บ้านผลบอล สรุปหลังเกม พรีเมียร์ลีก ดราม่าทดเจ็บ! โฟเด้น เหมาเบิ้ลพาแมนซิตี้เชือดลีดส์ 3-2 ไล่ล่าแชมป์แบบหายใจรดต้นคอ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 ลีดส์ ยูไนเต็ด วันนี้ 29/11/68 – บ้านกีฬา

เกมพรีเมียร์ลีกที่เอติฮัดคืนนี้ บ้านกีฬา ขอบอกเลยว่าแฟนที่กดเช็ก ผลบอลสด กันสดๆ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกสตาร์ตอย่างโหดนำลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก แต่ดันปล่อยให้ทีมเยือนฮึดสู้ตีเสมอ 2-2 ก่อนที่ ฟิล โฟเด้น จะสวมบทฮีโร่กดประตูชัยช่วงทดเจ็บ พาเรือใบคว้าชัย 3-2 แบบหืดจับสุดๆ

🕐 ครึ่งแรก: โฟเด้นเปิดหัว กวาร์ดิโอลซ้ำ นำสบาย 2-0

เสียงนกหวีดดังได้ไม่ถึงนาที แฟน บ้านผลบอล ยังเปิดหน้าจอไม่ทันอัปเดตสกอร์ แมนฯ ซิตี้ก็ยิงนำแล้ว จากจังหวะที่ มาธิอุส นูเนส ลากบอลทางซ้ายก่อนหาช่องจ่ายเข้ากลางให้ ฟิล โฟเด้น เกี่ยวบอลหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบมุม ในนาทีที่ 1 เกมเริ่มแบบโหดมาก

หลังได้ประตูนำ ซิตี้ครองเกมแทบฝ่ายเดียว เคาะบอลกันสบายเท้า ไล่บี้เพรสซิ่งสูงจนลีดส์ต่อบอลไม่ขึ้น นาที 25 โจสโก้ กวาร์ดิโอล เติมขึ้นทางฝั่งซ้าย รับบอลจาก นีล โอ’รีลลี่ ก่อนสอดเข้าเขตโทษแล้วกดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบเสาไกลเป็น 2-0 เจ้าถิ่นเล่นง่าย เกมรับของลีดส์โดนกดจนแทบหายใจไม่ออก

ตลอดครึ่งแรก ลีดส์แทบไม่มีจังหวะลุ้นแบบจะๆ เกมรุกฝากความหวังไว้ที่ ดาเนียล เจมส์ กับ วิลฟรีด ญอนโต้ แต่โดน รูเบน ดิอาส กับ นิโคลัส กอนซาเลซ ดักทางเกือบหมด บอลยาวก็ไม่ผ่าน จบ 45 นาทีแรก แมนฯ ซิตี้นำ 2-0 แบบรูปเกมขาดลอย

🔁 ครึ่งหลัง: ลีดส์ฮึดตีเสมอ ก่อนโฟเด้นปิดบัญชีทดเจ็บ

เข้าสู่ครึ่งหลัง ดาเนียล ฟาร์เค่ ไม่ยอมตายง่ายๆ ปรับเกมทันที ส่ง ยาก้า บีโยล กับ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน ลงมาแทน วิลฟรีด ญอนโต้ และ ดาเนียล เจมส์ แค่ไม่กี่นาทีการเปลี่ยนตัวก็ได้ผล นาที 49 คัลเวิร์ต-เลวิน สบโอกาสในเขตโทษ ซัดจ่อๆ ผ่านมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ตีไข่แตกให้ลีดส์ไล่มา 2-1 เกมเริ่มเดือดทันที

จากที่ควรปิดเกมได้ ซิตี้กลับเริ่มผิดพลาดเอง ทั้งการเสียฟาวล์ง่ายๆ และจังหวะโต้กลับที่ปล่อยให้ ลูคัส นเมชา หลุดเข้าเขตโทษ นาที 68 ทีมเยือนได้จุดโทษ นเมชารับหน้าที่สังหาร ยิงจังหวะแรกไปติดเซฟดอนนารุมม่า แต่บอลยังเด้งมาเข้าทางให้เจ้าตัวตามซ้ำไม่พลาด ตีเสมอ 2-2 ทำเอาเอติฮัดเงียบกริบ

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า รีบขยับ ส่ง รายาน แชร์กี ลงมาเพิ่มมิติในเกมรุก และท้ายเกมก็โยน โอมาร์ มาร์มูช ลงมาไล่บี้แนวรับลีดส์ นาที 90+1 ความพยายามของเจ้าถิ่นก็เป็นผล แชร์กี รับบอลทางขวาก่อนล็อกหนึ่งจังหวะแล้วไหลย้อนให้ โฟเด้น วิ่งมากดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งเสียบเสาแบบสุดสวย กลายเป็นประตูชัย 3-2 ให้แมนฯ ซิตี้เก็บสามแต้มสุดระทึก

ช่วงทดเจ็บที่เหลือ เป๊ปเปลี่ยนเอา จอห์น สโตนส์ ลงมายืนปิดเกม เซตระบบรับแพ็กแน่นจนลีดส์เจาะไม่ได้อีก จบเกมเรือใบสีฟ้าชนะแบบใจหายใจคว่ำ แต่ก็ยังเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์อย่างเหนียวแน่น

📋 รายชื่อตัวจริงและคะแนนนักเตะ

🩵 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ระบบ 4-3-2-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.85

ผู้รักษาประตู

  • 25 จานลุยจิ ดอนนารุมม่า – 6.9 เซฟสำคัญหลายครั้ง แม้จะมีหลุดจังหวะจนโดนใบเหลืองท้ายเกม

กองหลัง

  • 33 นีล โอ’รีลลี่ – 6.4 เติมเกมซ้ายดีในครึ่งแรก มีส่วนกับประตูของกวาร์ดิโอล
  • 24 โจสโก้ กวาร์ดิโอล – 6.2 ยิงสุดสวยเป็นประตู 2-0 แต่ครึ่งหลังมีหลุดจนโดนใบเหลือง
  • 3 รูเบน ดิอาส – 6.7 คุมเกมรับกลางประตูได้แน่น แม้จะเจองานหนักตอนโดนบุกกดดัน
  • 27 มาธิอุส นูเนส – 5.7 ถูกจับยืนแบ็กขวา มีส่วนกับประตูแรกแต่เกมรับมีช่องให้โจมตี

กองกลาง

  • 4 ทิฌานี่ เรย์อินเดอร์ส – 7.8 เชื่อมเกมได้เนียน เป็นตัวแย่งบอลและจ่ายทะลุไลน์ให้เพื่อน
  • 14 นิโคลัส กอนซาเลซ – 6.9 ขยับหาช่องเล่นบอลสั้นดี คุมจังหวะกลางสนาม
  • 20 แบร์นาร์โด้ ซิลวา (กัปตัน) – 6.7 วิ่งไม่มีหมดลงมาช่วยทั้งรับและรุก มีจังหวะเถียงจนโดนจดชื่อ

ตัวรุก

  • 11 เฌเรมี่ ดูกู – 7.2 ป่วนฝั่งซ้ายตลอด มีจังหวะเลี้ยงกินตัวหลายครั้ง
  • 47 ฟิล โฟเด้น – 9.0 เหมาสองประตู สร้างโอกาสให้เพื่อน เป็นศูนย์กลางเกมรุกแบบเต็มตัว
  • 9 เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ – 6.3 จังหวะจบสกอร์ไม่เฉียบเหมือนเคย แต่ดึงตัวประกบเปิดพื้นที่ให้เพื่อน

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • 10 รายาน แชร์กี – 7.0 (น.75 แทน เรย์อินเดอร์ส) ลงมาทำเกมริมเส้นและแอสซิสต์ให้โฟเด้นยิงประตูชัย
  • 7 โอมาร์ มาร์มูช – 6.3 (น.89 แทน แบร์นาร์โด้ ซิลวา) เติมความสดแดนหน้าช่วงท้าย
  • 5 จอห์น สโตนส์ – (น.90+6 แทน ดูกู) ลงมาช่วยปิดเกมรับ นาทีสุดท้าย

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
เจมส์ ทราฟฟอร์ด, นาธาน อาเก้, อับดูโคเดียร์ คูซานอฟ, ริโก้ ลูวิส, รายาน ไอต์-นูรี, ซาวินโญ่

💛 ลีดส์ ยูไนเต็ด (ระบบ 4-3-3) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.71

ผู้รักษาประตู

  • 1 ลูคัส แปร์รี – 7.6 เซฟสวยๆ หลายครั้ง หากไม่มีเจ้าตัวสกอร์อาจไหลกว่านี้

กองหลัง

  • 2 เจย์เดน โบเกิล – 5.8 รับมือกับดูกูได้ลำบาก ถูกเจาะหลายครั้ง
  • 6 โจ โรดอน – 6.3 ยืนคุมกลางแนวรับ พยายามบล็อกลูกครอส
  • 5 ปาสกาล สตรอยค์ – 6.7 โหม่งเคลียร์บอลได้ดี เกมรับมีความแข็งแกร่ง
  • 24 เจมส์ จัสติน – 6.9 เติมเกมซ้ายช่วงต้นเกม แต่โดนแทนที่กลางครึ่งหลัง

กองกลาง

  • 4 อีธาน แอมพาดู (กัปตัน) – 6.5 คุมจังหวะกลางสนาม อ่านเกมดี
  • 44 อีเลีย กรูเอฟ – 6.9 เคลื่อนที่หาพื้นที่รับบอล และช่วยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า
  • 22 อายาเซะ ทานากะ – 6.5 พยายามพาบอลขึ้นหน้า แต่มีจังหวะเสียบอลง่ายบ้าง

แนวรุก

  • 7 ดาเนียล เจมส์ – 6.8 ใช้ความเร็วโจมตีด้านขวา ก่อนถูกเปลี่ยนออกต้นครึ่งหลัง
  • 14 ลูคัส นเมชา – 6.4 ยิงจุดโทษตามซ้ำตีเสมอ 2-2 เป็นคนสำคัญในแนวรุก
  • 29 วิลฟรีด ญอนโต้ – 6.9 มีจังหวะลากเลื้อย แต่ไม่ค่อยได้จบสกอร์

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • 15 ยาก้า บีโยล – 6.4 (น.46 แทน ญอนโต้) ลงมาเสริมเกมรับด้านขวา
  • 9 โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน – 7.9 (น.46 แทน เจมส์) ยิงตีไข่แตกให้ทีมกลับสู่เกม
  • 3 กาเบรียล กุดมุนด์สสัน – 6.7 (น.69 แทน จัสติน) ปิดพื้นที่ริมเส้นซ้าย
  • 19 โนอาห์ โอคาฟอร์ – 6.4 (น.82 แทน นเมชา) เพิ่มสปีดเกมรุกช่วงท้าย
  • 11 เบรนเดน อารอนสัน – 6.7 (น.90+2 แทน ทานากะ) พยายามหาช่องสร้างสรรค์เกมในช่วงทดเจ็บ

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
อิลลัน เมสลิเยร์, แซม ไบรัม, แจ็ค แฮร์ริสัน, โจเอล ไพโร

🔍 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

รูปเกมคืนนี้สะท้อนชัดว่า เมื่อ แมนฯ ซิตี้ เล่นเต็มเครื่องในระบบ 4-3-2-1 การเคลื่อนที่ระหว่าง โฟเด้น, ดูกู และ ฮาลันด์ สร้างจุดศูนย์ถ่วงให้แผงรับลีดส์ต้องถอยลึกตลอด เกมรุกของเรือใบใช้การต่อบอลสั้นเร็ว แทรกในครึ่งช่อง (half-space) ฝั่งซ้ายเป็นหลัก กวาร์ดิโอล กับ ดูกู เติมซ้อนกันจนโบเกิลตามไม่ทัน ช่องว่างที่เกิดขึ้นทำให้ โฟเด้น ได้รับบอลระหว่างไลน์ และมีโอกาสทำประตูถึงสองครั้งสองครา ซึ่งก็กลายเป็นคนจบสกอร์ทั้งประตูขึ้นนำและประตูชัย

แดนกลาง เรย์อินเดอร์ส กับ กอนซาเลซ ทำงานหนักในการไล่แย่งบอลและเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว การบีบเพรสของซิตี้ในแดนหน้าทำให้แผงหลังลีดส์ต้องเคลียร์ทิ้งบ่อยครั้ง เมื่อแพ้เพรสบอลจะถูกรีไซเคิลกลับมาบุกใหม่ทันที นี่คือภาพชัดของทีมที่มีโครงสร้างเกมรุกระดับท็อปแบบที่กูรูสาย วิเคราะห์บอล พูดถึงกันอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังซิตี้มีอาการ “หลุดสมาธิ” ให้เห็น เกมรับเริ่มยืนห่าง คู่เซ็นเตอร์กับฟูลแบ็กสื่อสารกันไม่ดีจนปล่อยให้คัลเวิร์ต-เลวิน มีพื้นที่เล่นบอลในเขตโทษหลายครั้ง การฟาวล์พร่ำเพรื่อของ นูเนส และ กวาร์ดิโอล ก็ยิ่งกดดันตัวเอง กลายเป็นให้ลีดส์ได้จุดโทษและโอกาสบุกต่อเนื่อง

ฝั่งลีดส์ แม้จะออกสตาร์ตแย่ แต่การปรับระบบกดดันสูงขึ้นและใช้คัลเวิร์ต-เลวิน เป็นจุดพักบอล ทำให้พวกเขาเชื่อมเกมรุกได้ดีขึ้น แอมพาดู กับ กรูเอฟ ดันไลน์ขึ้นมาบีบแดนกลางซิตี้ ทำให้เจ้าถิ่นเสียบอลมากขึ้น เมื่อได้โอกาสก็โจมตีเร็วตรงกลางช่องว่างระหว่างฟูลแบ็กกับเซ็นเตอร์ นี่คือเหตุผลที่ช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลังเกมพลิกไปอยู่ฝั่งทีมเยือนแบบชัดเจน

โดยรวมแล้ว เกมรุกซิตี้ยังคมกว่าและหลากหลาย แต่เกมรับต้องแก้เรื่องสมาธิและการจัดระยะยืน ขณะที่ลีดส์แม้แพ้ แต่แสดงให้เห็นว่าหากกล้าบุกกดดัน พวกเขามีศักยภาพเล่นงานทีมใหญ่ได้ทุกเมื่อ

📊 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมยืนยันภาพที่เห็นในสนาม แมนฯ ซิตี้ครองบอลถึง 63% ต่อ 37% ของลีดส์ ส่งบอลมากถึง 497 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 93% ขณะที่ทีมเยือนมีเพียง 254 ครั้ง ความแม่นยำ 86% แสดงให้เห็นว่าจังหวะครองบอลและควบคุมเกมอยู่กับเจ้าถิ่นเป็นส่วนใหญ่

ด้านการจบสกอร์ ซิตี้ยิงรวม 17 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง เปลี่ยนเป็น 3 ประตู ส่วนลีดส์มีโอกาสเพียง 5 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง แต่กลับยิงได้ถึง 2 ลูก เรียกว่าความเฉียบคมไม่แพ้กันเลย อีกจุดที่น่าสนใจคือจำนวนฟาวล์ ซิตี้ทำไป 17 ครั้ง มากกว่าลีดส์ที่ 11 ครั้ง พร้อมใบเหลือง 4 ใบต่อ 1 ใบ สะท้อนว่าช่วงที่โดนกดดัน เจ้าถิ่นต้องใช้ฟาวล์ตัดเกมบ่อยครั้งเพื่อหยุดโต้กลับ

ลูกเตะมุม ซิตี้ได้ถึง 8 ครั้ง ขณะที่ลีดส์เพียง 1 ครั้ง แสดงให้เห็นการบุกต่อเนื่องของเรือใบ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมกลับมาจากจุดโทษและจังหวะสวนกลับ ไม่ใช่เซตพีซเสียด้วยซ้ำ

⏱️ เหตุการณ์สำคัญในเกม

  • ⚽ 1′ แมนฯ ซิตี้ขึ้นนำ 1-0 ฟิล โฟเด้น ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษจากการทำชิ่งกับ มาธิอุส นูเนส
  • ⚽ 25′ เจ้าถิ่นหนี 2-0 โจสโก้ กวาร์ดิโอล เติมขึ้นมาซัดด้วยซ้ายหลังรับบอลจากฝั่งซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาไกล
  • ⏰ 45+3′ จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้นำ 2-0 รูปเกมเหนือกว่าชัดเจน
  • 🔁 46′ ลีดส์แก้เกม ส่ง ยาก้า บีโยล แทน วิลฟรีด ญอนโต้ และ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน แทน ดาเนียล เจมส์
  • ⚽ 49′ คัลเวิร์ต-เลวิน ซัดตีไข่แตกให้ลีดส์ไล่มา 2-1 จุดไฟความหวังทีมเยือน
  • 🟨 55′ มาธิอุส นูเนส ทำฟาวล์กลางสนาม โดนใบเหลือง
  • 🟨 57′ แบร์นาร์โด้ ซิลวา โวยผู้ตัดสินเกินเหตุ โดนจดชื่อ
  • 🟨 58′ โจ โรดอน ฝั่งลีดส์โดนใบเหลืองจากจังหวะประท้วง
  • 🟨 66′ โจสโก้ กวาร์ดิโอล ตัดฟาวล์หยุดเกมโต้กลับ รับใบเหลืองเพิ่มให้เจ้าถิ่น
  • ⚽ 68′ ลีดส์ได้จุดโทษ ลูคัส นเมชา ยิงไปติดเซฟดอนนารุมม่า แต่ตามซ้ำเองเข้าไป ตีเสมอ 2-2
  • 🔁 69′ ลีดส์เปลี่ยนเอา กาเบรียล กุดมุนด์สสัน ลงแทน เจมส์ จัสติน เติมความสดฝั่งซ้าย
  • 🔁 75′ แมนฯ ซิตี้ส่ง รายาน แชร์กี แทน เรย์อินเดอร์ส เพื่อเร่งเกมรุก
  • 🔁 82′ ทีมเยือนส่ง โนอาห์ โอคาฟอร์ แทน นเมชา เพิ่มสปีดเกมรุกปลายเกม
  • 🟨 87′ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยคำตัดสิน
  • 🔁 89′ โอมาร์ มาร์มูช ลงแทน แบร์นาร์โด้ ซิลวา ช่วยไล่เพรสแดนหน้า
  • ⚽ 90+1′ ฟิล โฟเด้น กดด้วยซ้ายหน้ากรอบจากการไหลของ แชร์กี บอลพุ่งเสียบเสาเป็น 3-2 ให้แมนฯ ซิตี้
  • 🔁 90+2′ ลีดส์ส่ง เบรนเดน อารอนสัน แทน อายาเซะ ทานากะ หวังไล่ตีเสมออีกครั้ง
  • 🔁 90+6′ เป๊ปถอด เฌเรมี่ ดูกู ให้ จอห์น สโตนส์ ลงมาช่วยล็อกเกมรับ ก่อนผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกม

⭐ Player of the Match – ฟิล โฟเด้น

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแมนออฟเดอะแมตช์ต้องเป็น ฟิล โฟเด้น เจ้าของเรตติ้ง 9.0 จาก Sofascore แข้งอังกฤษรายนี้เล่นเหมือนคนกำลังอยู่ในโหมดพีค สร้างโอกาสให้เพื่อนอย่างต่อเนื่อง ลงมารับบอลระหว่างแผงกลางกับแนวรับของลีดส์ แล้วหมุนตัวจ่ายออกซ้ายขวาได้ไหลลื่น

ประตูแรกของเกมเกิดจากสัญชาตญาณการหาพื้นที่ของเขา ส่วนประตูชัยช่วงทดเจ็บคือภาพชัดเจนของความเยือกเย็นและความมั่นใจ โฟเด้นควบคุมจังหวะ ยิงด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับเพิ่ม บอลพุ่งเสียบเสาแบบที่ผู้รักษาประตูได้แต่มอง แถมยังมีส่วนร่วมในเกมรับด้วยการไล่เพรสและตัดบอลในแดนคู่แข่งหลายครั้ง คืนนี้โฟเด้นคือคนที่แบกเรือใบไว้ทั้งลำจริงๆ

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แข่ง 13 นัด มี 25 คะแนน จากผลงานชนะ 8 เสมอ 1 แพ้ 4 ยิงได้ 27 เสีย 12 ลูก ผลต่าง +15 ยึดอันดับ 2 ของตาราง ไล่หลังอาร์เซนอลจ่าฝูงที่มี 29 แต้มอยู่ 4 คะแนน ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์เต็มตัว และที่สำคัญคือเรียกความมั่นใจกลับมาหลังเจอเกมยากหลายแมตช์

ด้านลีดส์ ยูไนเต็ด ความพ่ายแพ้แบบสุดเจ็บนี้ทำให้พวกเขายังนิ่งอยู่ที่อันดับ 18 โซนสีแดง แข่ง 13 นัด มีเพียง 11 คะแนน จากสถิติชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ถึง 8 ยิงได้ 13 เสีย 25 ผลต่าง -12 แรงกดดันในการหนีตกชั้นถาโถมเข้าใส่เต็มๆ เกมต่อๆ ไปต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้ โดยเฉพาะในบ้านหากไม่อยากจมท้ายตารางยาว

📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก นัดถัดไป

ในแง่ ตารางบอล และโปรแกรมข้างหน้า แมนฯ ซิตี้เจอโปรแกรมชุกต่อเนื่อง นัดถัดไปจะบุกไปเยือน ฟูแล่ม ก่อนกลับมาเปิดเอติฮัดรับมือ ซันเดอร์แลนด์ แฟนเรือใบต้องลุ้นว่าทีมของเป๊ปจะรักษาความคมของโฟเด้นและเพื่อนร่วมทีมต่อเนื่องได้แค่ไหน

ส่วนลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องเจองานหินต่อเนื่องกับสองทีมใหญ่อย่าง เชลซี และ ลิเวอร์พูล แบบติดๆ กัน โปรแกรมแบบนี้บอกได้คำเดียวว่า “ห้ามพลาด” เพราะถ้าเก็บแต้มไม่ได้เลย โอกาสจะหล่นไปก้นตารางยิ่งสูงขึ้นไปอีก

🏠 ติดตาม บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา

ใครที่อยากตามเช็กสกอร์สด รายงานจังหวะสำคัญ และวิเคราะห์เกมมันส์ๆ แบบนี้ต่อเนื่อง อย่าลืมติดตามเช็ก บ้านผลบอล และข่าวบอลทุกลีกดังได้ที่ บ้านกีฬา เราจะขนทั้งสถิติ เจาะแท็กติก มุมมองเซียน และสีสันขอบสนามมาเล่าให้แฟนบอลชาวไทยได้มันส์กันทุกคืน

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา