เซเรโซ่ โอซาก้า เลือกความต่อเนื่อง เชื่อมือปาปาสพาทีมพัฒนาได้มากกว่านี้
สโมสรดังแห่งศึก เจลีก อย่าง เซเรโซ่ โอซาก้า ตัดสินใจชัดเจนเรื่องอนาคตบนม้านั่งสำรอง ประกาศต่อสัญญาให้กุนซือชาวออสเตรเลียวัย 43 ปี อาเธอร์ ปาปาส ทำหน้าที่คุมทีมต่อในฤดูกาล 2026 แม้ซีซั่น 2025 จะหลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ไปแล้ว แต่บอร์ดบริหารยังคงเชื่อว่ากุนซือรายนี้คือคนที่ใช่สำหรับการต่อยอดสไตล์ฟุตบอลเกมรุกของทีมในระยะยาว
ดีลต่อสัญญาครั้งนี้สะท้อนชัดว่า เซเรโซ่ไม่ต้องการเริ่มต้นใหม่ทุกปี แต่เลือกวางโครงสร้างทีมบนรากฐานเดิมของปาปาส ทั้งไอเดียการเล่น สไตล์การเซ็ตบอลจากแดนหลัง การเพรสซิ่งสูง และการบุกแบบดุดันที่แฟนบอลเริ่มคุ้นตาในฤดูกาลนี้
มองข้ามผลลัพธ์ระยะสั้น เซเรโซ่เลือกลงทุนกับไอเดียเกมรุก
สิ่งที่บอร์ดบริหารออกมาย้ำคือ “เป้าหมายหลักในฤดูกาล 2026 คือการให้ปาปาสเดินหน้าพัฒนาเกมรุกต่อเนื่อง” นั่นเท่ากับว่า เซเรโซ่กำลังวางเดิมพันกับการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ที่เน้นการครองบอล การโจมตีหลากหลายรูปแบบ และการสร้างสรรค์เกมในพื้นที่สุดท้าย มากกว่าการมองเพียงอันดับตารางคะแนนในช่วงสั้น ๆ
แม้ปี 2025 ทีมจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์จนถึงท้ายซีซั่น แต่ผลงานในเชิงรูปแบบการเล่น โดยเฉพาะในฝั่งเกมบุก กลับไปในทิศทางที่ชัดเจนและมีพัฒนาการ เห็นได้จากจำนวนประตูที่ยิงได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของลีก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บอร์ดไม่ลังเลในการมอบความไว้วางใจให้กุนซือออสซี่รายนี้ต่อไป
เตรียมทีม 2026 ยาว ๆ ปรับเป็นฤดูกาลข้ามปีเริ่มเตะ 7 สิงหาคม
การต่อสัญญาของปาปาสยังมาพร้อมแผนระยะยาวของสโมสรในช่วงเตรียมทีมระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน พ.ศ. 2569 โดยสโมสรจะมีเวลาทดลองทั้งผู้เล่นหน้าใหม่ แท็กติก และรูปแบบการเล่นที่หลากหลายมากขึ้น ก่อนที่ฤดูกาลใหม่ (ซึ่งจะปรับให้เป็นการเตะแบบ “ข้ามปี”) จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2569
ช่วงพรีซีซั่นที่ยาวและชัดเจนแบบนี้ จะทำให้ปาปาสมีโอกาสจูนทีมให้เข้ากับแนวทางของตัวเองอย่างเต็มที่ ทั้งการทดสอบระบบ การลองจับผู้เล่นบางคนไปยืนในตำแหน่งใหม่ การให้โอกาสดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ และการเช็กฟอร์มนักเตะต่างชาติ ว่าใครตอบโจทย์ฟุตบอลเกมรุกของเซเรโซ่มากที่สุด ก่อนตัดสินใจเซ็ตโครงสร้าง 11 ตัวจริงสำหรับฤดูกาล 2026
เจลีก 2025: เซเรโซ่อยู่กลางตาราง แต่เกมรุกไม่ธรรมดา
ในมุมของผลงาน เจลีก ฤดูกาล 2025 ภายใต้การคุมทีมของปาปาส เซเรโซ่ โอซาก้า รั้งอันดับ 10 ของตาราง เก็บได้ 52 คะแนนจาก 36 นัด ด้วยผลงาน ชนะ 14 เสมอ 10 แพ้ 12 ยิงได้ 58 ประตู และเสีย 51 ประตู (โดยฤดูกาลยังไม่จบสมบูรณ์ในตอนนี้)
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดว่า ทีมยังมีปัญหาเรื่องความนิ่งในเกมรับ เสียประตูค่อนข้างเยอะ แต่ในทางกลับกัน เกมรุกกลับมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับแนวหน้า เมื่อมองจากค่าเฉลี่ยประตูที่ทำได้ ความกล้าเล่นแบบเปิดหน้าแลก และจำนวนเกมที่ทีมยิงคู่แข่งได้หลายลูกในนัดเดียว
ผลงานบอลถ้วย: ลูวาน คัพ และเอ็มเพอเรอร์ คัพ ยังต้องยกระดับ
ในฟุตบอลถ้วยผลงานของเซเรโซ่ในปี 2025 ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร ทั้ง ลูวาน คัพ และ เอ็มเพอเรอร์ คัพ ต่างจบลงที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเหมือนกันทั้งสองรายการ
การตกรอบในจุดนี้สะท้อนว่า ทีมยังขาด “ความเฉียบขาดในแมตช์น็อกเอาต์” ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข หากเซเรโซ่ต้องการก้าวไปเป็นทีมลุ้นแชมป์อย่างจริงจังในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ในมุมของบอร์ด พวกเขามองว่ารากฐานของการเล่นแบบเกมรุกจัดจ้านและมีเอกลักษณ์ที่ปาปาสวางไว้ มีคุณค่าพอให้ใช้เป็นฐานในการพัฒนาผลงานบอลถ้วยในอนาคต
จุดขายชัดเจน: เซเรโซ่ในยุคปาปาสคือทีมเกมรุกอันดับท็อปของลีก
แม้ผลงานโดยรวมในแง่ลุ้นแชมป์จะยังไปไม่ถึงเป้า แต่จุดเด่นที่ชัดที่สุดของ เซเรโซ่ โอซาก้า ยุคอาเธอร์ ปาปาส คือการเป็นทีมที่ “ใส่เกมรุกเต็มระบบ” และกลายเป็นหนึ่งในทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีก
สถิติระบุชัดว่า เซเรโซ่ยิงประตูรวม 58 ลูกในลีก เป็นทีมที่ทำประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของ เจลีก เป็นรองเพียง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ที่ยิงไป 66 ประตู และ เกียวโต ซังงะ ที่ยิง 59 ประตูเท่านั้น
การยืนอยู่บนหัวตารางด้านจำนวนประตูที่ทำได้แบบนี้ บอกได้ชัดว่าปาปาสสร้าง “ดีเอ็นเอเกมรุก” ให้ทีมได้สำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว ทั้งจังหวะต่อบอลเร็ว การขึ้นเกมจากแดนกลาง การใช้พื้นที่ด้านข้าง และการเติมเกมของผู้เล่นหลายตำแหน่งที่ร่วมกันสร้างความอันตรายในพื้นที่สุดท้าย
สำหรับแฟนบอล การได้เห็นทีมของตัวเองเล่นฟุตบอลที่สนุก ดุดัน และกล้าบุกใส่คู่แข่ง ถือเป็นสิ่งที่ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าจะมีอะไรให้ลุ้น ให้สนุกในทุกนัด แม้บางครั้งผลการแข่งขันอาจยังไม่มาถึงจุดที่ทุกคนต้องการ แต่ “สไตล์” ที่ชัดเจน คือสิ่งที่สโมสรเลือกจะต่อยอดต่อไป
ฟุตบอลสมัยใหม่: ทำไมสโมสรถึงเลือกความต่อเนื่องมากกว่าการเปลี่ยนโค้ชบ่อย
ในยุคที่หลายสโมสรรีบเปลี่ยนโค้ชทันทีเมื่อผลงานสะดุด การที่เซเรโซ่เลือกต่อสัญญาปาปาสคือสัญญาณว่าพวกเขากำลังเล่นเกมระยะยาว สิ่งสำคัญของฟุตบอลสมัยใหม่ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ในหนึ่งฤดูกาล แต่คือ “กระบวนการ” ตั้งแต่การเลือกสไตล์การเล่น การพัฒนาเยาวชน การเสริมทัพให้เข้ากับระบบ ไปจนถึงการสร้างทีมที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง
การมีโค้ชคนเดิมคุมต่อ ทำให้ทีมสามารถต่อยอดจากสิ่งที่สร้างเอาไว้ ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ไม่ต้องรื้อแท็กติก รื้อโครงสร้าง แล้วเสียเวลาไปอีกหนึ่งฤดูกาลกับการปรับตัวแทนที่จะพัฒนา สโมสรก็จะมีเวลาใช้ไปกับการ “เพิ่มคุณภาพ” มากกว่าการ “แก้ปัญหาพื้นฐาน”
สำหรับแฟนบอลชาวไทยที่ติดตาม เจลีก และเชียร์เซเรโซ่ การเข้าใจแนวคิดนี้ช่วยให้เห็นภาพว่า ทำไมสโมสรถึงเลือกให้เวลาโค้ช และยอมเดินไปบนเส้นทางที่อาจไม่ได้หวือหวาเรื่องถ้วยทันที แต่มีโอกาสปั้นทีมให้แข็งแรงและเล่นฟุตบอลสนุกในระยะยาว
แฟนบอลรอชม – เซเรโซ่เวอร์ชันใหม่ภายใต้ปาปาส จะดุแค่ไหนในฤดูกาล 2026
เมื่อทุกอย่างถูกวางภาพไว้ชัด ทั้งแนวทางเกมรุกที่เป็นจุดขาย ตัวเลขการทำประตูที่ยืนยันคุณภาพ การเตรียมทีมยาว ๆ ตั้งแต่ต้นปี 2569 และการเริ่มฤดูกาลใหม่ในระบบข้ามปีวันที่ 7 สิงหาคม แฟนบอลเซเรโซ่มีสิทธิ์คาดหวังว่าฤดูกาล 2026 จะเป็นอีกก้าวสำคัญของทีม
คำถามคือ ปาปาสจะยกระดับเกมรับให้แน่นขึ้นไปพร้อมกับเกมรุกที่โหดอยู่แล้วได้หรือไม่? การเสริมทัพใหม่จะเข้ากับระบบของเขาแค่ไหน? และเซเรโซ่จะก้าวจากทีมเกมรุกดูสนุก ไปเป็นทีมลุ้นพื้นที่หัวตารางหรือแชมป์ได้จริงหรือเปล่า นี่คือสิ่งที่แฟนบอลต้องติดตามกันยาว ๆ
สำหรับใครที่อยากตามต่อทั้งข่าวเจลีก ความเคลื่อนไหวของ เซเรโซ่ โอซาก้า และประเด็นเด็ดในวงการลูกหนังจากญี่ปุ่นถึงยุโรป บอลเจลีกบ้านกีฬา จะยังคงอัปเดตทุกมุมสนาม วิเคราะห์แบบจัดเต็ม และเล่าเรื่องฟุตบอลให้เข้าใจง่าย สนุก และดุดันในแบบคนรักบอลตัวจริง อย่าลืมกดติดตาม บ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกข่าวร้อนจากโลกฟุตบอล
