แท็กซี่จ้างแค้นคัมแบ็ก! Taxi Driver 3 ซีรีส์เกาหลี 2025 เดือดกว่าเดิม ดูครบทุกซีซั่นที่ Viu

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

Taxi Driver 3 แท็กซี่จ้างแค้น 3 กลับมาล่าเหยื่อในยุคที่ความยุติธรรมเดินช้าเกินไป

ต้อนรับการมาของแฮชแท็กแรง #TaxiDriver3 แบบสมศักดิ์ศรี Viu ไม่ปล่อยให้คอซีรีส์รอเก้อ จัดหนักเสิร์ฟให้ดูทั้ง Taxi Driver ซีซั่น 1–2 แบบซับไทยถูกลิขสิทธิ์ แถมต่อด้วยซีซั่นใหม่ Taxi Driver 3 แท็กซี่จ้างแค้น 3 (2025) ที่เริ่มออนแอร์อย่างเป็นทางการในเกาหลีวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ทางช่อง SBS ทุกวันศุกร์–เสาร์ เวลา 22.00 น. (ตามเวลาเกาหลี) รวมทั้งหมด 16 ตอน และสตรีมซับไทยพร้อมเกาหลีที่ Viu เช่นเดิม

ซีรีส์ชุดนี้ไม่ใช่ม้ามืด แต่เป็น ตำนานเรตติ้ง ตั้งแต่ซีซั่นแรก – ตอนจบ Taxi Driver 1 ทำเรตติ้งในเกาหลีทะลุเกิน 15% ขึ้นไปตามสถิติ Nielsen Korea ก่อนที่ Taxi Driver 2 จะปิดซีซั่นด้วยเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศถึง 21% ขึ้นแท่นหนึ่งในซีรีส์เรตติ้งแรงที่สุดของปี 2023 และกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ SBS ประกาศเดินหน้าทำซีซั่น 3 แบบไม่ต้องคิดนาน

ล่าสุดกับการกลับมาของ Taxi Driver 3 ซีรีส์ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผลงานที่ถูกจับตาสูงที่สุดของปี 2025 ทั้งจากแฟนเกาหลีและแฟนซีรีส์ทั่วเอเชีย เพราะนอกจากเนื้อเรื่องจะยกระดับความเข้มข้นขึ้นอีกขั้น ยังได้ทีมเดิมกลับมาครบสูตร ทั้ง อีเจฮุน – พโยเยจิน – คิมอึยซอง – จางฮยอกจิน – แบยูรัม พร้อมเสริมทัพด้วยชื่อใหม่อย่าง Edan Lui ไอดอลจากวง MIRROR ร่วมแจมในฐานะพันธมิตรต่างชาติของทีมแท็กซี่สายรุ้งด้วย

ดู Taxi Driver ครบ 3 ซีซั่นได้ที่ไหน? Viu จัดให้ดูยาวๆ

สายสตรีมไม่ต้องงง บ้านกีฬา สรุปให้ชัดๆ สำหรับคนที่เพิ่งอยากขึ้นแท็กซี่คันนี้เป็นครั้งแรก หรืออยากย้อนดูให้ครบก่อนขึ้นซีซั่น 3

  • ช่องออกอากาศหลัก (เกาหลี): SBS ทุกวันศุกร์–เสาร์ เวลา 22.00 น. (KST)
  • ช่วงเวลาออกอากาศ Taxi Driver 3: 21 พฤศจิกายน 2568 – 10 มกราคม 2569 (ตามกำหนดเบื้องต้น)
  • จำนวนตอน: 16 ตอน
  • ซับไทยถูกลิขสิทธิ์ในไทย: ดูได้ที่ Viu ทั้ง Taxi Driver 1, Taxi Driver 2 และ Taxi Driver 3 (ซีซั่น 3 สตรีมใกล้เคียงเวลาเกาหลี)

สำหรับคอซีรีส์ไทย Viu จัดหมวดหมู่แบบดูง่าย มีทั้ง เพลย์ลิสต์รวมทุกซีซั่น, ตัวอย่าง Trailer, บทสัมภาษณ์ และคอนเทนต์เสริมอื่นๆ ใครอยากไล่ดูตั้งแต่เคสแรกจนถึงเคสล่าสุดในซีซั่น 3 สามารถเปิดดูต่อเนื่องได้แบบมาราธอนยาวๆ ไม่ต้องรอทีวีรีรัน

เรื่องย่อ Taxi Driver 3 (2025) – แท็กซี่จ้างแค้นกลับมาสตาร์ทรถในสเกลใหญ่กว่าเดิม

Taxi Driver 3 แท็กซี่จ้างแค้น 3 ยังคงเล่าเรื่องทีมงานจากบริษัท แท็กซี่สายรุ้ง (Rainbow Taxi) ที่ไม่ได้รับผู้โดยสารเพื่อไปส่งบ้านธรรมดา แต่รับเฉพาะคนที่ “ถูกระบบความยุติธรรมทอดทิ้ง” เมื่อศาล–ตำรวจ–กฎหมายไม่สามารถช่วยเหลือได้ พวกเขาจะเป็น “มือที่มองไม่เห็น” เข้ามารับช่วงต่อ

จุดตั้งต้นของซีซั่น 3 ตามไลน์ทางการจากฝั่ง Viu และสื่อเกาหลีคือ สายโทรศัพท์ปริศนาจากประเทศญี่ปุ่น เด็กสาวคนหนึ่งโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือ ก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับ ทำให้ คิมโดกี และสมาชิกแท็กซี่สายรุ้งต้องกลับมารวมทีมอีกครั้ง พร้อมขยายสนามล่าคนเลวจากเกาหลีออกสู่ต่างประเทศในสเกลที่ใหญ่ขึ้นทั้งด้านอาชญากรรมและเครือข่ายเบื้องหลัง

ซีซั่นนี้ยังคงโทน แอ็กชัน–ทริลเลอร์–อาชญากรรม–ดราม่า เหมือนเดิม แต่ใส่ความเข้มข้นทางอารมณ์มากกว่าเดิมหลายเท่า ตัวละครต้องหวนกลับไปเผชิญหน้ากับอดีต, บาดแผลทางใจ และคำถามด้านศีลธรรมว่า “เรามีสิทธิ์แค่ไหนที่จะจัดการความยุติธรรมในแบบของตัวเอง”

จากเว็บตูน “Mobeom Taxi” สู่ซีรีส์เรตติ้งระดับปรากฏการณ์

Taxi Driver ไม่ได้เกิดจากไอเดียลอยๆ แต่สร้างมาจากเว็บตูนชื่อ “The Deluxe Taxi” หรือ “Mobeom Taxi” ผลงานของ Carlos และ Lee Jae-jin ซึ่งใช้เคสอาชญากรรมรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นจริงในเกาหลีเป็นแรงบันดาลใจ แล้วดัดแปลงให้ Rainbow Taxi เข้าไป “เอาคืนแทนเหยื่อ” ในแบบดาร์กฮีโร่

ธีมหลักของเรื่องคือคำถามว่า

“เมื่อกฎหมายไม่แฟร์… เราจะปล่อยให้เหยื่อเดินไปต่ออย่างไร?”

แต่ละเคสใน Taxi Driver ทั้ง 2 ซีซั่นก่อนหน้านี้ มักจะอิงจากข่าวหน้าหนึ่งหรือคดีดังระดับชาติ เช่น การถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน, แรงงานทาส, คดีคุกคามทางเพศ, ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ฯลฯ ทำให้คนดูอินเป็นพิเศษ เพราะรู้สึกว่า “เคยเห็นข่าวแบบนี้จริงๆ แต่ในชีวิตจริงคนร้ายบางคนกลับลอยนวล”

ในซีรีส์ คนดูจึงได้เห็น “เวอร์ชันสมมติ” ที่ทีมแท็กซี่สายรุ้งเข้าไปแก้เกม ใช้ทั้งการปลอมตัว แฮ็กข้อมูล ล่อซื้อ วางแผนกับดัก จนคนร้ายโดนลงโทษแบบแสบสัน สร้างความสะใจให้แฟน ๆ ทั่วเอเชีย ขณะเดียวกันก็สะท้อนปัญหาสังคมได้ตรงไปตรงมา ไม่โลกสวย

ด้วยโครงเรื่องแบบนี้ทำให้ Taxi Driver กลายเป็นหนึ่งใน ซีรีส์เกาหลีแนวล้างแค้น–สังคม ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในยุคหลัง โดยเฉพาะในหมู่คนที่ชอบลุค “ฮีโร่ใต้ดิน” ที่ไม่ได้ใส่ชุดรัดรูป แต่ใส่ชุดคนขับแท็กซี่ธรรมดา สะท้อนภาพว่า “คนธรรมดาก็อยากเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นจริงในสังคมไม่ต่างกัน”

เปิดแฟ้มตัวละครหลัก Taxi Driver 3 – ทีมแท็กซี่สายรุ้งรุ่นใหญ่ของแท้

คิมโดกี (Lee Je-hoon) – คนขับแท็กซี่ที่แบกบาดแผลทั้งกายและใจ

คิมโดกี คือหัวใจของเรื่อง อดีตนายทหารหน่วยรบพิเศษที่เคยทำงานในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 707 ก่อนจะสูญเสียแม่ให้กับฆาตกรต่อเนื่อง ทำให้ชีวิตพังทลาย และกลายเป็นคนที่ใช้ความเจ็บปวดเป็นเชื้อเพลิงในการลุกขึ้นมารับบท “คนขับแท็กซี่ล้างแค้น” ให้กับเหยื่อรายอื่น ๆ

ใน ซีซั่น 3 เส้นเรื่องจะลงลึกไปที่ บาดแผลทางใจ (PTSD) ของโดกีมากขึ้น – เขาไม่ได้แค่เป็นเครื่องจักรล้างแค้น แต่เป็นมนุษย์ที่ต้องเรียนรู้จะอยู่ร่วมกับอดีตที่ตามหลอกหลอน การแก้แค้นแต่ละเคสจึงไม่ใช่แค่ “งาน” แต่กลายเป็น “วิธีเยียวยา” ของตัวเขาเองด้วย

บ้านกีฬา มองว่าโดกีคือภาพแทนของคนที่เคยถูกความอยุติธรรมทำร้าย แต่เลือกจะไม่ยอมแพ้ และใช้ความเจ็บปวดตรงนั้นเป็นแรงผลักให้ช่วยคนอื่นที่เจอชะตาใกล้กัน

จางซองชอล (Kim Eui-sung) – ซีอีโอแท็กซี่สายรุ้ง ผู้เป็นทั้งพ่อพระและเพชฌฆาตในคนเดียวกัน

จางซองชอล คือซีอีโอของบริษัทแท็กซี่สายรุ้ง และผู้อำนวยการมูลนิธิ Blue Bird ที่ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ภายนอกเขาดูสุภาพ อบอุ่น ใจดี แต่เมื่อถึงเวลาจัดการคนเลว เขากลายเป็นคนที่ “เย็นชาแต่ยุติธรรม” แบบไม่ลังเล

หลังผ่านเหตุการณ์เฉียดเสียบริษัทและทีมในซีซั่นก่อนๆ ซีซั่น 3 มีแนวโน้มว่าเขาจะ ลงมาหน้าฉากมากขึ้น ทั้งในแผนภาคสนามและการตัดสินใจที่เดิมพันด้วยชีวิตทีมงาน บทบาทของเขาไม่ใช่แค่ “หัวหน้าหลังโต๊ะ” แต่เป็นคนที่ต้องรับผิดชอบเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความยุติธรรมกับการล้ำเส้นกฎหมาย

อันโกอึน (Pyo Ye-jin) – แฮกเกอร์สาวที่กลายเป็นหัวใจด้านดิจิทัลของทีม

โกอึน เริ่มต้นจากการเป็นแฮกเกอร์ที่ใช้ทักษะ IT เพื่อช่วยทีมดึงข้อมูล กล้องวงจรปิด บัญชีลับ ฯลฯ แต่ตั้งแต่ซีซั่น 2 เธอเริ่มลงพื้นที่มากขึ้น แสดงให้เห็นทั้งสกิลการต่อสู้และความกล้าทางจิตใจ

ใน Taxi Driver 3 นักแสดงอย่างพโยเยจินก็ยืนยันผ่านสื่อว่า ตัวละครโกอึนจะมีพัฒนาการทางอารมณ์และความรับผิดชอบที่หนักขึ้นไปอีก เธออาจกลายเป็น “นักปฏิบัติการภาคสนามเต็มตัว” ที่ไม่ใช่แค่คนอยู่หลังจอคอมพิวเตอร์อีกต่อไป

สำหรับแฟนซีรีส์ เธอคือภาพแทนของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้สวมชุดฮีโร่ แต่ใช้สกิลเทคโนโลยีมาช่วยเปลี่ยนเกมให้ฝ่ายเหยื่อมีโอกาสสู้กับระบบที่ไม่แฟร์

ชเวคยองกู – ช่างรถอัจฉริยะที่แฝงความฮาและความลับ

ชเวคยองกู หัวหน้าทีมช่างยนต์ของแท็กซี่สายรุ้ง อดีตนักพัฒนารถยนต์ในบริษัทรถใหญ่ ทักษะของเขาคือการดัดแปลงรถให้กลายเป็นอาวุธและเกราะป้องกันเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นช่องซ่อนตัว กล้องลับ ระบบดักฟัง หรือระบบไล่ตามเป้าหมาย

ในซีซั่น 3 มีแนวโน้มว่าเราจะเห็นเขา ปลอมตัวในบทบาทที่ซับซ้อนขึ้น ไม่ใช่แค่ช่างซ่อมรถหรือบทตลกผ่อนคลาย แต่เป็น “สายลับภาคพื้นดิน” ที่อาจมีเบื้องหลังเชื่อมกับโลกใต้ดินบางอย่างอยู่ด้วย

พัคจินอน – ผู้ช่วยช่างที่อัปเกรดเป็นมันสมองด้านเทคนิค

พัคจินอน เคยทำงานด้านการผลิตเครื่องบิน ก่อนจะมาร่วมทีมแท็กซี่สายรุ้ง จุดเด่นคือสายเทคนิค–วิศวกรรม ที่ช่วยดีไซน์อุปกรณ์ล้ำๆ ให้ทีมใช้งาน

ในซีซั่นใหม่ เขามีโอกาสได้โชว์บทบาทมากกว่าคู่หูสายฮา น่าจะได้ลงสนามช่วยออกแบบ แกดเจ็ต–อุปกรณ์ต่อต้านอาชญากรรมเทคโนโลยีสูง ซึ่งเข้ากับยุคที่อาชญากรใช้โลกออนไลน์, คริปโต, แพลตฟอร์มดิจิทัล เป็นเครื่องมือก่อเหตุ

สมาชิกใหม่–พันธมิตรต่างชาติ

หนึ่งในจุดขายของ Taxi Driver 3 คือการดึง Edan Lui (อีดาน ลุย) จากวง MIRROR มาร่วมงานในฐานะพันธมิตรต่างชาติ ทำให้เรื่องราวมีมิติ คดีข้ามชาติ–แก๊งนอกประเทศ มากขึ้น เชื่อมโยงกับสายโทรศัพท์จากญี่ปุ่น และอาจเปิดประตูสู่เคสในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียด้วย

นี่คือสัญญาณว่าซีรีส์ไม่ได้เล่าแค่ปัญหาสังคมเกาหลี แต่กำลังขยายจักรวาลไปสู่ “อาชญากรรมในยุคเอเชียไร้พรมแดน” อย่างเต็มรูปแบบ

ทำไม Taxi Driver 3 ถึงเป็นซีรีส์เกาหลีที่ต้องดูในปี 2025

  1. เรตติ้งเดิมคือการันตีคุณภาพ
    ด้วยการที่ซีซั่น 2 ปิดตัวด้วยเรตติ้ง 21% และขึ้นอันดับต้นๆ ของปี ซีซั่น 3 จึงไม่ใช่การฝืนยืดเรื่อง แต่เป็นการต่อยอดจากฐานแฟนที่แข็งแรงอยู่แล้ว
  2. เนื้อหาทันสังคม–หยิบคดีคล้ายของจริงมาตีแผ่
    ในยุคที่ข่าวคดีรุนแรง, การกลั่นแกล้ง, การค้ามนุษย์ และช่องโหว่กฎหมายเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจ Taxi Driver คือซีรีส์ที่ใช้บันเทิงมาขยายบทสนทนาทางสังคมแบบตรงจุด
  3. คาแรกเตอร์ชัด–ทีมเวิร์กแข็ง เหมือนดูทีมฟุตบอลที่รู้ใจกันทุกตำแหน่ง
    เคมีของ อีเจฮุน – พโยเยจิน – คิมอึยซอง – จางฮยอกจิน – แบยูรัม คือเสน่ห์หลักที่แฟน ๆ พูดถึงตลอด และซีซั่น 3 ก็ยังคงยกเซ็ตนี้มาครบ พร้อมเสริมตัวละครใหม่ให้ดีกรีความเข้มข้นสูงขึ้นไปอีก
  4. ตอบโจทย์ยุคสตรีมมิง – ดูเคสต่อเคส จบไวแต่สะใจ
    โครงสร้างแบบ “หนึ่งเคส–หลายตอน” ทำให้คนดูดูจบง่าย เหมาะกับการดูมาราธอนบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Viu มากๆ แม้พล็อตใหญ่จะลากยาวทั้งซีซั่น แต่แต่ละเคสก็มีจุดพีก–จุดสะใจของตัวเอง
  5. สำหรับคนเพิ่งเริ่มดูซีรีส์เกาหลี Taxi Driver เป็นจุดเริ่มที่โคตรดี
    เพราะมีครบทั้งแอ็กชัน, ดราม่าครอบครัว, ปมสืบสวน, ความสัมพันธ์ระหว่างทีม และการสะท้อนสังคมแบบไม่ยืดเยื้อ คนที่ไม่ชอบซีรีส์รักหวานๆ จะถูกจริตมากเป็นพิเศษ

เคล็ดลับเตรียมตัวก่อนดู Taxi Driver 3 ให้สนุกกว่าเดิม

  • ถ้ายังไม่เคยดูเลย แนะนำให้ไล่จาก Taxi Driver 1 → Taxi Driver 2 เพื่อเข้าใจบาดแผลของแต่ละตัวละคร แล้วค่อยขึ้น Taxi Driver 3 จะอินแบบเต็มแม็กซ์
  • ระหว่างดู ลองสังเกตว่าแต่ละเคสสะท้อน “ประเด็นสังคม” เรื่องไหนบ้าง เช่น การคุกคามในที่ทำงาน, ช่องโหว่ของศาล, ปัญหาหนี้นอกระบบ ฯลฯ จะยิ่งรู้สึกว่าซีรีส์ไม่ได้เล่าอะไรเกินจริง
  • สำหรับสายคุยซีรีส์ในโซเชียล ลองตามแฮชแท็กอย่าง #TaxiDriver3 หรือแฮชแท็กที่ Viu ใช้โปรโมต จะได้ไม่ตกข่าวเบื้องหลัง, คลิปพิเศษ, หรือการวิเคราะห์คดีจากแฟน ๆ ทั่วเอเชีย

สรุป: Taxi Driver 3 คือแท็กซี่ที่คอซีรีส์ปี 2025 ไม่ควรพลาด

ในปีที่ K-Drama มีซีรีส์ใหม่ดาหน้ากันมาทุกเดือน Taxi Driver 3 แท็กซี่จ้างแค้น 3 คือหนึ่งในเรื่องที่ “ต้องจดไว้ในลิสต์” สำหรับคนที่ชอบซีรีส์เข้มข้น มีแอ็กชันจัดเต็ม แต่ไม่ทิ้งประเด็นสังคมและบาดแผลของตัวละคร

มันไม่ใช่แค่เรื่องของการล้างแค้น แต่มันคือเรื่องของ คนที่ถูกความอยุติธรรมทำร้าย และยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งลุกขึ้นมาบอกว่า “ถ้ากฎหมายช่วยไม่ได้… เดี๋ยวเราไปจัดการให้”

ใครยังไม่ขึ้นแท็กซี่คันนี้ บ้านกีฬา บอกเลยว่ากำลังพลาดหนึ่งในซีรีส์เกาหลีที่เข้มข้นที่สุดของยุค และสำหรับแฟนเก่าที่ตามมาตั้งแต่ซีซั่นแรก ก็ได้เวลาสตาร์ทเครื่องรอ Taxi Driver 3 ไปพร้อมกันบนหน้าจอ Viu แล้ว

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา ได้ทุกวัน เราจะคอยอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของวงการซีรีส์–หนัง–กีฬา ให้คุณไม่ตกเทรนด์แน่นอน

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา