จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง ตุรกี 2-0 บัลแกเรีย วันนี้ 16/11/68 – บ้านกีฬา
บ้านกีฬา พาเกาะติดศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม E เกมที่อิสตันบูล ตุรกีเปิดบ้านรับมือบัลแกเรีย เกมนี้เจ้าถิ่นต้องการสามแต้มเพื่อกดดันสเปนต่อในการลุ้นแชมป์กลุ่ม และจากฟอร์มในสนามก็เห็นชัดว่าพวกเขาเอาจริงชนิดไม่ให้แขกตั้งลำได้เลย ไล่บี้ตั้งแต่ต้นจนจบแบบสมชื่อสกอร์จากหน้าเว็บ ผลบอลสด
🕐 ครึ่งแรก: จุดโทษคัลฮาโนกลูปลดล็อก
เสียงนกหวีดเริ่มเกมมาไม่นาน ตุรกียึดบอลบดบัลแกเรียอยู่ฝ่ายเดียว แดนกลางนำโดย ฮาคาน คัลฮาโนกลู คุมจังหวะถ่ายบอลซ้ายขวา กดให้ทีมเยือนไล่แต่เงา นาที 18 ความกดดันเปลี่ยนเป็นประตูเมื่อแนวรับบัลแกเรียพลาดทำฟาวล์ในเขตโทษ กัปตันฮาคานรับหน้าที่สังหารแบบนิ่งสนิท ส่งบอลเสียบตาข่าย 1-0 ให้เจ้าถิ่นออกนำตามรูปเกม
หลังจากนั้น ตุรกียังเดินหน้าบุกต่อเนื่อง ทั้งการลากเลื้อยของ เคนาน ยิลดิซ และการสอดขึ้นจากริมเส้นของ เฟร์ดี้ คาดิโอกลู แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบพอ บัลแกเรียอาศัยเกมรับแน่น ๆ กับจังหวะสวนกลับของ คีรียาน เดสปอดอฟ ทว่ายังไม่ดีพอจะกดให้ อูกูร์ชาน ชาคีร์ ต้องออกแรงมากนัก ช่วงท้ายครึ่งแรกมีอารมณ์เดือดเล็กน้อยจากใบเหลืองของ อับดุลเคริม บาร์ดัคชี และ อาร์ดา กืเลอร์ ก่อนจบ 45 นาทีแรกที่สกอร์ 1-0
🔁 ครึ่งหลัง: บดจนแตกก่อนปิดกล่องด้วย OG
ครึ่งหลัง วินเชนโซ่ มอนเตลล่า ปรับเกมทันที ส่ง ซาเม็ต อาคายดิน ลงมาแทน เมริห์ เดมิรัล เพื่อเพิ่มความนิ่งในแผงหลัง ก่อนจะตามด้วยการเปลี่ยนเต็มพิกัดทั้ง เมิร์ต มุลดูร์, คาน อายฮาน และ อาตากาน คาราซอร์ เพื่อเสริมพละกำลังในช่วงท้าย แม้สกอร์ยังห่างแค่ลูกเดียว แต่รูปเกมเป็นของตุรกีชัดเจน
บัลแกเรียพยายามตอบโต้ ส่ง มาร์ติน มินเชฟ, มาริน เปตคอฟ และ อีวายโล โชเชฟ ลงมาช่วยไล่ แต่เมื่อโดนบี้หนักกลางสนามก็ทำได้แค่ตัดฟาวล์และเคลียร์ทิ้งเป็นส่วนใหญ่ นาที 83 ความผิดพลาดในแนวรับทีมเยือนก็ลงโทษตัวเอง เมื่อ อันโตนี เชิร์เนฟ สกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเอง กลายเป็น 2-0 ให้เจ้าถิ่นเล่นสบาย ช่วงท้ายเกมมีการส่ง ยูซุฟ ซารื ลงมาเก็บบอลพักเวลา อีกทั้งมีใบเหลืองเพิ่มของ อิสไมล ยึคเซ็ค จากจังหวะโต้เถียง แต่สกอร์ไม่เปลี่ยน จบเกม ตุรกีเก็บชัยเหนือบัลแกเรีย 2-0 พร้อมเสียงเฮลั่นจากแฟนเจ้าถิ่น
🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและคะแนน
🇹🇷 ตุรกี – 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู
- อูกูร์ชาน ชาคีร์ (23) – เรตติ้ง 7.0 เซฟจังหวะสำคัญช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้ทีมเล่นอย่างมั่นใจ
กองหลัง
- เฟร์ดี้ คาดิโอกลู (20) – 7.3 เติมเกมรุกฝั่งซ้ายตลอดเวลา ก่อนถูกถอดพัก
- อับดุลเคริม บาร์ดัคชี (14) – 6.9 มีใบเหลืองติดตัวแต่ยังคุมเกมกลางอากาศได้ดี
- เมริห์ เดมิรัล (3) – 6.7 เล่นหนักตามสไตล์ ก่อนโดนเปลี่ยนออกช่วงพักครึ่ง
- เซกิ เชลิก (2) – 7.1 เติมเกมรุกด้านขวาตลอดครึ่งแรก
กองกลางตัวรับ/เชื่อมเกม
- อิสไมล ยึคเซ็ค (16) – 7.2 ตัดเกมกลางสนาม วิ่งไม่มีหมด มีใบเหลืองช่วงทดเจ็บ
- ฮาคาน คัลฮาโนกลู (10, กัปตัน) – 8.7 คุมจังหวะเกมทั้งสนาม เป็นคนยิงจุดโทษขึ้นนำและแจกบอลคม ๆ ตลอดทั้งเกม
กองกลางตัวรุก
- เคเรม อัคตือร์โกกลู (7) – 6.8 ลากเลื้อยฝั่งซ้ายสร้างโอกาสหลายครั้ง
- อาร์ดา กืเลอร์ (8) – 7.1 เชื่อมเกมระหว่างกลางกับหน้า มีจังหวะลุ้นยิงเองด้วย
- เคนาน ยิลดิซ (11) – 8.0 โชว์เทคนิคเลี้ยงกินตัว สร้างปัญหาให้แบ็กขวาบัลแกเรียตลอด ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในแข้งเรตสูงของเกม
กองหน้า
- โอกุซ อายดิน (19) – 7.5 ทำงานหนักวิ่งดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้แนวรุกด้านหลังเติมขึ้นมาทำเกม
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- ซาเม็ต อาคายดิน (15) – 6.9 ลงมาตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ช่วยให้แนวรับนิ่งขึ้น
- เมิร์ต มุลดูร์ (18) – 6.9 เติมเกมบุกทางขวาช่วงครึ่งหลัง
- คาน อายฮาน (22) – 6.6 ลงมาเล่นแบ็กขวา ก่อนถูกถอดให้ คาราซอร์ ลงแทนช่วงท้าย
- อาตากาน คาราซอร์ (13) – 6.6 ลงมาเพิ่มความสดแดนกลาง นาที 81
- ยูซุฟ ซารื (17) – 6.7 ลงมานาที 88 ช่วยเก็บบอลและยื้อเวลา
🇧🇬 บัลแกเรีย – 4-5-1
ผู้รักษาประตู
- ดิมิทาร์ มิตอฟ (1) – 7.5 เซฟสวย ๆ หลายครั้ง ถ้าไม่ใช่เขาสกอร์อาจไหลกว่านี้
กองหลัง
- ฮริสโต้ เปตรอฟ (2) – 6.4 เจองานหนักทั้งเกมจากการดวลกับยิลดิซ
- อันโตนี เชิร์เนฟ (3) – 6.3 เกมรับไม่ขี้เหร่แต่ดันมาพลาดทำเข้าประตูตัวเองนาที 83
- คริสติยาน ฟิลิป (14) – 7.1 คุมโซนกลางรับได้ดีที่สุดในแนวหลังทีมเยือน
- ซเวลตอสลาฟ ดิเมตรอฟ (10) – 6.1 พยายามเติมเกมรุกบ้าง แต่ส่วนใหญ่ต้องถอยลงมาป้องกัน
กองกลาง
- อันเดรียน คราเอฟ (8) – 7.0 วิ่งไล่ไล่เพรสแดนกลาง เป็นหนึ่งในคนที่เล่นเด่นสุดของบัลแกเรีย
- อิลิยัน กรูเอฟ (4) – 6.7 คอยตัดเกมหน้าแผงหลัง
- คริสติยาน ดิเมตรอฟ (5) – 6.4 เชื่อมเกมจากกลางไปปีก แต่โดนตัดจังหวะบ่อย
- จอร์จี รูเซฟ (7) – 6.7 ทะลุทะลวงทางขวา มีจังหวะครอสลุ้นประตู
- มาร์ติน จอร์จีเยฟ (20) – 6.7 พยายามลากตัดเข้าใน แต่ขาดเพื่อนเติมซัพพอร์ต
กองหน้า
- คีรียาน เดสปอดอฟ (11, กัปตัน) – 6.5 ยืนห้อยหน้าเดี่ยว โอกาสลุ้นยิงมีจำกัดมาก
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- มาร์ติน มินเชฟ (17) – 6.3 ลงมานาที 63 แทนเดสปอดอฟ เพิ่มความเร็วในแดนหน้า
- มาริน เปตคอฟ (16) – 6.5 ลงมานาที 72 แทน ซเวลตอสลาฟ ดิเมตรอฟ เติมความสดริมเส้น
- อีวายโล โชเชฟ (18) – 6.1 นาที 72 แทน คราเอฟ พยายามบุกจากแดนกลาง
- วลาดิเมียร์ นิโคโลฟ (9) – 6.5 ลงนาที 85 แทน รูเซฟ มีโอกาสโหม่งลุ้นทำประตูช่วงท้าย
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
มองในมุมแท็กติก เกมนี้คือการดวลกันระหว่างระบบ 4-2-3-1 ของตุรกี กับ 4-5-1 ของบัลแกเรีย เจ้าถิ่นใช้คู่กลาง ยึคเซ็ค–คัลฮาโนกลู เป็นหัวใจทั้งในเกมรับและรุก เมื่อทีมไม่มีบอล ทั้งคู่ยืนบีบช่องระหว่างเส้น ทำให้ผู้เล่นบัลแกเรียจ่ายบอลขึ้นหน้าได้ยาก แต่พอแย่งได้ ตุรกีจะเปลี่ยนเป็นเกมรุกทันที โดยดันฟูลแบ็กทั้งสองข้างขึ้นสูง ล้อมคู่ต่อสู้ไว้ในแดนตนเอง
บัลแกเรียเลือกเล่นรับลึก เน้นตั้งโซน 4-5-1 ปิดพื้นที่สุดท้าย หวังใช้สปีดของ เดสปอดอฟ และ รูเซฟ ในการสวนกลับ แต่เมื่อกลางสนามเสียเปรียบทั้งคุณภาพและจำนวนครั้งที่แย่งบอลคืน ทำให้การเปลี่ยนจากรับเป็นรุกไม่ต่อเนื่องเลย ผ่านไปทุก 10 นาที เราจะเห็นบอลอยู่ในแดนบัลแกเรียนานกว่าชัดเจน
ลูกเซ็ตเพลย์และจังหวะครอสริมเส้นคืออาวุธหลักของตุรกี การวิ่งสลับตำแหน่งของ ยิลดิซ, อัคตือร์โกกลู และ กืเลอร์ ทำให้แนวรับบัลแกเรียงงทิศทางตลอด นี่คือภาพรวมเชิง วิเคราะห์บอล ที่สะท้อนว่า 2-0 บนสกอร์บอร์ดอาจยังเบาเมื่อเทียบกับโอกาสที่เจ้าถิ่นสร้างได้
📈 สถิติการแข่งขันบอกอะไรบ้าง
ตัวเลขหลังเกมพูดแทนทุกอย่าง ตุรกียิงรวม 19 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่บัลแกเรียยิงได้เพียง 8 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้งเท่านั้น การครองบอลเจ้าถิ่นกวาดไปถึง 65% ปล่อยให้ทีมเยือนยืนไล่บอลอยู่ในพื้นที่ตัวเองเกือบทั้งเกม เกมนี้ไม่มีการจ่ายบอลยาวเน้นสถิติ แต่จังหวะขึ้นเกมของตุรกีเน้นความแม่นยำและการเคลื่อนที่ประสานกันมากกว่า
จำนวนฟาวล์ใกล้เคียงกันที่ 10 ต่อ 10 แต่ใบเหลืองตกเป็นของตุรกี 3 ใบ ส่วนบัลแกเรีย 1 ใบ แสดงให้เห็นว่าเจ้าถิ่นเล่นดุดันไล่บี้เต็มสูบ ขณะที่ทีมเยือนจำเป็นต้องตัดเกมเป็นระยะเพื่อกันไม่ให้โดนเจาะเพิ่ม ลูกเตะมุม ตุรกีได้มากถึง 9 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าพวกเขากดดันจากริมเส้นตลอด ขณะที่บัลแกเรียได้ 6 ครั้งจากจังหวะโต้กลับเพียงไม่กี่หน
📝 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ นาที 18: ฮาคาน คัลฮาโนกลู ซัดจุดโทษสุดนิ่ง พาตุรกีออกนำ 1-0
- 🟨 นาที 20: อับดุลเคริม บาร์ดัคชี โดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์ตัดเกม
- 🟨 นาที 40: อาร์ดา กืเลอร์ รับใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงผู้ตัดสิน
- 🔁 นาที 46: ตุรกีเปลี่ยน ซาเม็ต อาคายดิน ลงแทน เมริห์ เดมิรัล เสริมความสดในแนวรับ
- 🔁 นาที 61: เมิร์ต มุลดูร์ ลงแทน เฟร์ดี้ คาดิโอกลู ปรับเกมริมเส้น
- 🔁 นาที 61: คาน อายฮาน ลงแทน เซกิ เชลิก เติมพลังแบ็กขวา
- 🔁 นาที 63: บัลแกเรียส่ง มาร์ติน มินเชฟ ลงแทน คีรียาน เดสปอดอฟ หวังเพิ่มสปีดแดนหน้า
- 🟨 นาที 64: มาร์ติน จอร์จีเยฟ โดนจดชื่อจากจังหวะทำฟาวล์กลางสนาม
- 🔁 นาที 72: มาริน เปตคอฟ ลงแทน ซเวลตอสลาฟ ดิเมตรอฟ ปรับเกมริมเส้นฝั่งซ้าย
- 🔁 นาที 72: อีวายโล โชเชฟ ลงแทน อันเดรียน คราเอฟ เติมพลังแดนกลางให้บัลแกเรีย
- 🔁 นาที 81: อาตากาน คาราซอร์ ลงแทน คาน อายฮาน ให้ตุรกีเน้นปิดเกม
- ⚽ นาที 83: อันโตนี เชิร์เนฟ สกัดพลาดเข้าประตูตัวเอง ตุรกีนำห่าง 2-0
- 🔁 นาที 85: วลาดิเมียร์ นิโคโลฟ ลงแทน จอร์จี รูเซฟ หวังลุ้นประตูปลอบใจ
- 🔁 นาที 88: ยูซุฟ ซารื ลงแทน อาร์ดา กืเลอร์ ช่วยพาเกมไปจบให้เรียบร้อย
- 🟨 นาที 89: อิสไมล ยึคเซ็ค โดนใบเหลืองจากจังหวะโต้เถียงในช่วงทดเวลา
⭐ Player of the Match – ฮาคาน คัลฮาโนกลู
รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมไปตกที่ ฮาคาน คัลฮาโนกลู ด้วยเรตติ้ง 8.7 จาก Sofascore กัปตันทีมตุรกีเกมนี้คือทุกอย่างของทีม ตั้งแต่ลงมารับบอลลึกหน้าเซ็นเตอร์ คุมจังหวะช้า–เร็ว ไปจนถึงเป็นตัวคุมเซ็ตเพลย์เกือบทั้งหมด ประตูจุดโทษนาที 18 แสดงให้เห็นถึงความนิ่งและความรับผิดชอบ ขณะที่ตลอด 90 นาทีเขายังแจกบอลทะลุช่องและเปลี่ยนแกนให้ปีกทั้งสองฝั่งได้เล่นง่าย นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้เกมรุกของตุรกีไหลลื่นและกดบัลแกเรียแทบทั้งเกม
📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนกลุ่ม E
หลังจบแมตช์นี้ กลุ่ม E ยังนำโดยสเปนที่เก็บชัย 5 นัดรวดมี 15 คะแนนเต็ม ยิง 19 เสีย 0 ส่วนตุรกีเก็บเพิ่มอีก 3 แต้มรวมเป็น 12 คะแนนจาก 5 นัด ชนะ 4 แพ้ 1 ยิง 15 เสีย 10 รั้งอันดับสอง ไล่จี้กระทิงดุอยู่สามแต้ม และทิ้งห่างจอร์เจียอันดับสามที่มีเพียง 3 คะแนนแบบสบาย
ด้านบัลแกเรียสถานการณ์น่าเป็นห่วงสุด ๆ ลงเล่น 5 นัด แพ้รวด ยิงได้ 1 เสียถึง 18 ลูก ผลต่าง -17 และยังไม่มีคะแนนติดมือเลย ความพ่ายแพ้นัดนี้จึงตอกย้ำว่าพวกเขาต้องรีบยกเครื่องทีมครั้งใหญ่ หากหวังกลับมาสู้ในระดับทวีปให้สมศักดิ์ศรีอีกครั้ง
🗓 ตารางบอลคัดบอลโลกกลุ่ม E นัดถัดไป
โปรแกรมต่อไปของกลุ่ม E น่าดูไม่แพ้กัน ตามหน้าเว็บ ตารางบอล ระบุว่าในวันที่ 19/11/25 เวลา 02.45 น. สเปนจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของตุรกี ซึ่งอาจเป็นแมตช์ชี้ชะตาแชมป์กลุ่มอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน บัลแกเรียจะเปิดรังเจอกับจอร์เจียในเวลาเดียวกัน เกมนั้นคือโอกาสทองที่ทีมเจ้าถิ่นต้องคว้าแต้มแรกให้ได้ ไม่อย่างนั้นเสียงวิจารณ์จากแฟนบอลคงหนักขึ้นอีกหลายเท่า
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และความมันส์ลูกหนังได้ที่บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามเช็กสกอร์สดทุกคู่ ไลฟ์สถิติระหว่างเกม และอัปเดตบทวิเคราะห์หลังแมตช์แบบจัดเต็ม แนะนำให้ปักหมุดเช็กผลและข่าวผ่าน บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา เอาไว้ได้เลย บ้านกีฬา พร้อมเสิร์ฟทั้งข่าวก่อนเกม ไฮไลท์หลังเกม มุมมองเชิงแท็กติก รวมถึงข้อมูลโปรแกรมแข่งแบบอัปเดตต่อเนื่อง ให้คอบอลไทยได้อินไปกับทุกจังหวะของโลกฟุตบอล
