สถานการณ์อากาศร้อนแรงบนหน้าแรกวันนี้เป็นของ พายุ “โคโตะ” (KOTO) ที่กำลังอ่อนกำลังลงแถวทะเลจีนใต้ตอนกลาง ขณะที่ มวลอากาศเย็นจากจีน แผ่ลงมาปิดประตูความชื้น ทำให้ภาคเหนือ–อีสาน–กลาง–ตะวันออก (รวม กทม.) เย็นลงอีก 1–2°C ช่วง 28–29 พ.ย. 2568 ก่อนจะเริ่มอุ่นขึ้นตั้งแต่ 30 พ.ย. ส่วนยอดดอย–ยอดภู หนาวจัด ย่อตัวได้ 1–6°C/4–13°C ตามลำดับ ด้านทะเล: อ่าวไทย–อันดามันตอนบนมี คลื่นสูงราว 2 ม. บริเวณมีฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 ม. เรือทุกขนาดต้องระวังเป็นพิเศษ (อ้างอิงประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4 วันที่ 28 พ.ย. 68)
พายุ “โคโตะ” คือใคร อยู่ตรงไหน จะกระทบไทยอย่างไร
- เวลา 04.00 น. 28 พ.ย. 68 จุดศูนย์กลาง “โคโตะ” อยู่เหนือทะเลจีนใต้ตอนกลาง (ละติจูด ~13°N ลองจิจูด ~112.4°E) จากไต้ฝุ่นลดแรงลงเป็น พายุโซนร้อนกำลังแรง ลมใกล้ศูนย์กลางราว 110 กม./ชม. เคลื่อนช้าไปทางตะวันตกค่อนไต้เล็กน้อย คาดว่าจะ อ่อนกำลังเร็ว แถวชายฝั่งเวียดนามและ ไม่เข้าไทย โดยตรง แต่ทำให้ลมตะวันออกเฉียงเหนือแรงขึ้น กดอุณหภูมิไทยตอนบนให้เย็นลงชัดเจนในระยะสั้นนี้.
- ฝั่งเวียดนามยกระดับรับมือจริงจัง ระดมกำลังพล กว่า 2.67 แสน นาย พร้อมยานพาหนะ 6,684 คัน แจ้งเตือนเรือกว่า 49,200 ลำ และชาวประมง กว่า 272,000 คน ให้เฝ้าระวังและหลีกเลี่ยงพายุ (ข้อมูล 27 พ.ย.)
โปรไฟล์อากาศไทย 28–30 พ.ย. 68: ใครเจออะไร
- ไทยตอนบน (เหนือ–อีสาน–กลาง–ตะวันออก–กทม.): เย็นถึงหนาว ลมแรง อุณหภูมิลด 1–2°C ช่วง 28–29 พ.ย. ก่อนเริ่มดีดขึ้น 30 พ.ย. ยอดดอย/ยอดภูเสี่ยง น้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 1–6°C / 4–13°C ตามลำดับ.
- ภาคใต้ตอนบน–อ่าวไทย–อันดามันตอนบน: ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดกำลังปานกลาง คลื่นสูงราว 2 ม. บริเวณพายุฝนคลื่นสูงมากกว่า 2 ม. เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงแนวฝนฟ้าคะนอง
เข้าใจ “หนาวหลงฤดู–คลื่นสูง” แบบอ่านครั้งเดียวใช้ได้ทั้งปี
- ทำไมอยู่ ๆ ถึงหนาวแรง? ช่วงปลายปีไทยมักเจอ มวลอากาศเย็นจากจีน แผ่ลงมารวดเร็ว เมื่อชนลมตะวันออกเฉียงเหนือจะดันอากาศแห้งเข้ามา เกิดลมแรง–ทัศนวิสัยดีขึ้น แต่รู้สึกหนาวกว่าค่าที่เทอร์โมมิเตอร์บอกเพราะ “Wind Chill” (ลมพัดร่างกายระบายความร้อนไวขึ้น)
- คลื่นสูงในอ่าวไทย มีต้นทางจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ยาวต่อเนื่องหลายวัน ยิ่งเจอเซลล์ฝนฟ้าคะนองจะเกิด คลื่นกระโชก สูงกว่าโดยรอบ สร้างความเสี่ยงกับเรือขนาดเล็กและกิจกรรมทางน้ำ
เช็กลิสต์เอาตัวรอดจากลมหนาว–ลมแรง สไตล์ “บ้านกีฬา”
บนบก
- แต่งตัวเป็นชั้น ๆ เลเยอร์บาง–อุ่น–กันลม แทนเสื้อหนาวตัวหนาแค่ชั้นเดียว
- เดิน–ปั่น–วิ่งช่วงเช้า ให้เช็ก ดัชนีคุณภาพอากาศ และความเร็วลม เลี่ยงการออกแรงหนักในลมแรงจัด
- ผู้สูงอายุ–เด็กเล็ก–ผู้ป่วยเรื้อรัง เสี่ยง อุณหภูมิต่ำกว่าปกติของร่างกาย (Hypothermia) ควรมีผ้าห่ม เสื้อกันลม หมวก ถุงมือ โดยเฉพาะทริปขึ้นดอย
- เกษตรกรป้องกัน “น้ำค้างแข็ง” ด้วยการคลุมพืช ใช้สปริงเกิลน้ำค้างเช้า–ก่อนสว่างเพื่อลดอุณหภูมิใบพืชตกฮวบ
เดินเรือ/กิจกรรมทางน้ำ
- เรือเล็กหลีกเลี่ยงออกจากฝั่งหาก คลื่น ~2 ม. ขึ้นไป และมีฝนฟ้าคะนอง
- คาดเสื้อชูชีพตลอดเวลา เปิดวิทยุ/แอปพยากรณ์ ตรวจเรดาร์ฝน–ลมก่อนออกเรือ
- ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเล ปรับตาราง–เปลี่ยนเส้นทาง–เพิ่มช่วงซ้ำสำหรับลูกเรือ
บนถนน
- ลมแรง+อากาศเย็น อาจเกิด “หมอกเช้า” ให้เปิดไฟหน้า (ไม่ใช่ไฟฉุกเฉิน) รักษาระยะเบรก
- รถจักรยานยนต์/จักรยาน คุมความเร็ว ระวัง “ลมตัด” บริเวณสะพานโล่ง–ถนนริมทะเล
Timeline สำคัญ (ย้ำอีกครั้ง)
- 28–29 พ.ย. 2568: ไทยตอนบนเย็นลงชัด 1–2°C ลมแรง ยอดดอย–ยอดภูหนาวจัด น้ำค้างแข็งบางแห่ง
- 30 พ.ย. 2568 เป็นต้นไป: อุณหภูมิทยอยสูงขึ้น
- พายุโคโตะ: แนวโน้มอ่อนกำลังเร็ว แถวชายฝั่งเวียดนาม ไม่เข้าไทย แต่เสริมลมตะวันออกเฉียงเหนือให้แรงขึ้นช่วงสั้น ๆ.
เวียดนามยกระดับรับมือเต็มขั้น (ภาพรวมภูมิภาคที่ควรรู้)
รัฐบาลเวียดนามสั่ง Highest-level response ก่อนพายุแตะใกล้ฝั่ง ระดมทหาร กว่า 2.67 แสน นาย พร้อมรถ–เรือ 6,684 หน่วย แจ้งเตือนเรือนับหมื่นและชาวประมงกว่า 2.72 แสน คนให้อยู่ในร่ม–หลบแนวพายุ สะท้อนว่าภูมิภาคเรากำลังอยู่ในช่วง “พายุถี่–ฝนสุดขั้ว” ต่อเนื่องทั้งปี 2025 ซึ่งทุกประเทศต้องเฝ้าระวังเข้มข้นกว่าปกติ.
ติดตามข้อมูลทางการแบบเรียลไทม์
- กรมอุตุนิยมวิทยา (TMD) ออกประกาศสม่ำเสมอ ทั้งภาษาไทย–อังกฤษ ตรวจสอบฉบับล่าสุดก่อนเดินทาง/ทำกิจกรรมกลางแจ้ง–ทางทะเล โดยเฉพาะ ชาวเรือ/ไกด์/ผู้จัดอีเวนต์.
สรุปแบบบ้านกีฬา
- “โคโตะ” ไม่เข้าไทย แต่ ทำไทยตอนบนหนาวแรงสั้น ๆ ช่วง 28–29 พ.ย. โดยเฉพาะยอดดอยแตะ 1–6°C จากนั้น 30 พ.ย. เริ่มอุ่นขึ้น
- อ่าวไทย–อันดามันตอนบนคลื่นสูง ~2 ม. เจอฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 ม. เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
- ใครมีแพลนขึ้นภู–ลงทะเล สลับได้ แต่ต้อง เช็กประกาศ TMD ล่าสุดทุกครั้ง และวางแผนเสื้อผ้า–อุปกรณ์ให้พร้อม.
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ บ้านกีฬา
