จาก : ผลบอลสด เซเรียอา ระหว่าง อินเตอร์ มิลาน 0-1 เอซี มิลาน วันนี้ 24/11/68 – บ้านกีฬา
ศึก เซเรียอา ดาร์บี้แมตช์ “เดลลา มาดอนนิน่า” นัดนี้ อินเตอร์ มิลาน เปิดรังรับการมาเยือนของ เอซี มิลาน เกมใหญ่ที่ทั้งสองทีมต้องการสามแต้มเพื่อไล่กดดันจ่าฝูง โรม่า แฟนบอลเช็กสกอร์กันตาไม่กะพริบผ่านหน้าเว็บเช็ค ผลบอลสด และช่องทางต่างๆ เพราะผลนัดนี้มีผลโดยตรงต่อเส้นทางลุ้นสคูเด็ตโต้ฤดูกาลนี้
สุดท้ายเป็นฝั่งปีศาจแดงดำที่เฉียบคมกว่า บุกมาบดคว้าชัย 1-0 จากประตูโทนของ คริสเตียน พูลิซิช นาที 54 บวกกับซูเปอร์เซฟของ ไมค์ ไมนญ็อง ที่เซฟจุดโทษฮาคาน ชัลฮาโนกลู ช่วงครึ่งหลัง ทำให้ อินเตอร์ ต้องพ่ายต่อหน้ากองเชียร์ตัวเอง ทั้งที่รูปเกมครองบอลและสร้างโอกาสมากกว่า
⏱ ครึ่งแรก: งูใหญ่คุมเกมแต่เจอรถบัสแดงดำ
เปิดเกมมา อินเตอร์ วางแท็กติกบุกใส่เต็มสูบ ใช้จังหวะขึ้นเกมเร็วทางวิงแบ็ก เฟเดริโก้ ดิมาร์โก และ คาร์ลอส ออกุสโต้ เติมสูงคอยเปิดบอลให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กับ มาร์คุส ตูราม ในแดนหน้า กองกลางอย่าง นิโกโล่ บาเรลล่า กับ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู คอยคุมจังหวะและหาโอกาสยิงไกล
มิลานเลือกเล่นแบบรัดกุม เน้นรับลึก แพ็กเกมรับสามเซ็นเตอร์ ฟิคาโย่ โทโมรี, ซามูเอล ปาฟโลวิช และ ดาวิเด้ บาร์เตซซากี ปิดพื้นที่ตรงกลาง ปล่อยให้ อินเตอร์ ต่อบอลรอบๆ เขตโทษแต่หาช่องจบสกอร์เน้นๆ ยาก แม้เจ้าถิ่นจะได้ลองส่องไกลหลายครั้งจาก บาเรลล่า และ ชัลฮาโนกลู แต่ ไมนญ็อง ยังยืนตำแหน่งดี เซฟสบาย
ครึ่งแรก อินเตอร์ ยิงรวมมากกว่า ชนคาน-เฉียดเสาไปหลายจังหวะ แต่ยังเจาะกำแพงมิลานไม่ได้ ส่วนทีมเยือนอาศัยสวนกลับเร็วผ่าน ราฟาเอล เลเอา ที่คอยลากบอลกินตัว และ พูลิซิช ที่หุบเข้าในหาช่องยิง ทว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่คม จบ 45 นาทีแรกที่สกอร์ 0-0 แต่ความกดดันถาโถมใส่ทีมเยือนเต็มๆ
🔥 ครึ่งหลัง: นาทีทองพูลิซิช + ดราม่าจุดโทษชัลฮาโนกลู
กลับมาครึ่งหลัง อินเตอร์ ยังดาหน้าบุกต่อ แต่กลายเป็น มิลาน ที่ใช้จังหวะเพียงครั้งเดียวลงโทษ เจ้าถิ่นในนาที 54 จากจังหวะต่อบอลเร็วหน้าเขตโทษ ก่อนที่บอลจะมาถึง คริสเตียน พูลิซิช ได้ตั้งป้อมในเขตโทษแล้วซัดเน้นๆ เสียบเสาให้ปีศาจแดงดำออกนำ 1-0 เงียบทั้งสนามฝั่งอินเตอร์ แต่แฟนมิลานเฮกันลั่น
โดนไปหนึ่งลูก อินเตอร์ เปิดหน้าแลกเต็มที่ เปลี่ยนเกมรุกส่ง อองเย-โยอัน บอนนี่ ลงมาเติมความสด ขณะที่ มิลาน ถอยมาตั้งรับแน่นสองชั้น แต่ดราม่าใหญ่ของเกมมาถึงนาที 71 เมื่อ มาร์คุส ตูราม โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วชี้เป็นจุดโทษทันที
ฮาคาน ชัลฮาโนกลู อดีตแข้งมิลานรับหน้าที่สังหาร แต่ ไมค์ ไมนญ็อง อ่านทางได้ขาด พุ่งปัดเต็มมือก่อนเพื่อนร่วมทีมช่วยเคลียร์ ซูเปอร์เซฟครั้งนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้อินเตอร์หมดความมั่นใจชัดเจน
ท้ายเกม อินเตอร์ โหมบุกสุดตัว มีการส่ง ปิออตร์ ซีลินสกี้ และ แอนดี ดิยุฟ ลงมาช่วยยิงไกล ส่วน มิลาน เปลี่ยนเอา ซามูเอเล ริชชี่, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงมาช่วยไล่บีบตรงกลาง สุดท้ายเจ้าถิ่นเจาะไม่เข้า จบเกมอินเตอร์แพ้คาบ้าน 0-1
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน
🔵 อินเตอร์ มิลาน (3-5-2) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.84
ผู้รักษาประตู
- ยานน์ ซอมเมอร์ 6.6
กองหลังสามคน
- อเลสซานโดร บาสโตนี 7.7
- ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี 7.0
- มานูเอล อาคันจี 7.2
วิงแบ็ก / กองกลาง
- เฟเดริโก้ ดิมาร์โก 6.3
- คาร์ลอส ออกุสโต้ 7.0
- ปาสคาล ซูซิช 6.8
- ฮาคาน ชัลฮาโนกลู 6.8
- นิโกโล่ บาเรลล่า 7.4
กองหน้า
- เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (กัปตัน) 6.4
- มาร์คุส ตูราม 7.0
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- อองเย-โยอัน บอนนี่ (แทน เลาตาโร่ มาร์ติเนซ นาที 66) 6.4
- ปิออตร์ ซีลินสกี้ (แทน ชัลฮาโนกลู นาที 78) 6.9
- แอนดี ดิยุฟ (แทน อาแชร์บี นาที 85) 6.8
- ฟรานเชสโก้ ปีโอ เอสโปซิโต (แทน บาเรลล่า นาที 85) 6.3
แข้งเด่นฝั่งงูใหญ่ต้องยกให้ บาสโตนี ที่คุมเกมรับฝั่งซ้ายได้แน่น และ บาเรลล่า ที่วิ่งไม่มีหมด ช่วยทั้งเกมรุกและเกมรับ แต่ทั้งหมดถูกกลบด้วยจังหวะจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคมของทีม
🔴 เอซี มิลาน (3-5-2) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.99
ผู้รักษาประตู
- ไมค์ ไมนญ็อง (กัปตัน) 9.1 – ซูเปอร์เซฟหลายครั้งรวมถึงลูกจุดโทษ
กองหลังสามคน
- ฟิคาโย่ โทโมรี 7.5
- ซามูเอล ปาฟโลวิช 7.1 (ใบเหลือง)
- ดาวิเด้ บาร์เตซซากี 7.2
วิงแบ็ก / มิดฟิลด์
- อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส 7.1
- ราฟาเอล เลเอา 6.4 (ใบเหลืองทดเจ็บครึ่งแรก)
- ยุสเซฟ โฟฟานา 6.5
- ลูก้า โมดริช 6.9
- มัตเตโอ กับเบีย 7.2
- อาเดรียง ราบิโอต์ 7.0
กองหน้า / ตัวรุก
- คริสเตียน พูลิซิช 6.4 (ผู้ยิงประตูชัย)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ซามูเอเล ริชชี่ (แทน โฟฟานา นาที 78) 6.6
- คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (แทน พูลิซิช นาที 78) 6.4
- รูเบน ลอฟตัส-ชีค (แทน เลเอา นาที 86) 6.5
มิลานเล่นกันเป็นทีม เกมรับเหนียวทุกจุด ขณะที่ ไมนญ็อง, โทโมรี และบาร์เตซซากี ถือเป็นกำแพงเหล็กที่อินเตอร์ทะลุทะลวงไม่ได้เลย
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้ อินเตอร์ยึดระบบ 3-5-2 ที่คุ้นเคย เน้นต่อบอลจากหลังขึ้นหน้าด้วยจังหวะสั้นสลับยาว ใช้วิงแบ็กสองข้างเป็นตัวสร้างความได้เปรียบด้านกว้าง จุดเด่นคือการหมุนบอลเร็วบริเวณกลางสนาม ผ่าน บาเรลล่า และ ชัลฮาโนกลู ที่คอยหยอดบอลให้คู่หน้า แต่ปัญหาคือเมื่อบอลเข้าเขตโทษ มักเจอแนวรับมิลาน 5 ตัวแพ็กแน่น ทำให้ต้องจบด้วยการยิงไกลมากกว่าทะลุช่อง
ในเกมรับ อินเตอร์ดันไลน์ค่อนข้างสูงเพื่อบีบพื้นที่ และใช้สามเซ็นเตอร์คอยดักโหม่งลูกครอส แต่เมื่อทีมบุกพลาดแล้วโดนสวนกลับ ความเร็วของ เลเอา กับ พูลิซิช ทำให้แนวรับงูใหญ่มักถอยไม่ทัน ต้องตัดฟาวล์หรือปล่อยให้คู่แข่งได้ลุ้นในพื้นที่สุดท้าย
ด้านมิลาน แผน 3-5-2 ของ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ถูกปรับให้ยืดหยุ่น เวลาไม่มีบอลจะถอยวิงแบ็กลงมาเป็นแผงหลัง 5 คน กลางสนามสามตัวอย่าง โมดริช, กับเบีย, ราบิโอต์ ช่วยกันไล่บีบไม่ให้ อินเตอร์ เล่นบอลพื้นได้ง่าย ขณะที่โฟฟานา ทำหน้าที่สกรีนหน้าเซ็นเตอร์ ลดโอกาสยิงไกลของชัลฮาโนกลูพอสมควร
ในเกมรุก มิลานอาศัยจังหวะสวนกลับรวดเร็ว ใช้บอลยาวออกซ้ายไปหา เลเอา หรือแทงทะลุช่องให้ พูลิซิช หลุดขึ้นไปสร้างสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่ง จุดเด่นคือความนิ่งในพื้นที่สุดท้าย เมื่อได้โอกาสชัดๆ ครั้งเดียว พูลิซิชก็ส่งบอลเข้าไปนอนก้นตาข่ายทันที ตรงข้ามกับอินเตอร์ที่ใช้โอกาสเปลือง
ถ้ามองในเชิง วิเคราะห์บอล แท็กติกวันนี้ต้องยอมรับว่ามิลานวางหมากได้เฉียบคมกว่า ยอมเสียการครองบอลแต่แลกกับเกมรับที่แน่นหนา และมีผู้รักษาประตูระดับท็อปช่วยเซฟสถานการณ์ยามคับขัน
📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมบอกชัดเจนว่า อินเตอร์ คือฝ่ายบุกใส่แทบทั้งเกม เจ้าถิ่นมีโอกาสยิงรวม 16 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ มิลาน ยิงเพียง 8 ครั้ง เข้ากรอบ 3 แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้หนึ่งลูกเต็มๆ อินเตอร์ครองบอลสูงถึง 64% ส่งบอลมากกว่า 463 ต่อ 342 พร้อมอัตราความแม่นยำในการจ่ายถึง 92% เหนือกว่ามิลานที่ 90%
อย่างไรก็ตาม จำนวนการครองบอลไม่ได้นำไปสู่ประตู เพราะปีศาจแดงดำแพ็กเกมรับแน่น ทำฟาวล์เท่ากัน 7 ครั้งต่อ 7 ครั้ง แต่ อินเตอร์ โดนใบเหลืองแค่ใบเดียว ขณะที่ มิลาน รับไปสองใบ เกมนี้งูใหญ่ได้เตะมุมถึง 9 ครั้ง เทียบกับมิลานเพียง 1 ครั้ง ทว่าทุกลูกตั้งเตะถูกเคลียร์ทิ้งโดยแนวรับทีมเยือนทั้งหมด
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- 🟨 นาที 45+2 ราฟาเอล เลเอา โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์ท้ายครึ่งแรก
- ⚽ นาที 54 คริสเตียน พูลิซิช หลุดเข้าเขตโทษก่อนกดด้วยขวาเสียบเสา ให้เอซี มิลานขึ้นนำ 1-0
- 🟨 นาที 61 ฮาคาน ชัลฮาโนกลู โดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงผู้ตัดสิน
- 🔁 นาที 66 อินเตอร์ เปลี่ยน อองเย-โยอัน บอนนี่ ลงแทน เลาตาโร่ มาร์ติเนซ เติมความสดในแดนหน้า
- 📺 นาที 71 ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วให้จุดโทษอินเตอร์ หลัง มาร์คุส ตูราม โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ
- 🧤 นาที 74 ชัลฮาโนกลู รับหน้าที่ยิงจุดโทษ แต่ ไมค์ ไมนญ็อง พุ่งเซฟได้อย่างเหลือเชื่อ รักษาสกอร์ 1-0 ไว้ได้
- 🔁 นาที 78 อินเตอร์ ส่ง ปิออตร์ ซีลินสกี้ ลงแทน ชัลฮาโนกลู เพื่อเพิ่มมิติการจ่ายบอล ขณะเดียวกัน มิลานเปลี่ยน ซามูเอเล ริชชี่ แทน โฟฟานา และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แทน พูลิซิช
- 🔁 นาที 85 อินเตอร์ เปลี่ยน แอนดี ดิยุฟ แทน อาแชร์บี และ ฟรานเชสโก้ ปีโอ เอสโปซิโต แทน บาเรลล่า เปิดเกมรุกสุดตัว
- 🔁 นาที 86 มิลานส่ง รูเบน ลอฟตัส-ชีค ลงแทน เลเอา เพื่อช่วยเก็บบอลและไล่เพรสในแดนกลาง
- 🔚 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อินเตอร์พยายามโยนยาวลุ้นประตูตีเสมอ แต่แนวรับมิลานช่วยกันสกัดไว้ได้หมด จบเกมปีศาจแดงดำบุกชนะ 1-0
⭐ Player of the Match – ไมค์ ไมนญ็อง
ตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์เกมนี้หนีไม่พ้น ไมค์ ไมนญ็อง ผู้รักษาประตูเอซี มิลาน ที่ได้คะแนนสูงถึง 9.1 เขายืนตำแหน่งยอดเยี่ยมตลอด 90 นาที เซฟลูกยิงไกลของ บาเรลล่า, ชัลฮาโนกลู และ ตูราม หลายครั้ง รวมถึงจังหวะเซฟจุดโทษสุดสำคัญนาที 74 ที่เป็นช็อตเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง
นอกจากเซฟแล้ว ไมนญ็องยังช่วยคุมพื้นที่ในกรอบเขตโทษ ออกมาชกบอลจากลูกเตะมุมและครอสของอินเตอร์ได้อย่างมั่นใจ ทำให้แนวรับเพื่อนร่วมทีมเล่นง่ายขึ้น และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้มิลานเก็บคลีนชีตจากทีมที่เกมรุกอันตรายอย่างอินเตอร์ได้สำเร็จ
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนเซเรียอา
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ เอซี มิลาน เก็บเพิ่มเป็น 25 คะแนนจาก 12 นัด ขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงของตารางเซเรียอา เท่ากับ นาโปลี แต่ประตูได้เสียและเฮดทูเฮดดีกว่าเล็กน้อย รั้งอันดับ 2 ตามหลัง โรม่า จ่าฝูงที่มี 27 คะแนนเพียงสองแต้มเท่านั้น เส้นทางลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้างเต็มที่
ส่วน อินเตอร์ แพ้นัดนี้ทำให้มี 24 คะแนน หล่นไปอยู่กลุ่มไล่ล่าพื้นที่ยุโรปที่เบียดกันสนุกกับ โบโลญญ่า, ยูเวนตุส และ ลาซิโอ แต้มต่างกันไม่มาก ความพ่ายแพ้ในดาร์บี้แมตช์จึงไม่ใช่แค่เรื่องศักดิ์ศรี แต่ยังทำให้สถานการณ์ในลุ้นแชมป์ของงูใหญ่เริ่มสั่นคลอน ต้องรีบกลับมาชนะให้ได้ในเกมถัดไปหากไม่อยากปล่อยให้คู่แข่งหนีหาย
📅 ตารางบอลเซเรียอา และโปรแกรมนัดถัดไป
มองไปที่ ตารางบอล และโปรแกรมนัดต่อไป อินเตอร์ มีคิวบุกไปเยือน ปิซ่า ในศึกเซเรียอา วันที่ 30/11 เวลา 21.00 น. เกมนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญให้ทีมของ คริสเตียน คิววู แก้ตัวและเรียกความมั่นใจกลับมา ขณะเดียวกันยังมีภารกิจใหญ่ในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก บุกเยือน แอตเลติโก มาดริด วันที่ 27/11 ซึ่งจะชี้ชะตาอันดับรอบแบ่งกลุ่มด้วย
ด้าน เอซี มิลาน จะกลับไปเล่นในบ้านพบ ลาซิโอ วันที่ 30/11 เวลา 02.45 น. ก่อนที่ทั้งสองทีมจะโคจรมาดวลกันอีกครั้งในโคปปา อิตาเลีย รอบต่อไปวันที่ 5/12 ช่วงโปรแกรมถี่แบบนี้ทำให้ทั้งสองสโมสรต้องหมุนเวียนนักเตะอย่างรอบคอบ แฟนบอลที่ตามเช็ก โปรแกรมบอล คงมองออกว่าเดือนนี้คือตัวชี้วัดทิศทางฤดูกาลของทั้งอินเตอร์และมิลานอย่างแท้จริง
📺 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของศึกกัลโช่ เซเรียอา รวมถึงลีกใหญ่ยุโรป สามารถติดตามอัปเดตสกอร์แบบเรียลไทม์ เช็กสถิติหลังเกม ไฮไลต์ และบทวิเคราะห์สไตล์จัดจ้านได้ที่ บ้านผลบอล บนเว็บไซต์ บ้านกีฬา เราพร้อมเสิร์ฟข้อมูลครบทั้งสกอร์สด รายงานเกม และมุมมองเชิงลึกให้แฟนบอลชาวไทยได้มันส์กับฟุตบอลทุกคืน
