
จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง อิตาลี 1-4 นอร์เวย์ วันนี้ 17/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม D ยูเครน ลงเล่นเกมสำคัญเจอกับ ไอซ์แลนด์ ผลการแข่งขันจากหน้า บ้านผลบอล จบลงด้วยชัยชนะของยูเครน 2-0 จากสองประตูในช่วงท้ายเกม ส่งผลให้ภาพรวมในกลุ่มกลับมาลุ้นสนุกอีกครั้ง และแน่นอนว่าคอบอลที่ตามเช็ก ผลบอลสด นาทีต่อนาที ต้องได้ลุ้นกันจนจบ 90 นาทีบวกทดเจ็บ
ผู้ตัดสินเกมนี้คือ แอนโธนี เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินจากอังกฤษ เกมเล่นกันในจังหวะเร็ว เข้มข้น ดุดัน ตามสไตล์บอลยุโรปตะวันออก เจอบอลแข็งๆ ของไอซ์แลนด์เข้าไป ทำเอาแฟนบอลทั้งสนามต้องลุ้นทุกจังหวะ
🕐 ภาพรวมครึ่งแรก – เกมอึดอัด ดวลกันกลางสนาม
ครึ่งแรก ยูเครนของ เซอร์ฮีย์ เรบคอฟ จัดระบบ 4-1-4-1 เน้นครองบอลและคุมจังหวะเกมกลางสนาม ใช้คู่เซ็นเตอร์อย่าง ซาบาร์นี กับ มัตวีเยนโก้ คอยคุมหลัง ขณะที่ คาลยูฌนี ยืนตัดเกมหน้าแผงรับ แล้วปล่อยให้ มาลินอฟสกี, ยาร์โมลยุค และคู่ปีก ซูบคอฟ – ซีกังคอฟ คอยสร้างเกมบุก
ฝั่งไอซ์แลนด์ของ อาร์นาร์ กุนนเลากส์สัน เล่น 4-4-2 ตั้งรับแน่นในพื้นที่ตัวเอง ใช้คู่หน้าทรงพลังอย่าง ฮารัลด์สสัน กับ อัลเบิร์ต กุ๊ดยอห์นเซน ไล่เพรสตั้งแต่แดนบน หวังฉกบอลแล้วสวนกลับเร็วไปที่ริมเส้นอย่าง ธอร์สไตน์สสัน และ เอลเลิร์ตสสัน
แม้ยูเครนจะครองบอลมากกว่า แต่ไอซ์แลนด์วางเกมรับลึก ปิดพื้นที่ระหว่างไลน์ได้เยี่ยมทำให้โอกาสจบสกอร์ชัดๆ ยังมีไม่มาก จังหวะหวาดเสียวส่วนใหญ่เป็นการลองยิงไกลของ มาลินอฟสกี กับการลากตัดเข้าในของ ซูบคอฟ แต่ยังไม่ผ่านมือ โอลาฟส์สัน ผู้รักษาประตูทีมเยือน
ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมเริ่มดุเดือด ไอซ์แลนด์มาโดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ของ บียาร์นี โยฮันน์สสัน นาที 45+1 แต่สกอร์ยังคงเสมอ 0-0 เมื่อจบครึ่งแรก แฟนๆ ที่กดดู ผลบอลสด อยู่ยังต้องลุ้นกันต่อในครึ่งหลัง
🔁 ครึ่งหลัง – เปลี่ยนตัวทีเดียว เกมเปลี่ยนทั้งสนาม
เข้าสู่ครึ่งหลัง ยูเครนยังคุมเกมไว้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ เรบคอฟตัดสินใจแก้เกมในนาที 69 ส่งคู่ตัวรุกใหม่ลงสนามทั้ง โรมัน ยาเร็มชุค และ มิโคล่า ชาพาเรนโก้ แทน วานัต กับ ยาร์โมลยุค เพื่อเพิ่มมิติในแดนหน้า
ด้านไอซ์แลนด์ขยับก่อนเล็กน้อยในนาที 65 ถอด โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สสัน ออก แล้วส่ง บาร์รี้ ดาร์รี วิลลุมส์สัน ลงมาเพิ่มความสดในเกมรุกริมเส้น แต่รูปเกมโดยรวมยังเป็นของยูเครน
นาที 75 มาลินอฟสกี โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์ และอีกแค่ 2 นาทีต่อมา เรบคอฟเปลี่ยนแผนส่งชื่อที่กลายเป็นฮีโร่ของเกมอย่าง โอเล็กซีย์ ฮุตซูเลียก ลงมาแทนมาลินอฟสกี เพื่อเติมความดุดันทางริมเส้นซ้าย
ไอซ์แลนด์เองก็มีการขยับตัวสำรองในนาที 86 ส่ง ดาเนียล ทริสตาน กุ๊ดยอห์นเซน กับ โลกี้ โทมาสสัน ลงมาแทน ธอร์สไตน์สสัน และ เอลเลิร์ตสสัน หวังยกระดับเกมสวนกลับช่วงท้าย แต่แผนกลับโดนยูเครนลงโทษแทน
นาที 83 แฟนบอลยูเครนได้เฮลั่นสนาม เมื่อ ฮุตซูเลียก หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากรอบเขตโทษให้ โอเล็กซานเดอร์ ซูบคอฟ วิ่งมาซัดตุงตาข่าย เป็นประตูขึ้นนำ 1-0
จากนั้น ยูเครนถอด ซูบคอฟ กับ ซีกังคอฟ ออกในนาที 87 ส่ง โอเล็กซานเดอร์ สวาต็อค กับ เยฮอร์ นาซารินยา ลงมาช่วยล็อกผลการแข่งขัน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+3 เกมรับไอซ์แลนด์หลุดอีกครั้ง บอลขลุกขลิกหน้าเขตโทษก่อนที่ อิลเลีย คาลยูฌนี จะไหลทะลุช่องให้ ฮุตซูเลียก หลุดเข้าไปซัดจ่อๆ ไม่เหลือ ยูเครนหนีเป็น 2-0 และจบเกมด้วยสกอร์นี้แบบสุดมันส์ ทำให้หน้า บ้านผลบอล ขึ้นผลชัดเจน ยูเครนเก็บสามแต้มสำคัญลุ้นตั๋วฟุตบอลโลกต่อ

🧾 รายชื่อนักเตะ11 ตัวจริง – คะแนน & การเปลี่ยนตัว
🇺🇦 ยูเครน (4-1-4-1) – เฮดโค้ช: เซอร์ฮีย์ เรบคอฟ
ผู้รักษาประตู
- อังเดรย์ ทรูบิน (12) – คะแนน 7.3 เซฟจังหวะสำคัญหลายครั้ง
กองหลัง
- วิตาลี มิโคเลนโก (16) แบ็กซ้าย – คะแนน 7.1
- มีโคลา มัตวีเยนโก (22, กัปตัน) เซ็นเตอร์ – คะแนน 7.3
- อิลยา ซาบาร์นี (13) เซ็นเตอร์ – คะแนน 7.3
- โอเล็กซานเดอร์ โคโนปเลีย (2) แบ็กขวา – คะแนน 7.4 (โดนใบเหลืองนาที 85)
มิดฟิลด์ตัวรับ
- อิลเลีย คาลยูฌนี (6) – คะแนน 7.6 ตัวคุมจังหวะเกมและจ่ายบอลให้ประตู 2-0
มิดฟิลด์รุก/ตัวเชื่อมเกม
- รุสลัน มาลินอฟสกี (8) – คะแนน 6.8 โดนใบเหลืองนาที 75 ก่อนโดนเปลี่ยนออก
- ยิกอร์ ยาร์โมลยุค (18) – คะแนน 6.7 ประสานงานระหว่างกลางกับริมเส้น
- วิตาลี ซีกังคอฟ (15) – คะแนน 7.5 ป่วนเกมริมเส้นขวาก่อนถูกถอดช่วงท้าย
- โอเล็กซานเดอร์ ซูบคอฟ (20) – คะแนน 7.8 ทำประตูเบิกร่อง 1-0
กองหน้า
- วลาดิสลาฟ วานัต (7) – คะแนน 6.9 ยืนหน้าเป้า คอยดึงกองหลัง
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- มิโคลา ชาพาเรนโก (10) – คะแนน 6.6 ลงนาที 69 แทน ยาร์โมลยุค เพิ่มการคุมจังหวะกลางสนาม
- โรมัน ยาเร็มชุค (9) – คะแนน 5.8 ลงนาที 69 แทน วานัต ช่วยพักบอลด้านบน
- โอเล็กซีย์ ฮุตซูเลียก (11) – คะแนน 9.0 ลงนาที 77 แทน มาลินอฟสกี ยิง 1 จ่าย 1 เป็นฮีโร่ของเกม
- โอเล็กซานเดอร์ สวาต็อค (4) – คะแนน 6.6 ลงนาที 87 แทน ซูบคอฟ เสริมเกมรับ
- เยฮอร์ นาซารินยา (17) – คะแนน 6.6 ลงนาที 87 แทน ซีกังคอฟ
ตัวสำรองไม่ได้ใช้
เยฟเฮน โวลิเนตส์ (1), ดมิโทร ริซนิค (23), บ็อกดาน มิคไฮลิเชนโก (3), วาเลรี บอนดาร์ (5), ทาราส มูคาฟโก (14), โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ (21), นาซาร์ โวโลชิน (19)
นักเตะบาดเจ็บ/ไม่ได้ลง
อาร์เต็ม ดอฟบิค, โวโลดีมีร์ บรัชโก
🇮🇸 ไอซ์แลนด์ (4-4-2) – เฮดโค้ช: อาร์นาร์ กุนนเลากส์สัน
ผู้รักษาประตู
- เอลีอัส โอลาฟส์สัน (1) – คะแนน 7.2 เซฟสวยหลายครั้ง แม้สุดท้ายเสียสองประตู
กองหลัง
- ฮักคอน มักนุสสัน (23) – คะแนน 6.8 ยืนแบ็กหนึ่งฝั่ง คอยบล็อกลูกเปิด
- สเวอร์รีร์ อิงกี อิงกาสัน (5) – คะแนน 7.1 เซ็นเตอร์ตัวหลัก อ่านเกมดี
- บียาร์นี โยฮันน์สสัน (8) – คะแนน 6.9 โดนใบเหลืองช่วงทดเจ็บครึ่งแรก
- ยอน ดักเกอร์ ธอร์สไตน์สสัน (11) – คะแนน 6.5 โดนเปลี่ยนออกนาที 86
มิดฟิลด์สี่ตัว
- วาลูร์ พาลส์สัน (4) – คะแนน 6.8 คุมเกมรับหน้าแผงหลัง
- อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สสัน (10) – คะแนน 6.7 ขยับหาพื้นที่ระหว่างไลน์
- มักนุส เอลเลิร์ตสสัน (14) – คะแนน 6.9 เติมเกมรุกทางริมเส้นก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 86
- บาร์รี้ ดาร์รี วิลลุมส์สัน (15) – คะแนน 6.5 ลงมายืนริมเส้นหลังนาที 65
กองหน้า
- ฮอร์ดูร์ อาร์นาร์ ฮารัลด์สสัน (9, กัปตัน) – คะแนน 6.0 คอยพักบอลและไล่เพรส
- อัลเบิร์ต กุ๊ดยอห์นเซน (22) – คะแนน 7.2 หนึ่งในตัวเด่นของทีม สร้างโอกาสได้หลายครั้ง
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สสัน (7) – คะแนน 6.8 เป็นตัวจริงฝั่งหนึ่ง ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 65
- โลกี้ โทมาสสัน (2) – คะแนน 6.0 ลงนาที 86 แทน เอลเลิร์ตสสัน
- ดาเนียล ทริสตาน กุ๊ดยอห์นเซน (21) – คะแนน 6.6 ลงนาที 86 แทน ธอร์สไตน์สสัน
ตัวสำรองไม่ได้ใช้
ฮากอน รัฟน์ วัลดิมาร์สสัน (12), อันตอน อารี ไอนาร์สสัน (13), ดาเนียล เกร็ตาร์สสัน (3), คริสเตียน ฮลีนส์สัน (20), กิสลิ ธอร์ดาร์สสัน (6), สเตฟาน เทย์ตูร์ ธอร์ดาร์สสัน (16), อารอน กุนนาร์สสัน (17), อันดรี บัลดูร์สสัน (18), บียาร์กิ สไตน์น์ บียาร์กาสัน (19)
นักเตะบาดเจ็บ/ไม่ได้ลง
มีคาเอล แอนเดอร์สัน
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ – ยูเครนพลิกเกมด้วยปีกซูเปอร์ซับ
หากมองในมุม วิเคราะห์บอล เชิงแท็กติก เกมนี้ยูเครนแสดงให้เห็นชัดเจนถึงการปรับแผนที่มีประสิทธิภาพจากม้านั่งสำรอง
เกมรุกยูเครนในครึ่งแรก แม้จะเซตเกมจากแนวรับขึ้นมาถึงกลางได้ดีด้วยการคุมจังหวะของ คาลยูฌนี แต่ขาดจังหวะทะลุแนวรับสุดท้ายของไอซ์แลนด์ การเล่นในระบบ 4-1-4-1 ทำให้ วานัต โดดเดี่ยวพอสมควร ต้องลงต่ำมารับบอลเองหลายครั้ง
ครึ่งหลัง เมื่อเรบคอฟเปลี่ยนมาใช้ ฮุตซูเลียก ทางซ้าย พร้อมขยับ ซูบคอฟยืนสูงขึ้นเหมือนกองหน้าตัวนอก ประกอบกับ ชาพาเรนโก้ เพิ่มการคอนโทรลบอลตรงกลาง ทำให้ยูเครนมีการเคลื่อนที่ในพื้นที่สุดท้ายมากขึ้น เกมบุกเริ่มไหลลื่น ใช้การเจาะริมเส้นสลับกับแทงทะลุช่องจากคาลยูฌนีและชาพาเรนโก้ ส่งผลให้แนวรับไอซ์แลนด์ถอยลึกและเสียสมาธิ จนโดนลงโทษสองประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้าย
ด้านเกมรับ ยูเครนเล่นได้มีระเบียบ เซ็นเตอร์ทั้งซาบาร์นีและมัตวีเยนโก้อ่านเกมลูกกลางอากาศได้ดี ปิดจุดแข็งลูกโหม่งของคู่หน้าทีมเยือน ขณะที่แบ็กสองฝั่งคอยเติมเกมแต่ไม่หลุดตำแหน่ง ทำให้ ไอซ์แลนด์ที่หวังเล่นบอลยาวและครอสจากด้านข้างไม่สามารถสร้างโอกาสเน้นๆ ได้มากนัก
ฝั่งไอซ์แลนด์ เกมรับช่วง 70 นาทีแรกถือว่าทำได้ตามแท็กติก ตั้งโซนได้ดี แพ็คกลางแน่น แต่ปัญหาใหญ่คือการลงไปยืนลึกเกินไปเมื่อโดนบุกต่อเนื่อง ทำให้เวลาตัดบอลได้ไม่มีระยะให้สวนกลับ จังหวะรุกจึงไม่ต่อเนื่อง และเมื่อเปลี่ยนตัวสองรายพร้อมกันในนาที 86 โครงสร้างเกมรับทางริมเส้นก็เริ่มหลวม จนมาพลาดปล่อยให้ ฮุตซูเลียก มีพื้นที่เล่นงานตลอดช่วงทดเวลาเจ็บ
โดยรวมถือเป็นเกมที่แสดงให้เห็นคุณภาพม้านั่งสำรองของยูเครน ที่สามารถเปลี่ยนรูปเกมได้ชัดเจน ทั้งในแง่ความเร็ว การดวลหนึ่งต่อหนึ่ง และความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย

📈 สถิติการแข่งขัน – ยูเครนคุมเกม ไอซ์แลนด์ได้เตะมุมรัว
ตัวเลขจากหลังเกมบอกชัดว่า ยูเครนครองเกมได้เหนือกว่าเล็กน้อย ยิงทั้งหมด 13 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง ขณะที่ไอซ์แลนด์ยิง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง การครองบอลอยู่ที่ราว 52% ต่อ 48% ใกล้เคียงกัน แต่รูปแบบการเล่นต่างกันชัดเจน ยูเครนพยายามต่อบอลจากแนวรับขึ้นหน้า ส่วนไอซ์แลนด์เน้นเคาะสั้นแล้ววางยาวขึ้นหน้า หรือโยนเข้ากรอบเขตโทษ
แม้ไอซ์แลนด์จะบุกน้อยกว่า แต่ได้ลูกเตะมุมมากถึง 10 ครั้ง เทียบกับยูเครนแค่ 3 ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าเกมสวนกลับและการโยนยาวของทีมเยือนสร้างแรงกดดันพอสมควร ทว่าเกมรับยูเครนยังคุมพื้นที่ลูกกลางอากาศได้ดี
จำนวนฟาวล์ ยูเครนทำไป 12 ครั้ง มากกว่าไอซ์แลนด์ที่ 6 ครั้ง รวมถึงใบเหลือง 2 ใบของ ยูเครน (มาลินอฟสกี, โคโนปเลีย) กับอีก 1 ใบด้านไอซ์แลนด์ (โยฮันน์สสัน) บ่งบอกถึงความดุดันของเกมที่ต้องตัดฟาวล์กันหลายจังหวะเพื่อหยุดเกมสวนกลับ
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ 45+1’ – บียาร์นี โยฮันน์สสัน (ไอซ์แลนด์) ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลือง เป็นเหตุการณ์เด่นช่วงท้ายครึ่งแรก
- 🔁 65’ – ไอซ์แลนด์เปลี่ยนตัว ส่ง บาร์รี้ ดาร์รี วิลลุมส์สัน ลงแทน โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สสัน เสริมความสดริมเส้น
- 🔁 69’ – ยูเครนเปลี่ยนสองคนพร้อมกัน ส่ง โรมัน ยาเร็มชุค แทน วลาดิสลาฟ วานัต และ มิโคลา ชาพาเรนโก้ แทน ยาร์โมลยุค
- 🟨 75’ – รุสลัน มาลินอฟสกี (ยูเครน) โดนใบเหลืองจากการตัดฟาวล์กลางสนาม
- 🔁 77’ – จุดเปลี่ยนเกม ยูเครนส่ง โอเล็กซีย์ ฮุตซูเลียก ลงแทน มาลินอฟสกี
- ⚽ 83’ – ประตู 1-0 ยูเครน! ฮุตซูเลียก หลุดทางซ้ายก่อนเปิดให้ โอเล็กซานเดอร์ ซูบคอฟ ยิงเสียบตาข่าย
- 🟨 85’ – โอเล็กซานเดอร์ โคโนปเลีย ทำฟาวล์หนักโดนใบเหลือง
- 🔁 86’ – ไอซ์แลนด์เปลี่ยนสองคน ส่ง ดาเนียล ทริสตาน กุ๊ดยอห์นเซน กับ โลกี้ โทมาสสัน ลงแทน ธอร์สไตน์สสัน และ เอลเลิร์ตสสัน
- 🔁 87’ – ยูเครนเสริมเกมรับ ส่ง โอเล็กซานเดอร์ สวาต็อค แทน ซูบคอฟ และ เยฮอร์ นาซารินยา แทน ซีกังคอฟ
- ⚽ 90+3’ – ประตูปิดกล่อง 2-0 ยูเครน! คาลยูฌนี แทงทะลุช่องให้ ฮุตซูเลียก หลุดเดี่ยวซัดจ่อๆ ไม่เหลือ
⭐ Player of the Match – โอเล็กซีย์ ฮุตซูเลียก
ฮีโร่ของเกมนี้ต้องยกให้ โอเล็กซีย์ ฮุตซูเลียก ปีกซ้ายตัวสำรองของยูเครน ที่ลงมาเพียงไม่ถึง 20 นาทีแต่เปลี่ยนหน้าตาเกมทั้งสนาม ได้คะแนนสูงสุด 9.0
ทันทีที่ลงมา ฮุตซูเลียกใช้ความเร็วและการเลี้ยงกินตัวเล่นงานแบ็กขวาของไอซ์แลนด์ต่อเนื่อง ทั้งสร้างจังหวะลุ้นยิงเองและเปิดบอลอันตราย นาที 83 เขาเป็นคนเปิดให้ ซูบคอฟ ยิงประตูขึ้นนำ ก่อนจะมาปิดท้ายด้วยการวิ่งสอดรับบอลทะลุช่องจากคาลยูฌนี แล้วซัดประตูที่สองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+3
ผลงาน 1 ประตู 1 แอสซิสต์ ในเกมสำคัญระดับคัดบอลโลกแบบนี้ ทำให้ชื่อของ ฮุตซูเลียก ขึ้นไปอยู่หัวตารางเรตติ้งในหลายสำนัก ผลบอลสด ทันที และอาจกลายเป็นตัวเลือกหลักของยูเครนในโปรแกรมต่อๆ ไปอย่างไม่ต้องสงสัย

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนน กลุ่ม D
หลังจบเกมนี้ ตารางคะแนนกลุ่ม D ปรับใหม่ ฝรั่งเศสยังนำจ่าฝูง มี 16 คะแนนจาก 6 นัด ส่วน ยูเครน เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน จากผลงาน ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 2 ประตูได้ 10 เสีย 11 รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม มีลุ้นพื้นที่ผ่านเข้ารอบต่อไปเต็มตัว
ด้าน ไอซ์แลนด์ แพ้เพิ่มเป็นนัดที่ 3 มี 7 คะแนนจาก 6 นัด อยู่ที่ 3 ของกลุ่ม ยังคงต้องลุ้นหนักในเกมที่เหลือ เพราะตามหลังยูเครนอยู่ 3 แต้ม และเสียเปรียบเรื่องเฮดทูเฮดหลังจากพ่ายในเกมนี้
ส่วน อาเซอร์ไบจาน รั้งบ๊วยของกลุ่ม มีเพียง 1 คะแนนจาก 6 นัด เท่ากับว่าการลุ้นตั๋วหลักๆ จะเป็นการแย่งกันระหว่าง ฝรั่งเศส ยูเครน และไอซ์แลนด์ ไปจนถึงนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม
📅 ตารางบอลกลุ่ม D นัดถัดไป & โปรแกรมข้างหน้า
ในมุมของแฟนบอลที่ชอบเช็ก ตารางบอล และ โปรแกรมบอล กลุ่ม D ยังมีโปรแกรมให้ลุ้นกันอีกหลายแมตช์ ยูเครนยังต้องเจอทั้งเกมเหย้าและเยือนกับคู่แข่งระดับแกร่ง ซึ่งทุกแต้มสำคัญต่อการลุ้นเข้ารอบ ส่วนไอซ์แลนด์เองจำเป็นต้องเก็บชัยชนะให้ได้ต่อเนื่อง หากหวังเบียดขึ้นไปแย่งอันดับสองจากยูเครน
แม้รายละเอียดคู่แข่งและวันแข่งนัดต่อไปของทั้งสองทีมต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการจากฟีฟ่าและสมาคม แต่จากรูปเกมวันนี้ บอกได้เลยว่าทุกแมตช์ที่มีชื่อ ยูเครน และ ไอซ์แลนด์ โผล่อยู่บนหน้า ตารางบอล จะเป็นเกมที่ห้ามพลาดสำหรับคอบอลแน่นอน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และผลบอลสดมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
แฟนบอลที่อยากตามลุ้นเส้นทางของยูเครนและไอซ์แลนด์ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รวมถึงคู่เด็ดจากทุกลีกทั่วโลก อย่าลืมกดเข้าเช็ก บ้านผลบอล, สรุปผล, ไฮไลต์ และอัปเดต ผลบอลสด แบบเรียลไทม์กับเราได้ที่ บ้านกีฬา ทุกวัน บ้านกีฬาเก็บครบทั้งสกอร์สด สถิติหลังเกม บทวิเคราะห์เข้มๆ และบรรยากาศในสนามให้คุณไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของโลกฟุตบอล

