
จาก : ผลบอลสด ไทยลีก ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 ราชบุรี เอฟซี วันนี้ 30/11/68 – บ้านกีฬา
เกมใหญ่ไทยลีกที่เสมือน “มินิชิงแชมป์” ที่ช้างอารีนา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับ ราชบุรี เอฟซี จบลงด้วยชัยชนะ 2-0 ของเจ้าถิ่น สกอร์อาจดูนิ่ง แต่เนื้อในเกมเดือดสมราคา แฟนบอลที่ตามลุ้นจากหน้าเว็บเช็ก ผลบอลสด หรือเปิดจอดูสด คงได้อารมณ์ไปเต็ม ๆ ว่าบุรีรัมย์วันนี้มาแบบเอาจริง ไม่ปล่อยให้แต้มหลุดมือในบ้านง่าย ๆ
🔥 ครึ่งแรก: วอลช์เปิด บิสโซลีโขกนำ เกมรุกเจ้าถิ่นไหลเป็นสายน้ำ
นกหวีดเริ่มเกมไม่กี่อึดใจ บุรีรัมย์เปิดหน้าบุกใส่ทันที นาที 15 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลุดมาทางซ้ายก่อนดีดเข้ากลางให้ แซนดี้ วอลช์ เติมมาซัดจ่อ ๆ บอลพุ่งชนคานดังสนั่น เสียงเฮทั้งสนามกลายเป็นเสียงเสียดายแทน
ความกดดันยังถาโถมใส่ราชบุรีต่อเนื่อง นาที 21 ลูกเตะมุมของศุภณัฏฐ์ เปิดให้ โกรัน เคาซิช ขึ้นโหม่งเต็มใบ แต่บอลหลุดเข้าข้างตาข่ายไปนิดเดียว จังหวะต่อเนื่องแสดงให้เห็นชัดว่าแนวรับทีมเยือนยังตั้งหลักไม่อยู่
จนมาถึงนาทีที่ 31 เกมรุกฝั่งขวาของเซราะกราวก็แผลงฤทธิ์จนได้ วอลช์ ได้จังหวะครอสบอลโค้งด้วยขวาเข้าไปเสาแรก กิลเยร์เม บิสโซลี สอดขึ้นมาโขกเน้น ๆ ส่งบอลเสียบตาข่าย เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 และอยู่ในโมเมนตัมของบุรีรัมย์เต็มตัว ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
🔥 ครึ่งหลัง: เคาซิชปิดบัญชี บดขยี้แดนกลางจนราชบุรีหายใจไม่ทั่วท้อง
เริ่มครึ่งหลังทั้งสองฝั่งแก้เกมทันที บุรีรัมย์ถอด พรรษา เหมวิบูลย์ ส่ง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ลงมาช่วยเติมเกมรุกทางขวา ขณะที่ราชบุรีเปลี่ยนคู่มิดฟิลด์-ตัวรุก ส่ง เอ็นจีวา และ เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม ลงมาหวังเร่งจังหวะเกม
นาที 49 ศุภณัฏฐ์ได้หลุดเดี่ยวแทบจะหนึ่งต่อหนึ่งกับ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล แต่ดันยิงไปติดปลายขานายด่านราชบุรี ชวดประตูหนีห่างแบบน่าเสียดายอย่างยิ่ง
ราชบุรีมีจังหวะตอบโต้น่ากลัว นาที 54 เอ็นจีวา หาช่องซัดไกลด้วยขวา บอลพุ่งแรงแต่ นีล เอเธอริดจ์ ซูเปอร์เซฟบินปัดออกหลังไป นาที 66 เดนิลสัน จูเนียร์ ได้ซัดจังหวะเดียวในเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคาน
เกมมาขาดเอานาที 70 เมื่อสองมิดฟิลด์ต่างชาติของบุรีรัมย์ประสานงานกันสวย เคาซิช ทำชิ่งกับ โรเบิร์ต ซูล์จ ที่เพิ่งลงมา ก่อนเคาซิชได้ช่องสับไกด้วยขวาเต็มข้อมุมเสียบเสาอย่างเด็ดขาด ขยับสกอร์เป็น 2-0 และเป็นลูกที่ตอกฝาโลงชัดเจน
ท้ายเกมแม้ราชบุรีจะปรับแท็กติกดันสูง เปลี่ยนแนวรุกลงมาเพิ่ม แต่เจอเกมรับที่แน่นและการคุมจังหวะของบุรีรัมย์ ทำให้ไม่มีอะไรเปลี่ยน จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านอัด ราชบุรี เอฟซี 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญได้แบบดุเดือด

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🟦 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3-5-1-1)
ผู้รักษาประตู
- นีล เอเธอริดจ์ (6.8)
กองหลังสามคน
- พรรษา เหมวิบูลย์ (6.6) – ถูกเปลี่ยนออก น.46
- เคนเน็ต ดูกอล (7.1)
- โก มยอง ซอก (7.2)
วิงแบ็กและมิดฟิลด์
- แซนดี้ วอลช์ (6.8) – แอสซิสต์ลูกแรก เกมริมเส้นฝั่งขวาเดือดสุด
- โกรัน เคาซิช (8.5) – คีย์แมนแดนกลาง ทำเกม+ยิงประตูที่สอง
- พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (7.1) – ตัดเกมกลางสนามแน่น
- ธีราทร บุญมาทัน (6.7) – เติมเกมซ้ายตามสไตล์
- ศศลักษณ์ ไหประโคน (7.0) – ขยันวิ่งชนจนเกมริมเส้นฝั่งซ้ายลุกเป็นไฟ
ตัวรุก
- ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (8.4) – สร้างโอกาสเพียบ มีทั้งหลุดเดี่ยวและเปิดคอนเนกต์เพื่อน
- กิลเยร์เม บิสโซลี (6.9) – โขกประตูขึ้นนำ
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (6.3) ลง น.46 แทน พรรษา เติมเกมรุกฝั่งขวา
- ปีเตอร์ ซูล์จ (6.5) ลง น.60 แทน ธีราทร เสริมสมดุลแดนกลาง
- โรเบิร์ต ซูล์จ (7.2) ลง น.60 แทน ศุภณัฏฐ์ มีส่วนกับประตู 2-0 ลงมาแล้วเกมรุกไหลลื่น
- ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (ประมาณ 6.3) ลง น.90 แทน บิสโซลี ช่วยปิดเกม
- ชัฏชัย บุตรพรม, ศุภณัฏฐ์ ลีเอาะ, รัตนากร ใหม่คามิ – ไม่ได้ลงสนาม
นักเตะโดดเด่นฝั่งเจ้าบ้านชัดเจนคือ เคาซิช, ศุภณัฏฐ์ และ วอลช์ สามประสานกลาง-ริมเส้นที่คุมโทนเกมนี้ทั้งหมด
🟧 ราชบุรี เอฟซี (5-4-1 / 4-3-3 ยืดหยุ่น)
ผู้รักษาประตู
- กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (6.1) – เซฟหลายครั้ง ช่วยให้ทีมไม่แพ้เละ
แนวรับ
- เกียรติศักดิ์ ศรีสวัสดิ์/ศรีสุวรรณ? (7.0 ใกล้เคียง 6.7-7.0) เริ่มต้นทางฝั่งขวา ก่อนโดนโยกตำแหน่งจากการแก้เกม
- เจสซี่ เคอร์แรน (6.4)
- เจเรมี่ คอรินัส (5.9) – เจอเกมบุกบุรีรัมย์กดดันหนัก ได้ใบเหลืองตั้งแต่ครึ่งแรก
- โจนาธาร เข็มดี (6.9) – ยืนเซ็นเตอร์พยายามเคลียร์บอลไม่ให้หลุดง่าย
- กาเบรียล มูตอมโบ (6.9) – ประคองเกมด้านซ้าย
มิดฟิลด์
- ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (7.2) – ขยันเชื่อมเกม, เป็นตัวเด่นที่สุดของราชบุรีในวันนี้
- กฤษณนน ศรีสุวรรณ (6.7) – ช่วยไล่บีบกลางสนาม
- จักรพันธ์ แก้วพรม (6.4) – เล่นไม่ครบ 90 นาที ถูกเปลี่ยนออกตอนพักครึ่ง
แนวรุก
- เนเกบา (6.3) – ความเร็วสร้างปัญหาให้หลังบ้านบุรีรัมย์ แต่จบไม่คม ได้ใบเหลืองท้ายครึ่งแรก
- อิคซาน ฟานดี้ (6.3) – ยืนหอกเดี่ยว โอกาสลุ้นจัง ๆ มีน้อย
- เดนิลสัน จูเนียร์ (6.3) – มีจังหวะซัดลุ้นตีเสมอแต่บอลลอยข้ามคาน
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- เอ็นจีวา ราคูโตฮาริมาลาลา (6.4) ลง น.46 แทน คอรินัส ช่วยเร่งสปีดเกมรุก
- เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม (6.4) ลง น.46 แทน จักรพันธ์ เสริมความขยันแดนกลาง
- โชติภัทร พุ่มแก้ว (6.7) ลง น.76 แทน เดนิลสัน เติมเกมด้านข้าง
- ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร (6.6) ลง น.76 แทน เกียรติศักดิ์ ศรีสุวรรณ เติมความสดแดนกลาง
- ฐิรพล โยเรย (6.6) ลง น.82 แทน เนเกบา เพิ่มมิติในกรอบเขตโทษ
- อุกฤษณ์ วงศ์มีมา, ซิดคลีย์, สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, อดิศร พรหมรักษ์, อภิสิทธิ์ โสรฎา, ศิวกร จักขุประสาท – ไม่ได้ลงสนาม
ตัวเด่นฝั่งราชบุรีคือ ธนวัฒน์, โจนาธาร เข็มดี และ มูตอมโบ ที่พยายามยืนหยัดต้านแนวรุกเจ้าบ้าน
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
บ้านกีฬา มองแท็กติกเกมนี้ว่า บุรีรัมย์ของ มาร์ค แจ็คสัน วางหมากระบบ 3-5-1-1 ที่เน้นการครองบอลและขึ้นเกมตรงกลาง แล้วระเบิดออกริมเส้นผ่าน วอลช์ กับ ธีราทร/ศศลักษณ์ จุดพิเศษคือการวาง เคาซิช เป็นแกนกลางจ่ายบอลยาวไปข้างหน้า เชื่อมกับ ศุภณัฏฐ์ และ บิสโซลี ทำให้รูปเกมรุกเจ้าบ้านต่อเนื่องตลอด 90 นาที
ในจังหวะบุก บุรีรัมย์ใช้การดันวิงแบ็กขึ้นสูง กลายเป็นรูป 3-3-3-1 มิดฟิลด์สามคนยืนเป็นฐานคุมจังหวะให้เคลื่อนบอลซ้าย-ขวา พอเห็นช่องก็แทงทะลุช่องให้ตัวรุกวิ่งทำทาง ขณะที่การเพรสซิ่งแดนบนใช้บิสโซลีและศุภณัฏฐ์เป็นตัวไล่ก่อนเพื่อน บีบให้แนวรับราชบุรีต้องรีบเคลียร์บอล จึงไม่ค่อยมีจังหวะตั้งเกมจากแดนหลังสวย ๆ
ด้านราชบุรีของ วรวุธ ศรีมะฆะ เริ่มเกมด้วยโครงสร้าง 5-4-1 ตั้งใจมารับรัดกุม เน้นบีบพื้นที่ตรงกลางให้แน่นแล้วสวนกลับด้วยความเร็วของ เนเกบา และ เดนิลสัน จูเนียร์ แต่ปัญหาคือเมื่อตัดบอลได้ กลางสนามรีบแทงยาวเกินไป ทำให้บอลหลุดเท้าตัวรุกและโดนคุมจังหวะกลับมาครองโดยบุรีรัมย์อยู่เรื่อย ๆ
เกมรับของบุรีรัมย์ถือว่าเข้มสุดในลีกนัดนี้ สามเซ็นเตอร์อ่านจังหวะบอลยาวของราชบุรีได้ดี ประกอบกับมิดฟิลด์อย่างพิธิวัตต์ช่วยตัดเกมก่อนถึงหน้าเขตโทษ ทำให้ราชบุรีแทบไม่มีโอกาสลุ้นจากกรอบหกหลา ช็อตที่ทีมเยือนได้ใกล้สุดคือยิงไกลของ เอ็นจีวา กับจังหวะซัดของ เดนิลสัน เท่านั้น
เมื่อดูภาพรวมในเชิง วิเคราะห์บอล แท็คติก บุรีรัมย์เหนือกว่าชัดเจน ทั้งในเรื่องโครงสร้างทีม การครองบอล และการแก้เกมด้วยการส่งสองพี่น้องซูล์จลงมาช่วยยกระดับคุณภาพเกมรุกในครึ่งหลัง ทำให้ราชบุรีไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้เลย

📈 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนรูปเกมอย่างชัดเจน บุรีรัมย์ครองบอล 52% ต่อ 48% ของราชบุรี แม้เปอร์เซ็นต์จะใกล้กัน แต่จำนวนโอกาสจบสกอร์ห่างกันชัด เจ้าบ้านส่องทั้งสิ้น 16 ครั้ง เข้ากรอบหลายลูกและเปลี่ยนเป็น 2 ประตูเต็ม ๆ ขณะที่ราชบุรีมีโอกาสยิงเพียง 7 ครั้ง และไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูได้เลย
จังหวะ “บิ๊กแชนซ์” หรือโอกาสทอง บุรีรัมย์สร้างได้ถึง 3 ครั้ง (รวมจังหวะคานของวอลช์และหลุดเดี่ยวของศุภณัฏฐ์) ส่วนราชบุรีไม่มีสถิติบิ๊กแชนซ์แม้แต่ครั้งเดียว แสดงให้เห็นว่าเกมรับบุรีรัมย์ปิดพื้นที่ได้ดีแค่ไหน
จำนวนเตะมุม บุรีรัมย์ได้ 3 ลูก ราชบุรี 2 ลูก แสดงถึงเกมรุกที่พยายามบุกทั้งสองฝั่ง ด้านการผ่านบอล เจ้าบ้านจ่าย 461 ครั้ง ส่วนทีมเยือน 410 ครั้ง ตัวเลขใกล้กันแต่บุรีรัมย์ทำบอลขึ้นหน้าได้มีประสิทธิภาพกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เกมนี้มีการฟาวล์รวมกันถึง 29 ครั้ง บุรีรัมย์ 19 ราชบุรี 10 ใบเหลืองทีมละ 2 ใบ สะท้อนว่าจังหวะปะทะดุเดือดตามสไตล์เกมใหญ่บนหัวตารางไทยลีกอย่างแท้จริง
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ น.15 แซนดี้ วอลช์ เติมขึ้นมายิงจ่อ ๆ บอลชนคาน พลาดขึ้นนำแบบน่าเสียดาย
- ⚽ น.21 โกรัน เคาซิช โขกจากลูกเตะมุมของศุภณัฏฐ์ บอลเฉียดเสาเข้าข้างตาข่าย
- ⚽ น.31 กิลเยร์เม บิสโซลี โหม่งประตูขึ้นนำ 1-0 จากการครอสของวอลช์
- 🟨 น.38 เจเรมี่ คอรินัส โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์ตัดเกม
- 🟨 น.45+2 เนเกบา ทำฟาวล์หนัก โดนใบเหลืองก่อนจบครึ่งแรก
- 🔁 น.46 บุรีรัมย์เปลี่ยน นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ลงแทน พรรษา ขณะที่ราชบุรีส่ง เอ็นจีวา และ เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม ลงแทน คอรินัส กับ จักรพันธ์ แก้วพรม
- ⚽ น.49 ศุภณัฏฐ์ หลุดเดี่ยวไปยิง แต่ติดปลายขาของกัมพล พลาดประตู 2-0
- ⚽ น.54 เอ็นจีวา ซัดไกลด้วยขวา นีล เอเธอริดจ์ พุ่งปัดออกหลัง
- ⚽ น.66 เดนิลสัน จูเนียร์ ได้ซัดจังหวะเดียวในเขตโทษ บอลข้ามคาน
- 🔁 น.60 บุรีรัมย์ส่ง ปีเตอร์ ซูล์จ ลงแทน ธีราทร และ โรเบิร์ต ซูล์จ แทน ศุภณัฏฐ์ เพิ่มความสดแดนกลางและแนวรุก
- ⚽ น.70 โกรัน เคาซิช ทำชิ่งกับ โรเบิร์ต ซูล์จ ก่อนซัดเต็มข้อเสียบเสา เป็นประตู 2-0 ให้บุรีรัมย์
- 🔁 น.76 ราชบุรีเปลี่ยนคู่ทีเด็ด ส่ง โชติภัทร พุ่มแก้ว กับ ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร ลงแทน เดนิลสัน และ เกียรติศักดิ์
- 🔁 น.82 ราชบุรีส่ง ฐิรพล โยเรย ลงแทน เนเกบา หวังเติมความสดแดนหน้า
- 🟨 น.85 เคนเน็ต ดูกอล โดนใบเหลืองจากการเข้าสกัดกลางสนาม
- 🔁 น.90 บุรีรัมย์ส่ง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ลงแทน บิสโซลี เพื่อถ่วงเวลาและปิดเกม
⭐ Player of the Match – โกรัน เคาซิช
รางวัลแข้งยอดเยี่ยมของเกมนี้ต้องยกให้ โกรัน เคาซิช อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง มิดฟิลด์เซอร์เบียคว้าคะแนนสูงสุด 8.5 จากการคุมเกมแดนกลางแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งจ่ายบอลเปลี่ยนแกน, ช่วยตัดเกม และเติมขึ้นไปยิงประตูปิดกล่อง 2-0 ด้วยตัวเอง
เคาซิชคือจุดต่างของทั้งสองทีมในวันนี้ ทุกครั้งที่บุรีรัมย์ต้องการจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุก บอลมักเริ่มที่เขาเสมอ การยืนตำแหน่งฉลาด ทำให้เพื่อนรอบตัวเล่นง่ายขึ้นไปหมด บ้านกีฬา ขอยกให้เป็นหัวใจสำคัญของบุรีรัมย์ในเส้นทางลุ้นแชมป์ไทยลีกปีนี้เลยก็ว่าได้

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนไทยลีก
ชัยชนะเกมนี้ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แข่ง 12 นัด มี 31 คะแนน จากผลงานชนะ 10 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงไป 33 ประตู เสีย 14 ประตู ยึดตำแหน่งจ่าฝูงไทยลีกเหนียวแน่น พร้อมมีเกมในมือมากกว่าบางทีมคู่แข่ง โดยทิ้งห่างอันดับสองอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่มี 25 คะแนน ออกไปเป็น 6 แต้ม และเตะน้อยกว่าแบงค็อกหนึ่งนัดด้วยซ้ำ เรียกว่ากดดันทีมตามหลังแบบสุด ๆ
ส่วน ราชบุรี เอฟซี หลังแพ้เกมนี้ยังคงรั้งอันดับ 4 แข่ง 12 นัด มี 23 คะแนน จากสถิติชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 3 ลูกได้ 19 เสีย 9 ยังอยู่ในโซนบนของตาราง แต่พลาดโอกาสไล่จี้หัวตารางและต้องระวังทีมกลุ่มกลางอย่าง ระยอง และ บีจี ปทุม ที่เริ่มเร่งเครื่องไล่หลังมาแล้ว
📅 ตารางบอลไทยลีกนัดถัดไป
จากโปรแกรมในมือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเจอโปรแกรมถี่ยิบ ทั้งรายการชิงแชมป์สโมสรอาเซียนและไทยลีก โดยมีเกมสำคัญเปิดบ้านพบ คานท์ชานาบุรี ในศึกไทยลีกวันที่ 6 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งแฟน ๆ คงได้จ้องมองในหน้า ตารางบอล กันอีกรอบว่าจ่าฝูงจะเดินหน้ากดดันคู่แข่งต่อไปได้หรือไม่
ด้าน ราชบุรี เอฟซี มีคิวหนักไม่แพ้กัน ทั้งการบุกไปเยือน กัมบะ โอซากา ในศึก AFC Champions League Two วันที่ 11 ธันวาคม และเกมลีกเปิดบ้านพบ สุโขทัย เอฟซี วันที่ 5 ธันวาคม โปรแกรมแน่นแบบนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญของความลึกในขุมกำลังและการหมุนเวียนผู้เล่นของโค้ชวรวุธอย่างแท้จริง หากบริหารไม่ดีมีสิทธิ์ส่งผลกระทบต่อผลงานระยะยาวของทีมแน่นอน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา
แฟนบอลไทยที่อยากเกาะติดฟอร์มจ่าฝูงไทยลีกนัดต่อไป รวมถึงเช็กสกอร์สด เช็กอันดับ และดูสถิติเกมต่อเกม สามารถตามอัปเดต บ้านผลบอล และบทความวิเคราะห์เจาะลึกได้ที่ บ้านกีฬา เราจะเก็บทุกช็อตมันส์ ทุกประตูสำคัญ และทุกประเด็นร้อนของไทยลีกมาสรุปให้คุณแบบครบ จบ ในที่เดียว

