เอ็มบัปเป้ระเบิดฟอร์มพา มาดริด คืนชีพในค่ำคืนเดือดที่เอเธนส์
นี่คือค่ำคืนที่ชื่อของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด และเวที ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แบบเต็มตัว ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสกดคนเดียว 4 ประตู พาทีมบุกเชือด โอลิมเปียกอส ถึงกรุงเอเธนส์ 4-3 ในเกมสุดเดือดที่สนาม Georgios Karaiskakis Stadium พร้อมหักปากกาเซียนทั้งยุโรปที่เริ่มตั้งคำถามถึงฟอร์มของราชันชุดขาวหลังไม่ชนะใครมา 3 นัดติด
เกมนี้ไม่ได้เป็นแค่ “ชัยชนะหนึ่งนัด” แต่มันคือการปลดล็อกความกดดันทั้งสโมสร ตัวนักเตะ และเก้าอี้ของกุนซืออย่างชัดเจน เมื่อคุณมีซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่เปลี่ยนเกมได้ด้วยตัวเองแบบเอ็มบัปเป้ ทุกอย่างในสนามก็กลับมาดูง่ายขึ้นทันที
สี่เม็ดในเกมเดียว ปลุกยักษ์หลับราชันชุดขาว
รูปเกมที่เอเธนส์ไม่ใช่งานง่ายสำหรับ เรอัล มาดริด เลย เจ้าบ้านเล่นแบบไม่กลัวชื่อชั้น บดเข้าหาบอลเร็ว ใช้แรงกระตุ้นจากเสียงเชียร์ในสนามกดดันทีมเยือนตลอด 90 นาที จนสกอร์ไหลไปมาเหมือนโรลเลอร์โคสเตอร์ แต่ทุกครั้งที่ มาดริด ต้องการคนตัดสินเกม เอ็มบัปเป้ โผล่มาในจังหวะสำคัญเสมอ
เขาใช้ความเร็วฉีกแนวรับ เข้าพื้นที่อันตราย เล่นงานเซนเตอร์เจ้าถิ่นจนปั่นป่วน ก่อนจัดการจบสกอร์อย่างเฉียบคมทั้งในกรอบเขตโทษและจังหวะหลุดเดี่ยว สุดท้ายจบค่ำคืนด้วยการทำ “โป๊กเกอร์” หรือยิง 4 ลูกในเกมเดียว กลายเป็นศูนย์รวมความมั่นใจของทั้งทีมแบบไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
สามนัดก่อนหน้า มาดริด มองหาคนจบสกอร์แบบนี้ไม่เจอ แต่ค่ำคืนนี้ เอ็มบัปเป้ ส่งสัญญาณชัดเจนให้ทั้งยุโรปรู้ว่า ถ้าเขาอยู่ในโหมดโหดสุด ไม่ว่ากองหลังทีมไหนก็เอาไม่อยู่
แซงสถิติ เบนเซมา ในเวทีหูใหญ่กับชุดขาว
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของเกมนี้คือการที่ เอ็มบัปเป้ ทำ “แฮตทริก” ได้อีกครั้งบนเวที แชมเปียนส์ลีก จนกลายเป็นแข้งราชันชุดขาวที่ทำ 3 ประตูในเกมถ้วยใหญ่ยุโรปได้มากกว่า คาริม เบนเซมา ตำนานกองหน้าชาวฝรั่งเศสของสโมสร
เดิมที เบนเซมา คือคนที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในหน้าเป้าทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ทั้งการทำประตู เกมเชื่อม และการพาทีมคว้าโทรฟี่ แชมเปียนส์ลีก ไม่รู้กี่สมัย แต่วันนี้ตัวเลขเรื่อง “แฮตทริก” ในถ้วยบิ๊กเอียร์ เริ่มถูกเอ็มบัปเป้ไล่กดทับไปทีละสถิติ
การขึ้นแซงเบนเซมาในหมวดนี้จึงไม่ใช่แค่ตัวเลขสวย ๆ แต่มันคือสัญญาณว่า กองหน้ารุ่นใหม่อย่างเอ็มบัปเป้กำลังเดินตามรอย – และอาจจะเดิน “แซง” รุ่นพี่ในเส้นทางการเป็นสัญลักษณ์เกมรุกของมาดริดยุคใหม่
#OJOALDATO – Mbappé ha marcado 8 goles en las 5 primeras jornadas de la primera fase de la Champions League, igualando el mejor registro en la carrera de Cristiano Ronaldo que firmó esas mismas cifras en las temporadas 2013-14 y 2017-18.
— MisterChip (Alexis) (@2010MisterChip) November 26, 2025
ยิงเปิดหัว ชปล. ดีกว่า โรนัลโด้ ใน 5 เกมแรก
นอกจากจะขึ้นไปทาบ – และแซง – ตำนานในสโมสรแล้ว ค่ำคืนนี้ เอ็มบัปเป้ ยังทำสถิติระดับยุโรปไปพร้อมกันด้วย เมื่อเขายิงครบ 4 ลูกในเกมเดียว ทำให้ยอดรวมประตูใน 5 นัดแรกของฤดูกาล แชมเปียนส์ลีก ครั้งนี้ กลายเป็น 9 ประตู เข้าไปแล้ว
ตัวเลข 9 ลูกใน 5 เกมนี้ ทำให้เขาแซงหน้าสถิติของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เคยยิง 8 ประตู จาก 5 นัดแรกใน แชมเปียนส์ลีก ทั้งในฤดูกาล 2013/14 และ 2017/18 ซึ่งตอนนั้นทุกคนยกให้โรนัลโด้คือ “เครื่องจักรสังหาร” แห่งยุโรปแบบไม่มีข้อกังขา
แต่วันนี้ชื่อของเอ็มบัปเป้ถูกดันขึ้นมานั่งโต๊ะเดียวกันแล้วเรียบร้อย และไม่ได้เป็นแค่ “ดาวรุ่ง” หรือ “อนาคต” อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นตัวหลักของยุคปัจจุบันที่สถิติต่าง ๆ เริ่มเทียบกับ โรนัลโด้ ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
เอ็มบัปเป้บนเส้นทางตำนานใหม่ของราชันชุดขาว
ถ้าเราย้อนดูประวัติศาสตร์ของ เรอัล มาดริด ทุกยุคจะมีดาวยิงตัวท็อปคอยแบกทีมเสมอ ตั้งแต่ยุค อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน, ราอูล, โรนัลโด้, เบนเซมา จนมาถึงเอ็มบัปเป้ในปัจจุบัน กองหน้าตัวหลักไม่ใช่แค่คนยิงประตู แต่คือตัวตนของทีมในสายตาแฟนบอลทั่วโลก
เอ็มบัปเป้มีทั้งสปีด ความเฉียบคมในกรอบเขตโทษ การอ่านจังหวะเกม และบุคลิกของซูเปอร์สตาร์ที่กล้าแบกความกดดันเอาไว้บนบ่า เขาเคยคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศส ยิงในนัดชิงบอลโลก เล่นได้ทั้งริมเส้นและหน้าเป้า นี่คือแพ็กเกจครบเครื่องของกองหน้าระดับท็อปที่แฟนบอลราชันชุดขาวเฝ้ารอมานาน
และทุกครั้งที่เขาเดินลงสนามในเสื้อสีขาวของมาดริด แฟนบอลรู้ดีว่าโอกาสเห็นประตูสำคัญจากเท้าของเขาไม่เคยไกลเกินเอื้อม ถ้าเอ็มบัปเป้รักษามาตรฐานแบบนี้ต่อไปได้ สถิติของตำนานหลายคนในสโมสรอาจต้องถูกเขียนใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
มุมมองแฟนบอล: จากค่ำคืนที่เอเธนส์ สู่ฤดูกาลที่ทั้งยุโรปต้องจับตา
จากเกมบุกชนะ โอลิมเปียกอส 4-3 ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่แต้มสำคัญในกลุ่ม แต่คือการส่งสัญญาณตรงไปทั้งยุโรปว่า เรอัล มาดริด ยังอยู่ในโหมด “ผู้ท้าชิงแชมป์” เต็มตัว และมีเครื่องจักรผลิตสกอร์คนใหม่อย่างเอ็มบัปเป้คอยนำทัพ
สำหรับแฟนบอลที่ตามดูบอลยุโรปเป็นประจำ เกมนี้คือหนึ่งในไฮไลต์ของรอบแบ่งกลุ่มปีนี้ ทั้งความมันของสกอร์ การแลกหมัดไปมา และการเห็นสตาร์ระดับโลกอย่างเอ็มบัปเป้เปิดโหมดเข้มเต็มคันเร่ง มันคือเกมที่ทำให้เรารู้ว่า “ตัวเปลี่ยนสมดุลของทัวร์นาเมนต์” อยู่ตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว
ในมุมของคนดูบอล ถ้าเอ็มบัปเป้ยิงได้ต่อเนื่องแบบนี้ เส้นทางลุ้นดาวซัลโว แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลนี้จะถูกโยนเข้ามือเขาแบบเต็ม ๆ และชื่อของเขาจะถูกพูดถึงคู่กับ โรนัลโด้ และเบนเซมา บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ระดับสถิติสั้น ๆ แต่ในภาพรวมของการเป็นตำนานเกมยุโรปยุคใหม่
แฟนบอลไทยห้ามพลาด ติดตามทุกมุมเกมเดือดได้ที่ บ้านกีฬา
สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่ติดตามฟอร์มของเอ็มบัปเป้ และผลงานของเรอัล มาดริด บนเวที แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลนี้ นี่คือเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ อีกหลายเกมรออยู่ ทั้งรอบน็อกเอาต์ การลุ้นดาวซัลโว และการลุ้นว่าราชันชุดขาวจะกลับไปยืนบนจุดสูงสุดของยุโรปได้อีกครั้งหรือไม่
ถ้าอยากอัปเดตมุมมองแบบเจาะลึก ข่าวสดใหม่ สถิติน่าสนใจ และเรื่องเล่าภาษาบอลมัน ๆ จากเกมยุโรปแบบนี้ อย่าลืมติดตามทุกความเคลื่อนไหวของโลกฟุตบอลได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา เราจะพาแฟนบอลไทยไปเกาะติดทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในจังหวะที่โลกกำลังพูดถึง
