ศึกชี้ชะตากลุ่มบี ฟิลสปอร์ตส์ อารีนา เดือดตั้งแต่นกหวีดแรก
การแข่งขันศึก ฟุตซอลโลก หญิง 2025 กลุ่มบี นัดที่สาม ที่ฟิลสปอร์ตส์ อารีนา กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถือเป็นแมตช์ชี้ชะตาอย่างแท้จริง ระหว่าง “ชบาแก้วโต๊ะเล็ก” ฟุตซอลหญิงไทย ทีมอันดับ 4 ของโลก ลงดวลเดือดกับ ฟุตซอลหญิงโคลอมเบีย ทีมอันดับ 8 ของโลกในฟีฟ่าแรงกิ้ง เกมนี้ไม่มีคำว่าทดลอง ไม่มีคำว่าซ้อม มีแต่คำว่า “ได้ไปต่อหรือต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน” เท่านั้น
ก่อนลงสนาม ทั้งไทยและโคลอมเบียมีผลงานเท่ากันจากสองเกมแรก แพ้ทีมแกร่งอย่างสเปน และเก็บชัยชนะเหนือแคนาดาได้เหมือนกันทุกประการ แต่ทีมชาติไทยมีประตูได้เสียที่ดีกว่า จึงถือไพ่เหนือกว่าแบบชัดเจน ขอแค่ “ไม่แพ้” ก็การันตีตั๋วน็อกเอาท์ทันที ความกดดันจึงถาโถมทั้งสองฝั่ง แต่ไทยลงสนามด้วยเป้าหมายชัดเจนคือเล่นรัดกุม มีสมาธิ และหาจังหวะจบสกอร์แบบเฉียบคม
แผนโค้ชโอและ 5 แข้งตัวจริงชบาแก้วโต๊ะเล็ก
เกมนี้ “โค้ชโอ” ธนาธร สันทนาประสิทธิ์ กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทย เลือกจัดชุดที่ดีที่สุดลงสนาม หวังปิดจ๊อบเข้ารอบให้ได้ โดยวางรายชื่อ 5 คนแรกประกอบด้วย ศศิประภา สุขเสน ผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่ยืนระหว่างเสา, เจนจิรา บุบผา ตัวคุมจังหวะเกม, อารียา แซ่เติ๋น เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญ, ณัฐมน อาจกล้า ตัวทำเกมรุก และ ดาริกา เพียรภายลุน ที่พร้อมสอดทะลุหาพื้นที่ยิงตลอดเวลา
ไทยวางหมากเน้นเพรสซิ่งสูงเป็นช่วงๆ สลับกับการถอยลงมาตั้งโซนรับแน่นในแดนตัวเอง รอจังหวะสวนกลับเร็ว ใช้ความคล่องตัวและความเข้าใจเกมในพื้นที่แคบ เพื่อเจาะแนวรับโคลอมเบียที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งทางร่างกายและลูกยิงหนัก
ครึ่งแรกโดนนำ 2-0 แต่ไทยตอบโต้ไม่ยอมยุบ
เสียงนกหวีดดังได้ไม่นาน เกมก็เริ่มเดือดทันที นาทีที่ 4 โคลอมเบียฉวยโอกาสจากความผิดพลาดเล็กน้อยของแนวรับไทย เล่นงานจนได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อเลฆานดรา อปาเรซ หลุดไปทางขวาก่อนปาดบอลเข้ากลางให้ ไดอานา เซลิซ ยิงโล่งๆ ไม่พลาด ส่งให้ตัวแทนจากอเมริกาใต้กุมความได้เปรียบตั้งแต่ต้นเกม
แม้โดนนำ แต่ไทยไม่ถอย นาทีที่ 7 แสงระวี มีขำ ลองส่องไกลหวังลุ้นเซอร์ไพรส์ แต่ อลิสซอน โอลาเว่ ผู้รักษาประตูโคลอมเบียยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม แสดงให้เห็นว่าประตูโคลอมเบียไม่ใช่งานง่ายเลยในวันนี้
ถัดมาเพียงนาทีเดียว ความผิดหวังซ้ำสองก็มาเยือน เมื่อจังหวะลูกฟรีคิกของโคลอมเบียเกิดการขลุกขลิกรวนหน้าเขตโทษ บอลไหลมาเข้าทาง เมอร์ลิน ซัลเซโด้ ที่ซัดไม่เหลือให้ทีมจากอเมริกาใต้นำห่างเป็น 2-0 สถานการณ์ไทยเริ่มบีบหัวใจ แต่ก็ยังไม่ถอดใจง่ายๆ
นาทีที่ 11 ไทยตอบโต้ได้อย่างเฉียบคม เมื่อ อารียา แซ่เติ๋น ทำชิ่งจังหวะเดียวกับ ณัฐมน อาจกล้า ก่อนหลุดไปยิงโล่งๆ บอลพุ่งเสียบตาข่ายตีไข่แตกเป็น 1-2 คืนความหวังให้แฟนบอลไทยในสนามและหน้าจอได้เฮกันสนั่น
ช่วงนาทีที่ 16 ไทยเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะยิงของ ดาริกา เพียรภายลุน ที่บอลไปติดเซฟ และจังหวะต่อเนื่อง อารียา แซ่เติ๋น ซ้ำดาบสองแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย จบ 20 นาทีแรก ไทยยังตามโคลอมเบียอยู่ 1-2 ทั้งที่รูปเกมเริ่มกลับมาสูสีและไทยสร้างโอกาสได้ต่อเนื่อง
ครึ่งหลังโคลอมเบียคมกว่า ไทยเสี่ยงพาวเวอร์เพลย์โดนลงโทษ
ครึ่งหลังไทยพยายามเร่งจังหวะหวังทวงประตูตีเสมอ แต่ต้องระวังเกมสวนกลับของโคลอมเบียไปพร้อมกัน นาทีที่ 23 กลายเป็นโคลอมเบียที่ได้เฮอีกครั้ง เมื่อ ไดอานา เซลิซ ยกบอลให้ เมอร์ลิน ซัลเซโด้ เกี่ยวบอลได้อย่างนิ่ม ก่อนซัดด้วยขวาเบียดเสาสองเข้าไปสวยงาม สกอร์ขยับเป็น 3-1 ทำให้สถานการณ์ของไทยยิ่งกดดัน
นาทีที่ 30 ไทยมีโอกาสทองอีกครั้ง แพรพลอย หัวใจเพชร ได้ซัดเต็มข้อ แต่ก็ยังไปติดซูเปอร์เซฟของ อลิสซอน โอลาเว่ และจังหวะตามซ้ำของ ดาริกา เพียรภายลุน ก็ยังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูโคลอมเบีย ส่งผลให้ความหวังในการไล่จี้สกอร์ยังไม่เป็นจริง
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ทีมชาติไทยตัดสินใจปรับแทคติกมาเล่นพาวเวอร์เพลย์ ยอมเสี่ยงดันผู้รักษาประตูขึ้นมาช่วยบุกเต็มสูบ เพื่อหวังอย่างน้อยหนึ่งประตูให้เกมกลับมา มีลุ้นในช่วงสุดท้าย แต่เมื่อเดินหน้าสุดตัวช่องว่างในแดนหลังก็เริ่มเปิดออก และแล้วความผิดพลาดก็เกิดขึ้น
ไทยเสียบอลกลางทางในจังหวะต่อบอลบุก ดานนา โรดริเกซ ฉวยโอกาสซัดสวนเข้าไป ทำให้โคลอมเบียหนีเป็น 4-1 ในนาทีสำคัญ ชนิดที่แนวรับไทยกลับไปไม่ทัน จนท้ายที่สุดไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ไทยพ่ายโคลอมเบีย 1-4 ทำให้ทีมชาติไทยจบอันดับ 3 ของกลุ่ม บี หมดสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์อย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ก่อนเกมถือไพ่เหนือกว่าอยู่หนึ่งก้าว
ผลงานทัวร์นาเมนต์นี้คือเสาหลักต่อยอดโต๊ะเล็กหญิงไทย
แม้สกอร์ในเกมสุดท้ายจะขมขื่น แต่หากมองภาพรวมตลอดทัวร์นาเมนต์ นี่คืออีกหนึ่งเวทีที่ยืนยันว่าฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย ยืนอยู่ในแถวหน้าของโลกอย่างแท้จริง การแพ้ต่อทีมระดับท็อปอย่างสเปน การชนะเหนือแคนาดา และการต่อกรกับโคลอมเบียแบบสู้ได้ไม่เกรงกลัว สะท้อนให้เห็นทั้งศักยภาพและช่องว่างที่ต้องเติมเต็มในอนาคต
จุดที่ไทยต้องนำกลับไปแก้ไขคือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเกมรับ การเสียประตูจากความผิดพลาดเฉพาะหน้า รวมถึงการจบสกอร์ในจังหวะสำคัญซึ่งถ้าคมกว่านี้ ผลลัพธ์ในตาราง ผลฟุตซอลวันนี้ อาจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน จุดเด่นอย่างสปิริต การเล่นเป็นทีม และความไม่ยอมแพ้จนวินาทีสุดท้าย ก็ยังเป็นลายเซ็นสำคัญที่แฟนบอลไทยทุกคนภูมิใจ
ฟุตซอลหญิงไทยกับบทบาทแรงบันดาลใจให้เด็กผู้หญิงยุคใหม่
นอกเหนือจากผลการแข่งขัน การเดินทางของทีมชาติไทยชุดนี้ยังส่งผลในมิติที่กว้างกว่านั้น คือการเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กผู้หญิงทั่วประเทศที่อยากลุกขึ้นมาจับรองเท้าสตั๊ด หัดเตะบอลบนสนามเล็กและสนามใหญ่ ฟุตซอลไม่ใช่แค่เกม 5 ต่อ 5 ในฮอลล์ปิดเท่านั้น แต่เป็นกีฬาที่สอนเรื่องความกล้า การตัดสินใจเร็ว การทำงานเป็นทีม และการไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดดัน
ในหลายประเทศ ฟุตซอลคือฐานสำคัญในการสร้างนักเตะสู่ฟุตบอลสนามใหญ่ ทักษะการควบคุมบอลในพื้นที่จำกัด การจ่ายบอลฉับไว การอ่านเกมในเสี้ยววินาที กลายเป็นทุนสำคัญของผู้เล่นรุ่นใหม่ หากประเทศไทยเดินหน้าพัฒนาระบบลีกเยาวชน โครงสร้างทีมอาชีพ และเปิดพื้นที่ให้เด็กผู้หญิงมีโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง จะช่วยยกระดับฟุตซอลหญิงไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในระยะยาว
แฟนบอลไทยรอรับกลับบ้าน และติดตามความเคลื่อนไหวต่อที่บ้านกีฬา
หลังจากจบภารกิจบนแผ่นดินฟิลิปปินส์ ทัพชบาแก้วโต๊ะเล็กจะเดินทางกลับประเทศไทยทันที โดยมีกำหนดถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 18.00 น. เชื่อว่าแฟนบอลไทยจำนวนไม่น้อยพร้อมออกมาต้อนรับ ให้กำลังใจ และส่งพลังบวกให้ทีมชาติกลับมาลุยใหม่ในทัวร์นาเมนต์ต่อไป
เส้นทางในศึกใหญ่ครั้งนี้อาจไม่ได้จบแบบที่ทุกคนหวัง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือประสบการณ์ล้ำค่า และบทเรียนสำคัญในการยกระดับวงการฟุตซอลหญิงไทยในอนาคต หากไม่หยุดพัฒนา วันหนึ่งคำว่า “ตกรอบ” อาจถูกแทนที่ด้วยคำว่า “ลุ้นแชมป์โลก” ก็เป็นได้ แฟนบอลชาวไทยที่อยากตามติดทุกก้าวของทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมแข่ง ผลแข่งขัน หรือข่าวความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง อย่าลืมติดตามอัปเดตมันส์ๆ สไตล์ ฟุตซอลสดบ้านกีฬา ได้ทุกวัน

