บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ดราม่าคืนชีพ! โอบาเมย็องกดเบิ้ลพาโอลิมปิก มาร์กเซยแซงนิวคาสเซิ่ล 2-1 คืนชีพลุ้นเข้ารอบอีกครั้ง

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง โอลิมปิก มาร์กเซย 2-1 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด วันนี้ 26/11/68 – บ้านกีฬา

ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกค่ำคืนนี้ที่ฝรั่งเศส โอลิมปิก มาร์กเซย เปิดบ้านรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เกมนี้แฟนบอลสายเช็ก ผลบอลสด แทบลุกไม่ติดเก้าอี้ เพราะรูปเกมหักมุมกันตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีท้าย สุดท้ายเป็นฝั่งเจ้าถิ่นที่พลิกสถานการณ์จากตามหลังกลับมาชนะ 2-1 จากสองประตูของ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ส่วนทีมเยือนสาลิกาดงได้ประตูขึ้นนำจาก ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ตั้งแต่นาทีที่ 6

⏱ ครึ่งแรก: บาร์นส์ยิงนำเร็ว มาร์กเซยช็อกแต่ไม่ยุบ

เกมเริ่มมาได้แค่ 3 นาที เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี ต้องตัดฟาวล์เร็วจนโดนใบเหลือง เรียกได้ว่าแนวรับเจ้าถิ่นยังตั้งโซนกันไม่ทัน และโดนลงโทษในอีกไม่กี่อึดใจ ถัดมาเพียงนาทีที่ 6 นิวคาสเซิ่ลฉวยโอกาสจากจังหวะสวนกลับเร็ว ฮาร์วีย์ บาร์นส์ สอดขึ้นมาทางซ้ายก่อนซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบเสาเป็นประตู 0-1 ทำเอาแฟนเจ้าบ้านเงียบกริบ

หลังโดนยิง มาร์กเซยเริ่มตั้งหลักได้ เกมรุกค่อยๆ ไล่บี้จากการประสานงานของ ดีดิเยร์ บาโคลา, เมสัน กรีนวูด และ ทิโมธี เวอาห์ ที่โยกขึ้นลงด้านขวาจนแนวรับทีมเยือนต้องถอยลึก นาทีที่ 20 โจ วิลล็อค ทำฟาวล์หนักกลางสนาม เกมเริ่มเดือดมากขึ้น ก่อนที่ ดิดิเยร์ บาโคลา จะโดนใบเหลืองจากจังหวะพุ่งล้มในนาที 36

ท้ายครึ่งแรก อองโตนี่ กอร์ดอน ก็โดนจดชื่อจากฟาวล์แรง ทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียด แม้ มาร์กเซย จะครองบอลมากกว่า และขึ้นเกมบุกต่อเนื่อง แต่ยังเจาะ นิค โป๊ป ไม่เข้า จบ 45 นาทีแรก นิวคาสเซิ่ล นำ 1-0 และมีเวลาให้แฟนบอลเช็กหน้าเว็บ บ้านผลบอล กันยาวๆ ว่าเจ้าถิ่นจะกลับมาได้ไหม

🔁 ครึ่งหลัง: โอบาเมย็องโหมดเพชฌฆาต พลิกเกมใน 4 นาที

กลับมาครึ่งหลัง มาร์กเซยเดินเครื่องทันที และก็ใช้เวลาไม่นาน นาที 46 บาโคลา จ่ายทะลุช่องสุดคมให้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง หลุดเดี่ยวเข้าไปแตะหลบกองหลังก่อนยิงผ่านมือ โป๊ป ตีเสมอ 1-1 เสียงเฮในสนามดังสนั่น

ยังไม่ทันหายดีใจ นาที 50 ทิโมธี เวอาห์ เติมสูงทางขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้ โอบาเมย็อง โฉบโหม่งจ่อๆ ส่งบอลตุงตาข่าย กลายเป็นประตูแซง 2-1 ภายในเวลาแค่ 4 นาที พลิกโมเมนตัมเกมทั้งหมดมาอยู่ฝั่งเจ้าบ้าน

นาที 52 เอเมอร์สัน โดนใบเหลืองจากจังหวะเข้าบอลแรง ขณะที่ เอ็ดดี้ ฮาว ตอบโต้ด้วยการเปลี่ยนสามตัวรวดช่วงนาที 60-61 ส่ง ลูอิส ฮอลล์, ลูอิส ไมลีย์ และ แอนโธนี่ อีลังก้า ลงมาช่วยยกระดับเกมรุก แต่ก็ยังฝ่าบล็อกของ พีร์-เอมิล ฮอยเบียร์ กับ อาร์เธอร์ แฟร์มีเรน ไม่ผ่าน

ช่วงกลางครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ลพยายามบุกหนัก มีลูกยิงลุ้นจาก บาร์นส์ และลูกครอสจากฝั่งขวาของ ไมลีย์ แต่ยังติดเซฟของ เกโรนิโม่ รูยี และแนวรับมาร์กเซยที่ช่วยกันเคลียร์ นาที 67 กรีนวูด โดนใบเหลืองจากการตัดเกม ทำให้ โรแบร์โต้ เด แซร์บี ตัดสินใจส่ง แม็ตต์ โอ’ไรลีย์ ลงมาแทน บาโคลา เพื่อช่วยคุมจังหวะ

ท้ายเกมทีมเยือนเสี่ยงสุดตัว ในนาที 72 ส่ง จาค็อบ แรมซีย์ กับ นิค โวลเทอเมด ลงเติมเกมรุก แต่ มาร์กเซย ยังรัดกุมและอันตรายในจังหวะสวนกลับ นาที 83 แฟร์มีเรนโดนใบเหลืองจากเหตุการณ์โต้เถียงผู้ตัดสิน ช่วงทดเจ็บ 5 นาที โรบินโญ่ วาซ ถูกส่งลงมาแทน โอบาเมย็องที่โดนเปลี่ยนออกท่ามกลางเสียงปรบมือทั้งสนาม ก่อนจบเกมด้วยสกอร์ 2-1 เจ้าถิ่นเก็บสามแต้มสุดล้ำค่าได้สำเร็จ

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว

🔵 โอลิมปิก มาร์กเซย (4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู

  • เกโรนิโม่ รูยี (G. Rulli) – 7.8

กองหลัง

  • เอเมอร์สัน (Emerson) – 6.7
  • เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี (L. Balerdi, กัปตัน) – 6.7
  • เบนฌาแม็ง ปาวาร์ (B. Pavard) – 6.7
  • ทิโมธี เวอาห์ (T. Weah) – 7.7

กองกลางตัวรับ

  • พีร์-เอมิล ฮอยเบียร์ (P. Højbjerg) – 7.4
  • อาร์เธอร์ แฟร์มีเรน (A. Vermeeren) – 6.5

ตัวรุกสามคนหลังหน้าเป้า

  • ลูคัส ไพเซา (I. Paixão) – 6.2
  • ดีดิเยร์ บาโคลา (D. Bakola) – 6.9
  • เมสัน กรีนวูด (M. Greenwood) – 7.0

กองหน้า

  • ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง (P. Aubameyang) – 8.8

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • แม็ตต์ โอ’ไรลีย์ (Matt O’Riley) แทน บาโคลา นาที 62
  • แองเจิล โกเมส (Angel Gomes) แทน กรีนวูด นาที 88
  • โรบินโญ่ วาซ (Robinio Vaz) แทน โอบาเมย็อง นาที 90+2

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม
เจฟฟรีย์ เด ลัง, เยลเล่ แวน เน็ค, คอนราด เจเดน เอกัน-ไรลีย์, อูลิสเซส การ์เซีย, เจฟฟรีย์ กงด็อกเบีย, บิลา นาดีร์, ทัดจิดีน มมาดี

⚫ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (3-4-2-1)

ผู้รักษาประตู

  • นิค โป๊ป (N. Pope) – 6.8

กองหลังสามคน

  • ฟาเบียน ชาร์ (F. Schär) – 6.0
  • บรูโน่ กิมาไรส์ (B. Guimarães, กัปตัน) – 6.8
  • แดน เบิร์น (D. Burn) – 6.7

วิงแบ็กและมิดฟิลด์ตัวกลาง

  • วาเลนติน ลิฟราเมนโต (V. Livramento) – 6.4
  • โจ วิลล็อค (J. Willock) – 7.2
  • ซานโดร โตนาลี (S. Tonali) – 6.9
  • เจค็อบ เมอร์ฟี่ (J. Murphy) – 6.3

ตัวรุกด้านหลังหน้าเป้า

  • ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (H. Barnes) – 7.7
  • อัลล็อง กอร์ดอน (A. Gordon) – 6.1

กองหน้า

  • มาลิค ทิยาว (M. Thiaw) – 6.5

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • ลูอิส ฮอลล์ (Lewis Hall) แทน ลิฟราเมนโต นาที 60
  • ลูอิส ไมลีย์ (Lewis Miley) แทน เมอร์ฟี่ นาที 60
  • แอนโธนี่ อีลังก้า (Anthony Elanga) แทน ชาร์ นาที 61
  • จาค็อบ แรมซีย์ (Jacob Ramsey) แทน วิลล็อค นาที 72
  • นิค โวลเทอเมด (Nick Woltemade) แทน กอร์ดอน นาที 72

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม
แม็กซ์ ทอมป์สัน, แอรอน แรมส์เดล, สเวน บ็อตมัน, อเล็กซ์ เมอร์ฟี่, โชเอลินตอน, แซม อาลาบี

📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

รูปเกมวันนี้เป็นภาพสะท้อนชัดเจนของการวางหมากในระดับยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มาร์กเซยใช้ระบบ 4-2-3-1 เน้นคอนโทรลแดนกลางผ่านคู่หู ฮอยเบียร์–แฟร์มีเรน แล้วปล่อยให้สามตัวรุกหน้า โอบาเมย็อง เคลื่อนที่สลับตำแหน่งตลอดเวลา การขึ้นเกมเน้นต่อบอลสั้นแล้วเปิดออกด้านขวาให้ เวอาห์ กับ กรีนวูดเล่นงานแนวรับฝั่ง เบิร์น กับ ลิฟราเมนโต จนโดนกดลึกอยู่ตลอด ครึ่งหลังเมื่อได้ประตูตีเสมอ ทีมเจ้าบ้านปรับจังหวะช้าลง เล่นแบบรัดกุมและรอจังหวะสวน ได้ทั้งการคุมเกมและการโจมตีที่เฉียบคม เรียกได้ว่าเป็นเกมที่แฟนๆ สาย วิเคราะห์บอล นั่งดูแล้วต้องพยักหน้าตาม

ฝั่ง นิวคาสเซิ่ล ในแผน 3-4-2-1 พยายามให้สามแนวรับช่วยกันดักลูกโยน และใช้คู่กลาง วิลล็อค–โตนาลี ไล่บี้บีบพื้นที่ แต่เมื่อเสียบอลก็เปิดช่องหน้ากรอบเขตโทษ ทำให้ โอบาเมย็อง มีพื้นที่ใช้สปีดและการวิ่งสอดแนวรับตลอด เกมรุกของสาลิกาดงอันตรายเวลาเปลี่ยนแกนเร็วจาก กิมาไรส์ ขึ้นไปหาคู่ บาร์นส์–กอร์ดอน ทว่าเมื่อถูกนำ 2-1 แล้ว การเจาะผ่านกำแพงสี่แนวรับของมาร์กเซยทำได้ยากมาก โอกาสจบสกอร์ส่วนใหญ่จึงเป็นการยิงไกลหรือครอสลุ้นในกรอบแต่ไม่เน้นเท่าเจ้าบ้าน

📈 สถิติการแข่งขันบอกอะไรบ้าง

ตัวเลขหลังเกมชี้ชัดว่า มาร์กเซยไม่ได้ชนะเพราะดวง พวกเขายิงเท่ากันที่ 16 ครั้ง แต่ครองบอลเหนือกว่าถึง 62% ต่อ 38% และจ่ายบอลมากถึง 458 ครั้ง ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล จ่าย 360 ครั้ง ความแม่นยำก็อยู่ในเกณฑ์สูงทั้งคู่ เจ้าถิ่น 91% ทีมเยือน 89% แสดงถึงมาตรฐานการครองบอลระดับสูงของสองสโมสรชั้นนำ

ลูกเตะมุม มาร์กเซยเหนือกว่าชัด 11-5 ตอกย้ำว่าตลอด 90 นาทีบุกใส่มากกว่า ส่วนจำนวนใบเหลือง มาร์กเซยโดน 5 ใบ นิวคาสเซิ่ล 3 ใบ เกมนี้จึงเต็มไปด้วยจังหวะเข้าบอลหนักและความกดดันสูงสมศักดิ์ศรีเวทียุโรป

📝 เหตุการณ์สำคัญในเกม

  • ⚠️ นาที 3 เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี ทำฟาวล์หนักกลางสนาม โดนใบเหลืองตั้งแต่ต้นเกม
  • ⚽️ นาที 6 ฮาร์วีย์ บาร์นส์ หลุดซัดด้วยซ้ายให้ นิวคาสเซิ่ล ขึ้นนำ 0-1
  • ⚠️ นาที 20 โจ วิลล็อค ทำฟาวล์ตัดเกมกลางสนาม ถูกผู้ตัดสินจดชื่อ
  • ⚠️ นาที 36 ดีดิเยร์ บาโคลา โดนใบเหลืองจากจังหวะพุ่งล้มในเขตโทษ
  • ⚠️ นาที 42 อัลล็อง กอร์ดอน ทำฟาวล์แรงริมเส้น รับใบเหลืองปิดท้ายครึ่งแรก
  • ⏱ ทดเวลาครึ่งแรก 3 นาที ก่อนจบด้วยสกอร์ 0-1
  • ⚽️ นาที 46 เริ่มครึ่งหลังไม่กี่วินาที บาโคลา แทงทะลุให้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ยิงตีเสมอ 1-1
  • ⚽️ นาที 50 ทิโมธี เวอาห์ เปิดโค้งให้ โอบาเมย็อง โหม่งจ่อๆ แซงนำ 2-1
  • ⚠️ นาที 52 เอเมอร์สัน เข้าบอลช้าโดนใบเหลืองเพิ่มให้เจ้าถิ่น
  • 🔁 นาที 60 นิวคาสเซิ่ลเปลี่ยนสองคนรวด ส่ง ลูอิส ฮอลล์ แทน ลิฟราเมนโต และ ลูอิส ไมลีย์ แทน เมอร์ฟี่
  • 🔁 นาที 61 แอนโธนี่ อีลังก้า ลงแทน ฟาเบียน ชาร์ เสริมความเร็วแนวรุก
  • 🔁 นาที 62 มาร์กเซยถอด บาโคลา ส่ง แม็ตต์ โอ’ไรลีย์ ลงคุมจังหวะแดนกลาง
  • ⚠️ นาที 65 แดน เบิร์น ทำฟาวล์หนักหน้าเขตโทษ โดนใบเหลือง
  • ⚠️ นาที 67 เมสัน กรีนวูด โดนใบเหลืองจากการตัดเกมสวนกลับ
  • 🔁 นาที 72 นิวคาสเซิ่ล ส่ง จาค็อบ แรมซีย์ แทน วิลล็อค และ นิค โวลเทอเมด แทน กอร์ดอน เพื่อเร่งเกมรุก
  • ⚠️ นาที 83 อาร์เธอร์ แฟร์มีเรน โดนใบเหลืองจากการโต้เถียงผู้ตัดสิน
  • 🔁 นาที 88 มาร์กเซยเปลี่ยนตัวส่ง แองเจิล โกเมส แทน กรีนวูด เติมความสดในเกมรับ
  • 🔁 นาที 90+2 โรบินโญ่ วาซ ลงมาแทน โอบาเมย็อง เพื่อถ่วงเวลา
  • ⏱ ทดเวลาครึ่งหลัง 5 นาที ก่อนจบเกม มาร์กเซย คว้าชัย 2-1

🌟 Player of the Match: ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง

เกมนี้ไม่มีใครเด่นไปกว่า ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ศูนย์หน้าตัวเก๋าของมาร์กเซยที่กดสองประตูในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของเกม รับคะแนนสูงสุดที่ 8.8 การเคลื่อนที่ฉีกแนวรับสามคนของนิวคาสเซิ่ลตลอดทั้งเกมทำให้กองหลังสาลิกาดงปวดหัวไม่หยุด ทั้งการวิ่งสอดช่อง, เช็คตัวเองลงต่ำมารับบอล และการจบสกอร์ที่เฉียบคม

นอกจาก โอบาเมย็อง แล้ว เกโรนิโม่ รูยี ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นก็เซฟสำคัญหลายครั้งจนได้คะแนน 7.8 ส่วน ทิโมธี เวอาห์ ที่วิ่งไม่มีหมดทั้งเกมรุกและเกมรับก็ถูกจัดเป็นหนึ่งในผู้เล่นฟอร์มเด่นด้วยคะแนน 7.7 ฝั่ง นิวคาสเซิ่ล ฮาร์วีย์ บาร์นส์ คือคนที่อันตรายสุด ยิงหนึ่ง สร้างปัญหาต่อเนื่องให้แนวรับมาร์กเซย จนได้คะแนนสูงสุดของทีมที่ 7.7 เช่นกัน

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก

หลังจบแมตช์นี้ ตารางรูปแบบใหม่ของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่รวม 36 ทีมไว้ในลีกเดียวเริ่มเข้มข้นยิ่งขึ้น นิวคาสเซิ่ล มีสถิติแข่ง 5 นัด ชนะ 3 แพ้ 2 ยิง 11 เสีย 7 มี 9 คะแนน อยู่ในอันดับ 8 ของตาราง ยังเกาะกลุ่มบนที่มีลุ้นจบในโซนผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์อัตโนมัติ แต่ความพ่ายแพ้นัดนี้ทำให้ช่องว่างกับทีมด้านล่างเริ่มแคบลง

ส่วน มาร์กเซย ขยับตัวเองจากโซนล่างขึ้นมาสู่ช่วงกลางตารางในอันดับ 19 แข่ง 5 นัด ชนะ 2 แพ้ 3 ยิงได้ 8 เสีย 10 มี 6 แต้ม อยู่ในกลุ่มที่ยังลุ้นโควตาเพลย์ออฟหากรักษาฟอร์มเก็บชัยชนะต่อเนื่อง ความสำเร็จในคืนนี้จึงสำคัญมากต่อเส้นทางลุ้นเข้ารอบของทีมดังจากฝรั่งเศส

📅 ตารางบอลนัดถัดไปของทั้งสองทีม

เมื่อมองจาก ตารางบอล และโปรแกรมในรูปจะเห็นว่า มาร์กเซยต้องกลับไปโฟกัสเกมลีก เอิง ทันที โดยมีโปรแกรมเปิดบ้านพบ ตูลูส วันที่ 30/11/25 เวลา 03:05 น. ก่อนจะออกไปเยือน ลีลล์ ในวันที่ 06/12/25 เวลา 03:00 น.

ด้าน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มีภารกิจหนักในพรีเมียร์ลีกต่อเนื่อง เริ่มจากออกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน วันที่ 30/11/25 เวลา 00:30 น. แล้วตามด้วยการเปิดบ้านรับมือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในวันที่ 03/12/25 เวลา 03:15 น. โปรแกรมถี่แบบนี้ทำให้ เอ็ดดี้ ฮาว ต้องหมุนเวียนทีมให้ลงตัว หากไม่อยากให้ฟอร์มในบอลลีกและบอลยุโรปสะดุดพร้อมกัน

📺 เช็กบ้านผลบอลและข่าวบอลมันส์ๆ ได้ที่บ้านกีฬา

แฟนบอลที่อยากติดตามผลการแข่งขันของมาร์กเซย, นิวคาสเซิ่ล และบิ๊กแมตช์จากลีกยุโรปแบบสดๆ อย่าลืมกดเข้าเช็ก บ้านผลบอล และอัปเดต ผลบอลสด พร้อมสถิติ, ไฮไลท์ และบทวิเคราะห์จัดเต็มได้ที่ บ้านกีฬา เราจะเกาะติดทุกเกมใหญ่ ทุกประตูสำคัญ และทุกความเคลื่อนไหวบนเวทีลูกหนังให้คุณไม่พลาดแม้แต่วินาทีเดียว

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา