บ้านผลบอล สรุปหลังเกม คัดบอลโลกเดือด! อิสราเอลระเบิดเกมรุกถล่มมอลโดวา 4-1 ปิดกลุ่มด้วยฟอร์มโหด

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง อิสราเอล 4-1 มอลโดวา วันนี้ 17/11/68 – บ้านกีฬา

ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม I นัดสุดท้าย อิสราเอล เปิดบ้านดวล มอลโดวา เกมนี้แฟนบอลที่ตามเช็ก ผลบอลสด และเช็กสกอร์ผ่านหน้าเว็บ บ้านกีฬา ได้ดูบอลกันแบบสะใจ เมื่อเจ้าถิ่นกดสกอร์ขาด 4-1 ทั้งที่ช่วงแรกโดนตีเสมอ แถมเจอเกมรับแพ็กแน่นของทีมเยือน

⏱ ครึ่งแรก: ใบแดงเปลี่ยนทุกอย่าง แต่สกอร์ยังเจ๊า

ต้นเกมอิสราเอลเปิดฉากบุกลุยใส่มอลโดวาแบบไม่ให้หายใจ ก่อนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญนาที 18 เมื่อ เปอร์คิอุน ตัวรุกมอลโดวาไปทำฟาวล์หนักลักษณะตัดฟาวล์ตัวสุดท้าย ผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ออกจากสนามทันที ทีมเยือนต้องเล่นสิบคนตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

ความได้เปรียบตัวผู้เล่นทำให้เจ้าถิ่นยิ่งเร่งเครื่อง และมาออกนำ 1-0 นาที 21 จากจังหวะที่ ดอร์ เทิร์เจแมน รับหน้าที่ยิงจุดโทษไม่พลาด บอลเสียบตาข่ายอย่างเยือกเย็น แฟนอิสราเอลเฮกันสนั่น

แต่เกมยังไม่จบง่ายๆ มอลโดวาที่เหลือสิบคนไม่ถอดใจ ใช้เกมสวนกลับเล่นงานจนมาถึงนาที 37 เดนิส โฟรอฟ หลุดขึ้นทางขวาก่อนเปิดให้ ยอน นิโคเลสคู กัปตันทีมโฉบโหม่งตีเสมอ 1-1 เงียบทั้งสนาม ครึ่งแรกจบที่สกอร์นี้ แม้อิสราเอลจะพับสนามบุกแต่เจาะเพิ่มไม่ได้

🔁 ครึ่งหลัง: อิสราเอลกดสามเม็ด ปิดบัญชีสุดโหด

ลงมาครึ่งหลังกุนซือ รัน เบน ซิมอน แก้เกมทันที เปลี่ยนส่ง กาย มิซราฮี ลงมาเติมความสดทางฝั่งขวาแทน เอลี ดาซา แล้วเกมริมเส้นก็จัดจ้านขึ้นทันตา

นาที 65 ความพยายามของเจ้าถิ่นแปรเป็นประตูสำคัญ กองหลังมอลโดวาสกัดกันไม่ขาด บอลเด้งมาเข้าทาง รอย เรวีโว ที่เติมสูงขึ้นมาซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบเสาเป็นประตู 2-1 ปลดล็อกความกดดันของทั้งทีม

จากนั้นเกมเป็นของอิสราเอลล้วนๆ นาที 85 กาย มิซราฮี ทำชิ่งทางขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้ เอลิเอล เปเร็ตซ์ เติมมายิงเน้นๆ ไม่เหลือ เป็นสกอร์ 3-1 ก่อนที่นาที 88 ความพังทลายของแนวรับมอลโดวาจะมาถึงจุดสุดท้าย เมื่อ วลาดิสลาฟ บาโบกลู สกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเอง กลายเป็นสกอร์ 4-1 ให้เจ้าถิ่นปิดเกมแบบเด็ดขาด คว้า 3 แต้มส่งท้ายรอบคัดเลือกอย่างสมศักดิ์ศรี

📋 รายชื่อนักเตะตัวจริง–ตัวเด่น–การเปลี่ยนตัว

🇮🇱 อิสราเอล (ระบบ 4-2-3-1)

ผู้รักษาประตู

  • 18 โอฟีร์ กลาเซอร์ (คะแนน 6.5)

กองหลัง

  • 2 เอลี ดาซา (กัปตัน) แบ็กขวา (6.6) – ถูกเปลี่ยนออก HT
  • 4 ออร์ บลอเรียน เซ็นเตอร์แบ็ก (6.2)
  • 12 สตาฟ เลมคิน เซ็นเตอร์แบ็ก (6.8)
  • 3 รอย เรวีโว แบ็กซ้าย (8.7) – ยิง 1 ประตูสำคัญพลิกขึ้นนำครึ่งหลัง

กองกลางตัวรับ/เชื่อมเกม

  • 8 ดอร์ เปเร็ตซ์ มิดฟิลด์ตัวกลาง (6.4) – รับใบเหลืองช่วงทดเจ็บครึ่งแรก
  • 16 กาบี คาไนคอฟสกี้ มิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ (7.3)

ตัวรุก

  • 10 ดอร์ บิตอน ตัวรุกด้านขวา (7.9)
  • 11 ออสการ์ กลูค เพลย์เมกเกอร์ตัวกลาง (8.7)
  • 15 เอลิเอล เปเร็ตซ์ ตัวรุกด้านซ้าย (9.4) – ยิง 1 ประตู, ทำเกมรุกจัดจ้านทั้งเกม

กองหน้า

  • 9 ดอร์ เทิร์เจแมน (7.7) – ยิงจุดโทษขึ้นนำ 1-0

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • 14 กาย มิซราฮี (7.2) ลงนาที 46 แทน ดาซา เติมเกมรุกฝั่งขวาและแอสซิสต์ให้ประตู 3-1
  • 22 มาห์มูด จาเบอร์ (6.7) ลงนาที 78 แทน ดอร์ เปเร็ตซ์ เสริมความสดแดนกลาง
  • 17 สตาฟ ทอเรียล (6.8) ลงนาที 78 แทน คาไนคอฟสกี้
  • 19 อิดาน โตโคลมาติ ยอร์โน (6.5) ลงนาที 84 แทน เทิร์เจแมน ยืนหน้าเป้า
  • 7 ยาร์เดน ชัว (7.2) ลงนาที 86 แทน บิตอน

ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
นิฟ เอลิอาซี, โอเมอร์ นิรอน, อิดาน นัคห์เมียส, ราซ ชโลโม, เดนนี่ กรอปเปอร์, อามีร์ ชาอิม กานาห์

🇲🇩 มอลโดวา (ระบบ 3-5-1-1)

ผู้รักษาประตู

  • 1 เอมิล ทิมบูร์ (7.3) – เซฟหลายครั้งช่วยทีมไม่ให้โดนสกอร์ไหลมากกว่านี้

กองหลัง

  • 2 เซอร์จิอู บิตคา เซ็นเตอร์ขวา (6.3) – ถูกเปลี่ยนออกนาที 55
  • 6 มิไฮ เกอร์ราสีเมนคอฟ เซ็นเตอร์กลาง (6.5)
  • 4 วลาดิสลาฟ บาโบกลู เซ็นเตอร์ซ้าย (7.2) – ทำเข้าประตูตัวเองนาที 88

กองกลาง

  • 16 เดนิส โฟรอฟ วิงแบ็กขวา (7.0) – แอสซิสต์ประตูตีเสมอ ก่อนถูกถอดนาที 55
  • 5 คริสเตียน คูคอส วิงแบ็กซ้าย (6.1)
  • 13 วิคเตอร์ ฟราเตอา มิดฟิลด์กลาง (6.1) – ถูกเปลี่ยนออกนาที 72
  • 11 มิไฮ ไคมากอฟ มิดฟิลด์กลาง (6.8) – รับใบเหลืองนาที 73
  • 17 เวอร์จิลิอู โปสโตลาชี ตัวรุกด้านขวา (6.5) – ถูกเปลี่ยนออกนาที 54
  • 21 เปอร์คิอุน มิดฟิลด์ตัวรุก (3.0) – โดนใบแดงนาที 18 เป็นจุดหักเหของเกม

กองหน้า

  • 9 ยอน นิโคเลสคู (กัปตัน) (7.4) – โขกประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนถูกถอดนาที 66

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • 20 เซอร์จิอู พลาติก้า (6.2) ลงนาที 54 แทน โปสโตลาชี ได้ใบเหลืองช่วงท้ายเกม
  • 15 อิออน บอร์ช (6.1) ลงนาที 55 แทน บิตคา
  • 14 วลาด ไรเลอานู (6.1) ลงนาที 55 แทน โฟรอฟ
  • 7 อาร์ตูร์ โยนิต้า (6.3) ลงนาที 66 แทน นิโคเลสคู
  • 8 สเตฟาน โบดิสเตียนู (6.4) ลงนาที 72 แทน ฟราเตอา

ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
คริสเตียน อาฟราม, อันดรีย์ โคซฮูคาร์, มิไฮ สเตฟาน, ดาเนียล ดุมบราฟานู, วิคเตอร์ โบกายชุค, วาดิม ราตา, วิตาลี ดามาสคาน

อิสราเอลยังมี มานอร์ โซโลมอน ตัวรุกคนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บ ไม่ได้มีชื่อในเกมนี้

🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ: 11 คนไล่เจาะ 10 คนจนพัง

ในมุมมองของ บ้านกีฬา เกมนี้ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของการอ่านเกมและ “ปรับสปีด” อย่างถูกจังหวะของอิสราเอล ระบบ 4-2-3-1 ถูกออกแบบให้ตัวรุกสี่คนโรเตชันยืนกดดันแนวรับมอลโดวาตลอดเวลา ขณะที่สองมิดฟิลด์อย่าง ดอร์ เปเร็ตซ์ กับ คาไนคอฟสกี้ คอยบาลานซ์ระหว่างดันสูงบีบพื้นที่กับถอยมาซ้อนเซ็นเตอร์

การบุกของเจ้าถิ่นเน้นโจมตีด้านกว้าง โดยเฉพาะฝั่งซ้ายที่ เรวีโว กับ เอลิเอล เปเร็ตซ์ ช่วยกันเปิดเกมทั้งลากตัดเข้าในและโอเวอร์แลปเติมขึ้นสูง เมื่อพักครึ่งกุนซือเลือกถอด ดาซา ที่มีใบเหลืองออก แล้วส่ง มิซราฮี ลงมาช่วยเติมฝั่งขวา ทำให้การขึ้นเกมจากสองฟูลแบ็กสมดุลขึ้นทันที ประตู 3-1 ของ เอลิเอล เปเร็ตซ์ ก็เกิดจากการขึ้นเกมด้านขวานี่แหละ

ในเกมรับ อิสราเอลใช้การเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบน ตัดทางเลือกจ่ายบอลของมอลโดวา ทำให้ทีมเยือนที่เหลือแค่สิบคนต้องหวดบอลเคลียร์อย่างเดียว แทบไม่มีจังหวะเซ็ตเกมจากหลังขึ้นหน้า ข้อเสียเดียวคือจังหวะโดนตีเสมอที่ปล่อยให้โฟรอฟมีพื้นที่เปิดบอลเข้ากลางมากเกินไป

ฝั่งมอลโดวาหลังเหลือสิบคนจึงต้องหันมาเน้นบล็อกต่ำ 5-3-1 ตั้งโซนหน้ากรอบเขตโทษ ปิดพื้นที่ระหว่างไลน์ให้แน่นแล้วฝากความหวังไว้กับคอนเตอร์จาก นิโคเลสคู แต่เมื่อเกมยืดเยื้อ ความล้าเริ่มมา สุดท้ายช่วงท้ายเกมแนวรับหลุดสมาธิทั้งการยืนตำแหน่งและการเคลียร์บอล จนมาเสียสองประตูติดแบบง่ายเกินจะรับได้ในระดับคัดบอลโลก

โดยภาพรวมหากมองในมุม วิเคราะห์บอล แท็กติก อิสราเอลเล่นอย่างอดทนและเพิ่มความดุดันทีละสเต็ป ขณะที่มอลโดวาแม้จะมีหัวใจนักสู้ แต่การเล่นสิบคนยาวตลอดทั้งเกมทำให้ต้านความหนาแน่นเกมรุกเจ้าถิ่นไม่ไหวจริงๆ

📊 สถิติการแข่งขัน: ยิงกระหน่ำคนละโลก

ตัวเลขหลังเกมสะท้อนทุกอย่าง อิสราเอลกดสถิติยิงทั้งหมด 28 ครั้ง เข้ากรอบถึง 13 ครั้ง ส่วนมอลโดวายิงได้เพียง 4 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 1 หน ซึ่งคือประตูตีเสมอเท่านั้น การครองบอลเจ้าถิ่นครองไว้ราว 60% เล่นเกมรุกใส่แทบตลอดเวลา

ฟาวล์ของทั้งสองทีมสูสีกัน 11 ต่อ 12 ใบเหลืองทีมละ 2 ใบ แต่ใบแดงเพียงใบเดียวที่ เปอร์คิอุน โดนไล่ออก ทำให้สมดุลเกมพังตั้งแต่นาที 18 อิสราเอลได้ลูกเตะมุมถึง 9 ครั้ง บ่งบอกว่าเกมบุกบี้อยู่หน้าประตูมอลโดวาตลอด ขณะที่ทีมเยือนได้เตะมุมแค่ 3 ครั้ง และแทบไม่มีโอกาสบุกเป็นชิ้นเป็นอัน

⏰ เหตุการณ์สำคัญในเกม

  • 🔴 นาที 18 – เปอร์คิอุน (มอลโดวา) ทำฟาวล์ตัดเกมตัวสุดท้าย ผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ออก ทีมเยือนเหลือ 10 คน
  • ⚽ นาที 21 – ดอร์ เทิร์เจแมน (อิสราเอล) ยิงจุดโทษเข้าไป เจ้าถิ่นนำ 1-0
  • 🟨 นาที 34 – เอลี ดาซา (อิสราเอล) ทำฟาวล์หนักโดนใบเหลือง
  • ⚽ นาที 37 – ยอน นิโคเลสคู (มอลโดวา) โหม่งประตูตีเสมอ 1-1 จากการเปิดของ เดนิส โฟรอฟ
  • 🟨 นาที 45+2 – ดอร์ เปเร็ตซ์ (อิสราเอล) รับใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม
  • 🔁 นาที 46 – อิสราเอลเปลี่ยนตัว ส่ง กาย มิซราฮี ลงแทน เอลี ดาซา
  • 🔁 นาที 54 – มอลโดวาเปลี่ยนตัว ส่ง เซอร์จิอู พลาติก้า แทน เวอร์จิลิอู โปสโตลาชี
  • 🔁 นาที 55 – มอลโดวาส่ง อิออน บอร์ช แทน เซอร์จิอู บิตคา
  • 🔁 นาที 55 – มอลโดวาส่ง วลาด ไรเลอานู แทน เดนิส โฟรอฟ
  • ⚽ นาที 65 – รอย เรวีโว ซัดเต็มข้อให้ อิสราเอล ขึ้นนำ 2-1
  • 🔁 นาที 66 – มอลโดวาส่ง อาร์ตูร์ โยนิต้า แทน ยอน นิโคเลสคู
  • 🔁 นาที 72 – สเตฟาน โบดิสเตียนู ลงแทน วิกเตอร์ ฟราเตอา ให้มอลโดวา
  • 🟨 นาที 73 – มิไฮ ไคมากอฟ (มอลโดวา) โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์กลางสนาม
  • 🔁 นาที 78 – อิสราเอลส่ง สตาฟ ทอเรียล แทน กาบี คาไนคอฟสกี้
  • 🔁 นาที 78 – อิสราเอลส่ง มาห์มูด จาเบอร์ แทน ดอร์ เปเร็ตซ์
  • 🔁 นาที 84 – อิสราเอลส่ง อิดาน โตโคลมาติ ยอร์โน แทน ดอร์ เทิร์เจแมน
  • ⚽ นาที 85 – เอลิเอล เปเร็ตซ์ ยิงประตู 3-1 ให้ อิสราเอล จากการแอสซิสต์ของ กาย มิซราฮี
  • 🔁 นาที 86 – ยาร์เดน ชัว ลงแทน ดอร์ บิตอน เพิ่มความสดแนวรุก
  • ⚽ นาที 88 – วลาดิสลาฟ บาโบกลู ทำเข้าประตูตัวเอง กลายเป็นสกอร์ 4-1 ให้เจ้าถิ่น
  • 🟨 นาที 88 – เซอร์จิอู พลาติก้า (มอลโดวา) โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์ริมเส้น

🌟 Player of the Match: เอลิเอล เปเร็ตซ์ หัวใจเกมรุกเจ้าถิ่น

รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมตกเป็นของ เอลิเอล เปเร็ตซ์ ด้วยคะแนนสูงถึง 9.4 ฟอร์มวันนี้เจ้าตัวคือศูนย์กลางเกมรุกของอิสราเอลอย่างแท้จริง ทั้งการเลี้ยงจี้หนึ่งต่อหนึ่ง การสอดเข้าเขตโทษ รวมถึงการหาพื้นที่ระหว่างไลน์รับของมอลโดวาได้ตลอดเวลา

ประตู 3-1 ในช่วงท้ายเกมที่เขายิงใส่มอลโดวา เปรียบเหมือนการปิดบัญชีให้ทีมเล่นสบายในช่วงนาทีสุดท้าย นอกจากการจบสกอร์ เปเร็ตซ์ยังช่วยไล่เพรสตั้งแต่แดนบน ทำให้แนวรับทีมเยือนไม่มีจังหวะตั้งเกมอย่างที่ต้องการ ถือเป็นคืนที่มิดฟิลด์ตัวรุกคนนี้โชว์ศักยภาพเต็มสูบ สมควรได้คำชมจากแฟนบอลและ บ้านกีฬา แบบไม่มีข้อกังขา

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนน กลุ่ม I หลังเกม

ชัยชนะ 4-1 เกมนี้ทำให้อิสราเอลเก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนนจาก 8 นัด จบอันดับ 3 ของกลุ่ม I ด้วยผลงาน ชนะ 4 แพ้ 4 ยิงได้ 19 เสีย 20 แม้จะไม่ดีพอแทรกไปลุ้นหัวตารางกับสองมหาอำนาจอย่างนอร์เวย์และอิตาลี แต่ก็ยังปิดฉากรอบคัดเลือกด้วยฟอร์มที่สร้างความหวังให้แฟนบอลสำหรับทัวร์นาเมนต์ต่อไป

ส่วนมอลโดวาจบอันดับบ๊วยของกลุ่ม มีเพียง 1 คะแนนจาก 8 นัด เสียประตูไปถึง 32 ลูก ยิงได้แค่ 5 ลูก ตัวเลขต่างประตูได้เสียติดลบหนัก -27 สะท้อนชัดว่าทีมยังต้องยกระดับทั้งคุณภาพตัวผู้เล่นและแท็กติก หากหวังจะหนีจากบ๊วยในรอบคัดเลือกครั้งหน้า

📅 ตารางบอลคัดบอลโลกนัดถัดไป และโปรแกรมข้างหน้า

เมื่อการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มของกลุ่ม I ปิดฉากครบ 8 นัดไปเรียบร้อยแล้ว ยังไม่มีการประกาศ ตารางบอล นัดต่อไปของอิสราเอลและมอลโดวาในรอบคัดบอลโลกครั้งนี้ โปรแกรมต่อจากนี้จะเป็นช่วงพักกลับไปเล่นเกมอุ่นเครื่องหรือทัวร์นาเมนต์อื่นๆ รอการจัดสรร โปรแกรมบอล อย่างเป็นทางการจากสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป

แฟนบอลที่อยากรู้ว่าทั้งสองทีมจะมีคิวลงสนามเมื่อไร บ้านกีฬา แนะนำให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เราจะอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวให้แบบทันใจแน่นอน

📺 ติดตาม บ้านผลบอล และผลบอลสด ได้ที่ บ้านกีฬา

สำหรับคอบอลที่ไม่อยากพลาดทุกสกอร์จากทั่วโลก ทั้งลีกใหญ่ ยุโรปถ้วยโต รวมถึงศึกคัดบอลโลกแบบนี้ สามารถตามเช็ก บ้านผลบอล ได้ตลอดทั้งวันกับ บ้านกีฬา เรารวบรวมตั้งแต่สกอร์แบบเรียลไทม์ สถิติหลังเกม ไฮไลต์เด็ด ไปจนถึงบทวิเคราะห์เจาะลึก ให้แฟนบอลได้เสพข้อมูลครบจบในที่เดียว ใครอยากตามทันทุกคู่ ไม่ให้ตกข่าวสักแมตช์ แวะเข้ามาเช็กที่ บ้านกีฬา ได้ทุกวัน

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา