บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ฟุตบอลโลก 2026 คัดเลือกโซนยุโรป – มังกรแดงบี้แทบขาดใจ จอร์แดน เจมส์ ซัดดับลิกเตนสไตน์ 1-0 ต่ออายุลุ้นเข้ารอบ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง ลิกเตนสไตน์ 0-1 เวลส์ วันนี้ 16/11/68 – บ้านกีฬา

ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม J เกมนี้ ลิกเตนสไตน์ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เวลส์ ในบรรยากาศที่กดดันสุดๆ เพราะแต้มทุกคะแนนส่งผลโดยตรงต่อเส้นทางเข้ารอบของมังกรแดง ด้านแฟนบอลสายเช็ก ผลบอลสด เปิดจอตามดูแบบลุ้นตัวเกร็ง ตั้งแต่นาทีแรกจนจบเกม

เวลส์เป็นฝ่ายครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียวตามคาด แต่กว่าจะฝ่ากำแพงเหล็กของเจ้าถิ่นได้ก็ต้องรอจนเกือบกลางครึ่งหลัง ก่อนที่ชื่อของ จอร์แดน เจมส์ จะขึ้นสกอร์บอร์ด กลายเป็นลูกยิงสำคัญที่พาทีมบุกชนะ 1-0 เก็บสามแต้มกลับบ้านแบบหืดจับ ขณะที่ลิกเตนสไตน์สู้ด้วยวินัยเกมรับเต็มที่แล้วแต่ยังต้านไม่อยู่

⏱ ครึ่งแรก: มังกรแดงโหมหนัก VAR พรากประตูนำ

เปิดเกมมาไม่นานภาพก็ชัดเจนว่า เวลส์จะเดินเกมรุกใส่เต็มกำลัง การต่อบอลจากแดนหลังขึ้นมาถึงแนวรุกทำได้เนียนตา ใช้ความเร็วของ แดเนียล เจมส์ กับการสอดขึ้นมาของฟูลแบ็กอย่าง เนโก วิลเลียมส์ คอยเจาะริมเส้น ขณะที่ลิกเตนสไตน์ถอยลงไปตั้งโซนลึก ป้องกันในระบบ 5-3-2 โดยมี เบนจามิน บือเชิล ยืนเป็นด่านสุดท้าย

มังกรแดงสร้างโอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะยิงไกลและลูกครอสเข้ากรอบเขตโทษ แต่ยังติดเซฟนายด่านเจ้าถิ่น จนมาถึงนาทีที่ราวๆ 27 เวลส์ส่งบอลตุงตาข่ายจากจังหวะของ เนธาน บรอดเฮด ทว่าผู้ตัดสินเช็กแล้วให้เป็น “ประตูยกเลิก” สร้างเสียงบ่นจากแฟนที่ดูผ่านจอและกองเชียร์ทีมเยือนอย่างหนัก

ท้ายครึ่งแรกเกมเริ่มเดือดขึ้น มีจังหวะปะทะหนักหลายครั้ง ก่อนที่ นิโคลัส แฮสเลอร์ จะโดนใบเหลืองจากจังหวะถ่วงเวลา ช่วงทดเจ็บ สกอร์ยังคง 0-0 ทั้งที่เวลส์ครองบอลมากกว่าอย่างชัดเจน ทำให้ตอนพักครึ่งตัวเลขบนหน้าจอ บ้านผลบอล ยังไม่ขยับ แต่มองจากรูปเกมแล้วเหมือนประตูของมังกรแดงกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

⏱ ครึ่งหลัง: จอร์แดน เจมส์ ปลดล็อกพาเวลส์เฮ

ครึ่งหลัง เวลส์ยังเดินหน้าโหมบุกต่อเนื่อง ใช้การเคลื่อนที่ของสามแนวรุกสลับตำแหน่งกันตลอด จนแนวรับลิกเตนสไตน์เริ่มหลุดสมาธิบ้างเป็นระยะ และแล้วนาทีที่ 61 ความพยายามทั้งหมดก็ส่งผล

จังหวะนี้บอลถูกต่อขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนถูกฝากต่อให้ แดเนียล เจมส์ ลากจี้เข้ากรอบเขตโทษ แล้วไหลคืนเข้าเขตอันตรายให้ จอร์แดน เจมส์ วิ่งมาซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบตาข่ายแบบไม่เหลือให้เซฟ กลายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของเวลส์ และเป็นลูกยิงที่ระเบิดอารมณ์แฟนมังกรแดงทั้งสนาม

หลังเสียประตู ลิกเตนสไตน์ขยับเกมรุกบ้างด้วยการส่งตัวรุกอย่าง เฟอร์ฮัต ซักลาม, วิลเลียม พิซซี และ ซานโดร โวล์ฟิงเกอร์ ลงมาช่วยล่าตีเสมอ แต่แทบหาโอกาสจบสกอร์ไม่ได้ เพราะเจอเกมรับที่นิ่งของ โจ โรดอน กับเพื่อนร่วมแนวรับ เวลส์เองก็ถ่ายบอลไปมาเพื่อฆ่าเวลา บวกกับการเปลี่ยนเอาตัวสำรองสดๆ อย่าง เดวิด บรู๊กส์, ลูอิส คูมาส, รูบิน โคลวิลล์, เลียม คัลเลน และ เบรนแนน จอห์นสัน ลงมาช่วยเพรสซิ่ง

ช่วงท้ายเกมมีใบเหลืองเพิ่มทั้งจากจังหวะฟาวล์ของ จอร์แดน เจมส์ และ ลูอิส คูมาส แต่รูปเกมโดยรวมยังคงเป็นของทีมเยือน จบ 90 นาที เวลส์รักษาสกอร์ 1-0 เอาไว้ได้ คว้าชัยสำคัญในเส้นทางลุ้นตั๋วฟุตบอลโลก

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน

🟦 ลิกเตนสไตน์ (ระบบ 3-5-2)

ผู้รักษาประตู

  • เบนจามิน บือเชิล – 7.7 เซฟสวยๆ หลายจังหวะ ป้องกันไม่ให้ทีมแพ้เละ

กองหลัง

  • มักซ์ เกิปเปิล – 6.7 เติมเกมซ้ายบ้างแต่ส่วนใหญ่ต้องถอยรับ
  • ลอเรนซ์ ไมเออร์ – 7.0 ช่วยดักจังหวะตัดบอลกลางอากาศได้ดี
  • อารอน มาลิน – 7.0 อ่านเกมรับนิ่ง เป็นตัวชนหลักหน้าเขตโทษ

กองกลาง

  • นิโคลัส แฮสเลอร์ (กัปตัน) – 6.5 วิ่งบี้ไล่ตัดเกม แต่มีใบเหลืองจากการถ่วงเวลา
  • ซานโดร ลืชซิงเกอร์ – 6.4 ช่วยวิ่งไล่เพรสแต่แทบไม่ได้สร้างเกมรุก
  • อารอน แฮสเลอร์ – 6.5 พยายามเชื่อมบอลจากหลังสู่หน้าแต่โดนเพรสหนัก
  • อันเดรียส เซเล – 6.5 คอยบีบพื้นที่แดนกลาง ลดช่องให้มังกรแดงจ่ายทะลุ
  • ฟาบิโอ แอล. โนทาโร – 6.1 ช่วยป่วนทางริมเส้นแต่สุดท้ายเจอใบเหลืองจากจังหวะโวย

กองหน้า

  • เอิร์นสต์ ซึนด์ – 6.3 วิ่งหาพื้นที่ตลอดแต่แทบไม่ได้ยิง
  • เดนิส ซาลาโนวิช – 6.3 ถอยลงมารับบอลลึก ช่วยพักบอลให้เพื่อน

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • เฟอร์ฮัต ซักลาม – 6.3 (ลง 46’ แทน ซาลาโนวิช) พยายามหาบอลแต่โดนบีบหนัก
  • โยนาส ไวสเซนโฮเฟอร์ – 6.7 (ลง 66’ แทน ซึนด์) เพิ่มความสดในแนวรุก
  • วิลเลียม พิซซี – 6.6 (ลง 74’ แทน โนทาโร) ได้ลองลากยิงบ้างแต่ไม่เข้ากรอบ
  • เซเวอริน ชเลเกล – 6.5 (ลง 81’ แทน เซเล) เสริมแรงวิ่งในแดนกลางช่วงท้าย
  • ซานโดร โวล์ฟิงเกอร์ – 6.6 (ลง 81’ แทน อ. แฮสเลอร์) หวังเรื่องลูกกลางอากาศแต่โอกาสมีจำกัด

🟥 เวลส์ (ระบบ 4-1-4-1)

ผู้รักษาประตู

  • คาร์ล ดาร์โลว์ – 6.8 แทบไม่มีลูกยากให้เซฟ แต่ยืนตำแหน่งดีทุกจังหวะ

กองหลัง

  • เนโก วิลเลียมส์ – 7.9 เติมเกมรุกฝั่งขวาอย่างมีคุณภาพ ครอสบอลอันตรายหลายครั้ง
  • เดวิด ลอว์เลอร์ – 7.3 คุมแนวรับกลางได้ดี ไม่มีจังหวะผิดพลาดชัดเจน
  • โจ โรดอน – 7.6 แข็งแกร่ง ลูกกลางอากาศเก็บเรียบ
  • เจย์ ดาซิลวา – 7.7 เติมซ้ายจัดจ้าน เกมรับไม่หลุด

กองกลางรับ

  • อีธาน แอมปาดู (กัปตัน) – 7.4 คุมจังหวะเกมกลางสนาม อ่านเกมดี แม้โดนใบเหลืองช่วงท้าย

กองกลางตัวรุก/กึ่งปีก

  • มาร์ค แฮร์ริส – 6.8 วิ่งเพรสหนัก ช่วยเปิดพื้นที่ให้เพื่อน
  • จอร์แดน เจมส์ – 8.5 ฮีโร่ผู้ซัดประตูชัย และคุมจังหวะเกมบุกจากกลางสนาม
  • เนธาน บรอดเฮด – 6.9 มีชื่อยิงแต่โดนยกเลิก ช่วยเชื่อมเกมแดนหน้า
  • แดเนียล เจมส์ – 7.6 ป่วนริมเส้นต่อเนื่อง แอสซิสต์สวยๆ ให้ประตูชัย
  • โซร์บา โธมัส – 8.0 เลี้ยงกินตัวดี เปิดบอลสร้างโอกาสหลายครั้ง

กองหน้า

  • เนธาน บรอดเฮด เริ่มเป็นหน้าเป้า ก่อนสลับบทบาทกับเพื่อนแนวรุก

ตัวสำรองที่ลงสนาม

  • รูบิน โคลวิลล์ – 6.8 (ลง 65’ แทน บรอดเฮด) ช่วยพักบอลช่วงท้าย
  • ลูอิส คูมาส – 6.5 (ลง 66’ แทน แฮร์ริส) ได้จังหวะลุ้นยิงบ้างและโดนใบเหลืองจากการฟาวล์
  • เดวิด บรู๊กส์ – 6.6 (ลง 66’ แทน แดเนียล เจมส์) เติมความสดในเกมรุกฝั่งขวา
  • เลียม คัลเลน – 7.2 (ลง 77’ แทน จอร์แดน เจมส์) ช่วยไล่บีบสูงไม่ให้เจ้าถิ่นตั้งเกม
  • เบรนแนน จอห์นสัน – 6.6 (ลง 83’ แทน โธมัส) วิ่งกดดันแนวรับเจ้าบ้านจนแทบขึ้นบอลไม่ได้

🔍 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

ในมุมมองของ บ้านกีฬา หากมองเชิงแท็กติกและภาษาลูกหนังแบบสาย วิเคราะห์บอล จะเห็นว่าทั้งสองทีมเลือกวิธีเล่นต่างกันสุดขั้ว ลิกเตนสไตน์เน้นเกมรับลึก เก็บโซนในแดนตัวเอง ปล่อยให้เวลส์ครองบอลถึง 77% แล้วรอจังหวะโต้กลับเป็นหลัก การขยับของคู่หน้าเน้นวิ่งทำทางมากกว่ารับบอลเท้า เพราะบอลถูกเคลียร์ทิ้งออกมาไกลเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การเปลี่ยนจากรับเป็นรุกแทบไม่ต่อเนื่อง

ส่วนเวลส์ใช้ระบบ 4-1-4-1 ที่ยืดหยุ่น เวลาได้บอล แบ็กสองข้างดันสูงกลายเป็นวิงแบ็ก กองกลางตัวรับอย่างแอมปาดูถอยต่ำมาเป็นตัวสวิทช์บอล ทำให้มังกรแดงสร้างรูปแบบขึ้นเกมเป็น 3-2-5 ในจังหวะบุก มีตัวรุกยืนปักหลักหน้าเขตโทษถึงห้าคน ทั้ง แดเนียล เจมส์, โซร์บา โธมัส, จอร์แดน เจมส์, บรอดเฮด และฟูลแบ็กที่เติมสูง การเคลื่อนที่ซ้อนกันไปมา บวกกับการต่อบอลสั้น-ยาวสลับกัน ทำให้แนวรับเจ้าบ้านต้องวิ่งไล่ตลอด 90 นาที

เมื่อเสียบอล เวลส์ใช้ “เกเก้นเพรสซิ่ง” บีบคืนทันที ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าบ้านออกบอลสวนกลับง่ายๆ ทำให้ลิกเตนสไตน์มีสถิติยิงเพียง 3 ครั้งตลอดเกม และไม่มีลูกยิงตรงกรอบเลย นั่นสะท้อนว่ารูปแบบการป้องกันของเวลส์ทำได้ดีมาก ทั้งการยืนโซน การบีบพื้นที่ และการตัดฟาวล์ในจังหวะคับขันอย่างมีวินัย แม้จะต้องแลกกับใบเหลืองบ้างแต่ก็ช่วยปิดเกมได้อยู่หมัด

📊 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมชี้ชัดถึงความเหนือกว่าของทีมเยือน เวลส์ยิงทั้งหมด 15 ครั้ง เข้ากรอบ 6 ครั้ง ขณะที่ลิกเตนสไตน์มีโอกาสยิงเพียง 3 หนและไม่เข้ากรอบเลย การครองบอลเป็นของมังกรแดงถึง 77% เหลือให้เจ้าบ้านแค่ 23% แถมลูกเตะมุมก็อยู่ที่ 7-2 ฝั่งเวลส์ ขณะที่จำนวนฟาวล์ใกล้เคียงกัน (ลิกเตนสไตน์ 11 ครั้ง เวลส์ 9 ครั้ง) ใบเหลือง ลิกเตนสไตน์ 2 ใบ ส่วนเวลส์ 3 ใบ แสดงให้เห็นว่าทีมเยือนยอมทำฟาวล์เพื่อหยุดเกมสวนกลับ แต่แทบไม่เปิดโอกาสจะแจ้งให้คู่แข่งเลยตลอดทั้งแมตช์

📝 เหตุการณ์สำคัญของเกม

🔥 27’ เนธาน บรอดเฮด ส่งบอลเข้าประตูให้เวลส์ แต่ผู้ตัดสินเป่า “ประตูไม่ให้” หลังเช็กแล้วว่ามีจังหวะล้ำหน้า
⚠️ 45+2’ นิโคลัส แฮสเลอร์ โดนใบเหลืองจากการถ่วงเวลา ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก
🔁 46’ ลิกเตนสไตน์เปลี่ยนตัว ส่ง เฟอร์ฮัต ซักลาม ลงแทน เดนิส ซาลาโนวิช เพื่อเพิ่มความสดในแดนหน้า
💥 61’ แดเนียล เจมส์ ไหลบอลให้ จอร์แดน เจมส์ ซัดเสียบตาข่าย เป็นประตูขึ้นนำ 0-1 ให้เวลส์
🟨 63’ จอร์แดน เจมส์ ทำฟาวล์กลางสนาม รับใบเหลืองจากผู้ตัดสิน
🔁 65’ เวลส์เปลี่ยน เนธาน บรอดเฮด ออก ส่ง รูบิน โคลวิลล์ ลงสนาม
🔁 66’ เวลส์ส่ง ลูอิส คูมาส แทน มาร์ค แฮร์ริส และ เดวิด บรู๊กส์ แทน แดเนียล เจมส์ ปรับเกมรุกให้สดขึ้น
🟨 67’ ฟาบิโอ แอล. โนทาโร โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยผู้ตัดสิน
🔁 66’ ลิกเตนสไตน์เปลี่ยน โยนาส ไวสเซนโฮเฟอร์ ลงแทน เอิร์นสต์ ซึนด์
🔁 74’ วิลเลียม พิซซี ลงแทน ฟาบิโอ โนทาโร เพิ่มความหวังในเกมริมเส้น
🟨 79’ ลูอิส คูมาส ทำฟาวล์แรงเกิน รับใบเหลือง
🔁 81’ ลิกเตนสไตน์เปลี่ยนสองคนรวด ส่ง เซเวอริน ชเลเกล และ ซานโดร โวล์ฟิงเกอร์ ลงแทน อันเดรียส เซเล กับ อารอน แฮสเลอร์
🔁 77’ เวลส์ส่ง เลียม คัลเลน ลงแทนฮีโร่ จอร์แดน เจมส์ เพื่อเสริมตัวไล่บีบแดนหน้า
🔁 83’ เวลส์เปลี่ยน โซร์บา โธมัส ออก ส่ง เบรนแนน จอห์นสัน ลงสนาม
🟨 83’ อีธาน แอมปาดู ทำฟาวล์ตัดเกมกลางสนาม โดนใบเหลืองเพิ่มอีกหนึ่งใบ

👑 Player of the Match – จอร์แดน เจมส์

รางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเกมนี้ไปแบบไร้ข้อกังขาที่ จอร์แดน เจมส์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของเวลส์ ที่ได้คะแนนสูงถึง 8.5 ไม่ใช่แค่เพราะประตูชัยสุดคมในนาทีที่ 61 เท่านั้น แต่เขายังเป็นหัวใจสำคัญในการคุมจังหวะเกมรุก แทรกขึ้นไปหาช่องระหว่างไลน์กองกลางกับกองหลังเจ้าถิ่นตลอดเวลา วิ่งไม่มีหมดทั้งเพรสซิ่งและเชื่อมบอล เรียกได้ว่าหากไม่มีเขา เกมนี้มังกรแดงอาจสะดุดแบ่งแต้มแบบน่าเสียดายก็ได้

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม J

หลังจบเกมนี้ เวลส์ เก็บเพิ่มเป็น 13 คะแนนจาก 7 นัด (ชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 2 ยิง 14 เสีย 10) รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม J ไล่หลัง นอร์ทมาซิโดเนีย ที่มี 13 แต้มเท่ากันแต่ผลงานเฮดทูเฮดดีกว่า ส่วนจ่าฝูงยังเป็น เบลเยียม ที่เก็บไป 15 คะแนนจาก 7 นัด ขณะที่ลิกเตนสไตน์ยังไม่มีแต้มจาก 7 นัด รั้งบ๊วยของกลุ่มอย่างเหนียวแน่น

ชัยชนะนัดนี้ทำให้เวลส์ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นโควตา ผ่านเข้ารอบหรืออย่างน้อยก็เพลย์ออฟนัดสำคัญ ขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม

📆 ตารางบอลฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม J นัดถัดไป

โปรแกรมนัดสุดท้ายของกลุ่ม J ที่ปรากฏบนหน้า ตารางบอล มีสองคู่สำคัญในวันเดียวกันคือ

  • เบลเยียม พบ ลิกเตนสไตน์
  • เวลส์ พบ นอร์ทมาซิโดเนีย

เกมที่เวลส์เปิดบ้านดวล นอร์ทมาซิโดเนีย จะกลายเป็นแมตช์ชี้ชะตาโดยตรงว่ามังกรแดงจะไปต่อบนเส้นทางฟุตบอลโลกหรือไม่ แฟนบอลห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

📺 ติดตาม บ้านผลบอล และอัปเดตทุกจังหวะมันส์ที่ บ้านกีฬา

ใครที่อยากตามทุกสเต็ปของมังกรแดง รวมถึงคู่เด็ดจากลีกดังทั่วโลก เปิดจอเช็ก บ้านผลบอล กับ บ้านกีฬา ได้ทุกวัน เราจะอัปเดตสกอร์สดแบบเรียลไทม์ เจาะแท็กติก จัดสถิติเจาะลึก และสรุปไฮไลท์ให้แบบครบจบในที่เดียว สายเช็ก ผลบอลสด และคอลูกหนังตัวจริงต้องไม่หลุดโค้งข่าวจากเราเด็ดขาด

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา