
จาก : ผลบอลสด เซเรียอา ระหว่าง โตริโน่ 1-5 โคโม วันนี้ 25/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกกัลโช่ เซเรียอา เกมนี้แฟนบอลที่กดเช็ก ผลบอลสด กันแบบวินาทีต่อวินาทีคงสะดุ้งแรง เมื่อโคโมของกุนซือ เชสก์ ฟาเบรกาส บุกมาถล่มโตริโน่ถึงถิ่น 5-1 ทั้งที่รูปเกมช่วงต้นยังสูสี แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลังก็กลายเป็นหนังคนละม้วน แข้งทีมเยือนถ่างแผงรับกระทิงหินออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยสปีดเกมและการเข้าทำที่คมกริบ
เจย์เดน แอดไดย์ ปีกดาวรุ่งของโคโมกดสองประตู นาที 36 และ 52 ก่อนที่ มานูเอล เปร์โรเน่, นีโก้ ปาซ และ มาร์ติน บาตูริน่า จะช่วยกันซัดปิดกล่อง ส่วนฝั่งโตริโน่ได้เพียงประตูตีเสมอจากจุดโทษของ นิโกล่า วลาซิช ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก
⏱ ครึ่งแรก – โตริโน่ได้จุดโทษแต่ยังเอาไม่อยู่
ต้นเกมโตริโน่พยายามบีบเพรสสูง หวังใช้พละกำลังของ ดูวาน ซาปาต้า ไล่บังบอลจากเซนเตอร์โคโม แต่เกมรับทีมเยือนตั้งโซนกันแน่น ใช้การต่อบอลจากหลังขึ้นหน้าด้วยความเยือกเย็น นาที 21 อีวาน สโมลซิช ไปทำฟาวล์หนักจนโดนใบเหลือง เป็นสัญญาณว่ากองหลังโคโมเริ่มเจอความเร็วของฝั่งเจ้าถิ่น
อย่างไรก็ตาม นาที 36 แผงหลังโตริโน่ดันหลุดโฟกัส เจย์เดน แอดไดย์ สปีดหนีแนวรับไปเก็บบอลทางกราบขวา ก่อนประสานงานกับ ฆวน โรดริเกซ หลุดเข้าไปยิงให้โคโมนำ 1-0 แบบเฉียบคม
ท้ายครึ่งแรก โตริโน่พยายามเร่งเครื่องจนได้ลุ้นจากจังหวะที่ วาเลนติโน่ ลาซาโร่ ลากตัดเข้าเขตโทษแล้วโดนสกัดล้ม ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนยืนยันให้จุดโทษ นาที 45+2 นิโกล่า วลาซิช รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 พร้อมเสียงเฮลั่นจากแฟนเจ้าบ้านก่อนพักครึ่ง
🔥 ครึ่งหลัง – โคโมเปิดโหมดถล่มยับ 4 ลูก
ครึ่งหลังเกมเปลี่ยนทันที โคโมยกระดับสปีดบอลขึ้นอีกขั้น ใช้การเซ็ตเกมจากคู่กลาง เลโอนาร์โด้ ดา คุนญ่า กับ มานูเอล เปร์โรเน่ ต่อบอลทะลุไลน์เพรสโตริโน่อย่างต่อเนื่อง
นาที 52 เจย์เดน แอดไดย์ โชว์ของอีกครั้ง ทำชิ่งกับ ฆวน โรดริเกซ ก่อนหลุดไปกดด้วยขวาเสียบเสา ส่งโคโมนำ 2-1 สกอร์บนหน้าจอแฟนบอลฝั่งเจ้าบ้านเริ่มน่ากังวล
มาร์โก บาโรนี แก้เกมด้วยการส่ง นีลส์ เอ็นกูนคู, ฟาอุสติโน่ อันโยริน และ ซาคาเรีย อบูคห์ลัล ลงมาช่วงนาที 61–66 แต่กลับไม่ช่วยให้เกมดีขึ้น นาที 71 เปร์โรเน่สอดขึ้นมาจบสกอร์เองจากการเปิดของ ฌาโคโบ รามอน พาโคโมหนีเป็น 3-1
ไม่กี่อึดใจ นาที 76 นีโก้ ปาซ ซัดประตูที่สี่จากการประสานงานกับ เปร์โรเน่ ก่อนที่ VAR จะยืนยันให้เป็นประตูอย่างชัดเจน และในช่วงท้ายเกมนาที 86 มาร์ติน บาตูริน่า ตัวสำรองก็มาปั่นโค้งปิดกล่องให้โคโมบุกถล่มโตริโน่ 5-1 แบบไม่ไว้หน้าแฟนบอลเจ้าถิ่น

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🐂 โตริโน่
ระบบ 3-5-2 ค่าเฉลี่ยทีม 6.30
ผู้รักษาประตู
- อัลแบร์โต้ ปาเลอารี (1) เรตติ้ง 5.7
กองหลังสามคน
- อดัม มาซิน่า (5) 5.5
- กิลเยร์โม่ มาริปัน (13) 5.7
- อาเดรียง ทาเมเซ่ (61) 6.5
วิงแบ็กและกองกลาง
- วาเลนติโน่ ลาซาโร่ (20) 6.3
- คริสเตียน อัสลานี่ (32) 6.8
- เชซาเร่ คาซาเดอี (22) 6.8
- ซีริล เอ็นกงเจ้ (26) 6.6
- มอร์ตেন เพเดอร์เซ่น (16) 6.3
กองหน้า
- นิโกล่า วลาซิช (10) 6.5 – ยิงจุดโทษตีเสมอ
- ดูวาน ซาปาต้า (91 – กัปตัน) 6.6
ตัวสำรองที่ถูกใช้
- นีลส์ เอ็นกูนคู (25) 5.8 ลงแทน เพเดอร์เซ่น นาที 61
- ฟาอุสติโน่ อันโยริน (14) 6.3 ลงแทน คาซาเดอี นาที 66
- ซาคาเรีย อบูคห์ลัล (7) 6.5 ลงแทน เอ็นกงเจ้ นาที 66
- กวิตาส กิเนตีส (66) 6.7 ลงแทน วลาซิช นาที 78
- อาลีเยอู เอ็นจีเย (92) 6.2 ลงแทน ซาปาต้า นาที 78
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
ฟรังโก้ อิสราเอล (81), มิไฮ โปปา (71), คริสเตียโน่ บิรากี (34), อาลี เดมเบเล่ (21), เซาอูล โคโก้ (23), เอมีร์ฮาน อิลคาน (6)
🌊 โคโม
ระบบ 4-2-3-1 ค่าเฉลี่ยทีม 7.21
ผู้รักษาประตู
- ฌอง บูเตซ (1) 7.5
กองหลังสี่คน
- อเลฆานโดร วาเย (3) 6.6
- ดานีโล่ คาร์ลอส (34) 6.7
- ฌาโคโบ รามอน (14) 8.9 – เด่นทั้งเกม ช่วยเกมรับและจ่ายให้เพื่อนยิง
- อีวาน สโมลซิช (28) 5.7 – ทำฟาวล์เสียใบเหลืองก่อนถูกถอดออก
คู่มิดฟิลด์ตัวตัดเกม
- เลโอนาร์โด้ ดา คุนญ่า (33 – กัปตัน) 6.8
- มานูเอล เปร์โรเน่ (23) 8.2 – ยิง 1 แอสซิสต์ 1
ตัวรุกสามคนหลังหน้าเป้า
- เจย์เดน แอดไดย์ (42) 8.9 – เหมาสอง
- นีโก้ ปาซ (10) 8.2 – ทำประตูสุดสวยครึ่งหลัง
- Áลบาโร่ โมราต้า (7) 6.6 – ยืดแนวรับเจ้าถิ่น ก่อนถูกเปลี่ยนพัก
ตัวสำรองที่ถูกใช้
- แม่ร์กิม วอยโวด้า (31) 6.7 ลงแทน สโมลซิช นาที 58
- มาร์ค-โอลิเวอร์ เค็มพ์ (2) 6.7 ลงแทน โรดริเกซ นาที 75
- อนาสตาซิออส ดูวิคาส (11) 6.5 ลงแทน โมราต้า นาที 75
- สเตฟาน พอช (27) 6.7 ลงแทน เปร์โรเน่ นาที 84
- มาร์ติน บาตูริน่า (20) 7.8 ลงแทน ปาซ นาที 84 และยิงประตูปิดท้าย
ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
เมาโร วีโกริโต้ (22), นิโคลา ชาฟลินา (44), อิญักเน ฟาน เดอร์ เบรมต์ (77), อัลเบร์โต้ โมเรโน่ (18), มักซ็องซ์ กาเกเรต์ (6), นิโคลัส-เกร์ริต คือนห์ (19), อัลเบร์โต้ แซร์รี (99)
ผู้เล่นบาดเจ็บ/โดนแบนสำคัญ
ฝั่งโตริโน่ขาด แพร์ ชูร์ส, อีวาน อิลิช, จิโอวานนี ซิเมโอเน่ และ ซานอส ซาฟวา ส่วนโคโมไม่มี เซอร์จี้ โรแบร์โต้, อัลเบร์โต้ ดอสเซน่า, เอดูอาร์โด โกลดานีกา ขณะที่ อัสซาน ดียาว ยังเช็กฟิต
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้เป็นการดวลแท็กติกระหว่าง 3-5-2 ของโตริโน่ กับ 4-2-3-1 ของโคโม ชัดเจนว่าทีมเยือนวางหมากมาเน้นครองบอลและดึงจังหวะสวนคม อาศัยการเคลื่อนที่ของ แอดไดย์ และ ปาซ คอยหุบเข้าในทำให้เซนเตอร์ของเจ้าถิ่นต้องถ่างออกตลอดเวลา
ฝั่งโตริโน่ พยายามใช้วิงแบ็ก ลาซาโร่ กับ เพเดอร์เซ่น เติมสูงเพื่อยัดบอลเข้ากลางให้ วลาซิช ทำเกมร่วมกับ ซาปาต้า แต่เมื่อเสียบอล พื้นที่ด้านหลังก็เปิดโล่ง แนวรับสามคนต้องถอยลึกจนช่องระหว่างไลน์กองกลาง-กองหลังขยายใหญ่ โคโมจึงใช้การแทงทะลุช่องจาก เปร์โรเน่ และ ดา คุนญ่า เจาะซ้ำ ๆ
จุดแตกต่างสำคัญคือการเปลี่ยนจากเกมรับสู่เกมรุก โคโมต่อบอลหนึ่ง-สองจังหวะได้ลื่นไหลและแทบไม่เสียบอลโง่ ๆ ในแดนกลาง ขณะที่โตริโน่เมื่อแย่งบอลมา กลับหาทางจ่ายให้เพื่อนยาก ต้องเคลียร์ทิ้งขึ้นหน้าให้ ซาปาต้า ดวลกลางอากาศอยู่คนเดียว ส่งผลให้รูปเกมโดยรวมในเชิงวิเคราะห์บอล แล้ว โคโมเหนือกว่าเรื่องไอเดียการเข้าทำและความเฉียบคมชัดเจน

📈 สถิติการแข่งขันที่บอกเรื่องราวทั้งหมด
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพชัดเจน โตริโน่ยิงทั้งหมด 10 ครั้ง เข้ากรอบเพียง 2 ขณะที่โคโมยิง 15 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครองบอลเหนือกว่า 66% ต่อ 34% ผ่านบอล 456 ครั้งสำเร็จถึง 92% ส่วนเจ้าบ้านผ่านบอลแค่ 208 ครั้ง ความแม่นยำ 83% เท่านั้น ฝั่งเจ้าถิ่นทำฟาวล์ 7 ครั้ง โคโม 8 ครั้ง ใบเหลืองมีเพียงใบเดียวของ สโมลซิช ขณะที่ล้ำหน้า โตริโน่โดนจับ 3 ครั้ง โคโมไม่มีเลย ลูกเตะมุมเป็นของทีมเยือน 4 ครั้ง เจ้าบ้าน 3 ครั้ง ทุกอย่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าโคโมคุมเกมได้ตลอดเกือบ 90 นาที
🕰 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- 🟨 นาที 21 อีวาน สโมลซิช ทำฟาวล์หนักใส่ตัวรุกโตริโน่ โดนใบเหลืองใบเดียวของเกม
- ⚽ นาที 36 เจย์เดน แอดไดย์ ทำชิ่งกับ ฆวน โรดริเกซ ก่อนยิงให้โคโมนำ 1-0
- 📺 นาที 45 ผู้ตัดสินเช็ก VAR จังหวะ วาเลนติโน่ ลาซาโร่ ถูกสกัดล้มในเขตโทษ ก่อนยืนยันให้จุดโทษโตริโน่
- ⚽ นาที 45+2 นิโกล่า วลาซิช ซัดจุดโทษไม่พลาด ตีเสมอ 1-1
- ⚽ นาที 52 แอดไดย์ หลุดเดี่ยวไปยิงประตูที่สองของตัวเองให้โคโมนำ 2-1
- 🔁 นาที 58 โคโมถอด สโมลซิช ออก ส่ง แม่ร์กิม วอยโวด้า ลงมาเสริมเกมรับฝั่งซ้าย
- 🔁 นาที 61 โตริโน่ส่ง นีลส์ เอ็นกูนคู ลงแทน เพเดอร์เซ่น เติมความสดทางกราบขวา
- 🔁 นาที 66 โตริโน่เปลี่ยนคู่กลาง ส่ง ฟาอุสติโน่ อันโยริน กับ ซาคาเรีย อบูคห์ลัล ลงแทน คาซาเดอี และ เอ็นกงเจ้
- ⚽ นาที 71 มานูเอล เปร์โรเน่ สอดขึ้นมายิงจากการเปิดของ รามอน โคโมทิ้งห่าง 3-1
- 🔁 นาที 75 โคโมปรับเกม ส่ง อนาสตาซิออส ดูวิคาส แทน โมราต้า และ มาร์ค-โอลิเวอร์ เค็มพ์ แทน โรดริเกซ
- ⚽ นาที 76 นีโก้ ปาซ ยิงไกลสุดสวย หนีมือ ปาเลอารี เข้าไปเป็น 4-1 ก่อนที่ VAR จะยืนยันให้ประตู
- 🔁 นาที 78 โตริโน่ส่ง กวิตาส กิเนตีส กับ อาลีเยอู เอ็นจีเย ลงแทน วลาซิช และ ซาปาต้า หวังเปลี่ยนรูปเกม
- 🔁 นาที 84 โคโมให้โอกาสสำรองต่อ ส่ง มาร์ติน บาตูริน่า และ สเตฟาน พอช ลงแทน ปาซ และ เปร์โรเน่
- ⚽ นาที 86 บาตูริน่า โชว์ยิงปั่นโค้งเสียบมุม เป็นประตูปิดท้าย 5-1 ให้โคโม
🌟 Player of the Match – เจย์เดน แอดไดย์
รางวัลแข้งยอดเยี่ยมของเกมนี้ไม่มีใครแย่ง เจย์เดน แอดไดย์ ปีกความเร็วจัดของโคโมไปได้ ด้วยเรตติ้ง 8.9 เขาไม่เพียงยิงสองประตูสำคัญ แต่ยังเป็นต้นตอของทุกจังหวะอันตรายทางฝั่งขวา ดึงตัวประกบของโตริโน่ให้หลุดตำแหน่งตลอดเวลา การเลี้ยงกินตัวหนึ่งต่อหนึ่ง การเปลี่ยนสปีด และการเคลื่อนที่ตัดเข้าในทำให้แนวรับเจ้าบ้านปั่นป่วนอย่างหนัก
แอดไดย์ทำให้เกมโต้กลับของโคโมมีพิษสงรุนแรง ทุกครั้งที่ทีมเยือนได้บอลลึกในแดนตัวเอง เพียงโยนออกด้านข้างให้เขาไล่กดสปีดขึ้นหน้า เกมก็เปลี่ยนจากรับเป็นรุกในพริบตา สมกับตำแหน่งหัวใจเกมรุกของทีมในค่ำคืนนี้

📌 สถานการณ์บนตารางคะแนน เซเรียอา หลังเกม
ชัยชนะถล่มโตริโน่ 5-1 ทำให้โคโมเก็บเพิ่มเป็น 21 คะแนนจาก 12 นัด ขึ้นไปรั้งอันดับ 6 ของตาราง เซเรียอา ไล่จี้โบโลญญ่าที่มี 24 แต้ม และกลุ่มลุ้นท็อปโฟร์อย่าง อินเตอร์, นาโปลี และ เอซี มิลาน แบบมีลุ้นเต็มตัว เส้นทางคว้าตั๋วฟุตบอลยุโรปเริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับทีมน้องใหม่ไฟแรงทีมนี้
ส่วนโตริโน่แพ้คาบ้านหนักหน่วงหยุดอยู่ที่ 14 คะแนน รั้งอันดับ 12 ฟอร์มช่วงหลังเริ่มน่าเป็นห่วงเพราะเกมรับเสียประตูง่าย หากไม่รีบแก้ไข ทั้งเรื่องสมาธิในพื้นที่สุดท้ายและการยืนโซนเมื่อโดนสวนกลับ มีสิทธิ์รูดไปอยู่โซนล่างของตารางได้ไม่ยาก
📅 ตารางบอล เซเรียอา นัดถัดไป
เมื่อมองไปที่ ตารางบอล เซเรียอา โปรแกรมของทั้งสองทีมยังหินต่อเนื่อง โตริโน่ต้องออกไปเยือนเลชเช่นัดถัดไป ก่อนจะกลับมาเปิดบ้านรับมือเอซี มิลาน ซึ่งเป็นบททดสอบใหญ่ต่อหน้าแฟนบอล หลังเพิ่งโดนโคโมบุกยิงถึง 5 ลูก หากยังไม่ปรับแนวรับ งานนี้มีสิทธิ์โดนลงโทษซ้ำ
ด้านโคโมมีคิวเปิดบ้านรับซาสซูโอโล่ จากนั้นต้องยกพลบุกเยือนอินเตอร์ มิลาน เกมเหล่านี้จะเป็นด่านวัดศักยภาพว่า พวกเขาพร้อมยืนระยะในกลุ่มหัวตารางแค่ไหน แฟนบอลคงต้องจับตาโปรแกรมเหล่านี้บนหน้าจอ ตารางบอล และลุ้นกันแบบห้ามกระพริบตา
📲 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลเดือด ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
แฟนลูกหนังที่อยากเช็กสกอร์แบบเรียลไทม์ สถิติสด ๆ และบทวิเคราะห์เข้ม ๆ หลังเกมแบบนี้ อย่าลืมกดติดตาม บ้านผลบอล พร้อมอัปเดตทุกคู่ทุกลีกที่ บ้านกีฬา เราจะเกาะทุกสนามให้คุณรู้ก่อนใคร ไม่ว่าจะเป็นผลแข่งเมื่อคืน ไฮไลต์เด็ด หรือประเด็นร้อนนอกสนาม แฟนบอลตัวจริงห้ามพลาด

