ชาร์จพลังใหม่ให้ฟุตบอลไทยด้วยโค้ชยุคใหม่
วงการ ฟุตบอลไทย กำลังได้ของดีแบบเน้น ๆ เมื่อ BYD ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของ ทีมชาติไทย เดินหน้าสานต่อพันธกิจ “ชาร์จพลังฟุตบอลไทย” แบบไม่ใช่แค่คำสวยหรู แต่ลงมือทำจริง ล่าสุดร่วมมือกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดโครงการ “AFC ‘B’ Coaching Certificate Course by BYD” หลักสูตรพัฒนา โค้ช B License ที่จัดให้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับโค้ชจำนวน 24 คนจากทั่วประเทศ
นี่ไม่ใช่แค่คอร์สอบรมทั่วไป แต่คือการสร้างเครือข่ายโค้ชคุณภาพจากทุกภูมิภาค เป้าหมายชัดเจน คือยกระดับบุคลากรในลีกระดับ T2 และ T3 ให้มีองค์ความรู้เทียบเคียงมาตรฐานเอเชีย พร้อมต่อยอดไปถึงการสร้างนักเตะไทยรุ่นใหม่ที่เข้าใจฟุตบอลสมัยใหม่ทั้งแท็คติก ฟิตเนส และเมนทัลเกม
AFC ‘B’ Coaching Certificate Course by BYD คืออะไร
โครงการ “AFC ‘B’ Coaching Certificate Course by BYD” คือหลักสูตรอบรมโค้ชฟุตบอลระดับ B License ภายใต้มาตรฐานของ AFC ที่ออกแบบมาเพื่อโค้ชที่มีพื้นฐานจาก C Coaching Certificate แล้ว และต้องการขยับสเต็ปตัวเองสู่ระดับสูงขึ้น ทั้งด้านแท็คติก การวางระบบทีม การฝึกซ้อมเชิงลึก รวมถึงการจัดการทีมเยาวชนอย่างเป็นระบบ
ที่สำคัญคือ คอร์สนี้ BYD และสมาคมฯ เปิดให้ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ผ่านการคัดเลือก ทั้ง 24 คนจากทั่วประเทศ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับโค้ชไทยที่อยากจริงจังกับเส้นทางสายโค้ชอาชีพ แต่ติดข้อจำกัดด้านต้นทุนการอบรม
ทำไมโครงการนี้สำคัญต่อโค้ชและฟุตบอลไทย
เป้าหมายหลักของโครงการนี้ คือ “สร้างเครือข่ายโค้ชคุณภาพ” ที่จะกลับไปเป็นแกนหลักในสโมสรระดับ T2 และ T3 รวมถึงทีมเยาวชนรุ่นอายุ 16–21 ปี ทั่วประเทศ เพราะฟุตบอลยุคใหม่ไม่ได้วัดกันแค่ฝีเท้านักเตะ แต่ระบบการฝึกซ้อมและวิธีคิดของโค้ชคือหัวใจสำคัญ
BYD เดินเกมตรงกับแนวคิด “Charge the Power of Thai Football” ที่เชื่อว่า “พลัง” ของวงการลูกหนังไม่ได้มาจากเครื่องยนต์หรือเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ต้องมาจาก “คน” ที่มีใจไฟแรงและมีความรู้ที่ถูกต้อง โค้ชที่ผ่านคอร์สนี้จึงถูกมองเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนฟุตบอลไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในแง่คุณภาพเกมการแข่งขัน และเส้นทางอาชีพของนักเตะไทยในอนาคต
โควตา 24 ที่นั่ง คัดเข้มจากทั่วประเทศ
เพื่อให้โค้ชจากทุกภูมิภาคมีโอกาสอย่างเท่าเทียม โครงการนี้กำหนดโควตาแบบกระจายทั่วไทย โดยเปิดรับทั้งหมด 24 คน แบ่งการคัดเลือกจากสโมสรใน ไทยลีก 3 ทั่วประเทศ เป็นจำนวน 6 โซน โซนละ 4 คน
ทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกจะได้เข้าอบรมแบบเต็มระบบ ตั้งแต่ภาคทฤษฎี ภาคสนาม ไปจนถึงการประเมินจริง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้านค่าอบรม เพิ่มภาระเฉพาะในส่วนการเตรียมตัวเอง เอกสาร และความพร้อมในการเข้าร่วมตามเวลาที่สมาคมฯ กำหนดเท่านั้น
คุณสมบัติผู้สมัครแบบจัดเต็ม
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับ AFC และเป้าหมายการสร้างโค้ชคุณภาพ คุณสมบัติของผู้สมัครถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน ดังนี้
- สัญชาติไทย (เท่านั้น)
- สำหรับผู้ฝึกสอนนักฟุตบอล หรือ อดีตนักฟุตบอล (ที่ทำทีมรุ่นอายุ 16–21 ปี)
- ผ่านการอบรมผู้ฝึกสอนระดับ C Coaching Certificate และมีประกาศนียบัตรรับรองโดย AFC
- มีประสบการณ์ฝึกสอนอย่างน้อย 1 ปี และยังคงทำหน้าที่ฝึกสอนอยู่ในปัจจุบัน
- มี Log Book ในช่วง 1 ปี หลังจบการอบรมระดับ C Coaching Certificate
- สุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าอบรม รวมไปถึงสามารถลงเป็นผู้เล่นได้ในการปฏิบัติ (ภาคสนาม)
- เข้าอบรมได้ครบถ้วนตามระยะเวลาที่กำหนดในกรอบเวลาที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยเป็นผู้กำหนด
- มีพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการอบรมที่ดี ให้เกียรติ มุ่งมั่น ใฝ่เรียนรู้
- มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอล
- มีความสามารถในการสอนฟุตบอลในระดับรากหญ้า / เยาวชน / ทีมสมัครเล่น
- มีความสามารถในการอ่านและเขียนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้
- เป็นผู้มีพฤติกรรม จริยธรรมที่ดี ไม่มีประวัติอาชญากรรม (ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
จากเงื่อนไขทั้งหมด จะเห็นได้ว่าโครงการนี้เน้น “โค้ชของจริง” ที่เอาจริงเอาจังกับอาชีพ ไม่ใช่แค่คนที่อยากได้ใบประกาศไปแขวนผนัง
เอกสารประกอบการสมัครที่ต้องเตรียมให้พร้อม
เพื่อให้การคัดเลือกเป็นระบบชัดเจน ผู้สมัครต้องแนบเอกสารในรูปแบบไฟล์ PDF ตามที่กำหนด ดังนี้
Additional Documents (แจ้งส่งเป็นไฟล์ PDF เท่านั้น)
- บัตรประชาชน
- Log Book ระยะเวลาย้อนหลัง 3 เดือน (ในสถานการณ์ทำงานย้อนหลังจริงก่อนถึงวันสมัคร)
- ประวัติส่วนตัว
- หนังสือรับรองจากต้นสังกัด
- ใบ CERTIFICATE C Diploma
- ใบ CERTIFICATE ด้านอื่นๆ
- ใบรับรองแพทย์และอาการบาดเจ็บที่มีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนนับจากวันสมัครเรียน
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ชัดเจน และเป็นปัจจุบัน จะช่วยสะท้อนความเป็นมืออาชีพของผู้สมัคร และเพิ่มโอกาสในการถูกพิจารณาอย่างเต็มที่
ขั้นตอนการสมัครและกำหนดการสำคัญ
ช่องทางการสมัครถูกจัดการผ่านระบบออนไลน์ของสมาคมฯ เพื่อความเป็นระเบียบและตรวจสอบได้ง่าย ผู้ที่สนใจสามารถกรอกใบสมัครและอัปโหลดเอกสารได้ที่
กรอกใบสมัครได้ที่ https://edu.fathailand.org/login (ต้องส่งหลักฐานการอบรมผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น)
สำหรับไทม์ไลน์ของโครงการ มีรายละเอียดสำคัญดังนี้
- เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ ถึง 12 ธันวาคม 2568
- ประกาศรายชื่อวัน 19 ธันวาคม 2568
- ยืนยันสิทธิ์ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2568
ใครที่เล็งจะก้าวสู่การเป็นโค้ชมืออาชีพในระดับสูง ห้ามรอใกล้เดดไลน์แล้วค่อยขยับ ควรเตรียมเอกสารและกรอกข้อมูลให้ครบตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเลี่ยงความผิดพลาดจากการส่งไม่ทันหรือส่งเอกสารไม่ครบ
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขการสมัครได้ทางช่องทางของสมาคมฯ และ BYD Thailand
มุมมองระยะยาวต่อเส้นทางโค้ชไทยและการพัฒนาฟุตบอลไทย
ในภาพใหญ่ของวงการลูกหนัง โครงการแบบนี้คือจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยเติมเต็มโครงสร้างฟุตบอลไทยจากฐานรากไปจนถึงระดับทีมชาติ เมื่อโค้ชในลีกล่าง ลีกเยาวชน และทีมสมัครเล่นได้รับการพัฒนาในมาตรฐานเดียวกับระดับเอเชีย นักเตะที่เติบโตขึ้นมาก็จะเข้าใจแท็คติกฟุตบอลสมัยใหม่ การเล่นเป็นทีม และการบริหารพละกำลังได้ดีขึ้น
เส้นทางของโค้ชเองก็ชัดเจนขึ้น จากคนทำทีมเล็กหรือทีมเยาวชน มีโอกาสต่อยอดไปคุมทีมในลีก T2, T3 หรือแม้แต่ก้าวสู่ทีมระดับสูงในอนาคต เมื่อโปรไฟล์มีใบ B License รองรับ ประสบการณ์การฝึกสอนถูกเก็บใน Log Book อย่างเป็นระบบ และผ่านมาตรฐานการประเมินของ AFC ย่อมทำให้วงการโค้ชไทยมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตาทั้งในและนอกประเทศ
นี่คือการลงทุนใน “คนทำงานจริง” ที่จะอยู่กับฟุตบอลไทยในระยะยาว ไม่ใช่แค่การทุ่มงบในช่วงสั้น ๆ เพื่อหวังผลเฉพาะหน้า
ส่งต่อพลังบอลไทยไปด้วยกันกับ บ้านกีฬา
สำหรับแฟนบอลและคนทำงานในวงการลูกหนัง นี่คือสัญญาณที่ดีว่าฟุตบอลไทยยังไม่หยุดนิ่ง และกำลัง “อัดไฟ” เติมพลังให้โค้ชรุ่นใหม่อย่างจริงจัง โครงการ AFC ‘B’ Coaching Certificate Course by BYD คืออีกก้าวที่ทำให้ภาพฝัน “ฟุตบอลไทยมาตรฐานเอเชีย” เข้าใกล้ความจริงมากขึ้น
ใครมีคนรู้จักเป็นโค้ช หรือเป็นโค้ชเอง อย่าปล่อยโอกาสนี้หลุดมือ รีบเช็กคุณสมบัติ เตรียมเอกสาร แล้วลุยสมัครให้จบในรอบนี้ เพราะ 24 ที่นั่ง ฟรีแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเส้นทางอาชีพสายโค้ชของคุณได้จริง ๆ
ติดตามข่าวฟุตบอลไทย อัปเดตโครงการดี ๆ แบบนี้ รวมถึงประเด็นรอบด้านในวงการกีฬาได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา แหล่งรวมเรื่องราวลูกหนังและกีฬาเพื่อแฟนบอลชาวไทยตัวจริง

