
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 4-0 บียาร์เรอัล วันนี้ 26/11/68 – บ้านกีฬา
ศึก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ค่ำคืนนี้ที่ซิกนัล อิดูนา พาร์ค แฟนบอลได้เห็น “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านไล่ยำ “เรือดำน้ำสีเหลือง” บียาร์เรอัล 4-0 แบบขาดลอย เกมนี้ บ้านกีฬา เกาะจอเช็กอัปเดต ผลบอลสด กันแบบวินาทีต่อวินาที และต้องบอกเลยว่าจังหวะสำคัญอย่างใบแดงของฮวน ฟอยธ์ คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้รูปเกมเทกระจาดเข้าข้างเจ้าถิ่นเต็มๆ
⏱ ครึ่งแรก: ดอร์ทมุนด์คุมจังหวะก่อนปล่อยหมัดทดเจ็บ
เปิดเกมมา ดอร์ทมุนด์ยืนระบบ 3-4-2-1 เน้นครองบอลต่อเกมจากแนวหลัง นิโก ชลอตเตอร์เบ็ค คอยคุมจังหวะขึ้นเกม ขณะที่ฝั่งซ้ายขวาอย่าง ดาเนียล สเวนส์สัน กับ ยาน คูโต้ วิ่งขึ้นลงตลอดเวลาเพื่อดันเพรสสูง ใส่แบ็กและปีกของบียาร์เรอัล
ทีมเยือนมาในเซ็ต 4-4-2 ตั้งโซนลึก ปิดพื้นที่ระหว่างไลน์ เซม โกเมซาญา กับ โธมัส ปาร์เตย์ ช่วยกันบีบกลางไม่ให้ มาร์เซล ซาบิทเซอร์ กับ ฟลอเรียน เอ็นเมชา ขึ้นบอลสบายๆ ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกจึงยังแลกกันสูสี แม้ดอร์ทมุนด์จะได้ลุ้นจากคาริม อเดเยมี่ หลุดยิง กับจังหวะส่องไกลของยูเลียน บรันด์ท แต่ยังติดเซฟนายด่านทีมเยือน
เกมเหมือนจะจบครึ่งแรกแบบไร้สกอร์ แต่ช่วงทดเวลานาที 45+2 เสือเหลืองปล่อยหมัดแรกจากลูกครอสฝั่งซ้ายของ อักกีลาร์ อันเซลมิโน บอลโค้งเข้าเขตโทษก่อนที่ แซร์ฮู กีราซี จะสอดมาโหม่งจ่อๆ เสียบตาข่าย ดอร์ทมุนด์นำ 1-0 เข้าห้องแต่งตัวแบบได้ใจกองเชียร์ทั้งสนาม
🔥 ครึ่งหลัง: ใบแดงฟอยธ์เปิดนรก บียาร์เรอัลเหลือสิบคนโดนสาดกระสุน
ครึ่งหลังรูปเกมยังเป็นดอร์ทมุนด์ที่ครองบอลเหนือกว่า จนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญนาที 52 เมื่อ ฮวน ฟอยธ์ ใช้มือปัดบอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลควักใบแดงตรงไล่ออกจากสนามทันที พร้อมเป่าให้จุดโทษ
นาที 54 แซร์ฮู กีราซี รับหน้าที่สังหาร ลูกแรกโดนเซฟแต่ยังไวตามซ้ำดาบสองเข้าไป เสือเหลืองหนีเป็น 2-0 ท่ามกลางเสียงเฮกระหึ่ม ก่อนที่นาที 58 คาริม อเดเยมี่ จะโชว์สปีดจัดจ้าน ลากตัดจากฝั่งซ้ายเข้าในแล้วกดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบเสาอย่างเด็ดขาด กลายเป็นประตู 3-0 ที่ตอกย้ำความต่างชั้นในค่ำคืนนี้
หลังสกอร์ห่าง นิโก โควัช ขยับโรเตชันส่ง ฟาบิโอ ซิลวา, คาร์นีย์ ชุคเวเมกา, โจ๊บ เบลลิงแฮม, ปาสกาล โกรสส์ และเอมเร ชาน ลงมาช่วยเคาะบอลถ่ายเทรักษาเทมโป ส่วนมาร์เซลิโนฝั่งบียาร์เรอัลพยายามแก้เกมด้วยการส่ง ราฟา มาริน, อัลแบร์โต โมไลโร, ดานี ปาเรโฆ, เปา นาบาร์โร และอิลิอัส อัคโคมัก ลงมา แต่การมีตัวน้อยกว่าทำให้สู้ความไหลลื่นของเจ้าถิ่นไม่ได้
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+5 ดอร์ทมุนด์ก็ปิดบัญชี 4-0 จากจังหวะที่ ปาสกาล โกรสส์ จ่ายถวายพานให้ ดาเนียล สเวนส์สัน เติมสูงมายิงเน้นๆ ส่งเสือเหลืองเก็บสามแต้มสำคัญแบบสวยหรู

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน
🟡 ดอร์ทมุนด์ (3-4-2-1)
ผู้รักษาประตู
- เกรกอร์ โคเบล (7.0)
กองหลัง
- นิโก ชลอตเตอร์เบ็ค (กัปตัน) (9.0)
- วัลเดมาร์ อันตอน (7.2)
- อักกีลาร์ อันเซลมิโน (7.2)
กองกลาง
- ดาเนียล สเวนส์สัน วิงแบ็กขวา (8.0)
- ยาน คูโต้ วิงแบ็กซ้าย (6.7)
- มาร์เซล ซาบิทเซอร์ กลางรับ (7.0)
- ฟลอเรียน เอ็นเมชา กลางบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ (7.3)
ตัวรุก
- ยูเลียน บรันด์ท มิดฟิลด์ตัวทำเกม (7.0)
- คาริม อเดเยมี่ ตัวรุกฝั่งซ้าย (9.1)
ศูนย์หน้า
- แซร์ฮู กีราซี (6.9)
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- ฟาบิโอ ซิลวา (6.7) ลงแทน กีราซี นาที 68
- คาร์นีย์ ชุคเวเมกา (6.4) ลงแทน บรันด์ท นาที 68
- โจ๊บ เบลลิงแฮม (6.7) ลงแทน ซาบิทเซอร์ นาที 77
- ปาสกาล โกรสส์ (7.3) ลงแทน เอ็นเมชา นาที 77
- เอมเร ชาน (6.5) ลงแทน อันตอน นาที 84
ผู้เล่นสำรองที่ไม่ได้ใช้: ซิลาส ออสตรซินสกี, อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์, รามี เบนเซไบ니, จูลีอัน ไรเออร์สัน, ฟิลิปโป มาเน, โคล แคมป์เบลล์, ฌูเลียง ดูร็องวิลล์
🟨 บียาร์เรอัล (4-4-2)
ผู้รักษาประตู
- อาร์เนา เตนาส (เรตไม่ได้ระบุในภาพ แต่ลงตัวจริง)
กองหลัง
- ทาจอน บูคานัน แบ็กซ้าย (6.6)
- เซร์คิโอ การ์โดนา เซ็นเตอร์ (5.8)
- ฮวน ฟอยธ์ (กัปตัน) เซ็นเตอร์ (6.1 – โดนใบแดง)
- ลุยซ์ จูนีโอร์ แบ็กขวา (6.6)
กองกลาง
- เซม โกเมซาญา ปีกซ้าย (6.6)
- เซร์คิโอ มูรีโญ ปีกขวา (6.3)
- โธมัส ปาร์เตย์ กลางรับ (6.5)
- ปาเป้ เกย์ กลางเชื่อมเกม (6.1)
กองหน้า
- นิโกลัส เปเป้ (6.5)
- เตนี โอลูวาเซยี (6.6)
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- ราฟา มาริน (6.3) ลงแทน ปาร์เตย์ นาที 65
- อัลแบร์โต โมไลโร (6.5) ลงแทน เปเป้ นาที 65
- ดานี ปาเรโฆ (6.5) ลงแทน โกเมซาญา นาที 74
- เปา นาบาร์โร (6.2) ลงแทน มูรีโญ นาที 83
- อิลิอัส อัคโคมัก (6.5) ลงแทน บูคานัน นาที 83
ผู้เล่นสำรองที่ไม่ได้ใช้: จอร์ช มิคอุตัดเซ, เฆราร์ด โมเรโน, มานอร์ โซโลมอน, อัลฟอนโซ เปดราซา, อาโดรีย อัลติมิรา, จอร์ช อโยเซ เปเรซ, วิลลี คัมบวาลา, โลแกน คอสตา, เปา กาบาเนส
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
วิเคราะห์บอล เชิงแท็กติก ดอร์ทมุนด์โชว์ให้เห็นชัดว่าระบบ 3-4-2-1 ที่ซ้อมกันมาเริ่มเข้าที่เต็มรูปแบบ เกมรับสามเซ็นเตอร์ยืนกว้าง เปิดโอกาสให้วิงแบ็กสองฝั่งเติมสูงเกือบยืนเป็นปีกในจังหวะครองบอล ทำให้แผงรุกกลายเป็น 3-2-5 เวลาบุก ใส่แนวรับบียาร์เรอัลที่ยืนแบ็กสี่ยากจะรับมือ
การขึ้นเกมของเสือเหลืองใช้การต่อบอลสั้นจากหลังขึ้นกลาง ก่อนเปลี่ยนสปีดจ่ายทะลุช่องให้ อเดเยมี่ หรือ บรันด์ท เล่นในครึ่งช่องฝั่งซ้ายขวา กีราซีคอยดึงตัวประกบและเล่นเป็นเดคอย เปิดพื้นที่ให้ตัวรุกคนอื่นสอดมายิง จังหวะประตูแรกและลูก 3-0 สะท้อนภาพนี้อย่างชัดเจน ทั้งจากการวิ่งทำทาง และการเลือกยืนตำแหน่งในกรอบเขตโทษ
ฝั่งรับ ดอร์ทมุนด์เพรสซิ่งสูงเป็นระยะแต่ไม่บ้าเลือด เลือกดันเพรสเฉพาะจังหวะที่เห็นว่าบียาร์เรอัลจ่ายบอลพลาดหรือหันหลังให้เกม เมื่อตัดบอลได้ก็ตัดเข้ากลางทำเกมสวนกลับเร็ว ทันทีที่ผู้มาเยือนเหลือ 10 คน เสือเหลืองเปลี่ยนโหมดเป็นบุกเต็มกำลัง ปักหลักคุมเกมในแดนคู่แข่งแทบตลอด 40 นาทีสุดท้าย
บียาร์เรอัลในระบบ 4-4-2 พยายามตั้งโซนรับลึกแล้วรอสวนกลับผ่านคู่หน้า เปเป้ กับ โอลูวาเซยี แต่ปัญหาคือเชื่อมบอลจากกลางไปหน้าไม่ได้ เพราะโดนซาบิทเซอร์กับเอ็นเมชากัดไม่ปล่อย เมื่อฟอยธ์โดนใบแดง โครงสร้างเกมรับก็พังทันที ต้องดึงปีกลงมาช่วยอุด กลายเป็น 4-4-1 ที่วิ่งไล่บอลจนหมดแรงและเปิดช่องว่างมากขึ้นเรื่อยๆ

📈 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมยืนยันชัดว่าดอร์ทมุนด์เหนือกว่าแทบทุกมิติ เจ้าถิ่นยิงทั้งหมด 11 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง เปลี่ยนเป็น 4 ประตู ขณะที่บียาร์เรอัลมีโอกาสยิง 6 ครั้ง เข้ากรอบเพียงแค่ครั้งเดียว การครองบอลเสือเหลืองสูงถึง 64% ต่อ 36% จ่ายบอลสำเร็จ 601 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 94% ส่วนเรือดำน้ำสีเหลืองจ่ายสำเร็จ 296 ครั้ง ความแม่นยำ 87% แสดงให้เห็นว่าถูกบีบให้เล่นบอลยาวบ่อยและเสียการครองเกม
ด้านเกมรับ ดอร์ทมุนด์ทำฟาวล์ 17 ครั้งมากกว่าคู่แข่งเล็กน้อย แต่ควบคุมอารมณ์ได้ดี มีเพียงใบเหลืองเดียว ขณะที่บียาร์เรอัลมี 11 ฟาวล์และโดนใบแดงสำคัญของฟอยธ์ หนึ่งครั้งที่เปลี่ยนหน้าตาเกมไปตลอดกาล เตะมุมเจ้าถิ่นมากกว่า 3 ต่อ 2 บ่งบอกว่ากดดันแนวรับทีมเยือนอยู่ตลอดทั้งคืน
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽️ นาที 45+2 แซร์ฮู กีราซี โหม่งลูกเปิดของ อักกีลาร์ อันเซลมิโน ให้ดอร์ทมุนด์นำ 1-0
- 🟥 นาที 52 ฮวน ฟอยธ์ ทำฟาวล์ใช้มือปัดบอลในเขตโทษ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
- ⚽️ นาที 54 แซร์ฮู กีราซี รับหน้าที่ยิงจุดโทษ ลูกแรกถูกเซฟแต่ตามซ้ำไม่พลาด เสือเหลืองหนี 2-0
- ⚽️ นาที 58 คาริม อเดเยมี่ ลากตัดจากซ้ายเข้าในก่อนซัดเต็มข้อเป็นประตู 3-0
- 🔁 นาที 65 บียาร์เรอัลเปลี่ยนสองคน ส่ง ราฟา มาริน แทน โธมัส ปาร์เตย์ และ อัลแบร์โต โมไลโร แทน นิโกลัส เปเป้
- 🔁 นาที 68 ดอร์ทมุนด์ส่ง ฟาบิโอ ซิลวา แทน กีราซี และ คาร์นีย์ ชุคเวเมกา แทน บรันด์ท
- 🟨 นาที 71 คาริม อเดเยมี่ โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์
- 🔁 นาที 74 ดานี ปาเรโฆ ลงมาแทน เซม โกเมซาญา ให้บียาร์เรอัล
- 🔁 นาที 77 ดอร์ทมุนด์ให้โอกาส โจ๊บ เบลลิงแฮม และ ปาสกาล โกรสส์ ลงมาแทน ซาบิทเซอร์ กับ เอ็นเมชา
- 🪟 นาที 82 ฟาบิโอ ซิลวา ได้โอกาสซัดชนเสา พลาดประตูที่ห้าให้เสือเหลือง
- 🔁 นาที 83 เปา นาบาร์โร และ อิลิอัส อัคโคมัก ลงมาแทน เซร์คิโอ มูรีโญ กับ ทาจอน บูคานัน
- 🔁 นาที 84 เอมเร ชาน ลงแทน วัลเดมาร์ อันตอน เพื่อปิดเกม
- ⚽️ นาที 90+5 ดาเนียล สเวนส์สัน ยิงปิดกล่องจากการแอสซิสต์ของ ปาสกาล โกรสส์ ดอร์ทมุนด์ถล่ม 4-0
⭐ Player of the Match – คาริม อเดเยมี่
แม้ แซร์ฮู กีราซี จะยิงสองประตู แต่รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมนี้ต้องยกให้ คาริม อเดเยมี่ แบบไร้ข้อกังขา ด้วยเรตติ้ง 9.1 เขาเป็นฝันร้ายของแนวรับบียาร์เรอัลตลอด 90 นาที การเลี้ยงกินตัวหนึ่งต่อหนึ่ง ความเร็วในการเปลี่ยนสปีด และการวิ่งไล่เพรสตั้งแต่แดนหน้าทำให้แบ็กขวาและเซ็นเตอร์ฝั่งนั้นแทบหายใจไม่ทัน
นอกจากประตูสุดสวยลูกที่สาม อเดเยมี่ยังมีจังหวะดึงตัวประกบออกจากพื้นที่ เปิดช่องให้เพื่อนสอดขึ้นมา ทั้งยังช่วยไล่ตัดเกมทันทีที่บอลหลุดจากเท้า ถือเป็นฟอร์มระดับท็อปคลาสที่ตอกย้ำว่าเขาคืออาวุธเด็ดในแนวรุกเสือเหลืองยุคใหม่อย่างแท้จริง

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
สามแต้มในบ้านนัดนี้ส่งผลโดยตรงต่ออันดับในตารางคะแนนรวมของดอร์ทมุนด์ จากเดิมที่เกาะกลุ่มกลางๆ ตอนนี้เสือเหลืองขยับมี 10 คะแนนจาก 5 นัด สถิติชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ประตูได้เสีย +6 ทะยานขึ้นไปติดท็อปโฟร์ของแรงกิ้งรายการยุโรปฤดูกาลนี้ ไล่หลังบาเยิร์น มิวนิค, อาร์เซนอล และอินเตอร์ มิลาน แบบพอมีลุ้นต่อยอดในนัดสุดท้าย
ในทางกลับกัน บียาร์เรอัลยังจมอยู่โซนครึ่งล่างของตาราง แข่ง 5 นัดเก็บได้เพียงแต้มเดียวจากผลเสมอนัดเดียว และแพ้ถึง 4 เกม ลูกได้เสียติดลบหนัก ภาพรวมเส้นทางในยุโรปของเรือดำน้ำสีเหลืองซีซั่นนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงทั้งเรื่องฟอร์มการเล่นและสภาพจิตใจของทีม
📅 ตารางบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และโปรแกรมถัดไปของทั้งสองทีม
แม้เกมยุโรปนัดนี้จะจบลง แต่ตาม ตารางบอล และโปรแกรมลีกภายในประเทศ ทั้งสองทีมยังต้องลงสนามต่อเนื่อง ด้านดอร์ทมุนด์มีงานหนักรออยู่ทันทีเมื่อจะบุกเยือนไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ในศึกบุนเดสลีกา จากนั้นกลับมาเปิดบ้านรีแมตช์เจอเลเวอร์คูเซนอีกครั้งในถ้วยเดเอฟเบ โพคาล ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญว่าฟอร์มโหดจากเกมยุโรปจะต่อยอดไปในลีกได้แค่ไหน
ฝั่งบียาร์เรอัลต้องรีบลืมความพ่ายแพ้ เพราะโปรแกรมต่อไปในลา ลีกา คือการบุกเยือนเรอัล โซเซียดาด ทีมฟอร์มแรงของสเปน ก่อนจะมีเกมบอลถ้วยโกปา เดล เรย์ เจอกับ ซีเอ แอนโตเนียโน ที่อาจต้องหมุนเวียนผู้เล่นเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา หากจัดการจุดอ่อนในเกมรับไม่ได้ ซีรีส์เกมยากที่กำลังจะมาถึงอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม
🏠 ติดตามบ้านผลบอลกับบ้านกีฬา
แฟนบอลที่ไม่อยากพลาดทุกจังหวะเดือดของเวทียุโรป และอยากเช็กสกอร์พร้อมสถิติเชิงลึกแบบจุใจ แวะมาติดตามอัปเดต บ้านผลบอล พร้อมบทวิเคราะห์สไตล์ดุดันมันส์สะใจได้ทุกวันกับ บ้านกีฬา เราจะเกาะติดทุกสนามใหญ่ ทั้งในเยอรมนี สเปน และลีกชั้นนำทั่วโลก เสิร์ฟข้อมูลครบทั้งสกอร์สด รายชื่อตัวจริง ฟอร์มล่าสุด และมุมมองหลังเกมแบบเข้มข้นให้คอลูกหนังชาวไทยได้เสพกันเต็มอิ่ม

