Infinite Bernabéu โปรเจ็กต์สุดล้ำที่เปลี่ยนเบร์นาเบวให้ไร้ขอบเขต
สโมสร เรอัล มาดริด เดินเกมนอกสนามดุดันไม่แพ้ในสนาม เมื่อ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ดันโปรเจ็กต์ Infinite Bernabéu จับมือกับยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่าง Apple เป้าหมายคือพาแฟนบอลทั่วโลกเข้าไปสัมผัสบรรยากาศใน ซานติอาโก เบร์นาเบว ผ่านโลกเสมือนจริง VR แบบสมจริงทุกองศา เหมือนนั่งเชียร์อยู่ข้างสนามในค่ำคืนเกมใหญ่
นี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรดถ่ายทอดสดธรรมดา แต่คือการยกระดับ “ประสบการณ์แฟนบอล” ให้แฟน เรอัล มาดริด กว่าพันล้านคนทั่วโลก ได้ใกล้ชิดทีมรักมากกว่าที่เคยเป็นมา และสำหรับแฟนบอลชาวไทย นี่คืออีกหนึ่งก้าวสำคัญของโลกฟุตบอล ที่ทำให้ระยะทางจากมาดริดถึงกรุงเทพฯ เหลือแค่ระยะห่างระหว่างเรากับอุปกรณ์ VR เท่านั้น
โปรเจ็กต์ Infinite Bernabéu คืออะไร ทำไมทั้งโลกต้องจับตา
ไอเดีย Infinite Bernabéu ไม่ใช่แค่โปรเจ็กต์ไฟไหม้ฟาง แต่เป็นสิ่งที่เปเรซบ่มเพาะมาหลายปี เขาอธิบายผ่านบทสัมภาษณ์กับ GQ ว่า
“นี่คือโปรเจ็กต์ที่ผมผลักดันมาหลายปี เพื่อให้แฟนบอลทุกคนได้สัมผัสความตื่นเต้นของเบร์นาเบวราวกับอยู่ในสนามจริง” เปเรซให้สัมภาษณ์กับ GQ “ผมเรียกมันว่า Infinite Bernabéu สถานที่ที่ใครก็ตามสามารถดูเกมสดจากบ้านของตัวเอง พร้อมความรู้สึกมีตัวตนและอารมณ์ร่วมในแบบที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน”
หัวใจของโปรเจ็กต์จึงไม่ใช่แค่ภาพสวย เสียงชัด แต่คือการสร้าง “ความรู้สึกมีตัวตน” ให้แฟนบอลรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของเกมจริงๆ ไม่ว่าจะนั่งอยู่ที่สเปน อังกฤษ อเมริกา หรือประเทศไทยก็ตาม
เกมใหญ่กับยูเวนตุส – ห้องทดลองเทคโนโลยี VR ระดับท็อป
เพื่อทดสอบความโหดของเทคโนโลยีนี้ Real Madrid เลือกใช้เกม ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดสำคัญที่เปิดบ้านเชือดยูเวนตุส 1-0 เป็นสนามทดลองระดับพรีเมียม ในเกมนั้นมีการติดตั้ง “กล้องพิเศษมากกว่า 30 ตัว” ไว้ทั่วทั้งสนามเบร์นาเบว
กล้องเหล่านี้ไม่ได้จับแค่ภาพในสนามแข่งขัน แต่ยังเก็บบรรยากาศตั้งแต่ในอุโมงค์นักเตะ ขอบสนาม ซุ้มม้านั่งสำรอง ห้องสื่อมวลชน ไปจนถึงห้องแถลงข่าวหลังเกมในคืนวันที่ 22 ตุลาคม ทุกอารมณ์ ทุกจังหวะ ทุกสีหน้า ถูกบันทึกไว้ในมุมมองที่ละเอียดกว่าการถ่ายทอดสดทั่วไปหลายเท่า
ฟุตเทจชุดนี้จะถูกนำไปตัดต่อเป็นสารคดีรูปแบบใหม่ สำหรับฉายผ่านอุปกรณ์ Apple Vision Pro ในปีหน้า แฟนบอลจะไม่ได้แค่ “ดูไฮไลต์” แต่จะ “เข้าไปอยู่ในเกม” เดินตามมุมกล้องไปทั่วสนามได้ เหมือนมีบัตรผ่านหลังเวทีติดตัวอยู่ตลอดเวลา
ดีลยักษ์ Real Madrid – Apple เปิดสนามเสมือนจริงให้ทั้งโลก
โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นได้เพราะการผนึกกำลังกันระหว่างแบรนด์ลูกหนังที่ใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งของโลกอย่าง เรอัล มาดริด กับยักษ์เทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Apple ล่าสุด เปเรซเพิ่งเปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารจากแอปเปิลที่สนามเบร์นาเบว เพื่อโชว์ศักยภาพของสนามโฉมใหม่ ทั้งด้านโครงสร้าง ลิขสิทธิ์ภาพ และระบบเทคโนโลยีที่ฝังไว้ในทุกมุม
ความร่วมมือนี้ทำให้ Infinite Bernabéu ไม่ได้เป็นแค่โครงการของสโมสรฟุตบอล แต่กลายเป็นแพลตฟอร์มบันเทิงยุคใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีของ Apple ดึงอารมณ์เกมของเรอัล มาดริดมาขยายให้แฟนทั่วโลกสัมผัสได้แบบไร้ข้อจำกัด
เบร์นาเบวในบทบาทเวทีระดับโลก – จาก UCL ถึง NFL
สนาม ซานติอาโก เบร์นาเบว ยุคใหม่ไม่ได้เป็นแค่สนามเหย้าของเรอัล มาดริด แต่กำลังสร้างตัวเองให้กลายเป็นเวทีระดับโลกอย่างแท้จริง นอกจากเกมใหญ่ใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แล้ว ล่าสุดยังรับบทเจ้าภาพเกมประวัติศาสตร์ของ NFL อีกด้วย
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาลีกอเมริกันฟุตบอลอย่าง NFL ลงเล่นเกมฤดูกาลปกติ (Regular-season) นัดแรกในประวัติศาสตร์บนแผ่นดินสเปน ที่สนามเบร์นาเบว โดยผลการแข่งขัน ไมอามี ดอลฟินส์ เฉือนชนะ วอชิงตัน คอมมานเดอร์ส 16-13 ท่ามกลางแฟนกีฬา 78,610 คนที่อัดแน่นเต็มความจุ
การที่เบร์นาเบวใช้จัดทั้งเกมฟุตบอลระดับทวีปยุโรป และเกมอเมริกันฟุตบอลระดับโลก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสนามแห่งนี้ถูกรีโนเวตให้เป็น “สนามมัลติฟังก์ชันระดับโลก” ซึ่งก็ไปในทิศทางเดียวกับวิสัยทัศน์ Infinite Bernabéu ที่ต้องการเปิดสนามแห่งนี้ให้คนทั้งโลกเข้าถึงผ่านโลกเสมือนจริง
“เปิดประตูสนามให้ทั้งโลก” – เปเรซมอง Infinite Bernabéu ไกลกว่าแค่โชว์ของ
หนึ่งในประโยคสำคัญที่เปเรซพูดไว้เกี่ยวกับโปรเจ็กต์นี้ คือการเปรียบ Infinite Bernabéu ว่าเป็นสะพานเชื่อมสนามกับคนทั้งโลก เขากล่าวว่า
“มันจะเหมือนการเปิดประตูสนามให้ทั้งโลกได้เข้ามา ไม่มีข้อจำกัด ไม่มีพรมแดน” เปเรซกล่าว “ด้วยคุณภาพเทคโนโลยีที่จะกลายเป็นเส้นแบ่งก่อนและหลังในโลกกีฬา”
คำพูดนี้สะท้อนชัดว่า เป้าหมายของโปรเจ็กต์ไม่ใช่แค่การทำคลิป VR เท่ๆ ให้แฟนบอลดู แต่คือการยกมาตรฐานวงการกีฬาในภาพรวม ทำให้การ “ไปดูบอล” ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่คนมีเงินซื้อตั๋วบินไปสเปนอีกต่อไป แฟนบอลชาวไทยที่เคยคิดว่าเบร์นาเบวเป็นแค่ความฝันไกลตัว ก็มีโอกาสเข้าไปยืนกลางอัฒจันทร์ผ่านอุปกรณ์ VR ได้เหมือนกัน
ไม่ได้หมกมุ่นเรื่องเงิน แต่เน้นคืนประสบการณ์ให้แฟนเรอัล มาดริด
แน่นอนว่าโปรเจ็กต์ระดับนี้ต้องมีเรื่องรายได้เข้ามาเกี่ยว แต่เปเรซยืนยันชัดว่า เงินไม่ใช่เป้าหมายระยะสั้นของสโมสร เขาอธิบายว่า
“ผลกระทบทางเศรษฐกิจแน่นอนว่าสำคัญ แต่ไม่ควรเป็นสิ่งที่เราหมกมุ่นในระยะสั้น” เขากล่าว “สิ่งที่พิเศษจริงๆ คือการมอบประสบการณ์ที่แฟนเรอัล มาดริดนับพันล้านคนทั่วโลกอยากจะได้รับ”
จุดยืนแบบนี้ทำให้เห็นว่าเรอัล มาดริดพยายามสร้างภาพของสโมสรที่ไม่ได้คิดถึงแฟนบอลแค่ในฐานะลูกค้า แต่เป็นชุมชนของคนที่รักทีมเหมือนกัน และสมควรได้รับประสบการณ์ระดับสูงสุดเท่าที่เทคโนโลยีในยุคนี้จะมอบให้ได้
เบร์นาเบวเวอร์ชัน VR กับอนาคตการเชียร์บอลของแฟนบอลชาวไทย
เมื่อโลกเดินมาถึงยุคที่การดูบอลไม่ได้จำกัดอยู่แค่หน้าจอทีวี แต่ขยับไปถึงการ “เข้าไปอยู่จริง” ผ่าน VR แฟนบอลชาวไทยก็จะกลายเป็นผู้เล่นตัวจริงในสมรภูมิประสบการณ์ใหม่ด้วยเช่นกัน
ลองนึกภาพวันที่เราใส่แว่น Apple Vision Pro แล้วเลือกมุมกล้องเองได้ จะไปยืนข้างธงมุมสนามตอนทีมรักเตะมุม จะเดินลงอุโมงค์ตามหลังนักเตะก่อนขึ้นเกม จะมองภาพรวมจากชั้นบนสุดของอัฒจันทร์ หรือไปยืนแทบเส้นข้างสนามข้างโค้ช ก็ทำได้ทั้งหมดในระดับภาพและเสียงที่แทบไม่ต่างจากการไปจริง นี่คือทิศทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของโลกกีฬา และสโมสรยักษ์ใหญ่จะทยอยเดินตามรอยกันในอนาคต
สำหรับแฟนบอลไทยที่เคยมีข้อจำกัดเรื่องเวลา งบประมาณ หรือวีซ่า เทคโนโลยีแบบนี้คือคำตอบที่จะทำให้คำว่า “ไปดูบอลที่ยุโรป” ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันอีกต่อไป แม้จะเป็นการไปในโลกเสมือน แต่ความรู้สึกในหัวใจแฟนบอลไม่ต่างจากการไปนั่งเชียร์ในสนามจริงเลย
เทคโนโลยีกับฟุตบอล – คู่หูระยะยาวของโลกกีฬายุคใหม่
มองในภาพใหญ่ โปรเจ็กต์ Infinite Bernabéu คือสัญญาณชัดเจนว่าฟุตบอลไม่ได้แข่งกันแค่ผลงานในสนาม แต่แข่งกันที่ “ประสบการณ์แฟนบอล” ใครสร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้แฟนรู้สึกใกล้ทีมรักมากที่สุด คนนั้นจะได้เปรียบทั้งด้านภาพลักษณ์ แบรนด์ และความจงรักภักดีในระยะยาว
แนวทางนี้ยังเป็นตัวอย่างให้สโมสรอื่นๆ ทั่วโลก ทั้งในยุโรปและเอเชีย มองเห็นทิศทางว่าการลงทุนด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ผู้ชม ไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือการวางรากฐานให้สโมสรอยู่รอดและเติบโตในยุคที่คนดูมีตัวเลือกความบันเทิงเต็มจอ การดึงแฟนบอลให้อยู่กับทีมไปอีก 10-20 ปีข้างหน้า จึงต้องเริ่มจากวันนี้
ตามลุ้นโลกฟุตบอลยุค VR ไปพร้อมแฟนบอลทั่วโลกกับ บ้านกีฬา
โปรเจ็กต์ Infinite Bernabéu ที่เรอัล มาดริดทำร่วมกับ Apple คืออีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการลูกหนัง ที่ยืนยันว่าอนาคตของการเชียร์บอลจะไม่ได้หยุดอยู่แค่หน้าจอปกติอีกต่อไป แต่จะขยับไปสู่การเข้าไป “ใช้ชีวิตร่วมกับเกม” อย่างแท้จริง
แฟนบอลชาวไทยที่อยากเกาะกระแสเทคโนโลยีใหม่ๆ ของวงการฟุตบอล ทั้งข่าวความเคลื่อนไหวของสโมสรใหญ่ ความเปลี่ยนแปลงของสนามระดับโลก และโปรเจ็กต์ล้ำๆ แบบนี้ สามารถติดตามได้ต่อเนื่องที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา เราจะคอยอัปเดตทุกจังหวะสำคัญของโลกฟุตบอลยุคใหม่ ที่เทคโนโลยีและอารมณ์เกมเดินเคียงข้างกันอย่างลงตัว
