อัลเลกรียอมรับคำพูดทำโดนไล่ แต่ย้ำราบิโอต์คือหัวใจพาเอซี มิลานเชือดลาซิโอ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

เกมเดือดที่ซาน ซิโร่ มิลานบดจนคว้าชัยเหนือความกดดัน

ศึกใหญ่บนเวที กัลโช่ เซเรียอา นัดที่ เอซี มิลาน เปิดบ้านดวล ลาซิโอ กลายเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ดราม่าจัดเต็ม ทั้งความกดดันในสนาม จังหวะลุ้น VAR และใบแดงของกุนซือข้างสนามอย่าง มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี แต่ทั้งหมดจบลงด้วยชัยชนะสุดสำคัญของมิลาน ที่ได้ประตูตัดสินจาก ราฟาเอล เลเอา และฟอร์มเด่นของ อาเดรียง ราบิโอต์ จนทีมทะยานขึ้นไปยึดตำแหน่งจ่าฝูงชั่วคราว
ครึ่งแรกมิลานต้องเจองานช้าง ลาซิโอบีบเพรสสูงตั้งแต่แดนหน้า ปิดทุกช่องจ่ายบอลจนเกมรุกมิลานไหลลำบาก ดีที่มือหนึ่งของทีมอย่าง ไมค์ เมนญ็อง ยังเซฟอุตลุต โดยเฉพาะจังหวะโขกของ มาริโอ กีลา และลูกยิงหักข้อของ มัตเตีย ซัคคาญี ที่เกือบเปลี่ยนเกมให้ทีมเยือนได้เฮก่อน

เลเอาซัดปลดล็อก เกมรุกมิลานเปลี่ยนหน้า

หลังพักครึ่ง มิลานกลับมาด้วยจังหวะการเล่นที่เน้นมากขึ้น วิ่งเพรสสวนกลับเร็วและกล้าจ่ายบอลเสี่ยงในพื้นที่สุดท้าย จนท้ายที่สุดก็มาได้ประตูสำคัญจากจังหวะต่อบอลสวยทั้งทีม ก่อนที่เลเอาจะเข้ามาจบสกอร์ระยะเผาขนแค่หกหลา ส่งบอลตุงตาข่ายและปลดล็อกเกมที่อึดอัดมาตลอดทั้งครึ่งแรก
ประตูนี้ไม่ใช่แค่ทำให้มิลานขึ้นนำ แต่ยังเปลี่ยนโมเมนตัมทั้งหมดในสนาม ลาซิโอเริ่มเปิดพื้นที่มากขึ้นเพื่อเอาประตูคืน กลายเป็นโอกาสให้มิลานมีช่องเล่นในจังหวะสวนกลับเพิ่มขึ้นตามแผนของอัลเลกรี

ดราม่าท้ายเกม VAR วุ่น ใบแดงอัลเลกรี-สตาฟฟ์ลาซิโอ

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บกลายเป็นฉากดราม่าที่ทุกคนพูดถึง ลาซิโอพยายามทวงจุดโทษจากจังหวะลุ้นในกรอบเขตโทษ จน VAR ต้องเข้ามาเช็กอย่างละเอียด ความกดดันในสนามพุ่งขึ้นทันที ทั้งม้านั่งสำรอง ผู้เล่น และสตาฟฟ์ต่างยืนลุ้นหน้าตึง
สุดท้าย VAR ตัดสินว่าไม่ให้จุดโทษ เพราะก่อนหน้านั้น อดัม มารูซิช ไปทำฟาวล์ใส่ สตราฮินญ่า ปาฟโลวิช เสียก่อน ทำให้จังหวะแฮนด์บอลหลังจากนั้นถูกยกเลิกไปโดยอัตโนมัติ ท่ามกลางเสียงโห่และอารมณ์เดือดของฝั่งลาซิโอ
ในความโกลาหลนั้นเอง ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ทั้งอัลเลกรีและ มาร์โก ยานนี ผู้ช่วยโค้ชลาซิโอออกจากสนาม กลายเป็นภาพจำอีกซีนหนึ่งของเกมนี้ทันที

อัลเลกรีเล่าชัด ทำไมโดนไล่ทั้งที่ยังไม่ได้ตัดสินจุดโทษ

หลังจบเกม เทรนเนอร์มิลานออกมาอธิบายกับสื่อว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาเดือดนั้น
“มันค่อนข้างวุ่นวายในช่วงท้ายเกม แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนกันสำหรับผู้ตัดสินที่ต้องตัดสินใจแบบนั้น เมื่อเขาถูก VAR เรียกให้ไปดูจังหวะนั้นอีกครั้ง” อัลเลกรีกล่าวกับสกาย สปอร์ต อิตาเลีย
เมื่อถูกถามตรง ๆ ว่าเขาพูดอะไรจนโดนไล่ขึ้นอัฒจันทร์ เจ้าตัวก็เล่าแบบตรงไปตรงมา
“เป็นผู้ตัดสินคนเดียวกับเกมเปิดฤดูกาลที่เราแพ้ให้เครโมเนเซ่ ผมเลยพูดไปว่าทำไมทุกครั้งที่เป็นเขามันต้องมีปัญหาตลอด? จากนั้นเขาก็ไล่ผมออก ในจังหวะโกลาหลแบบนั้นมันก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ที่เขาจะตัดสินใจอย่างนั้น แต่ผมไม่ได้มีเจตนาจะดูหมิ่นเขาเลย
ส่วนรูปเกม เรามีปัญหาในช่วงต้น เพราะลาซิโอเพรสสูงหนักแน่น และตราบใดที่พวกเขารักษาจังหวะแบบนั้นได้ พวกเขาก็ปิดทุกช่องจ่ายบอลของคุณ ทำให้คุณต้องเสี่ยงออกบอลมากขึ้นและมีโอกาสเสียบอล เราเลยทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรในช่วงนั้น
ครึ่งหลังเรายกระดับสปีดตัวเองขึ้น ขณะที่ฝั่งเขาเริ่มแผ่วลงเล็กน้อย เราเลยมีโอกาสดี ๆ เพิ่มขึ้นพร้อมกับประตูที่ทำได้”

มิลานยึดจ่าฝูงชั่วคราว พร้อมสถิติสุดน่าสนใจ

สามแต้มจากเกมนี้ส่งให้มิลานทะยานขึ้นนำหัวตารางแบบชั่วคราว และอาจนั่งยาวเป็นจ่าฝูงต่อได้ หากเกมระหว่างนาโปลีกับโรม่าที่เตะในวันถัดมาออกผลเข้าทางพวกเขา
ผู้สื่อข่าวยังหยิบสถิติมาถามอัลเลกรีว่า ในช่วงสิบปีหลังมีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่ปีศาจแดงดำรั้งจ่าฝูงหลังผ่าน 13 นัด ซึ่งทั้งสองครั้งนั้นทีมจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งแชมป์และรองแชมป์
“สิ่งที่เราต้องทำคือก้มหน้าทำงานต่อ รักษาความถ่อมตัวและความกระหายในการแย่งบอลคืน เล่นให้เป็นหนึ่งเดียวกัน มีบรรยากาศที่ดีทั้งในทีมและกับแฟน ๆ ทุกคนใส่เต็มที่ไม่มีกั๊ก นั่นคือคุณสมบัติสำคัญที่สุดที่เราต้องรักษาเอาไว้”

เลเอากับบทบาทเบอร์ 9 สมัยใหม่ในแผนของอัลเลกรี

เลเอากำลังถูกปรับให้เล่นในบทบาทศูนย์หน้าตัวเป้าแบบเคลื่อนที่สูง ไม่ได้ยืนรอบอลในกรอบอย่างเดียว แต่สอดออกด้านข้าง ลงต่ำเชื่อมเกม และวิ่งทำทางเพื่อเปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีม
“เลเอาเคยเล่นเป็นกองหน้าตัวกลางให้ลีลล์มาก่อนอยู่แล้ว วันนี้เขามีลูกโหม่งที่ทำได้ดี เมื่อบอลมาจากด้านข้าง เขาเริ่มวิ่งสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันเขาก็ยังมีอิสระขยับไปเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก”
ด้วยสไตล์แบบนี้ เลเอากลายเป็นจิ๊กซอว์ที่ทำให้เกมรุกมิลานอ่านยากขึ้นหลายเท่า เพราะแนวรับคู่แข่งไม่รู้จะประกบเขาแบบกองหน้าตัวเป้าหรือปีกตัวทำเกมกันแน่

ราบิโอต์ เครื่องยนต์แดนกลางที่อัลเลกรีบอกว่า “ต่าง”

อีกหนึ่งคนที่ได้รับคำชมไม่หยุดคือ อาเดรียง ราบิโอต์ ซึ่งทุกครั้งที่ลงตัวจริง มิลานแทบจะไม่หลุดฟอร์มจนกลายเป็นสถิติชวนทึ่ง
“ถ้าเทียบกับฤดูกาลสุดท้ายที่ผมร่วมงานกับเขาที่ยูเวนตุส อาเดรียงพัฒนาไปไกลมาก เขามีทั้งความแข็งแกร่งทางร่างกาย ฉลาดทางแท็กติก และเล่นเพื่อทีมจริง ๆ การจะสร้างทีมที่ลุ้นความสำเร็จ คุณต้องมีนักเตะแบบนี้ ที่พร้อมเล่นเพื่อคนอื่น ผมมีนักเตะหลายคนที่ใส่แพสชั่นเต็มที่ในทุกนัด และมันคือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง อาเดรียงก็มีเครื่องยนต์ในแดนกลางที่ไม่เหมือนใคร”
ราบิโอต์จึงไม่ใช่แค่กองกลางที่คอยตัดเกมหรือคอยเชื่อมบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนจังหวะขึ้นเกมให้ทีมทั้งรับและรุก และเป็นฐานให้ตัวรุกอย่างเลเอามีอิสระมากขึ้นในพื้นที่สุดท้าย

ฟุตบอลยุคใหม่กับความสำคัญของ “ตัวเปลี่ยนเกม” ทั้งในสนามและข้างสนาม

เกมนี้สะท้อนฟุตบอลยุคใหม่ได้ชัดเจน ไม่ใช่แค่เรื่องแท็กติกในสนาม แต่รวมถึงการจัดการอารมณ์และเกมจิตวิทยาข้างสนามด้วย โค้ชอย่างอัลเลกรีที่อ่านเกมเก่งและกล้าปรับแท็กติกกลางคัน บวกกับนักเตะอย่างเลเอาและราบิโอต์ที่ใช้ศักยภาพเต็มที่ในพื้นที่ของตัวเอง ทำให้มิลานดูเป็นทีมที่ “ครบเครื่อง” ทั้งเรื่องโครงสร้างเกมและบุคลิกทีม
สำหรับแฟนบอลไทย การดูเกมแบบนี้แล้วลองสังเกตจังหวะเพรสสูง การเปลี่ยนสปีดเกม และบทบาทกองกลางตัวผึ้งงานอย่างราบิโอต์ รวมถึงศูนย์หน้าที่เคลื่อนที่หลากหลายแบบเลเอา จะช่วยให้การดูบอลสนุกขึ้น เข้าใจแท็กติกมากขึ้น และมองเห็นภาพรวมของทีมมากกว่าผลสกอร์อย่างเดียว

ตามทุกมุมมองเกมใหญ่แบบจัดเต็มไปกับบ้านกีฬา

ชัยชนะของมิลานในเกมเดือดกับลาซิโอครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่เรื่อง VAR หรือใบแดงของอัลเลกรีให้พูดถึง แต่ยังเต็มไปด้วยรายละเอียดแท็กติก ฟอร์มของเลเอา และพลังงานจากราบิโอต์ในแดนกลาง ที่ช่วยกันขับทีมขึ้นสู่การลุ้นแชมป์อย่างจริงจัง
แฟนบอลที่อยากตามทุกจังหวะเดือดของลีกใหญ่ยุโรป มองเกมให้ลึกเกินกว่าผลการแข่งขัน และอินไปกับเรื่องราวทั้งในและข้างสนาม แนะนำให้ติดตามการอัปเดตแบบเข้มข้นได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา แล้วคุณจะไม่พลาดทุกอารมณ์ของโลกฟุตบอลตัวจริง

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา