บรรยากาศกิจกรรมสุดคึกคักที่เชียงราย
ที่สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย บรรยากาศร้อนแรงตั้งแต่เช้า เมื่อบรรดาซูเปอร์สตาร์วอลเลย์บอลทีมชาติไทยทั้งรุ่นพี่และรุ่นเก๋า ยกทัพขึ้นเหนือร่วมกิจกรรม Domestic Power Volleyball – พี่สอนน้อง (Volleyball Grassroots) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของวงการลูกยางไทย ที่ตั้งใจผลักดันเยาวชนให้เข้าถึงกีฬาอย่างใกล้ชิดและเป็นระบบมากที่สุด
งานนี้มี นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการฝ่ายส่งเสริมกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่ประธานเปิดกิจกรรม พร้อมกล่าวต้อนรับน้อง ๆ กว่า 90 ชีวิต จากโรงเรียนในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ที่พร้อมลงสนามเรียนรู้ทักษะจากไอดอลตัวจริงของพวกเขา
ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติไทยตัวจริงเสียงจริงร่วมสอน
ไฮไลต์ของงานครั้งนี้คือการได้เห็นรุ่นพี่ระดับทีมชาติไทย ทั้งอดีตและปัจจุบัน ลงมาคลุกฝุ่นสอนน้องแบบใกล้ชิด นำโดย
- “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี
- “หน่อง” ปลื้มจิตร ถินขาว
- “ปู” มลิกา กันทอง
- “เอ” สุพัตรา ไพโรจน์
- “เจมส์” จิรายุ รักษาแก้ว
- “โค้ชยะ” ณัฐพนธ์ ศรีสมุทรนาค
เหล่านักตบระดับประเทศพาน้อง ๆ ลงทำกิจกรรมในรูปแบบฐานทักษะทั้งหมด 9 ฐานเต็มรูปแบบ ไล่ตั้งแต่พื้นฐานการรับ–เสิร์ฟ การยืนตำแหน่ง การเคลื่อนที่ ไปจนถึงเทคนิคพิเศษที่หาชมได้เฉพาะช่วงฝึกซ้อมทีมชาติ เป็นประสบการณ์ที่เรียกได้ว่า “หาค่าไม่ได้” สำหรับเด็กอายุ 7–14 ปี ที่ได้เรียนรู้โดยตรงจากฮีโร่ในดวงใจ
ไม่เพียงแค่ความรู้ แต่แต่ละฐานยังอัดแน่นด้วยพลังงานบวก รอยยิ้ม และความสนุก พร้อมของรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้าน เรียกได้ว่าทั้งได้ฝึก ได้เล่น และได้แรงบันดาลใจกลับไปเต็ม ๆ
วิสัยทัศน์จากสมาคมฯ เดินหน้าพัฒนาลูกยางไทยอย่างยั่งยืน
นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า
“เพื่อให้สอดคลองกับนโยบายของสมาคมฯที่ได้จัดให้มีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลในทุกรุ่นอายุ ตั้งแต่ 12ปี, 14ปี, 16ปี และ 18ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนรักในกีฬาวอลเลย์บอล ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือพัฒนาเยาวชน ทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ และผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชน จัดโครงการนี้ ในวันสุดท้ายในการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลยุวชน EST COLA – DOSMESTIC POWER รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ครั้งที่ 13 (ปีที่ 36) ประจำปี 2568 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยระหว่างวันที่ 12-19 พฤศจิกายน 2568”
คำกล่าวนี้สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนาวอลเลย์บอลไทยที่ชัดเจนและต่อเนื่อง จุดสำคัญคือการสร้าง รากฐานที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขันครบทุกช่วงวัย การกระจายโอกาสไปสู่พื้นที่ต่างจังหวัด และการนำฮีโร่ทีมชาติมาเป็นแรงผลักดันให้เยาวชนเห็นเส้นทางของตัวเองชัดเจนขึ้น
โครงการที่ปลุกพลังฝัน เยาวชนคืออนาคตของลูกยางไทย
กิจกรรม “พี่สอนน้อง” ไม่ได้เป็นเพียงการฝึกทักษะเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ ได้เห็นอนาคตของตัวเองผ่านคนที่พวกเขาชื่นชม เด็กบางคนอาจเพิ่งเริ่มต้นจับลูกวอลเลย์ครั้งแรก แต่พวกเขากลับเห็นไอดอลตัวจริงลงมาจับมือ แนะนำท่าทาง และส่งกำลังใจให้แบบใกล้ชิด ซึ่งประสบการณ์เช่นนี้สามารถเปลี่ยนความฝันเล็ก ๆ ให้กลายเป็นเส้นทางอาชีพได้ในอนาคต
วอลเลย์บอลไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด การมีระบบพัฒนาเยาวชนแบบเข้มแข็งคือหัวใจของความสำเร็จในระดับทีมชาติ และกิจกรรมลักษณะนี้ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยผลักดันให้กีฬาวอลเลย์บอลไทยยืนหนึ่งในอาเซียนและมีศักยภาพต่อยอดสู่เอเชียรวมถึงเวทีโลกต่อไป
มองไปข้างหน้า กีฬาวอลเลย์บอลไทยยังคงเดินหน้าไม่หยุด
เมื่อมีโครงการที่ลงพื้นที่จริง มีการสนับสนุนจากหลายฝ่าย และมีบุคลากรในวงการที่พร้อมแบ่งปันความรู้ วงการวอลเลย์บอลไทยก็ยิ่งแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ การเจอไอดอลตัวจริงถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่เงินซื้อไม่ได้ และเป็นเหตุผลที่ทำให้โครงการนี้ได้รับเสียงชื่นชมทุกปี
ติดตามข่าววอลเลย์บอลไทย ความเคลื่อนไหวทีมชาติ และกิจกรรมเด็ด ๆ ในวงการลูกยางไทยได้ที่ วอลเลย์บอลสดบ้านกีฬา

