บ้านผลบอล สรุปหลังเกม พรีเมียร์ลีก เดือดที่เทิร์ฟมัวร์ เนโต้ควงกิวกดคนละเม็ดพาเชลซีบุกสยบเบิร์นลี่ย์ 2-0 ไล่ล่าจ่าฝูงต่อเนื่อง

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง เบิร์นลี่ย์ 0-2 เชลซี วันนี้ 22/11/68 – บ้านกีฬา

เกม พรีเมียร์ลีก คืนนี้ที่เทิร์ฟมัวร์จบลงด้วยชัยชนะของ เชลซี ที่เล่นกันแน่นเปรี๊ยะ ทั้งเกมรับและเกมรุก ก่อนบุกอัด เบิร์นลี่ย์ 2-0 เก็บสามแต้มเต็มต่อหน้าแฟนเจ้าถิ่นที่ได้แต่เงียบกริบ สกอร์จาก จามาล กิตเตนส์ นาที 37 และดาวรุ่ง มาร์ก กิว นาที 88 ส่ง “สิงห์บลูส์” ขยับแต้มไล่กดดันจ่าฝูงแบบจังๆ ส่วนเจ้าบ้านจมโซนหนีตายต่อไปเหมือนเดิม ผลนี้ถูกอัปเดตเต็มๆ บนหน้า บ้านผลบอล และในระบบ ผลบอลสด แบบเรียลไทม์ตั้งแต่นาทีแรกจนจบเกม

⚽ ครึ่งแรก: สิงห์บลูส์คุมจังหวะก่อนปล่อยหมัดนำ

เริ่มเกม เบิร์นลี่ย์ของ สก็อตต์ พาร์คเกอร์ วางแท็กติกระวังตัวจัด 4-3-3 เน้นแพ็กกลางให้แน่น ปิดพื้นที่ตรงริมเส้นไม่ให้แนวรุกเชลซีเล่นง่าย ช่วง 15 นาทีแรกเจ้าถิ่นพยายามไล่เพรสสูงบ้างเป็นระยะ แต่คุณภาพจังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ

เชลซีของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เปิดเกมด้วยระบบ 4-2-3-1 ต่อบอลสั้นขึ้นเกมจากหลังอย่างใจเย็น ใช้ เอ็นโซ แฟร์นันเดซ กับ อันเดรย์ ซานโตส คุมแดนกลาง แล้วปล่อยให้ เปโดรู เนตู, ชูเอา เปโดร และ จามาล กิตเตนส์ ทำเกมรุกใส่แนวรับเจ้าถิ่น นาที 37 ความเหนือชั้นก็แสดงผล เนตู ลากบอลจี้เข้ากรอบ ก่อนไหลให้ กิตเตนส์ สอดมากดเน้นๆ ส่งบอลตุงตาข่าย ให้เชลซีนำ 1-0 แบบเฉียบคม

ช่วงท้ายครึ่งแรก เบิร์นลี่ย์พยายามดันไลน์สูงขึ้น แต่กลับต้องระวังเกมสวนที่อันตรายของเชลซี จน เปโดรู เนตู โดนใบเหลืองข้อหาเล่นช้าในช่วงทดเวลาแรก เกมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-1 และรูปเกมที่ทีมเยือนคุมทุกอย่างอยู่หมัด

🔁 ครึ่งหลัง: เบิร์นลี่ย์ฮึดไม่ขึ้น ก่อนโดนปิดบัญชีท้ายเกม

กลับมาครึ่งหลัง พาร์คเกอร์เริ่มปรับหมาก แต่ทันทีที่เปลี่ยนตัว เชลซีกลับยิ่งแน่นขึ้น มาเรสก้าถอด รีซ เจมส์ ที่มีปัญหาบาดเจ็บออก ส่ง เบอนัวต์ บาดิยาชิล ลงมาช่วยยืนเซ็นเตอร์คู่ ทรเวอร์ ชาโลบาห์ ทำให้แนวรับทีมเยือนยิ่งสูงใหญ่และเหนียวแน่นกว่าเดิม

นาที 60-75 เป็นช่วงที่เบิร์นลี่ย์เปิดหน้าแลกมากสุด ส่งตัวรุกลงมาเป็นพรวนทั้ง ลายล์ ฟอสเตอร์, อาร์มันโด้ โบรฆา, ฮันนิบัล เมบรี้ และ ยาค็อบ บรููน ลาร์เซน หวังกดดันแนวรับสิงห์บลูส์ แต่ทุกลูกโดน ตอซิน อดาราบิโอยอ คุมพื้นที่ในกรอบเขตโทษเก็บหมด ไม่มีจังหวะยิงแบบจังๆ ให้เห็นนัก

ด้านเชลซีเมื่อเปลี่ยนเอา มาร์ก กิว ลงมาล่าสกอร์ในช่วงท้าย ก็ยิ่งได้ความสดเพิ่ม นาที 88 บอลต่อเนื่องจาก เอ็นโซ แฟร์นันเดซ แทงทะลุช่องตัดแนวรับให้ กิว หลุดเดี่ยวไปจบสกอร์อย่างเยือกเย็นเป็น 2-0 ปิดกล่อง ในนาทีสุดท้ายเบิร์นลี่ย์พยายามยกบอลบอมบ์ใส่อีกครั้ง แต่ก็ไร้ผล จบเกมเชลซีบุกชนะสวยๆ 2-0 เก็บสามแต้มใสๆ ในนัดนี้

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง คะแนน และการเปลี่ยนตัว

🟣 เบิร์นลี่ย์ (4-3-3, เรตติ้งเฉลี่ย 6.48)

ตัวจริง

  • ผู้รักษาประตู: มาร์ติน ดูบราฟก้า (6.4)
  • แผงหลัง:
    • แบ็กขวา คายล์ วอล์คเกอร์ (6.4, ใบเหลือง)
    • เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อักเซิล ทวนเซเบ้ (6.7)
    • เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ มักซิม เอสเตฟ (6.6)
    • แบ็กซ้าย โลม่า เชาอูน่า (6.8)
  • กองกลาง:
    • จอช คัลเลน กัปตันทีม (6.4)
    • เลสลี่ อูโกชุกวู (6.5)
    • ซิออน เฟลมมิง (6.6)
  • แนวรุก:
    • ควินน์ ฮาร์ตแมน (6.2)
    • ฟิลิปเป้ หลุยส์ (6.6)
    • จอร์ดอน แอนโธนี (6.5)

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • ฮันนิบัล เมบรี้ (6.3) ลง 72′ แทน อูโกชุกวู
  • ลายล์ ฟอสเตอร์ (6.4) ลง 72′ แทน แอนโธนี
  • อาร์มันโด้ โบรฆา (6.5) ลง 72′ แทน เฟลมมิง
  • ยาค็อบ บรููน ลาร์เซน (6.5) ลง 76′ แทน เชาอูน่า
  • จอช โลรองต์ (6.3) ลง 84′ แทน ฟิลิปเป้ หลุยส์

ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
แม็ก ไวส์, ฮาล์มาร์ เอคดัล, ลูคัส ปิเรส, มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์

🔵 เชลซี (4-2-3-1, เรตติ้งเฉลี่ย 7.06)

ตัวจริง

  • ผู้รักษาประตู: โรเบิร์ต ซานเชซ (7.2)
  • แผงหลัง:
    • แบ็กขวา รีซ เจมส์ (กัปตัน, 6.7)
    • เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ตอซิน อดาราบิโอยอ (8.6)
    • เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ทรเวอร์ ชาโลบาห์ (7.0)
    • แบ็กซ้าย มาร์ก คูคูเรย่า (6.4)
  • กองกลางตัวรับ:
    • เอ็นโซ แฟร์นันเดซ (7.7)
    • อันเดรย์ ซานโตส (7.3)
  • ตัวรุกสามคนด้านหลังหน้าเป้า:
    • ปีกขวา เปโดรู เนตู (7.4, ใบเหลือง)
    • เพลย์เมกเกอร์ ชูเอา เปโดร (6.6, ใบเหลือง)
    • ปีกซ้าย จามาล กิตเตนส์ (7.0, ยิง 1)
  • ศูนย์หน้าตัวเป้า: เลียม เดลาป (6.2)

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • เบอนัวต์ บาดิยาชิล (6.8, ใบเหลือง) ลง 46′ แทน รีซ เจมส์
  • มาโล กุสโต้ (7.0) ลง 67′ แทน เดลาป
  • มาร์ก กิว (6.9, ยิง 1) ลง 76′ แทน ชูเอา เปโดร

ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
ฟิลิป ยอร์เกนเซน, จอช อาชีอามปง, จอร์เรล ฮาโต้, มอยเซส ไคเซโด้, เอสเตวาโอ, อเลฆานโดร การ์นาโช่

ผู้เล่นบาดเจ็บ/ติดโทษแบนที่สำคัญ
เบิร์นลี่ย์: จอร์แดน เบเยอร์, เซกี้ อัมดูนี่, คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, เอนอค อักเยยี่
เชลซี: มีไคโล มูดริก (แบน), ดาริโอ เอซซูโก้, เลวี โคลวิลล์, โรเมโอ ลาเวีย, โคล พาลเมอร์

🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับจากบ้านกีฬา

ถ้ามองในมุม วิเคราะห์บอล เชิงแท็กติก เกมนี้คือภาพสะท้อนชัดเจนของทีมที่ระบบชัด กับทีมที่ยังหาจุดลงตัวไม่เจอ เชลซีของ มาเรสก้า เล่น 4-2-3-1 แต่ในยามครองบอลจะยกไลน์ขึ้นเป็น 3-2-5 แบ็กซ้ายคูคูเรย่าเติมสูง ขณะที่รีซ เจมส์หุบเข้ามายืนกึ่งกลาง ช่วยสร้างโอเวอร์โหลดในโซนกลางร่วมกับ เอ็นโซ และซานโตส ทำให้พวกเขาครองบอลได้เหนือกว่าและคุมจังหวะเกมแทบทั้งหมด

การขึ้นเกมของสิงห์บลูส์เน้นบอลสั้นต่อเนื่องจากแนวรับขึ้นมาถึงกลาง จากนั้นปล่อยให้ เนตู และกิตเตนส์ ใช้สปีดและการเลี้ยงกินตัวฉีกแนวรับเบิร์นลี่ย์ออกจากกัน พอแนวรับถอยลึก ช่องตรงครึ่ง spaces ระหว่างแนวหลังกับกลางก็เปิดให้ ชูเอา เปโดร หาพื้นที่เล่นหนึ่งสอง หรือแทงทะลุให้เดลาปวิ่งตัดไลน์ แม้วันนี้เดลาปจะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่การวิ่งเปิดพื้นที่ของเขาทำให้สองประตูสำคัญเกิดขึ้น

ฝั่งเกมรับ เชลซีทำได้แทบไร้ที่ติ การยืนโซนของคู่เซ็นเตอร์ อดาราบิโอยอ กับ ชาโลบาห์ ช่วยกันปิดช่องโยนของเบิร์นลี่ย์ได้หมด ทุกครั้งที่บอลเปิดเข้ากรอบเขตโทษ จะเห็นตอซินโหม่งเคลียร์ได้ตลอด ความนิ่งของ เอ็นโซ ที่คอยถอยลงมารับหน้าปากประตูอีกชั้น ทำให้เจ้าบ้านแทบไม่ได้ยิงในจุดอันตราย

ส่วนเบิร์นลี่ย์ แม้ระบบ 4-3-3 จะพยายามบีบกลางด้วยการเพรสสูง แต่เมื่อทีมเสียบอล แถวกลางดันถอยไม่ทัน ทำให้โดนสวนกลับค่อนข้างง่าย ปีกทั้งสองข้างช่วยเกมรับไม่มากนัก ส่งผลให้ฟูลแบ็กถูกเล่นงานตลอดทั้งเกม เมื่อเปลี่ยนมาเน้นโยนยาวและครอสจากริมเส้น ก็ยังเข้าทางเซ็นเตอร์สูงใหญ่ของเชลซีอยู่ดี

📊 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมยืนยันทุกอย่างชัดเจน เบิร์นลี่ย์ยิงรวมได้เพียง 8 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 2 ลูก ตรงกันข้ามกับเชลซีที่ซัดถึง 15 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ลูก และสองในนั้นเปลี่ยนเป็นประตู การครองบอลสิงห์บลูส์เหนือกว่าชัดเจน 59% ต่อ 41% พร้อมกับจำนวนการผ่านบอล 425 ครั้ง เทียบกับเจ้าถิ่น 321 ครั้ง ที่สำคัญคือความแม่นยำในการจ่ายบอล เชลซีทำได้สูงถึง 94% ขณะที่เบิร์นลี่ย์อยู่ที่ 86% เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความนิ่งของทีมเยือนในการคุมเกม

แม้เบิร์นลี่ย์จะฟาวล์มากกว่า 13 ต่อ 8 ครั้ง และกดดันจนได้ใบเหลือง 2 ใบ ขณะที่เชลซีโดน 3 ใบ แต่ในเชิงเกมรุกกลับเป็นทีมเยือนที่สร้างโอกาสได้ต่อเนื่อง ลูกเตะมุมก็เช่นกัน เชลซีได้ถึง 9 ครั้ง ขณะที่เจ้าบ้านมีเพียง 1 มุมตลอด 90 นาที ตัวเลขทั้งหมดจึงสรุปง่ายๆ ว่าเกมนี้เชลซีควบคุมสถานการณ์ไว้ในมือเกือบทุกวินาที

⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม

  • ⚽ 37′ จามาล กิตเตนส์ ซัดประตูให้เชลซีนำ 1-0 จากการทำชิ่งกับ เปโดรู เนตู ก่อนกดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ
  • ⏱️ 41′ เปโดรู เนตู โดนใบเหลืองจากจังหวะถ่วงเวลาเล่นลูกนิ่ง
  • 🟨 46′ เชลซีเปลี่ยนตัว รีซ เจมส์ มีอาการเจ็บ ส่ง เบอนัวต์ บาดิยาชิล ลงแทน พร้อมรับใบเหลืองในเวลาต่อมา
  • 🟨 49′ คายล์ วอล์คเกอร์ ฟูลแบ็กเบิร์นลี่ย์โดนจดชื่อจากจังหวะตัดฟาวล์ริมเส้น
  • 🔁 67′ มาโล กุสโต้ ลงมาแทน เลียม เดลาป ปรับรูปเกมให้แนวรุกเชลซีสดขึ้น
  • 🔁 72′ เบิร์นลี่ย์เปลี่ยนสามคนรวด ส่ง ฮันนิบัล เมบรี้, ลายล์ ฟอสเตอร์, อาร์มันโด้ โบรฆา ลงมาเพิ่มความดุดันในแดนหน้า
  • 🟨 69′ ชูเอา เปโดร รับใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์กลางสนาม
  • 🟨 82′ ฮันนิบัล เมบรี้ กับ เบอนัวต์ บาดิยาชิล มีจังหวะปะทะคารมจนผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ทั้งคู่
  • 🔁 76′ เชลซีส่ง มาร์ก กิว ลงล่าสกอร์แทน ชูเอา เปโดร ขณะที่เบิร์นลี่ย์เติม ยาค็อบ บรููน ลาร์เซน ลงมาแทน เชาอูน่า
  • ⚽ 88′ มาร์ก กิว หลุดไปยิงปิดกล่อง 2-0 จากบอลแทงทะลุช่องสุดคมของ เอ็นโซ แฟร์นันเดซ
  • ⏱️ 90+6′ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลา เชลซีบุกชนะเบิร์นลี่ย์ 2-0

🌟 Player of the Match – ตอซิน อดาราบิโอยอ

แมนออฟเดอะแมตช์ต้องยกให้ ตอซิน อดาราบิโอยอ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของเชลซีที่ได้คะแนนสูงสุด 8.6 เล่นได้อย่างเหนือชั้นตลอด 90 นาที เกมรับแทบไม่พลาดจังหวะสำคัญเลย ไม่ว่าจะเป็นการโหม่งเคลียร์บอลครอสจากปีกของเบิร์นลี่ย์ การอ่านเกมดักบอลบนพื้น หรือการยืนตำแหน่งคุมไลน์ล้ำหน้า

ตอซินยังมีส่วนช่วยในเกมรุกด้วยการเปิดบอลยาวเปลี่ยนแกนไปให้ปีกทั้งสองฝั่งบ่อยครั้ง ทำให้เชลซีสามารถเปลี่ยนจุดโจมตีได้รวดเร็ว ยิ่งในช่วงที่เจ้าบ้านโยนบอมบ์ใส่ในช่วงท้ายเกม เขายืนเป็นเสาหลักปัดบอลทุกลูกออกจากกรอบ เขตโทษจนแฟนเบิร์นลี่ย์แทบหมดหวังจะได้ลุ้นตีไข่แตก เรียกได้ว่าเป็นฟอร์มระดับผู้นำแนวรับของทีมใหญ่เต็มตัว

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

หลังจบเกมนี้ เชลซีขยับขึ้นรั้งอันดับ 2 ของตาราง มี 23 คะแนนจาก 12 นัด ตามหลังอาร์เซน่อลจ่าฝูงที่มี 26 แต้มเพียง 3 คะแนนเท่านั้น ความต่อเนื่องในฟอร์มการเล่นและเกมรับที่แข็งแกร่งทำให้พวกเขาถูกพูดถึงอีกครั้งในฐานะทีมลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้

ส่วนเบิร์นลี่ย์ สถานการณ์น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง หล่นไปอยู่อันดับ 19 มีเพียง 10 คะแนนจาก 12 นัด ยิงได้ 14 เสียถึง 24 ประตู ลูกได้เสียติดลบ -10 และอยู่เหนือบ๊วยอย่างวูล์ฟแฮมป์ตันแค่ไม่กี่คะแนนเท่านั้น โปรแกรมข้างหน้าจึงไม่มีคำว่า “พลาด” ได้อีก เพราะทุกแต้มมีความหมายต่อการหนีตกชั้นโดยตรง

📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีก นัดถัดไปของทั้งสองทีม

จากข้อมูล ตารางบอล ที่อัปเดตล่าสุด เบิร์นลี่ย์ต้องเจอกับโปรแกรมหินต่อเนื่อง

  • 29/11/25 เวลา 22:00 น. – เบรนท์ฟอร์ด พบ เบิร์นลี่ย์
  • 04/12/25 เวลา 02:30 น. – เบิร์นลี่ย์ พบ คริสตัล พาเลซ

ขณะที่เชลซีมีคิวลงสนามทั้งบอลยุโรปและเกมใหญ่ในลีก

  • 26/11/25 เวลา 03:00 น. – เชลซี พบ บาร์เซโลน่า (ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก)
  • 30/11/25 เวลา 23:30 น. – เชลซี พบ อาร์เซน่อล (พรีเมียร์ลีก)

ถือเป็นช่วงโปรแกรมโหดที่แฟนบอลต้องจับตาทั้งในแง่ฟอร์มและการโรเตชันผู้เล่น ใครอยากตามเชียร์แบบครบทุกคู่ อย่าลืมเช็ก ตารางบอล และ โปรแกรมบอล ผ่านหน้าข่าวของบ้านกีฬาได้ตลอดทั้งสัปดาห์

📺 ติดตามบ้านผลบอลและผลบอลสดกับบ้านกีฬา

แฟนบอลที่อยากตามเกาะติดทุกจังหวะของพรีเมียร์ลีก นัดต่อๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นสกอร์สด รายงานจังหวะสำคัญ หรือสถิติแบบละเอียด สามารถติดตาม บ้านผลบอล และเช็ก ผลบอลสด ได้ตลอดเวลาที่ บ้านกีฬา เราพร้อมอัปเดตทุกคู่ ทุกลีกใหญ่ พร้อมบทวิเคราะห์เกมแบบเจาะลึกให้แฟนบอลได้เสพอย่างจุใจเหมือนนั่งดูข้างสนาม

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา