ปมร้อนการตัดสินไทยลีก 3 จุดประกายไอเดียใหม่จากโค้ชเศก
ประเด็นเรื่องความยุติธรรมในการตัดสินของผู้ตัดสินในศึก ไทยลีก 3 กลายเป็นเรื่องที่แฟนบอลพูดถึงแทบทุกสัปดาห์ เมื่อมีจังหวะปัญหาทั้งลูกฟาวล์ ลูกล้ำหน้า รวมถึงจังหวะได้–เสียประตูที่ถูกมองว่าตัดสินผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุด “โค้ชเศก” เศกสรร ศิริพงษ์ คนทำทีมมากประสบการณ์ในแดนล่าง ออกมาเสนอแนวทางเชิงรูปธรรมถึง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ลองนำเทคโนโลยีรูปแบบใหม่มาใช้ช่วยผู้ตัดสินในระดับ T3
ในฐานะทั้งประธานสโมสรและหัวหน้าผู้ฝึกสอนของ กำแพงเพชร เอฟซี โค้ชเศกถือเป็นหนึ่งในคนที่คลุกคลีกับฟุตบอลลีกล่างอย่างแท้จริง เห็นทั้งปัญหาในสนาม ผลกระทบต่อทีม และบรรยากาศของแฟนบอล จึงออกมาเสนอให้ใช้ “ระบบ VS” หรือ VDO Support Review เข้ามาเป็นตัวช่วยการตัดสิน แทนที่จะต้องลงทุนใช้ VAR เต็มระบบที่ใช้งบประมาณสูงและยุ่งยากกว่า
โค้ชเศกขอเสนอ “ระบบ VS” ทางเลือกช่วยเปาไทยลีก 3
เศกสรร ศิริพงษ์ ในฐานะหัวเรือใหญ่ของกำแพงเพชร เอฟซี มองว่าการพัฒนาคุณภาพการตัดสินไม่จำเป็นต้องพุ่งไปสู่การใช้ VAR เต็มรูปแบบทันที เพราะมีทางเลือกที่ใช้งบประมาณน้อยกว่า แต่ช่วยลดปัญหาได้จริง นั่นคือ “ระบบ VS”
โดย “โค้ชเศก” ได้อธิบายถึงแนวคิดสำคัญว่า แนวทางนี้ปัจจุบันถูกทดลองใช้แล้วในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติอย่าง ฟุตบอลชิงแชมป์โลก U17 ซึ่งเป็นรายการที่ฟีฟ่าให้ความสำคัญ และพิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้วิดีโอช่วยตัดสินแบบย่อส่วน สามารถทำงานได้จริง ไม่จำเป็นต้องใช้โครงสร้างใหญ่โตแบบ VAR ที่ต้องมีห้องควบคุมและทีมผู้ตัดสิน VAR หลายคน
คำอธิบายจากโค้ชเศก: VS ไม่ต้องมีห้อง VAR ก็ช่วยยกระดับความยุติธรรมได้
โค้ชเศกชี้ให้เห็นข้อได้เปรียบของ ระบบ VS ชัดเจน โดยย้ำว่าทุกวันนี้การแข่งขันระดับลีกล่างของไทยเริ่มพัฒนาเรื่องคุณภาพการถ่ายทอดสดไปไกลแล้ว มีสัญญาณคมชัด มุมกล้องหลากหลาย แค่ยังไม่มีการนำเทปหรือภาพช้าเหล่านั้นมาช่วยผู้ตัดสินอย่างเป็นระบบ
เขาจึงให้สัมภาษณ์ว่า
“ระบบนี้ได้มีการใช้สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์โลก U17 ในตอนนี้ แถมระบบ VS ไม่ต้องใช้ห้อง VAR และ ผู้ตัดสิน VAR ให้สิ้นเปลืองงบประมาน เพราะปัจจุบันการแข่งขันไทยลีก 3 มีการถ่ายทอดสดแบบคมชัด ที่มีคุณภาพมุมกล้องที่หลากหลาย
“แค่ทำการ์ดเพิ่ม 4 ใบ (การ์ดให้แต่ละทีมทักท้วงได้ทีมละ 2 ใบ) ความยุติธรรมจะตามมา ปัญหาการตัดสินจะลดลงครับ”
จากคำพูดนี้จะเห็นได้ว่าจุดสำคัญไม่ได้อยู่แค่ “เทคโนโลยี” แต่อยู่ที่ “ระบบการใช้เทคโนโลยี” ให้เหมาะกับบริบทของฟุตบอลลีกไทย ทั้งข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ สนามแข่งขัน และจำนวนบุคลากรด้านผู้ตัดสิน
ระบบ VS ต่างจาก VAR อย่างไร ทำไมเหมาะกับลีกล่างของไทย
ในเชิงแนวคิด VAR คือระบบที่ใช้ผู้ตัดสิน VAR แยกต่างหากคอยเช็กทุกจังหวะสำคัญ มีห้องควบคุม กล้องหลายตัว และโปรโตคอลชัดเจน ซึ่งเหมาะกับลีกระดับสูงที่มีเงินลงทุนสูง แต่สำหรับลีกอย่าง ไทยลีก 3 ที่ยังต้องควบคุมต้นทุน การจะยกชุดระบบ VAR มาใช้ทุกสนามย่อมเป็นเรื่องยาก
ตรงนี้เองที่ “VS – VDO Support Review” กลายเป็นคำตอบที่โค้ชเศกเสนอ เพราะใช้ทรัพยากรจากการถ่ายทอดสดที่มีอยู่แล้ว ให้ผู้ตัดสินในสนามสามารถขอเปิดภาพย้อนดูจังหวะสำคัญได้ในบางกรณี โดยไม่ต้องมีทีมงาน VAR เต็มชุด
อีกไอเดียที่น่าสนใจคือ “การ์ดทักท้วง” ให้ทีมมีสิทธิ์โต้แย้งการตัดสินอย่างจำกัด ต่อหนึ่งเกมอาจใช้ได้ทีมละ 2 ครั้ง หากทักท้วงแล้วผู้ตัดสินตรวจสอบพบว่าตัดสินผิดก็เปลี่ยนคำตัดสิน แต่ถ้าทักท้วงแล้วผลออกมาว่าผู้ตัดสินเดิมถูกต้อง ทีมก็จะเสียสิทธิ์การ์ดทักท้วงครั้งนั้นไป แนวคิดคล้ายกับการ “ชาลเลนจ์” ในกีฬาอย่างวอลเลย์บอลหรือเทนนิส
ทำไมไทยลีก 3 ควรเริ่มต้นด้วย VS ก่อนก้าวไปสู่ระบบใหญ่
ในเชิงโครงสร้างฟุตบอล การยกระดับลีกล่างถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้ลีกบน เพราะลีกล่างคือรากฐานของทั้งนักเตะ โค้ช และผู้ตัดสิน การมีระบบช่วยตัดสินที่เหมาะสมจะช่วยสร้างมาตรฐานให้ทั้งการแข่งขันและความรู้สึกของแฟนบอล
การผลักดันให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทดลองใช้ ระบบ VS ในไทยลีก 3 จึงเป็นข้อเสนอที่มีมิติทั้งด้านกีฬาการแข่งขันและภาพลักษณ์ของลีกในสายตาแฟนบอล จุดเด่นคือ
- ใช้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทุนซ้ำซ้อน
- ลดแรงกดดันต่อผู้ตัดสิน เพราะมีภาพช้าช่วยตัดสินในจังหวะสำคัญ
- ทำให้แฟนบอลรู้สึกว่าเกมมีความยุติธรรมมากขึ้น ลดดราม่าหลังเกม
- เป็นเวทีฝึกผู้ตัดสินให้คุ้นกับการใช้เทคโนโลยี ก่อนขยับขึ้นไปสู่ระบบใหญ่ในอนาคต
ฟุตบอลยุคใหม่หนีไม่พ้นเทคโนโลยี แฟนบอลไทยควรเข้าใจและใช้ให้เป็นประโยชน์
ในยุคที่ฟุตบอลทั่วโลกหันมาใช้ VAR, โกลไลน์เทคโนโลยี และระบบช่วยตัดสินรูปแบบต่างๆ มากขึ้น แฟนบอลเองก็ต้องปรับมุมมองตามไปด้วย เทคโนโลยีไม่ได้มาแย่งเสน่ห์ของเกม แต่เข้ามาช่วยลดความผิดพลาดรุนแรงที่ส่งผลต่อผลการแข่งขันโดยตรง
สำหรับฟุตบอลไทย การค่อยๆ ปรับตัว เช่น เริ่มจาก VS ในลีกล่าง ไปจนถึงพัฒนาเป็นระบบมาตรฐานในลีกระดับสูง ถือเป็นเส้นทางที่เหมาะสมกว่าการกระโดดข้ามขั้นแล้วแบกภาระค่าใช้จ่ายมหาศาล สิ่งสำคัญคือการออกแบบให้เทคโนโลยีตอบโจทย์ “ความยุติธรรม” โดยไม่ทำลาย “ความลื่นไหล” ของเกม และต้องสื่อสารให้แฟนบอลเข้าใจโปรเซสอย่างโปร่งใส
เมื่อแฟนบอลรู้ว่าทีมรักของตัวเองมีสิทธิ์ทักท้วง มีภาพช้าช่วยยืนยันจังหวะได้จริง ความรู้สึกคาใจหลังเกมจะลดลง ความเชื่อมั่นต่อลีกจะเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดส่งผลดีต่อการเติบโตของวงการลูกหนังไทยในระยะยาว
จับตาทิศทางสมาคมฯ กับการยกระดับผู้ตัดสินไทยลีก 3 แฟนบอลไทยรอคำตอบ
ข้อเสนอของ “โค้ชเศก” อาจดูเหมือนเรื่องเล็กในวันนี้ แต่สะท้อนภาพใหญ่ของคนทำทีมในลีกล่างที่อยากเห็นฟุตบอลไทยเดินหน้าไปในทิศทางที่โปร่งใสและเป็นธรรมขึ้น หาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดใจทดลองระบบอย่าง VS จริงๆ ไทยลีก 3 อาจกลายเป็นลีกต้นแบบการใช้เทคโนโลยีแบบคุ้มค่า ใช้น้อยแต่ได้ผลมาก
ในมุมของแฟนบอล การมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยตัดสิน ไม่ได้แปลว่าเกมจะไร้ประเด็นถกเถียงไปหมด แต่จะช่วยลดความรู้สึก “โดนปล้น” จากการตัดสินผิดพลาดชัดเจน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งสโมสร นักเตะ และแฟนบอลทั่วประเทศ
ใครที่อยากติดตามว่าระบบ VS จะมีโอกาสถูกนำมาใช้จริงในไทยลีกหรือไม่ พร้อมอัปเดตข่าววงการบอลไทยตั้งแต่ลีกสูงสุดยันท้องถิ่น รวมถึงมุมมองคมๆ จากคนวงการลูกหนัง ติดตามได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา แหล่งรวมเรื่องราวฟุตบอลสำหรับแฟนบอลชาวไทยตัวจริง

