
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน วันนี้ 26/11/68 – บ้านกีฬา
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกค่ำคืนนี้ แฟนบอลที่เปิดดู ผลบอลสด คงขยี้ตารัวๆ เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปิดเอติฮัด สเตเดี้ยม แล้วโดนไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน บุกมาสวนหมัดชนะ 0-2 จากสองประตูของ อเล็กซ์ กริมัลโด นาที 23 และ ปาทริก ชิค นาที 54 ทั้งที่รูปเกมตลอด 90 นาที “เรือใบสีฟ้า” ขึงเกมส์บุก ยิงทั้งเกมถึง 18 ครั้ง เข้ากรอบ 8 แต่ดันเจอนายด่านฟอร์มพระเจ้าอย่าง มาร์ก เฟลคเคน เซฟจนหมดสิทธิ์เฮ
⏱ ครึ่งแรก: ซิตี้ลุยแหลก แต่โดนทีเดียวหงาย
ต้นเกมแมนซิตี้คุมจังหวะได้ตามสไตล์ จ่ายบอลสั้นต่อเนื่อง ครองบอลเหนือกว่า เลเวอร์คูเซินถอยลงมารับเป็นบล็อกต่ำ เน้นรอจังหวะสวนกลับ ซิตี้ได้ส่องไกลจาก ซาวินโญ่, โอนี่ มาร์มูช และทีโอ เรย์เยนเดอร์ส หลุดกรอบบ้างติดบล็อกบ้าง แต่ความกดดันอยู่ฝั่งทีมเยือนเต็มๆ
แล้วจุดเปลี่ยนก็มาถึงนาที 23 เลเวอร์คูเซินได้จังหวะสวนกลับทางซ้าย คริสตอฟ โคฟาเน พาบอลลุยขึ้นหน้าแล้วไหลต่อให้ อเล็กซ์ กริมัลโด สอดขึ้นมาทำชิ่งก่อนซัดเสียบเสาอย่างเฉียบคม เปลี่ยนสกอร์เป็น 0-1 แบบสวนกระแสรูปเกม ทำเอากองเชียร์เจ้าบ้านเงียบกริบทั้งสนาม
หลังเสียประตู ซิตี้ยิ่งเร่งเครื่อง บุกกดอยู่แทบฝั่งเดียว นาธาน อาเก้ กับ จอห์น สโตนส์ ดันสูงมาช่วยต่อบอลริมกรอบเขตโทษ แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่คมพอ มาร์ก เฟลคเคน อ่านทางลูกครอสและลูกยิงไกลได้ทั้งหมด จบครึ่งแรก บ้านผลบอล ขึ้นสกอร์ แมนซิตี้ ตามหลังเลเวอร์คูเซิน 0-1
⏱ ครึ่งหลัง: เป๊ปเปลี่ยนสามรวด ยังทะลุกำแพงเฟลคเคนไม่ได้
เริ่มครึ่งหลัง เป๊ปไม่รอช้า กดเปลี่ยนพร้อมกันสามคนส่ง เฌเรมี่ โดกู, นิโก โอเรลลี่ และ ฟิล โฟเด้น ลงมาแทน ออสการ์ บ็อบบ์, ราอัด นูรี และ รีโก้ ลูอิส เพื่อเติมสปีดเกมรุกริมเส้น ซิตี้บุกหนักกว่าเดิม แต่เลเวอร์คูเซินยืนโซนได้เหนียวแน่น
นาที 54 กลายเป็นทีมเยือนที่บวกเพิ่มจากจังหวะสวนกลับอีกครั้ง อิบราฮิม มาซา แทงทะลุช่องให้ ปาทริก ชิค หลุดเดี่ยวไปแปผ่านมือ เจมส์ โทรัฟฟอร์ด เข้าไปอย่างเยือกเย็น ขยับสกอร์เป็น 0-2 กลายเป็นหมัดสองที่ทำให้เรือใบเมาหมัดทั้งทีม
หลังโดนเม็ดสอง ซิตี้ส่ง เออร์ลิง ฮาแลนด์ กับ รายาน แชร์กี ลงเติมดีกรีเกมบุก นาที 65 และตั้งหน้าตั้งตายิงทุกทาง แต่คืนนี้ทุกอย่างชนกำแพงชื่อ มาร์ก เฟลคเคน ทั้งลูกโหม่งของฮาแลนด์หรือลูกปั่นโค้งของแชร์กี นายทวารดัตช์บินปัดได้หมด
ช่วงท้ายเกมเลเวอร์คูเซินเปลี่ยนเอา นาธาน เทลล่า ลงมาช่วยวิ่งบีบแทน โคฟาเน นาที 83 ก่อนปิดเกมด้วยชัยชนะ 0-2 คว้าแต้มใหญ่กลับเยอรมนี ส่วนแมนซิตี้ต้องกลับไปเคลียร์คำถามใหญ่เรื่องความคมในพื้นที่สุดท้าย

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🔵 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3)
ผู้รักษาประตู
- เจมส์ โทรัฟฟอร์ด (6.3)
กองหลัง
- อับดุลลาย คูซาโนฟ (45) (6.7)
- จอห์น สโตนส์ (กัปตัน) (5) (7.3)
- นาธาน อาเก้ (6) (7.3)
- รีโก้ ลูอิส (82) (6.8)
กองกลาง
- ราอัด เอ. นูรี (21) (6.4)
- นิโก กอนซาเลซ (14) (6.8)
- โอนี่ มาร์มูช (70) (6.2)
แนวรุก
- ทีโอ เรย์เยนเดอร์ส (4) (7.2)
- ซาวินโญ่ (26) (6.8)
- ออสการ์ บ็อบบ์ (52) (7.2)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- นิโก โอเรลลี่ (33) ลงนาที 46 แทน ราอัด นูรี (6.5)
- เฌเรมี่ โดกู (11) ลงนาที 46 แทน ออสการ์ บ็อบบ์ (6.9)
- ฟิล โฟเด้น (47) ลงนาที 46 แทน รีโก้ ลูอิส (6.8)
- รายาน แชร์กี (10) ลงนาที 65 แทน อับดุลลาย คูซาโนฟ (7.5 – สูงสุดฝั่งซิตี้)
- เออร์ลิง ฮาแลนด์ (9) ลงนาที 65 แทน โอนี่ มาร์มูช (6.5)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
มาร์คัส เบ็ตติเนลลี, จานลุยจิ ดอนนารุมมา, รูเบน ดิอาส, โยสโก กวาร์ดิโอล, มาเธอุส นูเนส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา
🟢 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน (5-3-2)
ผู้รักษาประตู
- มาร์ก เฟลคเคน (1) (เรตติ้ง 10 เต็ม)
กองหลัง / วิงแบ็ก
- อเล็กซ์ กริมัลโด (กัปตัน) (20) (7.7 – ยิง 1 ประตู)
- ฌอง เบโลเชียง (44) (6.7)
- โลอิก บาเด้ (5) (7.3)
- เออร์เนสต์ โปกู (19) (7.2)
- อเล็กซ์ การ์เซีย (24) (7.4)
กองกลาง
- จาร์เรล ควานซาห์ (4) (7.4)
- มาลิก ทิลล์มันน์ (10) (6.8)
- อิบราฮิม มาซา (30) (7.6 – แอสซิสต์ 1)
กองหน้า
- ปาทริก ชิค (14) (7.4 – ยิง 1 ประตู)
- คริสตอฟ โคฟาเน (35) (6.3 – แอสซิสต์ 1)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- นาธาน เทลล่า (23) ลงนาที 83 แทน คริสตอฟ โคฟาเน (6.4)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
นิกลาส ลอมบ์, เยสเปอร์ ชลิช, เบน ฮาวิฮอร์สต์, แฟร์ดินันด์ โพล, เอลีสเซ เบน เซอกีร์, เคลาดิโอ เอเชเวร์รี, นาบา เมนซาห์, เจเรมียาห์ เมนซาห์, มอนเทรล คัลบรีธ
นักเตะโดดเด่น
ฝั่งซิตี้ ต้องยกให้ รายาน แชร์กี (7.5) ลงมาสร้างสีสัน, จอห์น สโตนส์ (7.3) คุมเกมรับ และ นาธาน อาเก้ (7.3) ช่วยเติมเกมบุกจากหลังบ้าน
ฝั่งเลเวอร์คูเซิน นอกจาก มาร์ก เฟลคเคน (10) แล้ว ยังมี อเล็กซ์ กริมัลโด (7.7) และ อิบราฮิม มาซา (7.6) ที่ทำเกมได้จัดจ้านทั้งคืน
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับของทั้งสองทีม
รูปแบบการเล่นชัดเจนว่าแมนซิตี้ยืนพื้นด้วยระบบ 4-3-3 ใช้การครองบอลและการต่อบอลสั้นเป็นหลัก แผงมิดฟิลด์สามคนทั้ง นูรี, กอนซาเลซ และมาร์มูช ขยับสลับตำแหน่งช่วยเปิดพื้นที่ให้สามแนวรุก โดยเฉพาะการขึ้นเกมทางขวาที่ รีโก้ ลูอิส เติมซ้อน ออสการ์ บ็อบบ์ ทำให้ซิตี้สร้างโอกาสได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ปัญหาหลักคือการเคลื่อนที่ในกรอบเขตโทษไม่หลากหลายพอ ยิงเยอะก็จริงแต่ไม่สามารถดึงแนวรับเลเวอร์คูเซินให้เสียสมดุล
หลังพักครึ่ง เป๊ปเปลี่ยนตัวรัวๆ เน้นสปีดจาก โดกู และความสร้างสรรค์ของ โฟเด้น กับ แชร์กี เกมรุกดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที ซิตี้สามารถกดทีมเยือนให้แพ็คเกมรับหน้าปากประตู แต่ทุกลูกยิงถูกเฟลคเคนอ่านทางและยืนตำแหน่งได้ดี ทำให้ “เกมรุกแบบล้อมวง” ของเรือใบกลายเป็นแค่ตัวเลขสถิติ
ฝั่งเลเวอร์คูเซินของกาสเปอร์ ยูลมันด์ จัดแผน 5-3-2 เน้นรับลึกแล้วสวนกลับเร็ว วิงแบ็กอย่าง โปกู กับ การ์เซีย ทำงานหนักทั้งเกม ทั้งคอยบีบปิดช่องครอสแล้วพร้อมเปลี่ยนโหมดขึ้นเกมทันทีเมื่อแย่งบอลได้ จุดสำคัญอยู่ที่สามเซนเตอร์ บาเด้–เบโลเชียง–กริมัลโด ยืนตำแหน่งแน่น ไม่หลุดไลน์เลยแม้ซิตี้จะพยายามเล่นบอลทะลุช่องซ้ำๆ
เกมรุกของเลเวอร์คูเซินไม่ได้บุกเป็นชุดใหญ่ แต่ทุกครั้งที่ดันขึ้น เป็นการโจมตีที่มีคุณภาพจากการจ่ายของ มาซา และการพักบอลของ ชิค, โคฟาเน ลูก 0-1 และ 0-2 เป็นตัวอย่างชัดเจนของ “ประสิทธิภาพเหนือปริมาณ” ซึ่งเป็นจุดชนะสำคัญในมุมมองการ วิเคราะห์บอล เกมนี้

📊 สถิติการแข่งขันเล่าเรื่องอะไรบ้าง
แม้สกอร์บนหน้า บ้านผลบอล จะออกมา 0-2 แต่ตัวเลขในสนามสะท้อนภาพอีกแบบ แมนซิตี้ยิงทั้งหมด 18 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครองบอล 54% จ่ายบอล 571 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 92% ขณะที่เลเวอร์คูเซินยิงแค่ 4 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง ครองบอล 46% จ่าย 431 ครั้ง ความแม่นยำ 92% เท่ากัน เท่ากับว่าเกือบทุกครั้งที่ทีมเยือนยิงคือโอกาสทองระดับมีลุ้นประตู ต่างจากซิตี้ที่มีโอกาสเยอะ แต่คมไม่พอและเจอโกล์ฟอร์มเทพขวางทางอยู่ตลอด
เลเวอร์คูเซินทำฟาวล์มากกว่า 8 ต่อ 4 และโดนใบเหลือง 2 ครั้งจาก กริมัลโด และ โคฟาเน แสดงให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมเล่นหนักในจังหวะจำเป็นเพื่อหยุดเกมรุกเรือใบ มุมเตะยังเป็นซิตี้ที่ได้ถึง 9 ครั้งต่อ 3 แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เลย
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 23: คริสตอฟ โคฟาเน จ่ายให้ อเล็กซ์ กริมัลโด ยิงให้เลเวอร์คูเซินนำ 0-1
- 🔁 นาที 46: แมนซิตี้เปลี่ยนทีเดียวสามคน – เฌเรมี่ โดกู แทน ออสการ์ บ็อบบ์, นิโก โอเรลลี่ แทน ราอัด นูรี, ฟิล โฟเด้น แทน รีโก้ ลูอิส
- ⚽ นาที 54: อิบราฮิม มาซา แทงให้ ปาทริก ชิค หลุดไปยิงเสียบตาข่าย หนีเป็น 0-2
- 🟨 นาที 60: อเล็กซ์ กริมัลโด โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์ตัดเกม
- 🔁 นาที 65: แมนซิตี้ส่ง รายาน แชร์กี ลงแทน อับดุลลาย คูซาโนฟ และ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ลงแทน โอนี่ มาร์มูช
- 🟨 นาที 77: คริสตอฟ โคฟาเน ทำฟาวล์หนัก โดนใบเหลือง
- 🔁 นาที 83: เลเวอร์คูเซินถอด โคฟาเน ออก แล้วส่ง นาธาน เทลล่า ลงมาปิดเกมในแดนหน้า
⭐ Player of the match: มาร์ก เฟลคเคน มือกาวเรตติ้ง 10
คำว่ากำแพงมนุษย์ยังดูเบาไปสำหรับฟอร์มของ มาร์ก เฟลคเคน คืนนี้ โกล์ดัตช์ของเลเวอร์คูเซินได้เรตติ้งเต็ม 10 จาก Sofascore เซฟลูกยิงสำคัญนับไม่ถ้วน ทั้งลูกยิงไกลของ เรย์เยนเดอร์ส, ลูกปั่นโค้งของ ซาวินโญ่, รวมถึงลูกโหม่งจ่อๆ ของฮาแลนด์ในช่วงท้ายเกม การยืนตำแหน่งนิ่ง อ่านจังหวะบอลดี และออกมาตัดลูกครอสได้หมด ทำให้แนวรับหน้าเขตโทษเล่นง่ายขึ้นอีกขั้น
นอกจากความเหนียว เฟลคเคนยังมีส่วนกับการเซ็ตเกมรุกหลายครั้งด้วยการเปิดบอลยาวแม่นๆ ให้วิงแบ็กออกตัวสวนกลับ ถือเป็นผลงานระดับท็อปคลาสที่เปลี่ยนเกมยากๆ ให้เลเวอร์คูเซินเก็บสามแต้มใหญ่จากเมืองแมนเชสเตอร์ได้สำเร็จ

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
หลังจบเกมนี้ ตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแบบรวมล่าสุด เลเวอร์คูเซินขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 5 แข่ง 5 ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 11 เสีย 6 มี 10 แต้ม ผลงานถือว่ากำลังติดลมบน ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หล่นไปอยู่อันดับ 6 แข่ง 5 ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 10 เสีย 5 มี 10 แต้มเท่ากัน แต่ประตูได้เสียและเฮดทูเฮดด้อยกว่าเลเวอร์คูเซิน ทำให้เส้นทางเข้ารอบน็อกเอาต์ของเรือใบเริ่มไม่ง่ายเหมือนเดิม
เกมที่เหลือของรอบลีกทุกแต้มมีค่า ต่อจากนี้ซิตี้แทบไม่มีสิทธิ์พลาดอีกแล้ว หากยังอยากติดกลุ่มบนของตาราง ส่วนเลเวอร์คูเซินเริ่มมองภาพไกลถึงการลุ้นจบอันดับท็อปโฟร์ของทัวร์นาเมนต์ได้เลย
🗓 ตารางบอลและโปรแกรมนัดถัดไปของทั้งสองทีม
จากภาพ ตารางบอล ล่าสุด โปรแกรมบอลของทั้งสองทีมยังโหดต่อเนื่อง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องกลับไปโฟกัสพรีเมียร์ลีก เปิดบ้านรับ ลีดส์ ยูไนเต็ด วันที่ 29/11/25 เวลา 22:00 น. ก่อนบุกเยือน ฟูแล่ม วันที่ 03/12/25 เวลา 02:30 น. เกมลีกสองนัดนี้สำคัญต่อโมเมนตัมอย่างมาก หากเป๊ปไม่รีบพาทีมคืนฟอร์ม ผลงานในยุโรปอาจโดนลูกหลงไปด้วย
ด้านไบเออร์ เลเวอร์คูเซิน เจอโปรแกรมชนดอร์ทมุนด์สองนัดติดทั้งลีกและบอลถ้วย ตาม โปรแกรมบอล ที่โชว์ไว้คือ เปิดบ้านรับดอร์ทมุนด์ในบุนเดสลีกา วันที่ 30/11/25 เวลา 00:30 น. และตามด้วยเกมเดเอฟเบ โพคาล วันที่ 03/12/25 เวลา 03:00 น. เรียกได้ว่าต้องโรเตชันอย่างระวัง หากอยากรักษาฟอร์มแกร่งในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกต่อไป
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และ ผลบอลสด ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามเช็กสกอร์สดแบบช็อตต่อช็อต ไฮไลต์จังหวะสำคัญ และบทวิเคราะห์หลังเกมดุเดือดแบบนี้ อย่าลืมกดเข้ามาที่ บ้านกีฬา เราพร้อมอัปเดตทั้ง บ้านผลบอล, ผลบอลสด, ตารางถ่ายทอดสด และโปรแกรมบอลลีกใหญ่ทั่วยุโรปแบบเรียลไทม์ ให้แฟนบอลได้มันส์ครบจบในที่เดียว

