บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ดราม่าทดเจ็บ! อิซัคเซ่นกู้ชีพ เดนมาร์กไล่เจ๊าเบลารุส 2-2 ยังต้องลุ้นตั๋วต่อเกมเยือนสกอตแลนด์

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง เดนมาร์ก 2-2 เบลารุส วันนี้ 16/11/68 – บ้านกีฬา

ศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม C เกมนี้ เดนมาร์ก เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบลารุส กลายเป็นแมตช์ที่กดดันแฟนบอลสุด ๆ สำหรับคนตามเช็ก ผลบอลสด นาทีต่อนาที เพราะรูปเกม “โคนม” บดคู่แข่งอยู่ฝั่งเดียว สร้างโอกาสนับไม่ถ้วน แต่สุดท้ายต้องเหนื่อยจนเกือบแผ่ว ก่อนจะได้ประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกม เสมอ 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม

⏱️ ครึ่งแรก: โคนมคุมเกม นำเร็วแต่ไม่คมพอ

เปิดฉากมา เดนมาร์กเดินหน้าบุกตั้งแต่ต้น เกมริมเส้นฝั่งซ้ายอย่าง ดอร์กู กับ ดัมส์การ์ด ปั่นป่วนแนวรับเบลารุสต่อเนื่อง และมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ นาที 11 จากจังหวะโลดแล่นของ มิกเกล ดัมส์การ์ด เก็บบอลหน้ากรอบแล้วกดด้วยซ้ายส่งบอลเสียบมุมอย่างเฉียบ ทำให้รูปเกมยิ่งไหลเข้าทางเจ้าถิ่น

หลังจากขึ้นนำ เดนมาร์กยิ่งครองบอลอย่างมั่นใจ เล่นกันแบบอดทน วางบอลสั้น-ยาวสลับกันไป จนแนวรับเบลารุสต้องถอยลงต่ำแทบทั้งทีม โอกาสยิงของเจ้าบ้านไหลมาเรื่อย ๆ แต่ดันจบไม่คม หลุดกรอบบ้าง ติดเซฟ ลาปูคอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือนที่ฟอร์มหนึบเหลือเกิน

เบลารุสมีจังหวะตอบโต้แค่เป็นระยะ อาศัยบอลยาวหาช่องให้ ลิซาโควิช ยืนพักบอล แต่แทบไม่ได้ลุ้นแบบชัด ๆ จนกระทั่งช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 36 คิริลล์ เพเชนิน โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์ตัดเกม ก่อนที่ นาที 42 จะมีการเปลี่ยนตัวครั้งแรก เมื่อ เยกอร์ ควัลโก ลงมาแทน ปาร์โคเมนโก ที่ดูเหมือนมีอาการเจ็บเล็กน้อย

แม้จะทดเจ็บเพิ่ม แต่สกอร์ยังคง 1-0 เดนมาร์กนำเมื่อจบครึ่งแรก ท่ามกลางความรู้สึกว่าทีมของตัวเองควรจะนำมากกว่านี้

🔁 ครึ่งหลัง: เกมพลิกสองนาที เบลารุสคมกริบก่อนโดนอิซัคเซ่นยิงคืน

กลับมาครึ่งหลัง ภาพรวมยังเป็นเดนมาร์กที่ไล่บี้เหมือนเดิม แต่เบลารุสเริ่มกล้าดันไลน์สูงขึ้นเล็กน้อย นาที 50 มาลาเชวิช ไปมีปากเสียงกับผู้ตัดสินจนโดนใบเหลือง ตามมาด้วยใบเหลืองของ ควัลโก นาที 54 เกมเริ่มเดือดขึ้นทุกจังหวะปะทะ

แล้วดราม่าก็เริ่มต้น นาที 62 เบลารุสฉวยโอกาสจากจังหวะโต้กลับเร็ว บอลถูกไหลให้ วาเลรี โกรมิโก หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อผ่านมือชมไมเคิล กลายเป็น 1-1 ช็อกทั้งสนาม เจ้าบ้านยังตั้งหลักไม่ทัน นาที 65 แฟนโคนมต้องเงียบสนิทอีกครั้ง เมื่อโรมิโก จ่ายทะลุช่องให้ นิกิต้า เดมเชนโก ซัดเสียบมุม แซงนำ 2-1 แบบใช้โอกาสสุดคุ้มค่า

โดนสองเม็ดในเวลาแค่สามนาที เดนมาร์กจำเป็นต้องแก้เกมทันที นาที 70 ไบรอัน รีเมอร์ ส่งทีเดียวสามตัวรวด วิคเตอร์ โฟรฮอลต์, มอร์เทน ฮยุลมันด์ และ มิคาห์ เบียเรธ ลงมาเสริมแดนกลางและแนวรุกแทน อีริคเซ่น, เนอร์การ์ด และ วินด์ เพื่อเร่งสปีดการบุก ขณะที่เบลารุสก็ขยับเอง นาที 69 ถอด ลิซาโควิช กับ เดมเชนโก ออก แล้วส่ง บาร์คอฟสกีย์ กับ นิกิต้า คอร์ซุน ลงมาเล่นเกมรับแน่นขึ้น ก่อนที่ คอร์ซุนจะโดนใบเหลืองข้อหาถ่วงเวลา นาที 75

เกมทำท่าจะไหลไปทางเบลารุส แต่เดนมาร์กไม่ยอมแพ้ นาที 79 กุสตาฟ อิซัคเซ่น โชว์ความนิ่งทะลุทะลวงจากฝั่งขวา ทำชิ่งกับเพื่อนก่อนหลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย ตีเสมอ 2-2 จุดไฟให้แฟนเจ้าบ้านกลับมาร้องเพลงกันลั่นสนาม

ท้ายเกม เดนมาร์กยังกดดันต่อเนื่อง นาที 88 ส่ง อันเดรียส ดรายเออร์ ลงมาปั่นเกมรุกแทนฮีโร่อย่างอิซัคเซ่น จากนั้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลาปูคอฟโดนใบเหลืองข้อหาถ่วงเวลา ก่อนที่ นาที 90+7 ฟิลลิป บิลลิง จะถูกส่งลงมาแทนดัมส์การ์ด เป็นการโยนทุกอย่างลงสนามเพื่อหวังประตูชัย แต่สุดท้ายทำเพิ่มไม่ได้ จบเกมเสมอ 2-2 แบบทำให้แฟนเจ้าบ้านเสียดายทั้งประเทศ

📋 รายชื่อ 11 ตัวจริงและตัวสำรองเด่นของทั้งสองทีม

🇩🇰 เดนมาร์ก (4-4-1-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 7.24

ผู้รักษาประตู

  • แคสเปอร์ ชไมเคิล (6.2)

กองหลัง

  • ราสมุส คริสเตนเซน (7.6)
  • อันเดรียส คริสเตนเซน (7.1)
  • ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (7.2)
  • แพทริก ดอร์กู (7.9)

กองกลาง

  • ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก กัปตันทีม (7.8)
  • คริสเตียน เนอร์การ์ด (7.0)
  • คริสเตียน เอริคเซ่น (7.4)
  • มิกเกล ดัมส์การ์ด (7.6) – ทำ 1 ประตูเปิดหัว

ตัวรุก

  • กุสตาฟ อิซัคเซ่น (8.1) – ยิง 1 ประตู ติด Player of the match
  • โยนัส วินด์ (7.1)

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • วิคเตอร์ โฟรฮอลต์ (6.7) แทน เอริคเซ่น นาที 70
  • มอร์เทน ฮยุลมันด์ (7.4) แทน เนอร์การ์ด นาที 70
  • มิคาห์ เบียเรธ (6.8) แทน วินด์ นาที 70
  • อันเดรียส ดรายเออร์ (6.7) แทน อิซัคเซ่น นาที 88
  • ฟิลลิป บิลลิง ลงนาที 90+7 แทน ดัมส์การ์ด

🇧🇾 เบลารุส (3-4-2-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.85

ผู้รักษาประตู

  • เฟดอร์ ลาปูคอฟ (8.1) – เซฟอุตลุต ได้ใบเหลืองช่วงทดเจ็บ

กองหลังสามคน

  • คิริลล์ เพเชนิน (7.7) – โดนใบเหลืองนาที 36 แต่ยังคุมโซนได้ดี
  • ปาเวล ซาเบลิน (6.9)
  • โรดิโอน เบกูนอฟ (6.8)

วิงแบ็กและมิดฟิลด์ตัวกลาง

  • เอ็ดการ์ มาลาเชวิช (5.9) – ได้ใบเหลืองนาที 50 จากจังหวะโวยผู้ตัดสิน
  • เอ็ดการ์ ปาร์โคเมนโก (6.5) – ถูกเปลี่ยนออกนาที 42
  • นิกิต้า เดมเชนโก (7.3) – ทำ 1 ประตู (ลูกที่สองของทีม)
  • เอวิกัน ยาบลอนสกี้ กัปตันทีม (6.6)
  • มักซิม อีบง (6.6)

ตัวรุก

  • วาเลรี โกรมิโก (7.8) – ยิง 1 จ่าย 1 โหดจัดในเกมสวนกลับ
  • วลาดิสลาฟ ลิซาโควิช (6.7)

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • เยกอร์ ควัลโก (6.6) แทน ปาร์โคเมนโก นาที 42 – ได้ใบเหลืองนาที 54
  • นิกิต้า คอร์ซุน (6.3) แทน เดมเชนโก นาที 69 – โดนใบเหลืองถ่วงเวลานาที 75
  • เกอร์มัน บาร์คอฟสกีย์ (6.5) แทน ลิซาโควิช นาที 69
  • อาร์เตม คอนต์เซโวย์ (6.4) แทน โกรมิโก นาที 78

🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในเชิงแท็กติก ต้องบอกว่าเกมนี้คือบทเรียนสำคัญของเดนมาร์กแบบเต็ม ๆ บ้านกีฬาในฐานะคนดูแล้วทำให้เห็นภาพชัดว่า แม้รูปเกมจะเหนือกว่า แต่ถ้าจังหวะสุดท้ายไม่เฉียบคมพอ ก็แทบไม่ได้อะไรกลับไป การเล่นเกมรุกของโคนมในระบบ 4-4-1-1 ถือว่าทำได้ดี ดอร์กู กับ ดัมส์การ์ดเติมจากฝั่งซ้ายได้ต่อเนื่อง ขณะที่ฝั่งขวามีคริสเตนเซนซ้อนให้ อิซัคเซ่น มีอิสระในการลากเลื้อยตัดเข้าใน ช่วยเปิดพื้นที่ให้ เอริคเซ่น คอยแทงทะลุช่องให้วินด์

ปัญหาคือจังหวะจบของแนวรุกเจ้าบ้านไม่เฉียบคม ยิงไปถึง 32 ครั้งแต่ได้แค่ 2 ประตู หลายลูกติดบล็อกหรือยิงไปเข้ามือ ลาปูคอฟ ที่วันนี้ฟอร์มเทพมาก ทางด้านเกมรับ เดนมาร์กคุมพื้นที่ได้ดีเกือบทั้งเกม แต่พอเสียบอลในแดนคู่แข่งแล้วถอยไม่ทัน ทำให้โดนโต้กลับเร็วสองจังหวะติด ๆ และกลายเป็นสองประตูที่รับมือไม่ได้

ฝั่งเบลารุส แผน 3-4-2-1 เน้นตั้งรับลึก ใช้กองหลังสามตัวบวกวิงแบ็กช่วยปิดพื้นที่ริมเส้น ปล่อยให้ เดมเชนโก กับ อีบง วิ่งไล่บี้กลางสนาม สร้างกำแพงดักจังหวะสุดท้าย พอแย่งบอลได้ก็รีบแทงเร็วให้โรมิโก หรือ ลิซาโควิช หลุดขึ้นหน้า การยืนโซนหลังจากขึ้นนำ 2-1 ช่วงกลางครึ่งหลังถือว่าทำได้เหนียวแน่น แต่ช่วงท้ายเจอแรงกดดันสูงจากเดนมาร์กจนมีช่องให้ อิซัคเซ่น เจาะเข้าไปยิงตีเสมอ ซึ่งก็ชัดเจนว่าความฟิตและสมาธิในช่วงท้ายเกมยังเป็นจุดที่ต้องแก้ไข

โดยรวมแล้วในมุม วิเคราะห์บอล เกมนี้คือภาพสะท้อนของทีมที่ “เล่นดีกว่าแต่ไม่ได้สามแต้ม” สำหรับเดนมาร์ก และทีมที่ “เล่นตามแท็กติกอย่างมีวินัย” สำหรับเบลารุส

📊 สถิติการแข่งขันจากมุมมองสนาม

ตัวเลขหลังเกมบอกชัดว่าเดนมาร์กเหนือกว่าเกือบทุกด้าน เมื่อจบ 90 นาที พวกเขายิงรวมถึง 32 ครั้ง เข้ากรอบ 8 ครั้ง ขณะที่เบลารุสยิงเพียง 4 ครั้ง เข้ากรอบ 3 แต่กลับเปลี่ยนเป็น 2 ประตูอย่างโหด การครองบอล เจ้าถิ่นถือบอลมากถึง 59% ต่อ 41% ของทีมเยือน พยายามต่อบอลเซ็ตเกมจากหลังขึ้นหน้าอย่างต่อเนื่อง

จุดที่น่าสนใจคือจำนวนฟาวล์และใบเหลือง เบลารุสทำฟาวล์ถึง 15 ครั้ง ได้ใบเหลืองถึง 5 ใบ ขณะที่เดนมาร์กฟาวล์แค่ 5 ครั้ง ไม่มีใบเหลืองเลย สะท้อนภาพชัดว่าเจ้าบ้านเล่นบอลเน้นเกมบุกล้วน ๆ ส่วนทีมเยือนต้องใช้การหยุดเกมและตัดฟาวล์เพื่อต่อชีวิตหลายครั้ง นอกจากนี้ เดนมาร์กยังได้เตะมุมมากถึง 13 ครั้ง เทียบกับเบลารุสแค่ 3 ครั้ง แต่อย่างที่เห็น โอกาสเยอะแต่ไม่คมทำให้ต้องยอมรับผลเสมอแบบเจ็บ ๆ

⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม

  • ⚽ 11′ มิกเกล ดัมส์การ์ด ซัดให้เดนมาร์กนำ 1-0
  • 🟨 36′ คิริลล์ เพเชนิน รับใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์หนัก
  • 🔁 42′ เบลารุสเปลี่ยน เยกอร์ ควัลโก ลงแทน เอ็ดการ์ ปาร์โคเมนโก
  • 🟨 50′ เอ็ดการ์ มาลาเชวิช โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน
  • 🟨 54′ เยกอร์ ควัลโก รับใบเหลืองจากการตัดเกม
  • ⚽ 62′ วาเลรี โรมิโก ยิงตีเสมอให้เบลารุส 1-1
  • ⚽ 65′ นิกิต้า เดมเชนโก ยิงแซง 2-1 ให้เบลารุส จากการทำทางของโรมิโก
  • 🔁 69′ เบลารุสปรับสองตำแหน่ง ส่ง นิกิต้า คอร์ซุน และ เกอร์มัน บาร์คอฟสกีย์ แทน เดมเชนโก กับ ลิซาโควิช
  • 🔁 70′ เดนมาร์กแก้เกมทีเดียวสามคน โฟรฮอลต์, ฮยุลมันด์, เบียเรธ ลงแทน เอริคเซ่น, เนอร์การ์ด, วินด์
  • 🟨 75′ นิกิต้า คอร์ซุน โดนเหลืองข้อหาถ่วงเวลา
  • 🔁 78′ เบลารุสส่ง อาร์เตม คอนต์เซโวย์ แทน วาเลรี โรมิโก ที่วันนี้เล่นเด่นสุด ๆ
  • ⚽ 79′ กุสตาฟ อิซัคเซ่น ซัดตีเสมอให้เดนมาร์ก 2-2
  • 🔁 88′ อันเดรียส ดรายเออร์ ลงแทน อิซัคเซ่น
  • 🟨 90+3′ เฟดอร์ ลาปูคอฟ ได้ใบเหลืองจากการถ่วงเวลา
  • 🔁 90+7′ ฟิลลิป บิลลิง ลงสนามแทน ดัมส์การ์ด ในช่วงวินาทีท้าย

⭐ Player of the Match – Gustav Isaksen

แม้เดนมาร์กจะชวดสามแต้ม แต่คนที่แบกทีมไว้แบบเต็ม ๆ คือ กุสตาฟ อิซัคเซ่น ปีกความเร็วสูงที่วันนี้เล่นได้ครบเครื่อง ทั้งเลี้ยงกินตัว สร้างโอกาส และเป็นคนยิงประตูตีเสมอสำคัญ นาที 79 ลูกนั้นไม่ใช่แค่ประตูธรรมดา แต่เป็นการชุบชีวิตทีมให้กลับมาลุ้นเข้ารอบต่อแบบมีความหวัง

การเคลื่อนที่ของอิซัคเซ่นทำให้เกมริมเส้นฝั่งขวาเดนมาร์กอันตรายทุกครั้งที่ได้บอล เล่นได้ทั้งยืนกว้างและขยับเข้าไปเป็นหน้าต่ำ เชื่อมกับเอริคเซ่นและวินด์ตลอดเวลา ไม่แปลกที่เรตติ้งจะพุ่งถึง 8.1 สูงสุดในทีมและถูกเลือกเป็น Player of the match จากโซฟาสกอร์

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนกลุ่ม C

หลังจบเกมนี้ เดนมาร์กมี 11 คะแนนจาก 5 นัด (ชนะ 3 เสมอ 2 ยังไม่แพ้ใคร) ยิง 14 เสีย 3 ลูก ผลเสมอทำให้ยังรั้งจ่าฝูงกลุ่ม C แต่โดนสกอตแลนด์ไล่จี้ติด ๆ ที่ 10 คะแนนจาก 5 นัดเช่นกัน ขณะที่กรีซมี 6 คะแนน และเบลารุสมีเพียง 1 แต้มอยู่บ๊วยของกลุ่ม

กล่าวง่าย ๆ คือหนึ่งแต้มในบ้านเกมนี้ แม้จะน่าผิดหวัง แต่ยังทำให้เดนมาร์กคุมชะตาตัวเองได้อยู่ หากไม่พลาดในเกมใหญ่กับสกอตแลนด์ ส่วนเบลารุส แม้แต้มจะยังห่างโซนลุ้นตั๋ว แต่ฟอร์มฮึดแบ่งแต้มทีมใหญ่แบบนี้อย่างน้อยก็เพิ่มความมั่นใจว่าพวกเขายังสู้กับทีมระดับท็อปของกลุ่มได้

📅 ตารางบอลคัดบอลโลกโซนยุโรปนัดถัดไป

ตามภาพจากโซฟาสกอร์ โปรแกรมนัดต่อไปในกลุ่ม C ที่แฟนบอลต้องจดใส่ลิสต์ ตารางบอล มีสองคู่สำคัญในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2025 เวลา 02.45 น. (ตามเวลาไทย) คือ

  • สกอตแลนด์ พบ เดนมาร์ก – เกมชี้ชะตาจ่าฝูง ถ้าเดนมาร์กบุกไปชนะได้ โอกาสคว้าตั๋วอัตโนมัติจะเปิดกว้างสุด ๆ
  • เบลารุส พบ กรีซ – ดวลกันของทีมที่ต้องการแต้มเพื่อหนีบ๊วยและลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟ

แฟนบอลที่อยากตามเชียร์ต่อ ห้ามพลาดอัปเดตผลและ โปรแกรมบอล ของกลุ่มนี้ เพราะทุกแต้มมีผลต่อเส้นทางสู่เวิลด์คัพอย่างแท้จริง

🏠 ติดตาม บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา

ใครที่ลุ้นเกมนี้แบบใจหายใจคว่ำ บ้านกีฬา บอกเลยว่าถ้าไม่ตามสกอร์กับเว็บเช็ก บ้านผลบอล และคอนเทนต์เจาะลึกจากเรา จะพลาดบรรยากาศดราม่าหนักมาก ตั้งแต่ประตูนำเร็วของดัมส์การ์ด ไปจนถึงลูกกู้ชีพของอิซัคเซ่น

ต่อจากนี้ หากอยากตามผลแบบสด ๆ ดูตัวเลขสถิติลึก ๆ พร้อมบทวิเคราะห์สไตล์นักข่าวสนามจริง เสียงจริง บ้านกีฬาพร้อมอัปเดตให้ครบทั้งสกอร์สด ข่าวก่อนเกม หลังเกม ไฮไลต์สำคัญ ทุกอย่างจบในที่เดียว เข้ามาเช็กทุกคืนทีมชาติ รับรองไม่ตกข่าวบอลโลกแน่นอน

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา