เมื่อกระดาษหมายศาลถูกชูขึ้นกลางห้องพิจารณา เสียงซุบซิบสะเทือนทั้งโซเชียล ศาลแขวงพระนครใต้มีคำสั่ง ออกหมายจับ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” หลังเจ้าตัวไม่มาฟังคำพิพากษาตามนัดในคดีฉ้อโกงมูลค่า 30 ล้านบาท ชี้มีพฤติการณ์หลบหนี พร้อมสั่งปรับนายประกันเต็มจำนวนทันที นับเป็นอีกหนึ่งบทหนักของจักรวาลธุรกิจ JKN ที่กำลังเจอแรงสั่นสะเทือนครั้งประวัติศาสตร์
เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจทุกมุม บ้านกีฬา รวบรวมข้อมูลแน่นๆ ไล่ตั้งแต่รายละเอียดคดี ไทม์ไลน์ธุรกิจ ไปจนถึงเส้นทางชีวิตของ “แอน จักรพงษ์” บุคคลที่ครั้งหนึ่งเคยถูกยกให้เป็นสตรีข้ามเพศที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอาเซียน
คำสั่งศาลล่าสุด: ออกหมายจับทันที หลังไม่มาฟังคำพิพากษา
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ศาลแขวงพระนครใต้ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.1440/2566 ซึ่งนายระวีวัฒน์ มาศฉมาดล เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ แอน จักรพงษ์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง
จากคำฟ้องระบุว่า ระหว่างวันที่ 24 ก.ค. – 8 ส.ค. 2566 จำเลยทั้งสองชักชวนให้โจทก์ร่วมลงทุนซื้อหุ้นกู้ของบริษัท JKN มูลค่า 30,000,000 บาท โดยปิดบังข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ ทั้งที่ทราบดีว่า JKN มีภาระการเงินสูงและไม่สามารถคืนเงินตามกำหนดได้
ศาลตรวจสอบพยานหลักฐานและมีคำสั่งรับฟ้อง พร้อมอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ ระหว่างคดี แอน จักรพงษ์ ได้รับการประกันตัว แต่เมื่อศาลนัดฟังคำพิพากษาเธอกลับ ไม่มาศาล ไม่แจ้งเหตุขัดข้องใดๆ
พฤติการณ์ดังกล่าวทำให้ศาลเห็นว่า มีเจตนาหลบหนี จึงมีคำสั่ง
- ออกหมายจับทันที
- ปรับนายประกันเต็มจำนวนตามสัญญา
- ให้นายประกันชำระค่าปรับภายใน 15 วัน
- นัดอ่านคำพิพากษาใหม่อีกครั้งวันที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลา 09.30 น.
ทำไมคดีนี้จึงเขย่าทั้งวงการธุรกิจไทย?
คดีฉ้อโกงระดับ “สิบล้านบาทขึ้นไป” มักถูกจับตาหน่วยงานตรวจสอบการเงินและสังคมอยู่แล้ว แต่กรณีนี้ยิ่งถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ เพราะเกี่ยวข้องกับบริษัทมหาชน JKN ที่เคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในคอนเทนต์ยักษ์ใหญ่ของไทย และเป็นเจ้าของเวที Miss Universe Organization (MUO) ในอดีต
นอกจากนี้ ข้อสงสัยเรื่องการเปิดขายหุ้นกู้ในช่วงที่บริษัทกำลังมีปัญหาสภาพคล่อง ยังเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับ ความเสี่ยงในการลงทุนและธรรมาภิบาลของบริษัทไทยในตลาดหลักทรัพย์ จึงยิ่งทำให้คดีมีน้ำหนักต่อสาธารณะชน
เส้นทางชีวิต “แอน จักรพงษ์”: จากคำดูถูกสู่สตรีข้ามเพศผู้ทรงอิทธิพล
กว่าจะมาถึงจุดนี้ ชีวิตของแอนเดินทางผ่านแรงเสียดทานหลายระลอก
จุดเริ่มต้นจากศูนย์
- เกิดในครอบครัวเชื้อสายจีน เป็นลูกชายคนโต
- เดินทางไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่อายุ 16 ที่ Bond University ประเทศออสเตรเลีย
- ทำงานพิเศษเป็นเด็กปั๊มเพื่อส่งตัวเองเรียน
- เคยถูกดูถูกว่า “เป็นตุ๊ดไม่มีวันเจริญ” ซึ่งกลายเป็นเชื้อไฟให้เธอพิสูจน์ตัวเอง
เส้นทางสู่สตรีข้ามเพศผู้มีอิทธิพล
- ตัดสินใจใช้ชีวิตเป็นสตรีข้ามเพศเต็มตัว
- เป็นกระบอกเสียงผลักดันเรื่องสิทธิ LGBTQ+
- มีบทบาทในแวดวงธุรกิจและสื่ออย่างกว้างขวาง
กำเนิดอาณาจักร JKN และฉายา “เจ้าแม่ภารตะพันล้าน”
อาณาจักร JKN เริ่มต้นจากธุรกิจค้าสินค้าน้ำมัน ก่อนหันเข้าสู่โลกคอนเทนต์ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์อินเดียเข้ามาฉายในไทย กระแสตอบรับท่วมท้นจนได้รับฉายา “เจ้าแม่ภารตะพันล้าน”
จากนั้น เธอขยายธุรกิจอย่างก้าวกระโดด
- ลุยทีวีดิจิทัล (ช่อง JKN18)
- เปิดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม อาหารเสริม
- ขยายตลาดคอนเทนต์ไปต่างประเทศ
- เข้าตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าบริษัทแตะหลายหมื่นล้านบาทในช่วงพีค
แต่ทุกยอดเขามีวันที่ต้องลง และ JKN ก็เข้าสู่วิกฤตสภาพคล่องในปี 2566 อย่างหนัก จนต้องยื่นฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
หนึ่งในประวัติศาสตร์: การซื้อกิจการ Miss Universe
จุดสูงสุดที่โลกจับตามองเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2565 เมื่อแอนทุ่มกว่า 800 ล้านบาท ซื้อกิจการ Miss Universe Organization แบบ 100%
นั่นทำให้เธอเป็น
- ผู้หญิงคนแรกที่เป็นเจ้าของ MUO
- สตรีข้ามเพศคนแรกของโลกที่ถือครองเวทีนางงามระดับตำนาน
แต่ในปี 2568 เธอได้ประกาศก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ MUO พร้อมส่งไม้ต่อให้ ราอูล โรชา คานตู และหันกลับมาดูแล JKN อย่างเต็มตัว
วิกฤตซัดซ้ำ: ข่าวลือโยกย้ายทรัพย์สินและคำถามต่ออนาคต
ในปี 2567–2568 โลกออนไลน์เต็มไปด้วยข่าวลือเรื่องการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ การปรับโครงสร้างการถือหุ้น และการย้ายที่อยู่ ซึ่งล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนและผู้ร่วมธุรกิจ
การที่ศาลออกหมายจับในวันนี้ จึงเป็นอีกแรงกระเพื่อมสำคัญ ที่ทำให้หลายฝ่ายจับตาเส้นทางต่อไปของแอนและ JKN อย่างใกล้ชิด
มุมมองทางกฎหมาย: คดีฉ้อโกงในธุรกิจไทยเกิดขึ้นบ่อยหรือไม่?
แม้หลายคนจะรู้สึกว่าคดีฉ้อโกงในตลาดทุนเป็นเรื่องใหญ่ แต่ความจริงแล้วคดีลักษณะนี้มีเกิดขึ้นในหลายภาคธุรกิจ ทั้งการระดมทุน หุ้นกู้ และสัญญาร่วมลงทุน ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบการก่อนตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและธุรกิจหลายแห่งเผชิญปัญหาสภาพคล่อง
นอกจากนี้ ระบบศาลไทยยังให้ความสำคัญกับการพิจารณาคดีลับหลังในกรณีที่จำเลยไม่ให้ความร่วมมือ เพื่อรักษาสิทธิของคู่ความและความรวดเร็วในการพิจารณา
สถานการณ์ปัจจุบัน: ทุกสายตายังจับจ้อง
หลังศาลมีคำสั่งออกหมายจับ แอน จักรพงษ์ กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงวงกว้างอีกครั้ง ทั้งในประเด็น
- อนาคตของ JKN
- การฟื้นฟูกิจการจะเดินหน้าอย่างไร
- กระแสข่าวลือเรื่องทรัพย์สิน
- ท่าทีของคู่ค้าและนักลงทุน
เส้นทางต่อจากนี้ยังคงเต็มไปด้วยคำถาม และสังคมกำลังจับตาทุกความเคลื่อนไหวอย่างไม่กะพริบ
สรุป
คดีนี้ไม่เพียงเป็นผลกระทบทางกฎหมายต่อบุคคลหนึ่งเท่านั้น แต่ยังสะเทือนทั้งวงการธุรกิจไทย สะท้อนบทเรียนสำคัญเรื่องการลงทุน การเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน และความโปร่งใสขององค์กรที่มีผลต่อผู้ถือหุ้นและผู้บริโภค
และยังเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของอาณาจักร JKN ว่าจะฝ่าวิกฤตและความท้าทายครั้งนี้ไปได้อย่างไร
เกล็ดความรู้
- คดีฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- หากจำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลสามารถออกหมายจับได้ทันที
- หุ้นกู้เป็นตราสารหนี้ที่บริษัทต้องชำระคืนเงินต้นตามกำหนด หากบริษัทมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง นักลงทุนควรตรวจสอบงบการเงินก่อนตัดสินใจ
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา ได้ทุกวัน เราจะนำข้อมูลครบถ้วนและถูกต้องที่สุดมาบอกคุณก่อนใคร
