เกิดเหตุปะทุครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกจับตามอง เมื่อ “ภูเขาไฟซากุระจิมะ” (Sakurajima) หนึ่งในภูเขาไฟที่ทรงพลังที่สุดของญี่ปุ่น ปะทุขึ้นหลายระลอกในช่วงเช้าตรู่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 ส่งกลุ่มควันและเถ้าถ่านพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงกว่า 4,400 เมตร หรือกว่า 4 กิโลเมตร จนฟ้าเหนือเกาะคิวชูมืดครึ้มฉับพลัน ท่ามกลางเสียงเตือนภัยของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA)
การปะทุครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของปี และเป็นปะทุที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 13 เดือน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบการบินในภูมิภาคคิวชู จนทำให้ สนามบินคาโกชิมะต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 30 ไฟลต์ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร เนื่องจากเถ้าถ่านที่กระจายตัวกว้างและตกลงมาบริเวณรันเวย์
บ้านกีฬาเก็บทุกข้อมูลแบบเต็มแม็กซ์ เล่าให้ครบตั้งแต่เหตุการณ์ล่าสุด ผลกระทบ การคาดการณ์ล่วงหน้า ไปจนถึงข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับภูเขาไฟซากุระจิมะหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความทรงพลังของญี่ปุ่น
ปะทุรัว 3 ครั้งในคืนเดียว! พ่นเถ้าถ่านสูงทะลุ 4.4 กม.
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) รายงานว่า
– ครั้งแรก เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.00 น.
– ครั้งที่สอง เวลาประมาณ 02.30 น.
– ครั้งที่สาม เวลาประมาณ 08.50 น.
การปะทุระลอกหนึ่งเป็นการส่งกลุ่มเถ้าถ่านพุ่งพรวดขึ้นท้องฟ้าสูงกว่า 4 กิโลเมตร ถือเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2023
เจ้าหน้าที่ JMA ยืนยันว่าภูเขาไฟยังอยู่ในภาวะกัมมันต์ และยังคงต้องเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับภูเขาไฟซากุระจิมะที่ขึ้นชื่อว่าปะทุถี่ติดอันดับต้น ๆ ของโลก

30 เที่ยวบินถูกยกเลิก – สนามบินคาโกชิมะวุ่นหนัก
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สนามบินคาโกชิมะต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินขาเข้า-ขาออกจำนวน 30 เที่ยวบิน หลังเถ้าถ่านจำนวนมากตกลงบนพื้นที่รันเวย์ ทำให้สภาพพื้นลื่นและทัศนวิสัยลดลงอย่างมาก
การบินเหนือเขตปะทุยังถูกจำกัดอย่างเข้มงวด เนื่องจากเถ้าภูเขาไฟสามารถทำให้เครื่องยนต์อุดตันและลดประสิทธิภาพของระบบนำร่อง เป็นหนึ่งในความเสี่ยงสูงสุดของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก
ญี่ปุ่นเตือนระดับ 3 – ห้ามประชาชนเข้าใกล้ภูเขาไฟ
ขณะนี้ JMA ยังคงระดับการแจ้งเตือนภัยไว้ที่
“ระดับ 3 จาก 5”
หมายความว่า ห้ามเข้าใกล้บริเวณภูเขาไฟอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะโซนใกล้ปล่องปะทุ
เจ้าหน้าที่เตือนว่าเถ้าภูเขาไฟอาจตกลงในระดับปานกลางถึงหนัก โดยเฉพาะในจังหวัด
– คาโกชิมะ
– มิยาซากิ
และพื้นที่โดยรอบฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของคิวชู
เถ้าภูเขาไฟอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น
– ระคายเคืองตา
– ปัญหาระบบทางเดินหายใจ
– การมองเห็นลดลงขณะขับรถ
จึงแนะนำให้ประชาชน
– สวมหน้ากาก
– ใช้ร่มหรือหมวกป้องกัน
– ปิดประตูหน้าต่าง
– ขับรถช้าลงและระวังถนนลื่น

รู้จัก “ซากุระจิมะ” หนึ่งในภูเขาไฟที่เกรี้ยวกราดที่สุดของญี่ปุ่น
ภูเขาไฟซากุระจิมะตั้งอยู่ใกล้เมืองคาโกชิมะบนเกาะคิวชู เป็นภูเขาไฟประเภท Stratovolcano ที่ยังคงคุกรุ่นตลอดเวลา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น หนึ่งในภูเขาไฟที่เฝ้าระวังสูงสุดของญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เพราะความถี่ของการปะทุ แต่รวมถึงความใกล้ชิดระหว่างปล่องภูเขาไฟกับชุมชนเมือง
ข้อมูลสำคัญที่ควรรู้
– ปี 2019 ซากุระจิมะเคยปะทุพ่นเถ้าสูงกว่า 5.5 กิโลเมตร
– มักปะทุหลายครั้งต่อเดือน
– อยู่ภายในเขตภูเขาไฟ “คิริชิมะ” ที่เชื่อมโยงกับแผ่นดินไหวระดับตื้นบ่อยครั้ง
จึงไม่น่าแปลกที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องมีระบบเตือนภัยและแผนอพยพที่เข้มงวดเป็นพิเศษ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นและระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาระบุว่า การปะทุรุนแรงระดับนี้อาจทำให้
– เกิดเถ้าถ่านปกคลุมเมืองหลายชั่วโมง
– เกิดฝนกรดในบางพื้นที่
– ระบบชลประทานและท่อระบายน้ำอุดตัน
– พื้นผิวถนนลื่นและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
– พืชผลทางการเกษตรเสียหายจากชั้นเถ้าถ่าน
ในระยะยาว การปะทุถี่อาจเป็นสัญญาณของแรงดันแมกมาที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิจัยกำลังจับตามอง

ซากุระจิมะไม่ได้อันตรายอย่างเดียว แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังธรรมชาติของญี่ปุ่น
แม้จะดูน่ากลัว แต่ภูเขาไฟซากุระจิมะถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ชาวญี่ปุ่นผูกพันมานาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยว นักวิทยาศาสตร์ และช่างภาพจากทั่วโลก
หลายคนเชื่อว่าภูเขาไฟคือ “สิ่งมีชีวิตของโลก” ที่บอกเล่าเรื่องราวของแผ่นเปลือกโลกและวิวัฒนาการของธรรมชาติ
บ้านกีฬา สรุปประเด็นภูเขาไฟซากุระจิมะปะทุครั้งใหญ่
– พ่นเถ้าถ่านสูง 4.4 กม. ในวันเดียว
– ปะทุ 3 รอบติดในคืนเดียว
– ยกเลิกเที่ยวบิน 30 เที่ยวบิน
– เถ้าถ่านตกหลายเมืองในคิวชู
– ระดับเตือนภัยยังอยู่ที่ “3 จาก 5”
– ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ
– ผู้เชี่ยวชาญสั่งจับตาแรงดันแมกมาระยะยาว

บ้านกีฬา จะติดตามเหตุการณ์ภูเขาไฟซากุระจิมะอย่างใกล้ชิด หากมีการปะทุซ้ำหรือเกิดผลกระทบเพิ่มเติม เราจะรายงานให้รวดเร็วที่สุดแบบเกาะติดสถานการณ์
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา ได้ทุกวัน

