราชการได้
  • ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนไว้กับธนาคารที่ใช้ประจำ
    • หลายโครงการของรัฐ รวมถึงโครงการช่วยเหลือน้ำท่วม มักโอนผ่านพร้อมเพย์ในชื่อ–เลขบัตรของเราโดยตรง
  • ติดตามข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการ
    • เว็บไซต์หน่วยงานรัฐ เช่น ปภ., จังหวัด, กระทรวงต่าง ๆ
    • สื่อหลักที่อ้างอิงข้อมูลจากราชการ ไม่แชร์ต่อข่าวลือโดยไม่ตรวจสอบ
  • วางแผนเส้นทางอพยพในครอบครัว
    • รู้ว่าถ้าน้ำมาจะย้ายของขึ้นที่ไหน ไปพักพิงที่ใด ใครดูแลเด็ก ใครดูแลผู้สูงอายุ
  • ดูแลใจตัวเองและคนในบ้าน
    • การเจอภัยซ้ำ ๆ ทำให้เครียด สับสน วิตก เรื่องเงิน เรื่องอาชีพ
    • เปิดคุยกันในบ้าน ปรึกษาเจ้าหน้าที่ อสม. หรือหน่วยงานที่ดูแลด้านสุขภาพจิตในพื้นที่

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การ “เอาตัวรอดรอบนี้” แต่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบครัวในระยะยาว

สรุป ลงทะเบียนให้ทัน สิทธิที่ไม่ควรปล่อยทิ้ง

สรุปสั้น ๆ แต่ชัดเจนสำหรับการ ลงทะเบียนน้ำท่วม 2568

  • รัฐบาลอนุมัติช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่าย เงินเยียวยา 9,000 บาทต่อครัวเรือน ผ่าน ปภ.
  • ครอบคลุม 4 กรณีของที่อยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งท่วมตรง ๆ น้ำล้อมรอบ หรืออยู่คอนโด/อาคารสูงแต่ใช้ชีวิตไม่ได้
  • ลงทะเบียนได้ 2 ทาง
    • ออนไลน์ผ่าน flood68.disaster.go.th
    • ยื่นแบบฟอร์มที่ อบต./เทศบาล หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
  • ต้องเตรียมเอกสารให้ครบ และไปยืนยันตัวจริงกับหน่วยงานท้องถิ่น
  • เมื่อผ่านการตรวจสอบ จะให้ธนาคารออมสินโอนเงินเข้าบัญชีหรือพร้อมเพย์
  • หากน้ำท่วมขังนานเป็นเดือน บางพื้นที่มีสิทธิเพิ่มเงินเยียวยาแบบ “ขั้นบันได”
  • ด้านแรงงาน รัฐยังมีมาตรการเสริมจากกระทรวงแรงงาน ทั้งจ้างงานเร่งด่วน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า และเงินช่วยเหลือผู้ประกันตน

สิทธิทั้งหมดนี้ออกมาเพื่อประคองคนที่ “ลุกขึ้นสู้” หลังน้ำลดได้เร็วที่สุด ใครที่เข้าเกณฑ์อย่าปล่อยผ่าน รีบเช็กสิทธิของตัวเอง ครอบครัว และคนรอบข้างให้ทันช่วงเวลาเปิดลงทะเบียน

อย่าลืมติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา