
จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง มอนเตเนโกร 2-3 โครเอเชีย วันนี้ 18/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม L นัดสุดท้าย เกมนี้มอนเตเนโกรเปิดรังรับมือโครเอเชีย เกมที่มีเดิมพันคือศักดิ์ศรีและเก้าอี้จ่าฝูงกลุ่ม ซึ่งแฟนบอลเช็ก ผลบอลสด กันแบบลุ้นตัวเกร็ง เพราะรูปเกมพลิกไปพลิกมาตลอด 90 นาที
เจ้าถิ่นออกสตาร์ตด้วยแผน 4-3-1-2 ส่งคู่หน้าอย่าง นิโกล่า เครสโตวิช จับคู่ มิลูติน ออสมายิช มี สเตบัน โยเวติช สวมปลอกแขนกัปตันคอยปั้นเกม ขณะที่โครเอเชียวางระบบ 4-2-3-1 ใช้ อิวาน เปริซิช เป็นกัปตัน ปักหลักริมเส้นซ้าย ด้าน คริสเตียน ยาคิช ยืนแบ็กขวาแต่เล่นเกมรุกดุดันเหมือนวิงแบ็กเต็มตัว
🔥 ครึ่งแรก: มอนเตเนโกรช็อกโลกนำ 2-0 แต่โดนโครแอตยิงโทษไล่
เสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้นได้ไม่ถึงห้านาที แฟนบอลเจ้าบ้านก็ได้เฮสนั่น นาทีที่ 3 มิลูติน ออสมายิช หลุดเข้าไปกดเต็มข้อ ส่งบอลเสียบตาข่ายให้มอนเตเนโกรนำ 1-0 แบบที่โครเอเชียยังตั้งลำไม่ได้
แรงยังไม่ทันตก นาทีที่ 17 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้ดีดตัวลุกอีกครั้ง เมื่อ สเตบัน โยเวติช ไหลบอลทะลุช่องให้ นิโกล่า เครสโตวิช หลุดเดี่ยวไปแปนิ่ม ๆ กลายเป็นสกอร์ 2-0 มอนเตเนโกรนำห่าง และรูปเกมในช่วงยี่สิบนาทีแรกโครเอเชียเหมือนคนเมาหมัด ตั้งเกมไม่ติด จ่ายบอลเสียเองหลายครั้ง
อย่างไรก็ตามทีมเยือนไม่ยอมปล่อยเกมหลุดมือ นาที 29 มาริโอ ปาซาลิช ไปทำฟาวล์หนักกลางสนามให้ผู้ตัดสินจดชื่อเตือนเพื่อนร่วมทีม ก่อนที่นาที 35 คริสเตียน ยาคิช จะพุ่งสอดเข้าเขตโทษแล้วถูกสกัดล้ม ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษทันที หลังเช็ก VAR ยืนยันจังหวะฟาวล์
นาที 37 อิวาน เปริซิช รับหน้าที่สังหารจุดโทษ ยิงเข้าไปอย่างเยือกเย็น ไล่มาเป็น 2-1 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ แม้มอนเตเนโกรจะนำ แต่โมเมนตัมเริ่มหันไปทางฝั่งตราหมากรุกแล้ว
🔥 ครึ่งหลัง: ยาคิชจุดประกายตีเสมอ ก่อนวลาซิชสังหารชัย
เข้าสู่ครึ่งหลัง โครเอเชียแก้เกมทันที เปลี่ยนเซ็นเตอร์สองคนรวด ส่ง โยซิป สตานิซิช ลงมายืนแบ็กขวาแล้วดันยาคิชขึ้นสูง พร้อมส่ง มาริน ป็องกราชิช ยืนคู่กับ ยูราอี ชูตาโล่ เพื่อเติมสดในแนวรับ
เกมรุกทีมเยือนเริ่มไหลลื่น นาที 55 ซลัตโก้ ดาลิช ส่ง อันเดรย์ ครามาริช ลงมาเพิ่มมิติการเข้าทำ ตามด้วย เปตาร์ มูซ่า ในนาที 59 เพื่อกดดันแนวรับมอนเตเนโกรต่อเนื่อง
เจ้าถิ่นเองก็ไม่ยอมแพ้ ส่ง มิลาน วูโคติช และ วาซิลิเย อัดซิช ลงมาเติมพลังแดนกลาง นาที 62 แต่แล้วความกดดันก็ทำให้พลาด นาที 70 มิลูติน ออสมายิช ไปโวยผู้ตัดสินจนโดนใบเหลืองเพิ่มความร้อนในเกม
นาที 72 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม เมื่อจังหวะต่อเนื่องหน้าปากประตูเจ้าถิ่น บอลถูกสกัดไม่ขาดมาเข้าทาง คริสเตียน ยาคิช ซัดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสาอย่างสวยงามเป็น 2-2 ก่อนที่ VAR จะยืนยันประตูในนาที 73 ทำเอาแฟนโครแอตเฮลั่นทั่วสนาม
มอนเตเนโกรพยายามถอดตัวรับใส่ตัวรุกเพิ่ม ส่ง นิโกล่า ชิปซิช กับ มิลอช เบร์นอวิช ลงมาในนาที 77 หวังเก็บแต้มในบ้าน ทว่าโครเอเชียยังไม่หมดมุก นาที 78 ส่ง ลูก้า โมดริช ลงมาคุมกลางเกมช่วงท้าย
แล้วความดราม่าก็มาถึง นาที 87 นิโกล่า วลาซิช หาเหลี่ยมกลางเขตโทษก่อนซัดผ่านมือผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นเข้าไปอย่างเฉียบขาด กลายเป็นสกอร์ 2-3 และเป็นประตูชัยให้โครเอเชียพลิกนรกเก็บสามคะแนนเต็มกลับบ้านแบบสุดมันส์

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🇲🇪 มอนเตเนโกร (4-3-1-2)
ผู้รักษาประตู
- อิลิยา นิกิช (13) Rating 7.0
กองหลัง
- มาร์โก เวโชวิช (7) Rating 6.2
- สเตฟาน รูเบซิช (5) Rating 5.9
- อดัม มารูซิช (23) Rating 6.2
- ซาวิน ลอนชาร์ (19) Rating 6.4
กองกลาง
- มิลูติน ทูชี (6) Rating 6.2
- อเล็กซานดาร์ บูลาโตวิช (21) Rating 6.7
- มาร์โก แยงโควิช (8) Rating 6.9
- สเตบัน โยเวติช (10, กัปตัน) Rating 7.4
กองหน้า
- มิลูติน ออสมายิช (20) Rating 7.0 – ยิง 1 ประตู
- นิโกล่า เครสโตวิช (9) Rating 7.5 – ยิง 1 ประตู
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- มาร์โก เปโรวิช (16) Rating 6.7 ลงแทน รูเบซิช นาที 46
- มิลาน วูโคติช (11) Rating 6.3 ลงแทน โยเวติช นาที 62
- วาซิลิเย อัดซิช (17) Rating 6.6 ลงแทน ลอนชาร์ นาที 62
- นิโกล่า ชิปซิช (15) Rating 6.2 ลงแทน เวโชวิช นาที 77
- มิลอช เบร์นอวิช (14) Rating 6.4 ลงแทน บูลาโตวิช นาที 77
ตัวสำรองไม่ได้ลง: บัลชา ปอโปวิช, ดานิเอล เปตโควิช, สเตฟาน มิลิช, ริสโต้ ราดูโนวิช, มาร์โก ชิมุน, วิกเตอร์ ดูคาโนวิช, อันเดรย์ คอสติช
นักเตะโดดเด่นฝั่งเจ้าถิ่นคือคู่หัวหอก เครสโตวิช–ออสมายิช ที่เล่นงานแนวรับโครเอเชียตั้งแต่ต้นเกม และโยเวติชที่สร้างสรรค์เกมได้อันตรายตลอดครึ่งแรก
🇭🇷 โครเอเชีย (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- ดอมีนิก ลิวาโควิช (1) Rating 6.7
กองหลัง
- คริสเตียน ยาคิช (18) Rating 8.5 – ยิง 1 ประตู, วิ่งไม่มีหมด
- ยูราอี ชูตาโล่ (6) Rating 6.6
- ดูเย่ ชาเลต้า-คาร์ (5) Rating 5.8
- ยอชโก กวาร์ดิโอล (4) Rating 6.3
กองกลางตัวรับ
- นิโกล่า โมโร (8) Rating 7.7
- มาริโอ ปาซาลิช (15) Rating 7.9
ตัวรุก
- อิกอร์ มาตาโนวิช (21) Rating 6.3
- นิโกล่า วลาซิช (13) Rating 7.0 – ซัดประตูชัย
- อิวาน เปริซิช (14, กัปตัน) Rating 7.5 – ยิงจุดโทษตีไข่แตก
กองหน้า
- ฟราน อิวาโนวิช (20) Rating 6.5
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- โยซิป สตานิซิช (2) Rating 7.0 ลงแทน กวาร์ดิโอล นาที 46
- มาริน ป็องกราชิช (3) Rating 6.9 ลงแทน ชาเลต้า-คาร์ นาที 46
- อันเดรย์ ครามาริช (9) Rating 6.8 ลงแทน อิวาโนวิช นาที 55
- เปตาร์ มูซ่า (11) Rating 6.6 ลงแทน มาตาโนวิช นาที 59
- ลูก้า โมดริช (10) Rating 6.8 ลงแทน เปริซิช นาที 78
ตัวสำรองไม่ได้ลง: อีวอร์ ปันดูร์, มาร์ติน แอร์ลิช, มาร์โก ปาซาลิช, มิสลาฟ ออร์ซิช, ปีตาร์ ซูชิช, โทนี ฟรูค
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หากมองเชิงแท็กติก เกมนี้ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของทีมที่เริ่มต้นดีแต่คุมจังหวะไม่ได้อย่างมอนเตเนโกร กับทีมที่ค่อย ๆ ปรับเกมและโหมบุกจนพลิกได้อย่างโครเอเชีย ซึ่งคำว่า วิเคราะห์บอล ในแมตช์นี้ต้องเริ่มจากโครงสร้างเกมรับก่อน
มอนเตเนโกรใช้ 4-3-1-2 เน้นปิดพื้นที่กลางสนาม แดนกลางสามคนบีบสูง ไล่เพรสตั้งแต่โซนกลาง ทำให้ช่วงต้นเกมโครเอเชียจ่ายบอลพลาดบ่อย แต่ข้อเสียคือแบ็กสองข้างดันสูง และเซ็นเตอร์คู่ รูเบซิช–มารูซิช เคลียร์บอลไม่ขาด เมื่อต้องรับแรงกระแทกจากตัวรุกทีมเยือนตลอดครึ่งหลัง พอความล้าถาโถม ช่องว่างหน้าเขตโทษเลยเปิดให้ยาคิชได้ส่องไกลอย่างเด็ดขาด
ฝั่งโครเอเชียเริ่มด้วย 4-2-3-1 แต่ในเชิงปฏิบัติ ยาคิชเติมสูงกลายเป็นวิงแบ็ก แบ็กซ้ายกวาร์ดิโอลจึงต้องระมัดระวังเกมรับมากขึ้น โดยมี โมโร ยืนปักหลักหน้าเซ็นเตอร์ ขณะที่ ปาซาลิช วิ่งเชื่อมเกมรุกไล่ตั้งแต่กลางสนาม เมื่อปรับคู่เซ็นเตอร์ใหม่ในครึ่งหลัง เกมรับแน่นขึ้นทันตาเห็น แทบไม่ปล่อยให้มอนเตเนโกรมีโอกาสสวนกลับเน้น ๆ อีก
เกมรุกของโครเอเชียหลังนาที 55 ถือว่าดุดันมาก ใช้การขึ้นเกมทางริมเส้นซ้าย–ขวา ใส่ทั้ง ครามาริช, มูซ่า และเลื่อนวลาซิชเข้าไปเล่นระหว่างไลน์ แนวรับเจ้าถิ่นจึงต้องวิ่งประกบทุกทางจนสมาธิหลุดในช่วงท้าย สุดท้ายโดนประตูชัยจากการปิดจ็อบของวลาซิชที่หาช่องในกรอบเขตโทษได้คมกว่า

📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนชัดว่าโครเอเชียไม่ได้ชนะเพราะโชค พวกเขายิงทั้งหมด 21 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง ขณะที่มอนเตเนโกรยิงเพียง 12 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้งเท่านั้น เกมรับเจ้าถิ่นต้องคอยบล็อกและเคลียร์ลูกกลางอากาศแทบตลอดเวลา
การครองบอลยิ่งตอกย้ำความเหนือชั้น โครเอเชียบีบเพรสแล้วต่อบอลขึ้นหน้าได้เนียนตา ครองบอลถึง 63% ส่วนมอนเตเนโกรมีเพียง 37% ทำให้หลังจากนำ 2-0 แล้ว แทบไม่ได้ตั้งเกมบุกต่อเนื่องเลย ต้องถอยไปยืนในแดนตัวเอง รับแรงกดดันเป็นระยะยาว
จำนวนฟาวล์ เจ้าบ้านทำไป 15 ครั้ง ทีมเยือน 18 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเกมนี้ดุเดือดเข้าปะทะหนักตลอดทั้งเกม ใบเหลืองรวม 4 ใบ มอนเตเนโกรโดนไป 3 ส่วนโครเอเชียโดน 1 และลูกเตะมุมมอนเตเนโกรได้ 5 ครั้ง โครเอเชีย 3 ครั้ง แต่จังหวะเซ็ตพีซของฝั่งตราหมากรุกกลับเฉียบคมกว่า
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาทีที่ 3 มิลูติน ออสมายิช หลุดเดี่ยวซัดให้มอนเตเนโกรนำ 1-0
- ⚽ นาทีที่ 17 นิโกล่า เครสโตวิช ยิงประตูที่สองให้เจ้าถิ่น นำ 2-0 จากการจ่ายของโยเวติช
- 🚩 นาทีที่ 29 มาริโอ ปาซาลิช ทำฟาวล์กลางสนาม เกมเริ่มเดือด
- 🟨 นาทีที่ 30 ซาวิน ลอนชาร์ ทำฟาวล์หนัก โดนใบเหลืองเพิ่มความร้อนแรง
- 🔍 นาทีที่ 35 คริสเตียน ยาคิช ลากบอลเข้าเขตโทษแล้วโดนชน ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนให้จุดโทษโครเอเชีย
- ⚽ นาทีที่ 37 อิวาน เปริซิช สังหารจุดโทษไม่พลาด ไล่มา 2-1 ก่อนจบครึ่งแรก
- 🔁 นาทีที่ 46 มอนเตเนโกรเปลี่ยน รูเบซิช ออก ส่ง เปโรวิช ลง, ขณะเดียวกันโครเอเชียเปลี่ยน กวาร์ดิโอล กับ ชาเลต้า-คาร์ ออก ส่ง สตานิซิช และ ป็องกราชิช ลงมาแก้เกมรับ
- 🔁 นาทีที่ 55 โครเอเชียส่ง อันเดรย์ ครามาริช ลงสนามแทน ฟราน อิวาโนวิช เพิ่มความคมแดนหน้า
- 🔁 นาทีที่ 59 เปตาร์ มูซ่า ลงแทน มาตาโนวิช เติมหอกร่างใหญ่ในเขตโทษ
- 🔁 นาทีที่ 62 มอนเตเนโกรส่ง วูโคติช และ อัดซิช ลงมาแทน โยเวติช และ ลอนชาร์ เพื่อชิงจังหวะเกมกลางสนาม
- 🟨 นาทีที่ 70 ออสมายิช โวยผู้ตัดสินเกินเหตุ รับใบเหลือง และบรรยากาศในสนามเดือดจัด
- ⚽ นาทีที่ 72 คริสเตียน ยาคิช ซัดไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสาเป็น 2-2
- 📺 นาทีที่ 73 VAR ยืนยันประตูของยาคิช ทำให้โครเอเชียตีเสมอสำเร็จ
- 🔁 นาทีที่ 77 มอนเตเนโกรเปลี่ยน เวโชวิช กับ บูลาโตวิช ออก ส่ง ชิปซิช และ เบร์นอวิช ลง
- 🔁 นาทีที่ 78 โครเอเชียส่ง ลูก้า โมดริช ลงแทน เปริซิช เพื่อคุมจังหวะเกมช่วงท้าย
- ⚽ นาทีที่ 87 นิโกล่า วลาซิช ยิงประตูชัยให้โครเอเชียแซงนำ 3-2
- 🧠 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที มอนเตเนโกรพยายามโยนบอมบ์ใส่เขตโทษทีมเยือน แต่แนวรับโครแอตเคลียร์ได้หมด จบเกมสกอร์ 3-2
⭐ Player of the Match – คริสเตียน ยาคิช
ตำแหน่ง Player of the Match แบบไม่ต้องสงสัยคือ คริสเตียน ยาคิช แบ็กขวาพลังม้าเรตติ้งสูงถึง 8.5 เจ้าตัวไม่ใช่แค่เกมรับเหนียว วิ่งเติมซ้อนตลอดเกม แต่ยังเป็นคนเรียกจุดโทษให้ทีมกลับมามีลมหายใจในครึ่งแรก จากนั้นครึ่งหลังก็ตะบันไกลแบบไม่กลัวหน้าใครเป็นประตูตีเสมอ 2-2 จุดไฟให้เพื่อนร่วมทีมเร่งเครื่องจนแซงชนะได้สำเร็จ
ยาคิชทำหน้าที่ทั้งวิงริมเส้น วิ่งตัดเข้าในมาช่วยเก็บบอลสอง แถมมีส่วนสำคัญในการเพรสสูงบีบให้มอนเตเนโกรจ่ายบอลพลาดหลายครั้ง สมแล้วที่ถูกยกให้เป็นฮีโร่ของโครเอเชียในค่ำคืนนี้

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนกลุ่ม L
ชัยชนะนัดนี้ทำให้โครเอเชียปิดฉากรอบแบ่งกลุ่มด้วยผลงานสุดโหด แข่ง 8 นัด ชนะ 7 เสมอ 1 ไม่แพ้ใคร ยิงรวม 26 ประตู เสียเพียง 4 ลูก เก็บ 22 แต้ม ยึดจ่าฝูงกลุ่ม L แบบเหนียวแน่น ทิ้งอันดับสองอย่างเช็กที่มี 16 คะแนนแบบไม่เห็นฝุ่น พร้อมส่งสัญญาณชัดเจนว่าในรอบสุดท้ายพวกเขายังเป็นหนึ่งในเต็งแถวหน้าของทวีปยุโรป
ส่วนมอนเตเนโกรจบที่อันดับ 4 ของกลุ่ม มี 9 คะแนน จากการชนะ 3 แพ้ 5 ประตูได้–เสีย 8-17 ผลการแข่งขันเกมนี้แม้จะเริ่มต้นสวย แต่สุดท้ายกลับไม่มีแต้มในมือ ทำให้ต้องกลับไปทบทวนแผนการเล่นหากหวังลุ้นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งต่อไป
📅 ตารางบอลกลุ่ม L นัดถัดไป
เนื่องจากนี่เป็นนัดที่ 10 และเป็นแมตช์ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม L ปิดโปรแกรมอย่างเป็นทางการแล้ว ไม่มีเกมให้ตามเชียร์ต่อในรอบนี้ แฟนบอลจึงต้องเลื่อนสายตาไปดู ตารางบอล ของรอบต่อไปและทัวร์นาเมนต์อื่น ๆ แทน โดยเฉพาะเกมอุ่นเครื่องและรอบเพลย์ออฟที่จะตามมาในปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ซึ่งโครเอเชียจะถูกจับตามองเป็นพิเศษว่าเก็บฟอร์มโหดต่อเนื่องได้แค่ไหน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา
ใครที่ชอบเกาะติดฟอร์มทีมชาติยุโรปแบบเกมต่อเกม อย่าลืมตามเช็ก บ้านผลบอล และสรุปหลังเกมสไตล์ดุดันแบบนี้ได้ที่ บ้านกีฬา เราจะเก็บทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสกอร์สด รายชื่อนักเตะ ฟอร์มล่าสุด ไปจนถึงมุมมองเจาะลึกแท็กติก เพื่อให้แฟนบอลได้อัปเดตทั้งสนุกและครบเครื่องในที่เดียว

