บ้านผลบอล สรุปหลังเกม พรีเมียร์ลีกระอุ ผีแดงโหมทั้งเกมแต่เจอพิคฟอร์ดหนึบ ทอฟฟี่ 10 คนบุกเชือด 0-1 แมนยูหลุดแรงลุ้นยุโรปยากขึ้น

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 เอฟเวอร์ตัน วันนี้ 25/11/68 – บ้านกีฬา

ศึกพรีเมียร์ลีกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับ เอฟเวอร์ตัน จบลงด้วยความช็อกของแฟนผี เมื่อทีมของรูเบน อาโมริมดาหน้ายิงถึง 23 ครั้ง ครองบอล 70% แต่สุดท้ายแพ้ 0-1 ให้กับทอฟฟี่สีน้ำเงินที่เหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 13 เกมนี้ใครกดดู ผลบอลสด อยู่มีเดือดแน่นอน เพราะรูปเกมมันคนละเรื่องกับสกอร์โดยสิ้นเชิง

⏱ ครึ่งแรก: ผีบุกเป็นพายุแต่โดนสวนคม

ต้นเกม ยูไนเต็ดออกสตาร์ตด้วยระบบ 3-4-2-1 เน้นเกมรุกจากวิงแบ็ก พาทริค ดอร์กู กับ นุสเซียร์ มาซราอุย เติมสูงต่อเนื่อง กดเอฟเวอร์ตันถอยลงต่ำตั้งแต่ 10 นาทีแรก แต่ดันเจอข่าวร้ายฝั่งทีมเยือนก่อน เมื่อ เชมุส โคลแมน เจ็บจนต้องออกให้ เจค โอไบรอัน ลงมาประจำการแทนตั้งแต่นาทีที่ 10

จุดเปลี่ยนใหญ่ของเกมมาถึงนาทีที่ 13 อิดริสซา กาน่า เกย์ ไปเล่นหนักใส่คู่แข่งจนโดนใบแดงตรง ทอฟฟี่เหลือ 10 คน แต่แทนที่จะโดนบอมบ์ยับ กลับเป็นฝ่ายได้เฮนาที 29 จากจังหวะโต้กลับ เจมส์ การ์เนอร์ ทำชิ่งกับ คีแรน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์ ก่อนที่มิดฟิลด์ซ้ายจัดจะสอดมาซัดไม่พลาดให้เอฟเวอร์ตันนำ 1-0 เงียบทั้งโรงละครแห่งความฝัน

หลังโดนนำ ผีแดงพยายามเร่งเกม บรูโน แฟร์นันด์ส กับ อมัด ดิยัลโล่ คอยแทงทะลุช่องให้ โยชัว ซิร์คเซ่ กับ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ สลับกันส่อง แต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอ เจอจอร์แดน พิคฟอร์ด เซฟได้หมด ทดเจ็บครึ่งแรก เอ็มเบวโม่ยังมาโดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ หน้าเขตโทษ จบ 45 นาทีแรก ยูไนเต็ดตามหลัง 0-1 ทั้งที่โหมบุกแทบจะฝ่ายเดียว

⏱ ครึ่งหลัง: บุกกระหน่ำแต่เจอพิคฟอร์ดปิดประตู

ครึ่งหลัง อาโมริมไม่รอช้า ส่ง เมสัน เมาท์ แทน มาซราอุย เติมความสดแดนกลาง ขยับ บรูโน มาเล่นต่ำลงคุมจังหวะ ขณะที่เอฟเวอร์ตันหุบไลน์ลงต่ำยิ่งกว่าเดิม เล่น 4-4-1 เน้นแพ็กหน้าประตูแล้วฝากความหวังไว้ที่จังหวะโต้กลับของ ดิวส์บิวรี-ฮอลล์

นาที 49 คาเซมิโร โดนเหลืองจากการตัดเกมกลางสนาม ก่อนที่นาที 58 จะถูกเปลี่ยนออกให้ ค็อบบี้ เมนู ลงมาเพิ่มความคล่องตัว พร้อมกับ ดีโอโก้ ดาโลต์ ลงแทน ดอร์กู เพื่อเปิดเกมด้านขวา ยูไนเต็ดเปิดล้อมทุกทิศ ยิงไกล ยิงในกรอบ เปิดครอสหาจังหวะโหม่ง รวมแล้วทั้งเกมยิงถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง แต่ทุกลูกเหมือนเจอ “กำแพงสีฟ้า” ชื่อ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยืนขวางอยู่

ช่วงท้ายเกม เดวิด มอยส์ แก้เกมด้วยการส่ง ทิม อิโรเอกบูนัม กับ เบโต้ ลงมาไล่บีบแดนหน้า ตามด้วย ดไวท์ แม็คนีล และ การ์ลอส อัลคาราซ เปลี่ยนเอาดิวส์บิวรี-ฮอลล์ที่วิ่งจนหมดพลังออก เกมรับเอฟเวอร์ตันยังนิ่งช่วยกันบล็อกทุกลูก ยูไนเต็ดพยายามยัดบอลเข้าเขตโทษแต่ก็ไม่ผ่านสุดยอดฟอร์มของพิคฟอร์ดอยู่ดี จบเกมทอฟฟี่ 10 คนบุกเผาโรงละครแห่งความฝัน 0-1 เก็บสามแต้มทองออกจากแมนเชสเตอร์อย่างดุดัน

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน Sofascore

🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3-4-2-1, เรตติ้งเฉลี่ย 6.81)

  • ผู้รักษาประตู:
    • 31 ซามูเอล แลมเมนส์ – 6.4
  • กองหลังสามคน:
    • 23 ลุค ชอว์ – 7.1
    • 4 มัทไธส์ เดอ ลิกท์ – 7.6
    • 15 เลนนี โยโร – 7.2
  • วิงแบ็กและมิดฟิลด์กลาง:
    • 13 พาทริค ดอร์กู – 6.4
    • 18 คาเซมิโร – 6.8
    • 8 (กัปตัน) บรูโน แฟร์นันด์ส – 7.6
    • 3 นุสเซียร์ มาซราอุย – 6.3
  • ตัวรุกและกองหน้า:
    • 16 อมัด ดิยัลโล่ – 7.0
    • 19 ไบรอัน เอ็มเบวโม่ – 6.4
    • 11 โยชัว ซิร์คเซ่ – 6.3

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • 7 เมสัน เมาท์ – 6.6 (ลง 46′ แทน มาซราอุย)
  • 2 ดีโอโก้ ดาโลต์ – 7.1 (ลง 58′ แทน ดอร์กู)
  • 37 ค็อบบี้ เมนู – 6.5 (ลง 58′ แทน คาเซมิโร)

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
อัลตาย บายินเดียร์, เอย์เดน ฮีเวน, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, มานูเอล อูการ์เต้, เชีย เลซี

🔵 เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1, เรตติ้งเฉลี่ย 6.78)

  • ผู้รักษาประตู:
    • 1 จอร์แดน พิคฟอร์ด – 8.7
  • กองหลังสี่คน:
    • 23 (กัปตัน) เชมุส โคลแมน – 6.7 (ออก 10′)
    • 6 เจมส์ ทาร์คอฟสกี – 6.7
    • 5 ไมเคิล คีน – 7.5
    • 16 วิตาลี มีโคเลนโก – 7.2
  • มิดฟิลด์ตัวรับคู่กลาง:
    • 27 อิดริสซา กาน่า เกย์ – 3.0 (โดนใบแดง 13′)
    • 37 เจมส์ การ์เนอร์ – 6.7
  • แนวรุกสามตัว:
    • 10 อิลิมัน เอ็นดิอาย – 6.6
    • 22 คีแรน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์ – 8.1 (คนยิงประตูชัย)
    • 18 แจ็ค กรีลิช – 6.7
  • หน้าเป้า:
    • 11 ทิม แบร์รี – 7.1

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • 15 เจค โอไบรอัน – 7.1 (ลง 10′ แทน โคลแมน)
  • 42 ทิม อิโรเอกบูนัม – 6.7 (ลง 81′ แทน แบร์รี)
  • 9 เบโต้ – 6.3 (ลง 81′ แทน เอ็นดิอาย)
  • 7 ดไวท์ แม็คนีล – 6.6 (ลง 87′ แทน กรีลิช)
  • 24 การ์ลอส อัลคาราซ – ประมาณ 6.8 (ลง 88′ แทน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์)

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม
มาร์ก ทราเวอร์ส, ทอม คิง, อดัม แอซนู, ไทเลอร์ ดิบลิง

🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ถ้ามองในมุม วิเคราะห์บอล แท็กติก ยูไนเต็ดวันนี้ถือว่า “มาถูกทางแต่จบไม่ลง” อาโมริมจัด 3-4-2-1 เน้นครองบอลจากหลังขึ้นหน้า ด้วยการลากบอลของเดอ ลิกท์และโยโร เปิดเกมจากแนวกองหลัง ก่อนให้บรูโนกับดิยัลโล่รับบทจ่ายคิลเลอร์พาสสู่ช่องครึ่งช่อง (half-space) ขนาบด้วยการเติมสูงของวิงแบ็กสองฝั่ง โครงสร้างการบุกทำได้ดี สร้างโอกาสตกใส่กรอบเขตโทษเอฟเวอร์ตันตลอด เพียงแต่การตัดสินใจจังหวะสุดท้ายทั้งซิร์คเซ่และเอ็มเบวโม่ไม่เฉียบพอ หลายลูกยิงไปติดบล็อกหรือไม่ก็ตรงตัวพิคฟอร์ดเกินไป

เกมรับของผีแดงจริงๆ ไม่ได้เจอทดสอบมากนัก เพราะเอฟเวอร์ตันเหลือ 10 คนเร็ว ทำให้แทบไม่ได้ดันไลน์สูงบ่อย มีเพียงจังหวะโต้กลับไม่กี่ครั้งที่ดิวส์บิวรี-ฮอลล์หลุดเข้าไปลุ้น แต่ก็เป็นลูกยิงประตูชัยลูกเดียวที่เล่นงานได้เต็มๆ จุดที่น่าห่วงคือช่องว่างระหว่างวิงแบ็กกับเซ็นเตอร์ ซึ่งจังหวะสวนกลับทีไร ยูไนเต็ดมักเปิดพื้นที่ตรงนี้ให้คู่แข่งใช้วิ่งหาช่องอยู่เรื่อย

ฝั่งเอฟเวอร์ตัน มอยส์ปรับแผนเร็วมากหลังใบแดง เปลี่ยนจาก 4-2-3-1 เป็น 4-4-1 แล้วสั่งให้ดิวส์บิวรี-ฮอลล์กับเอ็นดิอายช่วยไล่บีบบอลข้างหน้า ตัดเกมที่แหล่งปั้นของบรูโนให้ได้ก่อนบอลถึงหน้าเป้า แดนกลางการ์เนอร์ยืนคุมโซนสุดเหนียว กองหลังสี่คนถอยเป็นบล็อกแน่นหน้ากรอบเขตโทษ ตัดทางครอสและบล็อกช็อตได้ตลอด การตั้งรับลึกแต่เป็นระเบียบแบบนี้ บวกกับฟอร์มเทพของพิคฟอร์ด คือสูตรที่พาเอฟเวอร์ตันบุกมาชนะในแบบ “ยิงน้อยแต่ได้ผลลัพธ์เต็ม”

📊 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมบอกชัดว่ายูไนเต็ดคือฝ่ายครองเกม เมื่อยิงไปถึง 23 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง ขณะที่เอฟเวอร์ตันมีโอกาสแค่ 2 ครั้ง เข้ากรอบเพียงลูกเดียวซึ่งกลายเป็นประตูชัย ยูไนเต็ดครองบอลมหาศาล 70% ต่อ 30% ส่งบอลมากถึง 452 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 91% เทียบกับทอฟฟี่ที่ส่งเพียง 201 ครั้ง แม่นยำ 72% ผีแดงยังได้ลูกเตะมุมถึง 9 ครั้ง ขณะที่เอฟเวอร์ตันได้แค่ 1 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนทำฟาวล์ 9 ครั้ง ได้ใบแดง 1 แต่กลับไม่มีใบเหลืองแม้แต่ใบเดียว ส่วนเจ้าบ้านทำฟาวล์ 12 ครั้ง ได้ใบเหลือง 2 ใบ แสดงให้เห็นว่าจังหวะปะทะส่วนใหญ่ของเอฟเวอร์ตันเป็นการเล่นแท็กติกตัดเกมมากกว่าฟาวล์รุนแรง และจังหวะสำคัญคือการอ่านเกมของพิคฟอร์ดที่เซฟลูกยากๆ จนสถิติยิงของผีแดงไม่มีค่า

⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม

  • 🔁 10′ เอฟเวอร์ตัน เปลี่ยนตัวเร็ว เชมุส โคลแมน เจ็บออก เจค โอไบรอัน ลงแทน
  • 🟥 13′ อิดริสซา กาน่า เกย์ เข้าปะทะรุนแรง โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม เอฟเวอร์ตันเหลือ 10 คน
  • ⚽ 29′ คีแรน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์ สอดขึ้นมาซัดให้เอฟเวอร์ตันนำ 0-1 จากการทำชิ่งกับ เจมส์ การ์เนอร์
  • 🟨 45+2′ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ โดนใบเหลืองจากการฟาวล์ตัดเกม
  • 🔁 46′ แมนยูส่ง เมสัน เมาท์ ลงแทน นุสเซียร์ มาซราอุย เติมมิติแดนกลาง
  • 🟨 49′ คาเซมิโร ทำฟาวล์กลางสนาม โดนใบเหลือง
  • 🔁 58′ แมนยูเปลี่ยนสองคนรวด ดีโอโก้ ดาโลต์ แทน พาทริค ดอร์กู และ ค็อบบี้ เมนู แทน คาเซมิโร
  • 🔁 81′ เอฟเวอร์ตันส่ง ทิม อิโรเอกบูนัม ลงแทน ทิม แบร์รี และ เบโต้ ลงแทน อิลิมัน เอ็นดิอาย ปรับระบบรับลึก
  • 🔁 87′ ดไวท์ แม็คนีล ลงแทน แจ็ค กรีลิช เติมความสดริมเส้น
  • 🔁 88′ การ์ลอส อัลคาราซ ลงแทน คีแรน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์ ที่วิ่งจนหมดแรง

⭐ Player of the Match – จอร์แดน พิคฟอร์ด

แม้ ดิวส์บิวรี-ฮอลล์ จะยิงประตูชัย แต่รางวัล Man of the Match ต้องยกให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด แบบไม่มีข้อกังขา ได้เรตติ้งสูงสุดของเกม 8.7 จากการเซฟลูกยากนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งลูกยิงไกลของบรูโน บอลปั่นโค้งของดิยัลโล่ และจังหวะปะทะในกรอบที่ต้องออกมาบล็อก 1 ต่อ 1 ความนิ่งในการคุมพื้นที่เขตโทษ การสั่งแนวรับให้ยืนไลน์ไม่หลุด รวมถึงจังหวะออกบอลยาวสวนกลับ ทำให้เอฟเวอร์ตันยืนระยะรับแรงกดดันตลอด 90 นาทีได้สำเร็จ บ้านกีฬา มองว่าหากไม่มีพิคฟอร์ดเกมนี้สกอร์อาจกลับกันไปเป็น 3-1 หรือ 4-1 ให้แมนยูได้เลย

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

หลังผ่าน 12 นัด ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน มีแต้มเท่ากันที่ 18 คะแนน แต่จากตารางล่าสุด ผีแดงรั้งอันดับ 10 ส่วนทอฟฟี่ตามมาในอันดับ 11 ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ใกล้เคียงกัน การแพ้คาบ้านนัดนี้ทำให้ยูไนเต็ดหลุดจากโซนลุ้นท็อปโฟร์ไปไกล เพราะจ่าฝูง อาร์เซนอล ทิ้งห่างถึง 11 แต้ม ขณะที่เชลซีและแมนซิตี้ก็ยังโกยคะแนนต่อเนื่อง ขณะที่เอฟเวอร์ตันชนะเกมใหญ่แบบนี้ช่วยยืดระยะห่างจากโซนท้ายตาราง เปิดทางให้ลุ้นไต่ขึ้นครึ่งบนของตารางอย่างเต็มตัว

📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก นัดถัดไป

มองไปที่ ตารางบอล พรีเมียร์ลีกนัดถัดไป โปรแกรมของทั้งสองทีมยังโหดต่อเนื่อง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องบุกเยือน คริสตัล พาเลซ วันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. ก่อนกลับมาเล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด วันที่ 5 ธันวาคม เวลา 03.00 น. เกมเหล่านี้คือบททดสอบสำคัญว่าลูกทีมของอาโมริมจะลุกขึ้นมาเรียกความมั่นใจได้หรือไม่

ด้านเอฟเวอร์ตันมีคิวเปิดกูดิสันพาร์ครับการมาเยือนของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในคืนวันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 00.30 น. จากนั้นออกไปเยือน บอร์นมัธ วันที่ 3 ธันวาคม เวลา 02.30 น. ถ้าทอฟฟี่ยังรักษาฟอร์มเกมรับแน่นแบบนัดนี้ได้ต่อเนื่อง โอกาสโกยแต้มเพิ่มขึ้นไปยึดครึ่งบนตารางก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันสำหรับสาวกทอฟฟี่สีน้ำเงิน

📺 ติดตาม บ้านผลบอล และเช็กผลบอลสดกับ บ้านกีฬา

ใครที่อยากตามลุ้นฟอร์มผีแดงและทอฟฟี่ในเกมต่อๆ ไป บ้านกีฬา แนะนำให้กดเช็ก บ้านผลบอล และ ผลบอลสด กันยาวๆ เรารวมสกอร์สด สถิติระหว่างเกม ไฮไลท์สำคัญ รวมถึงบทวิเคราะห์ก่อน-หลังแข่งให้ครบในที่เดียว แฟนบอลพรีเมียร์ลีกไม่ว่าจะเชียร์ทีมไหน แวะมาลุ้น มาดูตารางคะแนน และเช็กโปรแกรมแข่งได้ทุกวันกับ บ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา