
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 0-2 ไบรท์ตัน โฮฟ อัลเบี้ยน วันนี้ 30/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกพรีเมียร์ลีกที่ซิตี้ กราวด์ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เปิดบ้านรับ ไบรท์ตัน โฮฟ อัลเบี้ยน เกมนี้ “บ้านกีฬา” ตามเกาะจอเช็ก ผลบอลสด กันแบบตาไม่กะพริบ เพราะมีผลโดยตรงทั้งกับการลุ้นตั๋วยุโรปของไบรท์ตัน และการหนีโซนตกชั้นของฟอเรสต์ สุดท้ายเป็นทัพนางนวลที่เฉียบคมกว่า บุกมาคว้า 3 คะแนนด้วยสกอร์ 2-0 จากประตูของ มัคซิม เดอ ไคเปอร์ และตัวสำรอง สเตฟานอส ซีมาส
⏱️ ครึ่งแรก: ฟอเรสต์ลุยหนัก แต่โดนไบรท์ตันลงโทษท้ายครึ่ง
ครึ่งแรก ฟอเรสต์ของ ฌอน ไดช์ เปิดหน้าแลกเต็มตัว เล่นในบ้านแบบไม่เกรงใจทีมเยือน จังหวะเข้าบอลแน่น บีบเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบน ใช้ความขยันของ ดาน เอ็นดอย และ มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ ไล่กดดันเซ็นเตอร์ไบรท์ตัน ทำให้ทีมเยือนออกบอลสะดุดอยู่พักใหญ่ เจ้าบ้านกดดันจนได้ลุ้นยิงรวมหลายครั้งแต่กลายเป็นว่าจบไม่คม ยิงเข้ากรอบแค่ 3 หน ขณะที่ บาร์ต แฟร์บรุกเกน ยืนเซฟสบายมือ
ไบรท์ตันของ ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ เลือกเล่นนิ่งกว่า ต่อบอลสั้นจากแนวหลังขึ้นมาทีละจังหวะ ฝากความหวังไว้ที่คู่ฟูลแบ็ก เดอ ไคเปอร์ – คาดิโอกลู ที่เติมสูงช่วยเกมรุกอยู่ตลอด นาทีท้ายของครึ่งแรกเกมเหมือนจะจบที่ 0-0 แต่แล้วนาที 45+1 มัคซิม เดอ ไคเปอร์ เติมสอดขึ้นมาทางซ้ายก่อนกดเต็มข้อตีนส่งบอลพุ่งเสียบตาข่าย ให้ไบรท์ตันขึ้นนำ 1-0 ชนิดแฟนฟอเรสต์เงียบทั้งสนาม ก่อนจบครึ่งด้วยสกอร์นี้
🔁 ครึ่งหลัง: เปลี่ยนเกมด้วยตัวสำรอง นางนวลปิดจ็อบ 2-0
เริ่มครึ่งหลัง ไดช์ไม่รอช้า เปลี่ยนทีเดียวสองคน ส่ง คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย กับ โอมารี ฮัทชินสัน ลงมาแทน โดมิงเกซ และ เอ็นดอย เพื่อเพิ่มความเร็วด้านข้าง ซึ่งก็เห็นผลทันที ฟอเรสต์ได้ระเบิดเกมริมเส้นมากขึ้น ฮัทชินสันเลี้ยงกินตัวได้หลายครั้ง ทำให้แนวรับไบรท์ตันเริ่มถอย
อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนอ่านเกมอยู่ เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว นาที 56 ส่ง แจ็ค ฮินส์เชลวูด ลงมาช่วยแดนกลาง แทน จอร์จินิโอ รูตเตอร์ ก่อนนาที 65 จะปล่อยของหนัก ส่งดาวรุ่ง สเตฟานอส ซีมาส เปลี่ยนแทน แดนนี เวลเบ็ก เพื่อเติมความสดในแดนหน้า
ช่วงกลางครึ่งหลัง ฟอเรสต์ยังเดินหน้าบุกเปลี่ยนตัวเพิ่มทั้ง ไรอัน เยตส์ และ อาร์กโนด์ กาลิมูเอนโด้ ลงมาไล่ล่าประตูตีเสมอ แต่เจอแนวรับไบรท์ตันที่ยืนโซนสุดเหนียว นำโดย ลูอิส ดังค์ กับ ยาน พอล ฟาน เฮคเก้ ที่เก็บบอลกลางอากาศหมด
ท้ายเกมนาที 84 เฮอร์เซเลอร์ถอด เดอ ไคเปอร์, โดมิงโกส โกเมซ และ ยานแดร์สัน มินเตห์ ออกพัก ส่ง คาร์ลอส บาเลบา, โยเอล เฟลท์มัน และ เบรยาน กรูดา ลงอุดเกมรับและรอเล่นจังหวะโต้กลับ และแล้วแผนนี้ก็ได้ผล นาที 88 ซีมาสฉวยโอกาสทองซัดประตูย้ำชัย 2-0 ปิดกล่องให้ไบรท์ตันเก็บชัยนอกบ้านแบบเด็ดขาด ขณะที่ฟอเรสต์พยายามบุกจนทดเวลาบาดเจ็บ 7 นาทีแต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🌲 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- 26 มัทส์ เซลส์ – คะแนน 6.4
กองหลัง
- 3 เนโก วิลเลียมส์ – 6.3
- 4 ฟรานซิสโก โมราโต – 7.2
- 31 นิโคลา มิเลนโควิช – 6.3
- 37 นาธาน ซาโวนา – 6.0
กองกลางตัวรับ/เชื่อมเกม
- 6 อิบราฮิม ซ็องกาเร – 7.7
- 8 เอลเลียต แอนเดอร์สัน – 8.1 (เล่นเด่นสุดฝั่งฟอเรสต์)
- 16 นิโกลัส โดมิงเกซ – 6.9
กองกลางตัวรุกและแนวรุก
- 10 (กัปตัน) มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ – 6.2
- 14 ดาน เอ็นดอย – 6.4
- 19 อิโกร์ เฆซุส – 7.0
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงสนาม
- 7 คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย – 6.8 (ลง 46’ แทน โดมิงเกซ)
- 21 โอมารี ฮัทชินสัน – 7.8 (ลง 46’ แทน เอ็นดอย เล่นจัดจ้านมาก)
- 22 ไรอัน เยตส์ – 6.5 (ลง 74’ แทน ซ็องกาเร)
- 15 อาร์กโนด์ กาลิมูเอนโด้ – 6.4 (ลง 75’ แทน เฆซุส)
- 24 เจมส์ แมคอะที – 6.4 (ลง 85’ แทน กิ๊บส์-ไวท์)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
- 13 จอห์น วิคเตอร์
- 23 จาอีร์
- 30 วิลลี โบลี
- 44 แซ็ค แอบบอตต์
🐦 ไบรท์ตัน โฮฟ อัลเบี้ยน (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- 1 บาร์ต แฟร์บรุกเกน – 7.7 เซฟสำคัญหลายครั้ง
กองหลัง
- 29 มัคซิม เดอ ไคเปอร์ – 8.2 ยิง 1 ประตู แบ็กซ้ายสุดโหด
- 25 โดมิงโกส โกเมซ – 6.6
- 5 (กัปตัน) ลูอิส ดังค์ – 7.7 คุมเกมรับนิ่ง
- 24 แฟร์ดี้ คาดิโอกลู – 7.2
กองกลาง
- 27 มัตส์ วีเฟอร์ – 7.2 (โดนใบเหลือง)
- 6 ยาน พอล ฟาน เฮคเก้ – 7.4
- 26 ยาซีน อายาริ – 6.7
แนวรุก
- 11 ยานแดร์สัน มินเตห์ – 6.3
- 10 จอร์จินิโอ รูตเตอร์ – 7.0
- 18 แดนนี เวลเบ็ก – 6.7
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงสนาม
- 13 แจ็ค ฮินส์เชลวูด – 6.6 (ลง 56’ แทน รูตเตอร์)
- 9 สเตฟานอส ซีมาส – 7.5 (ลง 65’ แทน เวลเบ็ก ยิงปิดกล่อง 2-0)
- 34 โยเอล เฟลท์มัน – 6.7 (ลง 84’ แทน โกเมซ)
- 8 เบรยาน กรูดา – 6.4 (ลง 84’ แทน มินเตห์)
- 17 คาร์ลอส บาเลบา – 6.5 (ลง 84’ แทน เดอ ไคเปอร์)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
- 23 เจสัน สตีล
- 21 โอลิวิเยร์ บอสคาญี
- 42 ดีเอโก ค็อปโปลา
- 19 คาราลัมปอส คอสตูแลส
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองในมุม วิเคราะห์บอล แท็คติก เกมนี้ฟอเรสต์วางหมาก 4-2-3-1 ที่เน้นเพรสสูงและใช้คู่มิดฟิลด์ ซ็องกาเร–แอนเดอร์สัน คอยตัดเกมแล้วจ่ายทะลุช่องไปให้สามตัวรุกด้านหลัง เฆซุส จุดแข็งคือการบีบพื้นที่เร็ว ทำให้ไบรท์ตันต่อบอลไม่ลื่นช่วง 20 นาทีแรก แต่ปัญหาคือเวลาบุกขึ้นไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ กลับขาดความคมและการจบสกอร์ที่เฉียบขาด แตกต่างจากทีมเยือนอย่างชัดเจน
ฝั่งไบรท์ตัน ยืนระบบ 4-2-3-1 เหมือนกัน แต่เล่นด้วยวินัยสูงกว่า รูปเกมเน้นเซ็ตบอลจากแดนหลัง ผ่าน วีเฟอร์ และ ฟาน เฮคเก้ ขึ้นมาเชื่อมกับ อายาริ ก่อนปล่อยให้ฟูลแบ็กอย่าง เดอ ไคเปอร์ และ คาดิโอกลู เติมไปสร้างจำนวนในพื้นที่สุดท้าย จุดตัดสินเกมคือคุณภาพบอลจังหวะสุดท้าย เดอ ไคเปอร์แสดงให้เห็นว่าฟูลแบ็กยุคใหม่ไม่ใช่แค่เติม แต่ต้องจบสกอร์ได้ด้วย ขณะที่ ซีมาสลงมาเป็นหน้าเป้าแล้ววิ่งไล่บีบกองหลังฟอเรสต์จนเล่นยาก ก่อนหาจังหวะจบสกอร์เองในช่วงท้ายเกม
เกมรับของฟอเรสต์ แม้ โมราโต กับ มิเลนโควิชจะช่วยกันเคลียร์บอลได้ดีพอสมควร แต่การยืนโซนหน้าเขตโทษยังมีช่องว่างให้ไบรท์ตันยิงไกล รวมถึงการตามประกบตัวซ้อนฟูลแบ็กยังหลวม ทำให้ เดอ ไคเปอร์ ได้พื้นที่เล่นบ่อยจนเป็นที่มาของประตูแรก
ฝั่งไบรท์ตัน เกมรับจัดว่ามั่นคง ดังค์ อ่านบอลขาด แถมมี ฟาน เฮคเก้ ช่วยซ้อนทำให้การรับมือกับบอลยาวของฟอเรสต์ไม่ใช่ปัญหา เมื่อรวมกับฟอร์มหนึบของ แฟร์บรุกเกน ทำให้พวกเขาเก็บคลีนชีตนอกบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ

📈 สถิติการแข่งขัน
แม้สกอร์จะเป็นไบรท์ตันที่ชนะ 2-0 แต่ในเชิงตัวเลข ฟอเรสต์ไม่ได้เป็นรองมากนัก เจ้าบ้านยิงทั้งหมด 16 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ขณะที่ไบรท์ตันยิง 15 ครั้ง เข้ากรอบ 4 แสดงให้เห็นว่าเกมนี้เปิดหน้าแลกกันพอสมควร การครองบอลใกล้เคียงกัน 51% ต่อ 49% ฟอเรสต์จ่ายบอล 408 ครั้ง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 93% ส่วนไบรท์ตันจ่าย 419 ครั้ง ความแม่นยำ 87%
ฟอเรสต์ทำฟาวล์ 11 ครั้ง มากกว่าไบรท์ตันเล็กน้อยที่ 10 ครั้ง แต่เจ้าบ้านไม่มีใบเหลืองเลย ขณะที่ทีมเยือนโดนใบเหลืองใบเดียวจาก วีเฟอร์ ในนาที 44 ด้านลูกตั้งเตะ ฟอเรสต์ได้เตะมุมถึง 9 ครั้ง แต่กลับเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ ขณะที่ไบรท์ตันได้เพียง 2 มุมแต่ใช้โอกาสโจมตีจากด้านข้างได้มีประสิทธิภาพกว่า
🕒 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- 🟨 นาที 44: มัตส์ วีเฟอร์ (ไบรท์ตัน) โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์กลางสนาม
- ⚽ นาที 45+1: มัคซิม เดอ ไคเปอร์ ซัดประตูสุดคม ช่วยไบรท์ตันบุกนำฟอเรสต์ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรก
- 🔁 นาที 46: ฟอเรสต์เปลี่ยน 2 คนรวด – คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย แทน นิโกลัส โดมิงเกซ และ โอมารี ฮัทชินสัน แทน ดาน เอ็นดอย
- 🔁 นาที 56: ไบรท์ตันส่ง แจ็ค ฮินส์เชลวูด ลงมาแทน จอร์จินิโอ รูตเตอร์ เพื่อเพิ่มความแน่นแดนกลาง
- 🔁 นาที 65: สเตฟานอส ซีมาส ลงแทน แดนนี เวลเบ็ก เปลี่ยนหน้าเป้าให้ทีมเยือน
- 🔁 นาที 74: ฟอเรสต์ส่ง ไรอัน เยตส์ ลงแทน อิบราฮิม ซ็องกาเร เสริมพลังวิ่งในแดนกลาง
- 🔁 นาที 75: อาร์กโนด์ กาลิมูเอนโด้ ลงแทน อิโกร์ เฆซุส เพื่อไล่ล่าประตูตีเสมอ
- 🔁 นาที 84: ไบรท์ตันเปลี่ยนรวด 3 ราย – คาร์ลอส บาเลบา (แทน เดอ ไคเปอร์), โยเอล เฟลท์มัน (แทน โดมิงโกส โกเมซ) และ เบรยาน กรูดา (แทน ยานแดร์สัน มินเตห์)
- 🔁 นาที 85: ฟอเรสต์เปลี่ยน เจมส์ แมคอะที ลงมาแทน มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ เป็นตัวรุกคนสุดท้าย
- ⚽ นาที 88: สเตฟานอส ซีมาส หลุดไปยิงไม่พลาด ปิดบัญชีให้ไบรท์ตันนำห่าง 2-0
- ⏱️ ทดเจ็บ 7 นาทีในครึ่งหลัง ฟอเรสต์บุกหนักแต่ตีไข่แตกไม่ได้ จบเกมไบรท์ตันบุกชนะ 2-0
⭐ Player of the match – มัคซิม เดอ ไคเปอร์
เดอ ไคเปอร์ คือฮีโร่ตัวจริงของเกมนี้ แบ็กซ้ายวัยหนุ่มของไบรท์ตันได้คะแนนสูงสุดในสนาม 8.2 จาก Sofascore นอกจากจะยิงประตูเบิกร่องสุดสวยในช่วงทดเวลาครึ่งแรกแล้ว ยังมีส่วนกับเกมรุกแทบทุกครั้งที่ทีมขึ้นบอลทางซ้าย ทั้งการเปิดบอลแม่น ๆ เข้ากรอบเขตโทษ และการลากเลื้อยดวลหนึ่งต่อหนึ่งที่สร้างปัญหาให้แนวรับฟอเรสต์ตลอด 90 นาที
ในเกมรับ เดอ ไคเปอร์ ยังช่วยถอยลงมาปิดช่องครอสของ วิลเลียมส์ และ ฮัทชินสัน ได้ดี ทำให้ไบรท์ตันไม่เสียสมดุล ถึงแม้จะโดนเจ้าบ้านโหมบุกหนักในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ฝั่งซ้ายของนางนวลยังเอาอยู่ ก่อนเจ้าตัวจะถูกถอดออกพักช่วงท้ายเพื่อรักษาสภาพร่างกาย ถือเป็นฟอร์มระดับครบเครื่องทั้งรุกและรับอย่างแท้จริง

🧮 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ไบรท์ตันเก็บเพิ่มเป็น 22 คะแนนจาก 13 นัด ยิงได้ 21 เสีย 16 ประตู ผลต่าง +5 ยึดอันดับ 5 บนตารางพรีเมียร์ลีกต่อไป ไล่จี้กลุ่มท็อปโฟร์แบบหายใจรดต้นคอ และยังส่งสัญญาณชัดเจนว่าพวกเขาพร้อมลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปเต็มตัวในฤดูกาลนี้
ด้านน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แพ้เป็นนัดที่ 7 ของซีซัน มีอยู่ 12 คะแนนจาก 13 นัด ผลต่างประตูได้เสีย -9 รั้งอันดับ 16 ของตาราง อยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงแต้มเดียว ความกดดันเริ่มถาโถมเข้าใส่ลูกทีมของไดช์เต็ม ๆ หากไม่รีบแก้ปัญหาจังหวะจบสกอร์และความผิดพลาดในเกมรับ มีสิทธิ์ต้องหนีตายยาวจนถึงโค้งสุดท้ายของซีซัน
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก นัดถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปข้างหน้า ใน ตารางบอล พรีเมียร์ลีก ฟอเรสต์มีโปรแกรมหนักต่อเนื่อง ต้องออกไปเยือนวูล์ฟแฮมป์ตันในวันที่ 4 ธันวาคม ก่อนจะบุกเยือนเอฟเวอร์ตันในวันที่ 6 ธันวาคม โปรแกรมแบบนี้บอกเลยว่าไม่มีเกมไหนง่าย และทุกแต้มสำคัญต่อการหนีโซนแดง
ส่วนไบรท์ตันได้กลับไปเล่นในบ้านติดต่อกัน เปิดรังพบแอสตัน วิลล่า วันที่ 4 ธันวาคม แล้วต่อด้วยการรับมือเวสต์แฮม ยูไนเต็ด วันที่ 7 ธันวาคม หากเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่อง โอกาสขยับเข้าใกล้พื้นที่ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกยิ่งเปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ แฟนบอลต้องไม่พลาดเช็ก ตารางบอล และ โปรแกรมบอล ช่วงนี้ให้ดี เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของฤดูกาลอย่างแท้จริง
📺 ติดตาม บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา
สำหรับคอบอลที่อยากอัปเดตสกอร์แบบเรียลไทม์ เช็กฟอร์มทีมรัก หรือตามเกาะทุกประเด็นมันส์ ๆ ของพรีเมียร์ลีกและลีกดังยุโรป อย่าลืมติดตาม บ้านผลบอล ผ่านการรายงานของ “บ้านกีฬา” เรามีทั้งสกอร์สด บทวิเคราะห์หลังเกม มุมมองเชิงแท็คติก และข่าวอัปเดตให้ตามเช็กกันทุกวัน ใครไม่อยากตกข่าว หรือพลาดจังหวะสำคัญของทีมโปรด กดเข้ามาเช็กที่ บ้านกีฬา ให้เป็นนิสัยได้เลย

