กัมพูชาประกาศถอนตัว – จุดที่ทำแฟนกีฬาทั้งภูมิภาคตั้งคำถาม
วงการสอยคิวอาเซียนเกิดประเด็นเดือดทันที เมื่อทัพนักบิลเลียด กัมพูชา ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568 การประกาศครั้งนี้สร้างความประหลาดใจอย่างมาก เพราะพวกเขาให้เหตุผลเรื่อง “ความปลอดภัย” และ “ศักดิ์ศรีชาติ” แต่ข้อมูลจากหลายด้านกลับชี้ว่าเหตุผลดังกล่าวไม่ใช่ปัจจัยหลักของการถอนตัวในครั้งนี้
ประเด็นใหญ่: ไม่มีกีฬา “ถนัด” อยู่ในโปรแกรมแข่งขัน
เมื่อพิจารณาโปรแกรมบิลเลียดสปอร์ตปีนี้ ไทยเจ้าภาพได้ปรับให้เหลือเพียงสองประเภทคือ สนุกเกอร์ และ บิลเลียด ต่างจากซีเกมส์หลายครั้งก่อนที่มี สนุกเกอร์, บิลเลียด, พูล, และ แครอมบอล ซึ่งเป็นจุดแข็งของกัมพูชา
การที่ แครอมบอล ถูกตัดออกจากโปรแกรมทำให้ทัพเขมรแทบหมดโอกาสคว้าเหรียญตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ขุมกำลังที่เคยสร้างชื่อในกีฬาถนัดของพวกเขาไม่สามารถลงชิงเหรียญได้ ส่งผลให้ศักยภาพในการแข่งขันหายไปแทบทั้งหมด
ปัญหาภายในทีม: ขาดสตาร์ดังที่เป็นความหวังเหรียญรางวัล
กัมพูชาต้องเผชิญปัญหาใหญ่เมื่อ สอน ชัย (Suon Chhay) มือดีประจำทีมและเจ้าของผลงานเหรียญทองสนุกเกอร์คู่ 15 แดงในซีเกมส์ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ ถอนตัวออกจากทัพตั้งแต่ก่อนประกาศรายชื่อ
สอน ชัย ถือเป็นนักกีฬาที่เคยสร้างผลงานระดับมาสเตอร์ โค่นทั้ง เทพไชยา อุ่นหนู และ หม่า ไห หลง มาแล้ว แต่เนื่องจากเกิดปัญหาขัดแย้งภายในกับสหพันธ์บิลเลียดกัมพูชา ทำให้ทีมต้องเสียกำลังสำคัญแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อไม่มีสตาร์หลัก โอกาสลุ้นเหรียญจึงลดลงเหลือแทบศูนย์ ยิ่งเสริมความเป็นไปได้ว่าการถอนตัวอาจเป็น “กลยุทธ์ถอย” มากกว่าเหตุผลด้านความปลอดภัย
ความปลอดภัย: ข้ออ้าง หรือความกังวลจริง?
แม้กัมพูชาจะอ้างว่าไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยของนักกีฬา แต่ฝ่ายจัดการแข่งขันจากไทยยืนยันว่ามีมาตรการครบถ้วน โดยนักกีฬาจะพักและแข่งขันในพื้นที่ปิดภายใน โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ จอมเทียน จังหวัดชลบุรี ซึ่งปลอดภัยและไม่ได้เป็นสถานที่ที่มีแฟนกีฬาเข้าชมหนาแน่นเหมือนกีฬากลางแจ้ง ทำให้ความเสี่ยงแทบไม่มี
ข้อเท็จจริงนี้จึงทำให้คำอ้างเรื่องความปลอดภัยของกัมพูชาถูกตั้งคำถามทันที
การอ่านเกมแบบแฟนกีฬามองว่ามาจากโอกาสลุ้นเหรียญต่ำ
ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่ไม่เอื้อต่อความถนัดของทีม และการหายไปของนักกีฬาตัวหลัก แฟนกีฬาหลายฝ่ายมองว่ากัมพูชาถอนตัวเพราะ “ไม่อยากไปแบบไร้ความหวัง” มากกว่าจะกังวลเรื่องความปลอดภัยโดยตรง
เมื่อเทียบกับชาติอื่นในภูมิภาคที่มีโครงสร้างกีฬาสอยคิวแข็งแกร่งกว่า เช่น ไทย, เมียนมา และมาเลเซีย โอกาสที่กัมพูชาจะคว้าเหรียญในปีนี้จึงแทบเป็นศูนย์จริงๆ และอาจทำให้พวกเขาเลือกถอยก่อนเพื่อลดกระแสวิจารณ์หรือความกดดันภายใน
กีฬาบิลเลียดในอาเซียนและแนวโน้มอนาคต
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บิลเลียดและสนุกเกอร์เป็นกีฬาที่อาเซียนทำผลงานโดดเด่นในเวทีนานาชาติ โดยเฉพาะไทยที่เป็นมหาอำนาจของภูมิภาค ขณะที่ชาติอย่างเมียนมา ฟิลิปปินส์ และมาเลเซียก็มีนักกีฬาเก่งกาจจำนวนมาก
ความเปลี่ยนแปลงในประเภทการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ทำให้หลายชาติเริ่มเรียกร้องให้จัดโปรแกรมให้หลากหลายและครอบคลุมความสามารถของแต่ละประเทศมากขึ้น เพื่อให้ทัวร์นาเมนต์เป็นธรรมและเปิดโอกาสแก่ชาติเล็กๆ เช่นเดียวกับกรณีของกัมพูชา
จับตาบิลเลียดซีเกมส์ 2025 จะยังคงดุเดือดแม้ไร้กัมพูชา
แม้การถอนตัวของกัมพูชาจะทำให้การแข่งขันลดสีสันไปบ้าง แต่ทัวร์นาเมนต์ยังคงน่าติดตามอย่างยิ่ง เพราะทีมนำของอาเซียนยังอยู่ครบ และแต่ละชาติเตรียมส่งนักกีฬาชุดจัดเต็มลงประลอง
ศึกสอยคิวซีเกมส์ปลายปีนี้จึงยังเป็นเวทีที่แฟนกีฬาชาวไทยไม่ควรพลาด เพราะมีโอกาสสูงที่ทีมชาติไทยจะโกยเหรียญจากประเภทที่ตัวเองถนัด และยังเป็นโอกาสดีในการผลักดันนักกีฬารุ่นใหม่ให้แจ้งเกิดในระดับภูมิภาค
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวเดือดๆ ของซีเกมส์ 2025 และข่าวกีฬารอบวันได้ที่ บ้านกีฬา

