จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง เยอรมนี 6-0 สโลวาเกีย วันนี้ 18/11/68 – บ้านกีฬา
เกมรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2026 โซนยุโรป กลุ่ม A ที่เยอรมนีเปิดบ้านรับสโลวาเกีย กลายเป็นโชว์เคสของคำว่า “ข่มทั้งสกอร์และทรงบอล” อย่างแท้จริง บ้านกีฬาเก็บอารมณ์จากสนามมาฝากเต็ม ๆ แฟนบอลที่ตามเกาะติดผ่าน ผลบอลสด ได้เห็นชัดว่าอินทรีเหล็กของ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ เล่นกันดุดัน ดักเพรสซิ่งเร็ว และโหดตั้งแต่นาทีแรกจนจบเกม
เลรอย ซาเน่, ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ และ นิค วอลเทมาเด้ ผนึกกำลังเป็นสามตัวรุกที่สโลวาเกียเอาไม่อยู่ ก่อนจะจบเกมด้วยสกอร์ขาดลอย 6-0 ชนิดที่แฟนเจ้าบ้านลุกขึ้นปรบมือให้ทุกจังหวะ
⚔️ ครึ่งแรก: เยอรมนีไล่บดจนเกมขาดตั้งแต่นาที 41
เริ่มเกมมาเยอรมนีในระบบ 4-2-3-1 เดินหน้าเพรสสูงทันที แดนกลางที่มี ลีออน โกเรทซ์ก้า จับคู่ อเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช คุมจังหวะ บีบให้สโลวาเกียต่อบอลไม่ขึ้น และโดนดันไปตั้งรับหน้ากรอบเขตโทษเกือบตลอด
ประตูเบิกร่องมาในนาที 18 เมื่อ โยชัว คิมมิช เติมสูงจากแบ็กขวา ก่อนครอสให้ นิค วอลเทมาเด้ โฉบสอดขึ้นมาโหม่ง/ยิงจ่อ ๆ ส่งบอลตุงตาข่ายให้เยอรมนีนำ 1-0 แบบสุดคม
จากนั้นนาที 29 สกอร์ไหลเป็น 2-0 จังหวะสวนกลับเร็วตรงกลาง โกเรทซ์ก้าแทงทะลุช่องให้ แซร์ช นาบรี้ หลุดเข้าไปกดหาย เป็นประตูที่แสดงให้เห็นถึงสปีดเกมและความเฉียบคมของแนวรุกอินทรีเหล็ก
นาที 36–41 คือช่วงเวลาที่สโลวาเกียโดนถล่มเละ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ฉีกตัวมารับบอลระหว่างไลน์รับ–ไลน์กลาง ก่อนจะต่อเป็นช็อตทองให้ เลรอย ซาเน่ หลุดเข้าไปยิงสองประตูติดต่อกัน นาที 36 และ 41 เยอรมนีหนี 3-0 และ 4-0 ตามลำดับ ปิดครึ่งแรกด้วยความได้เปรียบแบบมโหฬาร
🔥 ครึ่งหลัง: เปลี่ยนตัวเติมความสด ยิงเพิ่มไม่ไว้หน้า
ครึ่งหลัง นาเกิลส์มันน์เริ่มโรเตชันทันที ส่ง เฟลิกซ์ เอ็นเมชา ลงมาแทน พาฟโลวิช เพื่อให้ทีมเก็บบอลได้เนียนขึ้น ส่วนสโลวาเกียเปลี่ยนสองตัวรวด ส่ง ลูโบเมียร์ ชัตก้า และ อีวาน ชรานซ์ ลงมาช่วยพยุงเกมรับและกลาง แต่รูปเกมยังเป็นเยอรมนีที่คุมอยู่ฝ่ายเดียว
นาที 64–67 เยอรมนีเติมความสดด้วยการส่ง มาลิค เทียว และ ริดเล บากู ลงสนาม ก่อนที่ บากู จะกลายเป็นตัวปิดบัญชีดาบห้าในนาที 67 รับบอลจาก นาบรี้ แล้วกดไม่เหลือ เยอรมนีนำ 5-0
ท้ายเกม นาเกิลส์มันน์ยังไม่พอ ส่ง นาธาเนียล บราวน์ กับ อัซซาน อูเอดราโอโก้ ลงมาเสริม นาที 79 ก็ได้เห็นชื่อดาวรุ่งคนหลังบนสกอร์บอร์ด เมื่อ ซาเน่ ไหลบอลถวายพานให้อูเอดราโอโก้ยิงประตูที่หก ตอกฝาโลงสโลวาเกีย 6-0 แบบหมดรูป ก่อนจบ 90 นาทีด้วยเสียงเฮลั่นสนาม
📋 รายชื่อ 11 ตัวจริง, นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
🇩🇪 เยอรมนี (4-2-3-1) – เรตติ้งโหดทั้งทีม
ผู้รักษาประตู
- โอลิเวอร์ บาวมันน์ (7.2)
กองหลัง
- แบ็กขวา: โยชัว คิมมิช (กัปตัน) (7.8)
- เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ: โจนาธาน ทาห์ (7.4)
- เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ: นิโค ชลอตเตอร์เบ็ค (7.3)
- แบ็กซ้าย: ดาวิด เราม์ (7.8)
กองกลางตัวรับ / บ็อกซ์ทูบ็อกซ์
- อเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช (7.0)
- ลีออน โกเรทซ์ก้า (7.7)
ตัวรุกสามประสานหลังหน้าเป้า
- ปีกขวา: แซร์ช นาบรี้ (8.0) – ยิง 1 จ่าย 1 มีส่วนกับเกมรุกตลอด
- หน้าต่ำ: นิค วอลเทมาเด้ (8.1) – ยิงเปิดหัว ใส่พลังให้ทีมตลอด 60 นาทีแรก
- ปีกซ้าย: ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (9.3) – ทำสองแอสซิสต์ให้ซาเน่ เล่นงานแนวรับสโลวาเกียยับ
กองหน้า
- เลรอย ซาเน่ (9.4) – เหมาสองประตูและแอสซิสต์ 1 คือหัวใจแนวรุกอินทรีเหล็กในค่ำคืนนี้
ตัวสำรองเยอรมนีที่ได้ลงเล่น
- เฟลิกซ์ เอ็นเมชา (7.0) ลงนาที 46 แทน พาฟโลวิช
- มาลิค เทียว (6.8) ลงนาที 64 แทน ชลอตเตอร์เบ็ค (โดนใบเหลืองช่วงท้าย)
- ริดเล บากู (7.5) ลงนาที 64 แทน คิมมิช และยิง 1 ประตู
- นาธาเนียล บราวน์ (6.6) ลงนาที 72 แทน เราม์
- อัซซาน อูเอดราโอโก้ (7.6) ลงนาที 77 แทน เวิร์ตซ์ แล้วกดปิดเกม 1 ลูก
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง: อเล็กซานเดอร์ นือเบิล, ฟินน์ ดาห์เมน, วัลเดมาร์ อันตอน, เจมี เลเวลิง, เควิน ชาเดอ, โยนาธาน บูร์คารด์, คาริม อเดเยมี
🇸🇰 สโลวาเกีย (4-3-3) – แนวรับรั่วตั้งแต่ต้นจนจบ
ผู้รักษาประตู
- มาร์ติน ดูบราฟก้า (6.3) – เจอลูกยิงเป็นชุด รับมือเกมบุกเจ้าบ้านแทบไม่ไหว
กองหลัง
- แบ็กขวา: อเล็กซ์ โอเบิร์ต (6.0)
- เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ: มิลาน ชคริเนียร์ (กัปตัน) (5.6)
- เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ: นอร์แบร์ต โยมเบอร์ (5.9)
- แบ็กซ้าย: ดาวิด ฮันชโก้ (6.4)
กองกลางสามคน
- สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า (6.6) – คนเดียวที่พยายามคุมกลางแต่สู้ความหนาแน่นของเยอรมนีไม่ไหว
- ออนเดรย์ ดูด้า (6.4)
- เลโอ เซาเออร์ (6.6)
สามแนวรุก
- ปีกขวา: ดาวิด ดูริช (6.3)
- ปีกซ้าย: มิเชล เบโร (6.4)
- หน้าเป้า: ดาวิด สเตรเลช (6.2)
ตัวสำรองสโลวาเกียที่ได้ลงเล่น
- โทมาช ริโก (6.2) ลงนาที 24 แทน เบโร
- ลูโบเมียร์ ชัตก้า (6.4) ลงนาที 46 แทน ดูด้า
- อีวาน ชรานซ์ (6.8) ลงนาที 46 แทน โยมเบอร์ – หนึ่งในไม่กี่คนที่กล้าพาบอลขึ้นหน้า
- โทมาช บอบเช็ก (6.5) ลงนาที 67 แทน สเตรเลช
- ปีเตอร์ เปคาริก (6.5) ลงนาที 82 แทน ดูริช
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง: มาเร็ก โรดัค, โดมินิก ตาคัช, เดนิส วาวโร, ลาสซ์โล เบเนส, พาทริก ฮรอซอฟสกี, โรเบิร์ต โบเชนิค, ลูคาช ฮาราสลิน
โดยรวมแล้ว นักเตะที่โดดเด่นที่สุดฝ่ายเยอรมนีคือ ซาเน่, เวิร์ตซ์ และวอลเทมาเด้ ส่วนสโลวาเกียพอมีชื่อ โลบ็อตก้า กับ เซาเออร์ ที่ยังพอต้านความกดดันได้บ้าง
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
มองในมุม วิเคราะห์บอล แท็กติก นาเกิลส์มันน์จัด 4-2-3-1 ที่ยืดหยุ่นมาก เวลาเยอรมนีครองบอลสองฟูลแบ็กดันสูงใกล้เส้น ดึงกองหลังสโลวาเกียออกจากพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ เปิดช่องให้ เวิร์ตซ์ กับ วอลเทมาเด้ เล่นระหว่างไลน์รับและไลน์กลางได้อย่างอิสระ
การขึ้นเกมด้านขวามี คิมมิช ประสานกับ นาบรี้ และวอลเทมาเด้ ส่วนฝั่งซ้าย เราม์กับ ซาเน่ ใช้สปีดและการเล่นหนึ่ง–สองเจาะทะลุแนวรับ ทีมเจ้าบ้านเน้นเปลี่ยนแกนเร็วจากกลางไปริมเส้น ทำให้แนวรับสโลวาเกีย ต้องถอยลึกอยู่ตลอด พอโดนดันต่ำเกินไป ช่องหน้ากรอบ 18 หลาจึงเปิดให้บรรดาตัวรุกเยอรมนีหาที่ว่างยิงได้ง่าย
เกมรับของอินทรีเหล็กก็ทำได้เหนียวแน่น จุดเริ่มต้นคือเพรสซิ่งแดนบน เมื่อเสียบอล ซาเน่, เวิร์ตซ์ และนาบรี้ จะบีบหนักทันที ไม่เปิดโอกาสให้สโลวาเกียเซ็ตเกมจากแนวหลัง ขณะที่ทาห์และชลอตเตอร์เบ็คอ่านเกมดี ดักบอลยาวและลูกครอสได้เกือบหมด ทำให้ บาวมันน์ ไม่ต้องออกแรงเซฟยากมากนัก
ฝั่งสโลวาเกีย ระบบ 4-3-3 ที่วาง โลบ็อตก้า เป็นจุดหมุนกลางสนามถูกตัดขาด เพราะสามตัวรุกไม่สามารถเก็บบอลพักรอเพื่อนได้ จังหวะโต้กลับจึงหลุดไปแบบไร้ทีเด็ด อีกทั้งแนวรับคู่กลาง ชคริเนียร์-โยมเบอร์ มีปัญหาเรื่องสปีด เมื่อเจอกับการเคลื่อนที่สลับตำแหน่งของ ซาเน่ และเวิร์ตซ์ เลยโดนเจาะช่องว่างหลังแนวรับซ้ำแล้วซ้ำเล่า
📈 สถิติการแข่งขัน
สถิติหลังเกมสะท้อนภาพในสนามแบบตรงตัว เยอรมนีครองบอลราว 70% ต่อ 30% ของสโลวาเกีย แปลว่าช่วงใหญ่ของเกมลูกอยู่ใต้เท้าแข้งอินทรีเหล็กแทบตลอด เจ้าบ้านยิงทั้งหมด 23 ครั้ง เข้ากรอบถึง 14 ลูก ในขณะที่ทีมเยือนมีโอกาสเพียง 4 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ลูกเท่านั้น แต่ก็ไม่ดีพอจะผ่านมือบาวมันน์
แม้เยอรมนีจะบุกกระหน่ำ แต่จำนวนฟาวล์ที่ทำก็แค่ 11 ครั้ง กับใบเหลืองใบเดียวของมาลิค เทียว แสดงให้เห็นว่าทีมเล่นหนักแต่ไม่สกปรก ส่วนสโลวาเกียทำฟาวล์ไป 3 ครั้ง ไม่มีใบเหลือง อย่างไรก็ดี ตัวเลขเตะมุมก็ยังชัดเจน เยอรมนีได้ถึง 8 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนเพียง 3 ครั้ง เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดว่าบอลจบที่แดนสโลวาเกียเป็นส่วนใหญ่
⏱️ เหตุการณ์สำคัญในเกม
- ⚽ นาที 18: นิค วอลเทมาเด้ ยิงให้เยอรมนีนำ 1-0 จากการครอสของ โยชัว คิมมิช
- ⚽ นาที 24: สโลวาเกียเปลี่ยนตัวคนแรก ส่ง โทมาช ริโก ลงมาแทน มิเชล เบโร หวังเพิ่มความสดริมเส้น
- ⚽ นาที 29: แซร์ช นาบรี้ ซัดให้สกอร์ขยับเป็น 2-0 จากการแทงทะลุของ ลีออน โกเรทซ์ก้า
- ⚽ นาที 36: เลรอย ซาเน่ ยิงประตูที่สามให้เยอรมนี จากแอสซิสต์ของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์
- ⚽ นาที 41: ซาเน่ กดเบิ้ล ประตูที่สี่ของเกม รับบอลจาก เวิร์ตซ์ อีกครั้ง จบครึ่งแรก 4-0
- 🔄 นาที 46: เยอรมนีส่ง เฟลิกซ์ เอ็นเมชา แทน พาฟโลวิช
- 🔄 นาที 46: สโลวาเกียเปลี่ยนสองคนรวด ลูโบเมียร์ ชัตก้า แทน ดูด้า และ อีวาน ชรานซ์ แทน โยมเบอร์
- 🔄 นาที 64: มาลิค เทียว ลงแทน ชลอตเตอร์เบ็ค และ ริดเล บากู ลงแทน คิมมิช
- ⚽ นาที 67: บากู ยิงประตู 5-0 ให้เยอรมนี จากการทำชิ่งกับ แซร์ช นาบรี้
- 🔄 นาที 67: สโลวาเกียเปลี่ยนกองหน้า ส่ง โทมาช บอบเช็ก ลงแทน ดาวิด สเตรเลช
- ⚠️ นาที 70: มาลิค เทียว โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์กลางสนาม
- 🔄 นาที 72: เยอรมนีส่ง นาธาเนียล บราวน์ แทน ดาวิด เราม์
- 🔄 นาที 77: อัซซาน อูเอดราโอโก้ ลงมาแทน ฟลอเรียน เวิร์ตซ์
- ⚽ นาที 79: อูเอดราโอโก้ ยิงประตู 6-0 จากการจ่ายของ ซาเน่ ปิดกล่องชัยชนะอินทรีเหล็ก
- 🔄 นาที 82: สโลวาเกียเปลี่ยนคนสุดท้าย ส่ง ปีเตอร์ เปคาริก ลงมาแทน ดาวิด ดูริช
🌟 Player of the Match – เลรอย ซาเน่
รางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเกมนี้ไม่หนีไปจาก เลรอย ซาเน่ ที่ได้เรตติ้งสูงสุด 9.4 ดาวเตะแนวรุกของเยอรมนีเล่นเหมือนอยู่ในโหมด “โกงค่าเงิน” ทุกครั้งที่สัมผัสบอล ซาเน่ใช้สปีดและทิศทางการวิ่งตัดจากริมเส้นเข้ากลาง ทำให้แนวรับสโลวาเกียตั้งตัวไม่ทัน
สองประตูในครึ่งแรกแสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมทั้งในการหาพื้นที่และการจบสกอร์ ขณะที่ครึ่งหลังเขายังไม่ลดความอันตราย จ่ายให้ บากู และ อูเอดราโอโก้ มีชื่อบนสกอร์บอร์ดอีกต่างหาก นี่คือฟอร์มระดับผู้นำแนวรุก ที่ทำให้แฟนอินทรีเหล็กคาดหวังได้ยาว ๆ ว่าจะเป็นคีย์แมนสำคัญในรอบสุดท้ายที่สหรัฐ–เม็กซิโก–แคนาดา
📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนกลุ่ม A
ชัยชนะนัดนี้ทำให้เยอรมนีลงสนาม 6 นัด เก็บชัย 5 แพ้ 1 ยิงได้ 16 เสีย 3 มี 15 คะแนน นำโด่งเป็นจ่าฝูงกลุ่ม A พร้อมผลต่างประตูได้เสีย +13 กดดันทีมตามหลังแบบสุด ๆ
ฝั่งสโลวาเกียแม้จะแพ้เละ 0-6 แต่ยังรั้งอันดับสองของกลุ่ม มี 12 คะแนนจาก 6 นัด ผลต่างประตูได้เสียกลับมาติดลบ (-2) จากการโดนถล่มในเกมนี้ ทำให้ช่องว่างระหว่างสองทีมหัวตารางชัดเจนยิ่งขึ้น และอาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญหากต้องตัดสินด้วยประตูได้เสียในท้ายกลุ่ม
ไอร์แลนด์เหนือ อยู่อันดับสาม มี 9 คะแนน ส่วนลักเซมเบิร์กยังไร้แต้มจาก 6 นัด น้ำหนักการลุ้นแย่งตั๋วบอลโลกระหว่างเยอรมนีกับสโลวาเกียเลยเด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ
📅 ตารางบอลฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก นัดถัดไป
ในภาพข้อมูลยังไม่ระบุโปรแกรมนัดต่อไปของกลุ่ม A แต่จากฟอร์มการเล่นสุดจัดในเกมนี้ บอกได้คำเดียวว่าแฟนบอลต้องรีบเปิดดู ตารางบอล และโปรแกรมรอบคัดเลือกนัดถัดไปของเยอรมนีกับสโลวาเกียให้ดี เพราะทุกแต้มต่อจากนี้มีผลโดยตรงต่อการลุ้นตั๋วไปเวทีฟุตบอลโลกที่อเมริกาเหนือแน่นอน บ้านกีฬาพร้อมอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวให้ทันใจสายเชียร์อินทรีเหล็กและคอลูกหนังยุโรป
🏠 เช็กทุกจังหวะมันส์ผ่าน บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามผลคู่นี้ย้อนหลัง หรือไม่อยากพลาดสกอร์สดคู่เด็ดในอนาคต เข้ามาเช็ก บ้านผลบอล และสกอร์เรียลไทม์ได้ที่ บ้านกีฬา เราเก็บทุกช็อตสำคัญ ทุกสถิติหลังเกม และบทวิเคราะห์จัดเต็มเอาไว้ให้ครบจบในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นคัดบอลโลก บอลลีกใหญ่ยุโรป หรือบอลถ้วยเล็ก–ใหญ่ บ้านกีฬาพร้อมลุยไปกับคอบอลตลอดทั้งซีซัน
