จาก : ผลบอลสด บุนเดสลีกา ระหว่าง ซังค์ เพาลี 0-1 ยูเนี่ยน เบอร์ลิน วันนี้ 23/11/68 – บ้านกีฬา
ศึก บุนเดสลีกา ที่มิลเลอร์นตอร์ สเตเดี้ยม ซังค์ เพาลี เปิดรังรับ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน เกมนี้รูปเกมสูสีแต่ความเฉียบขาดฝั่งทีมเยือนชัดเจนกว่า ก่อนจะบุกมาคว้าชัย 1-0 จากประตูสำคัญของ รานี่ เคห์ดิร่า นาที 44 แฟนบอลเช็ก ผลบอลสด กันจนลุ้นหยดสุดท้าย เพราะเจ้าถิ่นเดินหน้าบดตลอดครึ่งหลังแต่เจาะกำแพงเหล็กทีมเยือนไม่เข้า
⏱️ ครึ่งแรก: ซังค์ เพาลีกดดันแต่ยูเนี่ยนคมกว่า
เปิดเกมมาช่วง 15 นาทีแรก ซังค์ เพาลี พยายามยึดบอล เปิดเกมจากหลังขึ้นหน้าอย่างเป็นระบบ ผ่านการคุมจังหวะของ เจมส์ แซนด์ส และ โจอี้ เอิร์วีน ตัดกับ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ที่แพ็กเกมรับแน่นในระบบ 3-4-2-1 รอจังหวะสวนกลับจากความเร็วของ เชอราร์ด อันซาห์ และ โอลิเวอร์ เบิร์ก
นาที 38 เจ้าถิ่นเจอจุดเปลี่ยนด้านลบเล็กๆ เมื่อ จุนกิ ฟูจิตะ โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์กลางสนาม ทำให้เกมแดนกลางเริ่มเล่นยากขึ้น ต้องระวังจังหวะปะทะ
และแล้วนาที 44 ความคมของทีมเยือนก็เล่นงานเต็มๆ จากจังหวะต่อบอลริมเขตโทษบอลไหลมาถึง รานี่ เคห์ดิร่า ที่สอดขึ้นมายิงเน้นๆ ส่งบอลเสียบตาข่ายเป็นประตูให้ ยูเนี่ยน ออกนำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
🔁 ครึ่งหลัง: เจ้าบ้านบุกแหลกแต่เจาะกำแพงเหล็กไม่เข้า
เริ่มครึ่งหลัง ซังค์ เพาลี เปิดหน้าลุยทันที ดันไลน์เกมรับสูงเน้นต่อบอลกดดันในแดนคู่แข่ง บอลโยนจากกราบซ้ายของ อาเดรียน เพียร์ก้า กับลูกครอสของ คาร์ล เม็ตส์ ทำให้แนวรับทีมเยือนต้องเคลียร์กันวุ่น
นาที 64 อเล็กซานเดอร์ เบลสซิน ขยับแท็กติกส่ง อับดูลาย เซเซย์ และ ดาเนล ซินานี ลงมาเติมความสดแดนหน้า แทน เอิร์วีน กับ อาเดรียน ฮูนตอนด์จี รูปเกมรุกเจ้าถิ่นไหลลื่นขึ้น มีโอกาสส่องไกลและครอสอันตรายเข้ากรอบหลายครั้ง แต่ติดเซฟ เฟรเดริค เลอโนว์ ที่ยืนตำแหน่งดีตลอดเกม
ช่วงกลางครึ่งหลัง ยูเนี่ยนแก้เกมด้วยการส่ง อเล็ก คราล, เพิร์ค โคห์น, วู-ย็อง จอง และ ยานิค ฮาเบเรอร์ ลงมาแพ็กเกมรับและดึงจังหวะ ทำให้เจ้าถิ่นต้องเร่งเกมมากขึ้น ยิ่งเปิดช่องให้ทีมเยือนได้สวนกลับ แต่สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบ 90 นาที ยูเนี่ยน เบอร์ลิน บุกชนะ 1-0 คว้า 3 แต้มสำคัญกลับบ้าน ส่วน ซังค์ เพาลี ต้องกลับไปแก้จังหวะจบสกอร์อย่างด่วน

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🏴 ซังค์ เพาลี (ระบบ 3-5-2) – เรตติ้ง Sofascore 6.65
ผู้รักษาประตู
- นิโคลา วาซิลย์ (22) เรตติ้ง 6.6 เซฟลูกสำคัญได้หลายครั้งแต่ไปไม่ถึงประตูของเคห์ดิร่า
กองหลัง
- คาร์ล เม็ตส์ (3) 7.2 ขึ้นเกมริมเส้นขวาได้ดีทั้งรับและรุก
- ฮาูเกอ วาห์ล (5) 7.1 คุมเกมในกรอบเขตโทษ อ่านจังหวะโหม่งเคลียร์ได้หลายลูก
- จุนกิ ฟูจิตะ (16) 6.7 มีใบเหลืองติดตัวแต่ยังช่วยดันไลน์สูงได้ต่อเนื่อง
กองกลาง
- ลูคัส อ็อปปี (23) 6.7 เติมเกมรุกทางซ้ายต่อเนื่อง
- เอริก สมิธ (8) 6.6 เชื่อมบอลแดนกลาง คอยไล่บีบเพรสซิ่ง
- เจมส์ แซนด์ส (6) 6.7 เป็นศูนย์กลางการจ่ายบอลสั้นๆ คุมจังหวะ
- โจอี้ เอิร์วีน กัปตันทีม (7) 6.6 ทำงานหนักทั้งรุกและรับ ก่อนถูกเปลี่ยนออก
- อาเดรียน เพียร์ก้า (11) 6.8 เติมเกมรุกด้านกว้าง มีจังหวะครอสสวยๆ หลายครั้ง
กองหน้า
- อาเดรียน ฮูนตอนด์จี (27) 6.1 ใช้ความแข็งแกร่งพักบอล แต่หาช่องจบไม่ค่อยเจอ
- มาร์คุส พิงค์ ลาเก้ (28) 6.6 พยายามหาพื้นที่ในเขตโทษแต่ได้โอกาสยิงไม่มาก
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- อับดูลาย เซเซย์ (9) เรตติ้ง 6.0 ลงนาที 64 แทน เอิร์วีน เติมมิติเลี้ยงกินตัว
- ดาเนล ซินานี (10) 6.7 ลงนาที 64 แทน ฮูนตอนด์จี ช่วยสับไกยิงไกล
- คอนเนอร์ เม็ตคาล์ฟ (24) 6.9 ลงนาที 73 แทน เพียร์ก้า โดดเด่นเรื่องการเคลื่อนที่หาช่อง
- มาร์ทีน ไคร์ส (19) 6.4 ลงนาที 87 แทน ลาเก้ ลุ้นลูกกลางอากาศช่วงท้าย
ตัวสำรองไม่ได้ลง
เบน โฟลล์ (1), ลาร์ส ริตซ์คา (21), ฟิน สตีเวนส์ (14), แยนนิค โธมัส โรบัทช์ (34), ริคกี้-เจด โจนส์ (26)
🔴 ยูเนี่ยน เบอร์ลิน (ระบบ 3-4-2-1) – เรตติ้ง Sofascore 6.88
ผู้รักษาประตู
- เฟรเดริค เลอโนว์ (1) เรตติ้ง 7.2 เซฟจังหวะสำคัญหลายครั้ง เป็นอีกคนที่ช่วยเซฟ 3 แต้ม
กองหลัง
- ดานิโล ดอคคี (5) 7.5 แนวรับตัวหลักเคลียร์บอลได้เหนียวแน่น
- เลโอโปลด์ เคอร์เฟ็ลด์ (14) 7.8 ยืนตำแหน่งยอดเยี่ยม อ่านเกมขาด ปิดทางบุกคู่หน้าเจ้าถิ่น
- ดิเอโก เลอิเต (4) 7.4 เติมเกมจากหลังและช่วยตัดบอลในจังหวะสุดท้าย
วิงแบ็ก / กองกลางริมเส้น
- คริสโตเฟอร์ ทริมเมิล กัปตันทีม (28) 6.7 ประคองเกมฝั่งขวา เติมครอสเป็นระยะ
- ทิม โรเธอ (15) 6.9 ขยันวิ่งทั้งเกมก่อนถูกเปลี่ยนออก
- อเล็กซ์ เคมไลน์ (6) 6.8 เชื่อมเกมกลางสนาม จ่ายบอลนิ่งๆ
- รานี่ เคห์ดิร่า (8) 7.4 คนยิงประตูชัย วิ่งบีบเพรสซิ่งตัดเกมคู่แข่งตลอด 90 นาที
ตัวรุก
- โอลิเวอร์ เบิร์ก (7) 6.4 พยายามใช้สปีดฉีกแนวรับ
- ลัวด์ อันซาห์ (10) 6.7 ทำเกมเชื่อมระหว่างกลางกับหน้า
- อันเดรียส อีลิช (23) 6.2 ยืนหน้าเป้า คอยพักบอลให้ตัวรุกทะลุช่อง
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- อเล็ก คราล (33) 6.7 ลงนาที 65 แทน อีลิช ลงมาช่วยคุมจังหวะเกม
- เดอร์ริค โคห์น (39) 6.7 ลงนาที 73 แทน โรเธอ เติมความสดทางซ้าย
- วู-ย็อง จอง (11) 6.3 ลงนาที 73 แทน เบิร์ก ช่วยล็อกบอลพักเกมสวนกลับ
- ยานิค ฮาเบเรอร์ (19) 6.8 ลงนาที 73 แทน เคมไลน์ เพิ่มความดุดันแดนกลาง
- ทิม สคาร์เก้ (21) 6.5 ลงนาที 82 แทน อันซาห์ เติมสปีดเกมโต้
ตัวสำรองไม่ได้ลง
มาเธโอ ราบ (31), สแตนลีย์ เอ็นโซกี (34), ลีวาน เบอร์คู (9), มาริน ลยูบิซิช (27)
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้หากมองในมุม วิเคราะห์บอล แท็กติกถือว่าสู้กันสนุก ซังค์ เพาลี เลือกใช้ระบบ 3-5-2 เน้นให้วิงแบ็กอย่าง เม็ตส์ และ เพียร์ก้า ดันสูงยืนกว้าง เปิดพื้นที่ให้สองหัวหอกหาช่องในกรอบเขตโทษ ขณะเดียวกัน แซนด์ส กับ สมิธ คอยสลับกันลงต่ำเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์ช่วย 3 เซนเตอร์แบ็ก เรียกว่าเป็นการเซ็ตเกมจากหลังขึ้นหน้าแบบต่อบอลบนพื้น
ปัญหาของเจ้าถิ่นคือจังหวะสุดท้ายในพื้นที่สุดท้าย ทั้ง ฮูนตอนด์จี และ ลาเก้ ไม่ค่อยได้บอลแบบหันหน้าเข้าหาประตู ส่วนใหญ่ต้องรับบอลหันหลังแล้วคืน ทำให้การจบสกอร์จืดไป แม้ทีมจะครอสบอลเข้ากรอบเขตโทษบ่อย แต่ไม่ค่อยมีจังหวะโหม่งสวยๆ ให้ได้ลุ้นจริงๆ
ฝั่ง ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ใช้ระบบ 3-4-2-1 แบบถนัด เน้นเกมรับแน่นแล้วสวนกลับคม สามเซนเตอร์ เคอร์เฟ็ลด์–ดอคคี–เลอิเต ประสานงานกันดีมาก เวลาถูกบุกก็ยืนโซนเก็บจังหวะสองหมด ส่วนวิงแบ็กทั้ง ทริมเมิล และ โรเธอ ทำหน้าที่ขึ้นลงตลอดเกม เมื่อได้บอลก็มีตัวเลือกจ่ายให้ เคห์ดิร่า กับ เคมไลน์ ที่ยืนรับบอลระหว่างไลน์
การโต้กลับของยูเนี่ยนใช้ความเร็วของ เบิร์ก และ อันซาห์ เป็นหลัก แล้วให้ อีลิช คอยพักบอลหรือฉีกออกไปเปิดพื้นที่ ทำให้ทุกครั้งที่ซังค์ เพาลี ดันไลน์สูง ทีมเยือนมีโอกาสสวนกลับแบบได้ลุ้น ที่สำคัญคือแดนกลางคู่ เคห์ดิร่า–เคมไลน์ อ่านเกมดีมาก ตัดบอลได้หลายครั้งและเปลี่ยนจากรับเป็นรุกภายในสองจังหวะ จึงไม่แปลกที่สุดท้ายประตูเดียวในเกมจะมาจากการสอดเติมของ เคห์ดิร่า เอง
ท้ายเกมเมื่อ ซังค์ เพาลี เปิดหน้าบุกเต็มที่ ยูเนี่ยนจึงปรับมาเน้นเกมรับเต็มรูปแบบ ส่งมิดฟิลด์เชิงรับสดๆ ลงมาแพ็กหน้าเซนเตอร์ ทำให้ทุกลูกครอสของเจ้าบ้านถูกโหม่งเคลียร์เกือบหมด ภาพรวมจึงเป็นเกมที่ทีมเยือนจัดการสถานการณ์ได้เฉียบขาดกว่า

📈 สถิติการแข่งขันสะท้อนรูปเกม
ตัวเลขหลังเกมบอกชัด ซังค์ เพาลี ครองบอลมากกว่า 52% ต่อ 48% ทำการผ่านบอล 466 ครั้ง ความแม่นยำ 87% ขณะที่ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน จ่ายบอล 350 ครั้ง ความแม่นยำ 85% แม้ทีมเยือนจะครองบอลน้อยกว่าแต่ยืนโซนรับได้ดีและไม่เสียตำแหน่งง่ายๆ
ด้านโอกาสยิง เจ้าบ้านส่องทั้งหมด 9 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ขณะที่ยูเนี่ยนมีโอกาสยิง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง หนึ่งในนั้นคือประตูชัยของ เคห์ดิร่า ลูกเตะมุม ซังค์ เพาลี ได้มากถึง 8 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนได้เพียง 2 แต่ก็ยังเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ ส่วนสถิติฟาวล์ เจ้าบ้านทำ 10 ครั้ง ทีมเยือน 8 ครั้ง ใบเหลืองฝั่งละ 1 ไม่มีใบแดงและไม่มีดราม่าจังหวะตัดสินใหญ่ๆ ให้ต้องเถียงกันมาก
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
⚠️ นาที 38 จุนกิ ฟูจิตะ (ซังค์ เพาลี) รับใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์กลางสนาม
⚽ นาที 44 รานี่ เคห์ดิร่า สอดขึ้นมากดด้วยขวาให้ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ขึ้นนำ 1-0
🟨 นาที 46 รานี่ เคห์ดิร่า โดนใบเหลืองจากจังหวะเข้าปะทะช้าในแดนกลาง
🔁 นาที 64 ซังค์ เพาลี เปลี่ยน 2 คน ส่ง อับดูลาย เซเซย์ ลงแทน โจอี้ เอิร์วีน และ ดาเนล ซินานี ลงแทน อาเดรียน ฮูนตอนด์จี เพื่อเร่งเครื่องรุก
🔁 นาที 65 ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ส่ง อเล็ก คราล ลงแทน อันเดรียส อีลิช ปรับแดนกลางให้แน่นขึ้น
🔁 นาที 73 ยูเนี่ยน เบอร์ลิน เปลี่ยนรวดเดียว 3 คน เดอร์ริค โคห์น ลงแทน ทิม โรเธอ, วู-ย็อง จอง ลงแทน โอลิเวอร์ เบิร์ก และ ยานิค ฮาเบเรอร์ ลงแทน อเล็กซ์ เคมไลน์ เพื่อยืนรับลึกและสวนกลับ
🔁 นาที 73 ซังค์ เพาลี ส่ง คอนเนอร์ เม็ตคาล์ฟ ลงแทน อาเดรียน เพียร์ก้า เติมพลังริมเส้นซ้าย
🔁 นาที 82 ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ส่ง ทิม สคาร์เก้ ลงแทน ลัวด์ อันซาห์ ปรับรูปแบบมาเน้นรักษาสกอร์
🔁 นาที 87 ซังค์ เพาลี เปลี่ยนคนสุดท้าย ส่ง มาร์ทีน ไคร์ส ลงแทน มาร์คุส พิงค์ ลาเก้ ลุ้นเกมรุกช่วงท้ายแต่ไม่สำเร็จ
⭐ Player of the Match – เลโอโปลด์ เคอร์เฟ็ลด์ กำแพงเหล็กยูเนี่ยน
เกมนี้ตำแหน่ง Man of the Match ตกเป็นของ เลโอโปลด์ เคอร์เฟ็ลด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟวัยหนุ่มของ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน ด้วยเรตติ้งสูงถึง 7.8 จาก Sofascore เขาแทบไม่พลาดในการดวลลูกกลางอากาศ คอยบล็อกจังหวะยิงของคู่แข่งหลายครั้ง อ่านเกมดี ปิดช่องระหว่างเซนเตอร์ทั้งสามคนได้แน่นหนา
นอกจากเกมรับ เคอร์เฟ็ลด์ ยังช่วยออกบอลจากแนวหลังอย่างใจเย็น เลือกจ่ายสั้นให้มิดฟิลด์หรือเปลี่ยนแกนไปวิงแบ็กได้แม่นยำ ทำให้ยูเนี่ยนสามารถถ่ายบอลออกจากการเพรสของ ซังค์ เพาลี ได้ตลอด หากไม่มีเขายืนคุมหลังบ้าน สถานการณ์ของทีมเยือนในเกมนี้อาจไม่ราบรื่นแบบที่เห็น

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนบุนเดสลีกา
หลังจบเกมนี้ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน เก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนนจาก 11 นัด รั้งอันดับ 8 ของตาราง มีสิทธิ์ลุ้นพื้นที่ยุโรปต่อไป หากรักษาฟอร์มคงเส้นคงวาในช่วงโปรแกรมถี่ปลายปี ขณะที่หัวตารางยังคงนำโดย บาเยิร์น มิวนิค ที่โกยไป 31 แต้ม ตามด้วย ไลป์ซิก และ เลเวอร์คูเซน ที่กำลังกดดันหนัก
ส่วน ซังค์ เพาลี สถานการณ์ไม่สวยนัก มีเพียง 7 คะแนนจาก 11 นัด รั้งอันดับ 16 อยู่ในโซนท้ายตาราง ต้องเร่งเก็บแต้มให้ได้โดยเร็ว เพราะด้านล่างอย่าง ไมนซ์ และ ไฮเดนไฮม์ ไล่จี้มาติดๆ แค่สะดุดอีกไม่กี่นัดอาจหล่นไปอยู่โซนตกชั้นเต็มตัว
📅 ตารางบอลบุนเดสลีกา นัดถัดไป
เมื่อมองไปข้างหน้าในหน้า ตารางบอล บุนเดสลีกา ซังค์ เพาลี เจองานโคตรหิน เพราะต้องบุกไปเยือน บาเยิร์น มิวนิค ในเกมลีกนัดถัดไป ก่อนจะมีโปรแกรม เดเอฟเบ โพคาล บุกเยือน มึนเช่นกลัดบัค ต่อเนื่อง เรียกได้ว่าทดสอบหัวจิตหัวใจแบบจัดเต็ม
ด้าน ยูเนี่ยน เบอร์ลิน จะได้กลับไปเล่นในบ้านเจอกับ ไฮเดนไฮม์ ในลีก ซึ่งถือเป็นโอกาสทองในการเก็บสามแต้มต่อเนื่อง และยังมีเกมบอลถ้วยดวล บาเยิร์น มิวนิค รออยู่เช่นกัน โปรแกรมแน่นขนาดนี้ แฟนบอลต้องจับตาฟอร์มของทีมว่าจะยืนระยะได้ดีแค่ไหน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และผลบอลสด ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่ตามลุ้นคู่นี้ผ่านหน้าเว็บ บ้านผลบอล หรือเช็กสกอร์สดกันแบบนาทีต่อนาที บ้านกีฬา ขอย้ำเลยว่าช่วงโค้งท้ายปีของบุนเดสลีกาจะยิ่งเดือดขึ้นเรื่อยๆ แฟนบอลสามารถติดตามสกอร์สด ข่าวอัปเดตก่อนใคร และบทวิเคราะห์เกมมันส์ๆ พร้อม ผลบอลสด รายวันได้ที่ บ้านกีฬา เหมือนเดิม กดเข้ามาเมื่อไหร่ มีบอลให้เช็ก มีเรื่องให้คุยตลอดทั้งซีซั่น

