
จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง จอร์เจีย 0-4 สเปน วันนี้ 16/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม E จอร์เจีย เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “กระทิงดุ” สเปน เกมนี้สำคัญสุดๆ เพราะเจ้าบ้านต้องการแต้มเพื่อหนีบ๊วย ส่วนสเปนต้องการชนะเพื่อปิดจ็อบการันตีจ่าฝูงกลุ่ม บ้านกีฬา ตามเช็ก ผลบอลสด ไปพร้อมกันแล้วเห็นได้ชัดตั้งแต่นาทีแรกว่าเกมคนละคลาส สเปนครองบอลเนียนตา ต่อบอลไหลลื่น กดเจ้าถิ่นถอยไปยืนหน้ากรอบเขตโทษตัวเองเกือบทั้งเกม
🕐 ครึ่งแรก – จุดโทษเปิดทาง ก่อนบุกยำต่อเนื่อง
เริ่มเกมไม่ถึง 10 นาที สเปนเร่งความเร็วเกมรุกเข้าใส่ทันที นาทีที่ 9 เฟร์ราน ตอร์เรส โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ก VAR ก่อนชี้ขาดให้กระทิงดุได้จุดโทษ และเป็น มิเกล โอยาร์ซาบัล รับหน้าที่สังหารไม่พลาด พาสเปนออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 11
หลังได้ประตูแรก สเปนยิ่งเล่นง่าย บอลไหลจากกลางไปริมเส้นแล้วตบกลับเข้ากลางแบบซ้อมมา นาที 22 ฟาเบียน รุยซ์ สอดขึ้นมายิงจังหวะแรกจากการทำชิ่งกับ มาร์ติน ซูบีเมนดี ส่งบอลเสียบมุมเป็น 2-0 อย่างเฉียบขาด
จอร์เจียพยายามตอบโต้ด้วยทีเด็ดของ ควิชา ควารัตสเคเลีย ที่เลี้ยงบอลลากกินตัวคู่แข่ง แต่ก็ยังจบไม่ได้ ขณะที่แนวรับสเปนยืนตำแหน่งแน่นมาก นาที 34 สกอร์ไหลเป็น 3-0 เมื่อเฟร์ราน ตอร์เรส หลุดทางขวาก่อนเปิดให้ โอยาร์ซาบัล โฉบมากดเน้นๆ เป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ จบครึ่งแรก สเปนบุกนำขาด 3-0 และรูปเกมแทบไม่เปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นได้หายใจ
🔁 ครึ่งหลัง – เปลี่ยนสำรองแต่ความโหดไม่ลด
ครึ่งหลังเริ่มมาจอร์เจียเปลี่ยนแนวรับส่ง กูรัม คาชิอา ลงมาช่วยอุด ส่วนสเปนก็ถอด เปโดร ปอร์โร ให้ มาร์กอส ยอเรนเต้ ลงมาลองแท็กติกใหม่ แม้สกอร์จะนำขาด แต่สเปนยังเดินหน้าบุกอย่างใจเย็น ครองบอลคุมจังหวะเกมได้หมด
นาที 57 เจ้าบ้านขยับเกมรุกส่ง จอร์จี้ คเวอร์นัดเซ และตัวริมเส้นสำรองลงมา หวังใช้ความสดไล่บี้แนวรับสเปน ทว่าเกมสวนกลับของกระทิงดุน่ากลัวยิ่งกว่า นาที 62 หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ เปลี่ยนกลางอีกสองคน ส่ง ปาโบล บาร์รีออส กับ แฟร์มิน โลเปซ ลงมาช่วยเร่งเกม
และในที่สุดนาที 63 สกอร์ไหลเป็น 4-0 เมื่อ โอยาร์ซาบัล ทำชิ่งกับ เฟร์ราน ตอร์เรส ก่อนแนวรุกบาร์เซโลนาได้จบสกอร์ด้วยตัวเองไม่เหลือ ช็อตนี้เหมือนปิดสวิตช์กำลังใจของจอร์เจียทั้งทีม
ท้ายเกมทั้งสองฝ่ายทยอยเปลี่ยนตัวเพื่อเก็บแรง ตัวสำรองอย่าง บอร์ฆา อีเกลเซียส และ เยเรมี พีโน่ ก็ได้ลงมาลองของ ขณะที่จอร์เจียส่งตัวรุกดาวรุ่งลงมาเก็บประสบการณ์ แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนรูปเกมได้ จบ 90 นาที สเปนบุกถล่มจอร์เจีย 4-0 แบบเหนือชั้นทุกมิติ

👥 รายชื่อ 11 ตัวจริงและคะแนนนักเตะ
🇬🇪 จอร์เจีย (4-1-4-1) – เรตติ้ง Sofascore เฉลี่ย 6.50
ผู้รักษาประตู
- จิออร์กี มามาร์ดาชวิลี (1) – 6.6 เซฟหลายครั้งแต่ช่วยทีมไม่รอด
แนวรับ
- วาคตัง มามูคาชวิลี (2) แบ็กซ้าย – 6.0
- เลวาน โลโชชวิลี (14) เซ็นเตอร์ – 6.4
- อันเดรียส เมควาบิชวิลี (15) เซ็นเตอร์ – 6.4
- ซูร์อับ โกกลิชิดเซ (5) แบ็กขวา – 6.2 (ถูกเปลี่ยนออกช่วงพักครึ่ง ให้ กูรัม คาชิอา ลงมาแทน)
มิดฟิลด์ตัวรับ
- ซูราโบ ดาวิตาชวิลี (10) – 6.5 คอยช่วยตัดเกมหน้าแผงหลัง
มิดฟิลด์และตัวรุก
- กูชา โกโชเลียชวิลี (13) ปีกขวา – 6.2
- อ็อกโร คิไตชวิลี (17) มิดฟิลด์ – 6.5
- อีรัคลี ทาบาตัดเซ (22) ปีกซ้าย – 6.6
- ควิชา ควารัตสเคเลีย (7, กัปตัน) แนวรุกอิสระ – 7.2 ตัวเด่นสุดของเจ้าบ้าน พยายามลากเลื้อยสร้างโอกาสเองหลายครั้ง
ศูนย์หน้า
- บุดซา ซิฟซิวัดเซ (8) – 6.6 ยืนค้ำแต่แทบไม่ได้บอลลุ้นยิง
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- กูรัม คาชิอา (4) – 6.5 แทน โกกลิชิดเซ (46′)
- จอร์จี้ คเวอร์นัดเซ (21) – 6.5 แทน ทาบาตัดเซ (57′)
- จอร์จี้ ทซิตาอิชวิลี (19) – 6.9 แทน เมควาบิชวิลี (71′)
- จอร์จี้ ควิลิทาอา (11) – 6.5 แทน ซิฟซิวัดเซ (71′)
- จอร์จี้ อาบูอาชวิลี (18) – 6.4 แทน ดาวิตาชวิลี (85′)
🇪🇸 สเปน (4-3-3) – เรตติ้งเฉลี่ย 7.26
ผู้รักษาประตู
- อูไน ซิมอน (23, กัปตัน) – 7.3 เกมนี้แทบไม่ต้องออกแรงมาก แต่ยืนตำแหน่งนิ่ง
แนวรับ
- มาร์ก กูกูเรญา (22) แบ็กซ้าย – 6.9 เติมสูงตลอดเส้น
- อายเมอริก ลาปอร์กต์ (14) เซ็นเตอร์ – 7.8 อ่านเกมดี สกัดเนียน
- เปา กูบาร์ซี (15) เซ็นเตอร์ดาวรุ่ง – 7.2 ไม่ตื่นสนาม คุมพื้นที่ได้เยี่ยม
- เปโดร ปอร์โร (12) แบ็กขวา – 7.1 เติมเกมรุกจัด ก่อนถูกเปลี่ยนออกพักครึ่ง
มิดฟิลด์
- มิเกล เมรีโน (6) – 7.0 คุมจังหวะเกมกลางสนาม (รับใบเหลืองนาที 57)
- มาร์ติน ซูบีเมนดี (18) – 7.6 เป็นตัวเชื่อมระหว่างรับ-รุก และทำแอสซิสต์ให้ประตู 2-0
- ฟาเบียน รุยซ์ (8) – 7.6 ยิงหนึ่ง แอสซิสต์เกมจากแดนกลางอย่างดุดัน
แนวรุก
- เฟร์ราน ตอร์เรส (7) ปีกขวา – 8.0 ยิง 1 จ่าย 1 เรียกจุดโทษได้อีก
- มิเกล โอยาร์ซาบัล (21) หน้าเป้า – 8.6 เหมายิงสองและจ่ายหนึ่ง สมควรเป็นแมนออฟเดอแมตช์
- อเล็กซ์ บาเอนา (16) ปีกซ้าย – 7.7 เคลื่อนที่หาช่องตลอด
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- มาร์กอส ยอเรนเต้ (5) – 7.0 แทน ปอร์โร (46′) เติมเกมฝั่งขวาไม่หยุด
- ปาโบล บาร์รีออส (2) – 7.0 แทน ฟาเบียน รุยซ์ (62′)
- แฟร์มิน โลเปซ (19) – 6.9 แทน เมรีโน (62′)
- บอร์ฆา อีเกลเซียส (9) – 5.8 แทน โอยาร์ซาบัล (71′)
- เยเรมี พีโน่ (11) – 6.7 แทน เฟร์ราน ตอร์เรส (80′)
🔍 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ – กระทิงดุครบเครื่องทั้งบอลครองและบอลไดเร็กต์
ในเชิงแท็กติก เกมนี้คือภาพชัดเจนของคำว่า “คนละระดับ” สเปนยืนด้วยระบบ 4-3-3 แบบคลาสสิก เน้นการต่อบอลสั้นจากหลังขึ้นกลาง ก่อนกระจายออกปีกแล้วหักเข้าใน จุดเด่นคือสามมิดฟิลด์ เมรีโน–ซูบีเมนดี–ฟาเบียน รุยซ์ เวียนตำแหน่งกันตลอด ทำให้จอร์เจียตามจับไม่ติด รูปแบบการขึ้นเกมของสเปนจึงหลากหลาย ทั้งเปิดจากริมเส้นของ ปอร์โร และกูกูเรญา หรือการแทงทะลุช่องให้ โอยาร์ซาบัล วิ่งตัดไลน์รับ
เกมรับของสเปนก็แข็งโป๊ก แนวรุกจอร์เจียไม่ค่อยมีโอกาสหันหน้าเข้าหาประตู เพราะทันทีที่เสียบอล แดนกลางของกระทิงดุก็ไล่เพรสซิ่งสูงปิดพื้นที่อย่างเป็นระบบ ลาปอร์กต์ กับ กูบาร์ซี แทบไม่ต้องวิ่งไล่จี้ตัวต่อตัวเท่าไร เน้นอ่านทางบอลและดักก่อนถึงเขตโทษ จึงแทบไม่มีจังหวะหลุดเดี่ยวให้แฟนเจ้าบ้านได้ลุ้น
ด้านจอร์เจียใช้แผน 4-1-4-1 ที่วาง ควารัตสเคเลีย เป็นตัวทะลุทะลวงหลัก ทุกครั้งที่เขาได้บอลมักต้องเลี้ยงผ่านผู้เล่นสเปน 2-3 คน แต่เพื่อนร่วมทีมเติมไม่ทัน เกมสวนกลับเลยจบที่ตัวเขาเองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ภาพรวมในมุม วิเคราะห์บอล แล้ว แผนของจอร์เจียอ่านง่ายเกินไป และไม่สามารถเจาะแนวรับที่ยืนกันเป็นแพ็กของสเปนได้เลย

📊 สถิติการแข่งขัน – ตัวเลขฟ้องความห่างชั้นชัดเจน
ตัวเลขหลังเกมช่วยตอกย้ำว่าผล 4-0 ไม่ได้เกินจริง จอร์เจียยิงทั้งหมดเพียง 4 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง ขณะที่สเปนไล่ถล่มยิงถึง 15 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง เปอร์เซ็นต์การครองบอลเจ้าบ้านอยู่ที่ 43% ส่วนสเปนครองเกมเหนือกว่าที่ 57% เกมนี้จอร์เจียต้องอาศัยฟาวล์หยุดจังหวะเร็วอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ตัวเลขฟาวล์ของพวกเขาอยู่ที่ 7 ครั้ง มากกว่าสเปนที่ 4 ครั้ง แม้จะไม่มีใบเหลืองติดตัวก็ตาม ขณะที่สเปนโดนใบเหลืองแค่ใบเดียวของ เมรีโนเท่านั้น เตะมุม จอร์เจียได้ 4 ครั้ง ส่วนสเปนได้ 6 ครั้ง สะท้อนให้เห็นว่าบอลแทบจะไปป้วนเปี้ยนหน้าเขตโทษเจ้าบ้านอยู่ฝั่งเดียวตลอดทั้งเกม
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 9′ – เฟร์ราน ตอร์เรส โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ก VAR แล้วให้จุดโทษแก่สเปน
- ⚽ 11′ – มิเกล โอยาร์ซาบัล สังหารจุดโทษเข้าไป สเปนนำ 1-0
- ⚽ 22′ – ฟาเบียน รุยซ์ ยิงสุดเนียนจากการทำเกมของ มาร์ติน ซูบีเมนดี สเปนนำ 2-0
- ⚽ 34′ – เฟร์ราน ตอร์เรส เปิดให้ โอยาร์ซาบัล ซัดจ่อๆ เป็น 3-0
- 🔁 46′ – จอร์เจียเปลี่ยนตัว ส่ง กูรัม คาชิอา แทน ซูร์อับ โกกลิชิดเซ เพื่อเพิ่มความเหนียวแน่นแนวรับ
- 🔁 46′ – สเปนส่ง มาร์กอส ยอเรนเต้ ลงแทน เปโดร ปอร์โร เติมสดทางฝั่งขวา
- 🔁 57′ – จอร์เจียขยับเปลี่ยนตัว จอร์จี้ คเวอร์นัดเซ แทน อีรัคลี ทาบาตัดเซ เพื่อเร่งเกมริมเส้น
- 🟨 57′ – มิเกล เมรีโน รับใบเหลืองจากจังหวะตัดฟาวล์กลางสนาม
- 🔁 62′ – สเปนส่ง ปาโบล บาร์รีออส แทน ฟาเบียน รุยซ์ ปรับสมดุลแดนกลาง
- 🔁 62′ – สเปนส่ง แฟร์มิน โลเปซ แทน เมรีโน
- ⚽ 63′ – โอยาร์ซาบัล ทำชิ่งให้ เฟร์ราน ตอร์เรส หลุดไปยิงเสียบเสา สเปนนำห่าง 4-0
- 🔁 71′ – จอร์เจียเปลี่ยนคู่กลางรับและหน้า ส่ง จอร์จี้ ทซิตาอิชวิลี แทน เมควาบิชวิลี และ จอร์จี้ ควิลิทาอา แทน ซิฟซิวัดเซ
- 🔁 71′ – สเปนถอด โอยาร์ซาบัล ส่ง บอร์ฆา อีเกลเซียส ลงมาล่าประตู
- 🔁 80′ – เยเรมี พีโน่ ลงมาแทน เฟร์ราน ตอร์เรส
- 🔁 85′ – จอร์เจียให้ จอร์จี้ อาบูอาชวิลี ลงแทน ดาวิตาชวิลี
⭐ Player of the Match – มิเกล โอยาร์ซาบัล เครื่องจักรสังหารแนวรุกสเปน
เกมนี้ไม่มีใครเด่นไปกว่า มิเกล โอยาร์ซาบัล ศูนย์หน้าจากเรอัล โซเซียดาด ได้คะแนนสูงสุดถึง 8.6 จาก Sofascore เขายิงสองประตูตั้งแต่ครึ่งแรก หนึ่งจากจุดโทษ อีกหนึ่งจากการจบสกอร์ในเขตโทษแบบกองหน้าของแท้ ยังไม่พอ ครึ่งหลังยังทำแอสซิสต์ให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ยิงปิดกล่องเป็น 4-0 อีกด้วย การเคลื่อนที่ของโอยาร์ซาบัลทำให้แนวรับจอร์เจียเสียรูปทรงตลอดเวลา หลบเข้า–ออกระหว่างเซ็นเตอร์อย่างชาญฉลาด เปิดพื้นที่ให้ ฟาเบียน รุยซ์ และบาเอนาได้สอดขึ้นมาทำเกมรุก บ้านกีฬา มองว่าเกมนี้คือการประกาศชัดๆ ว่าเขาคืออีกหนึ่งตัวเลือกเบอร์ 9 ที่หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ไว้ใจได้เต็มร้อย

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนน กลุ่ม E หลังเกม
ชัยชนะ 4-0 ทำให้สเปนเก็บ 15 คะแนนเต็มจาก 5 นัด ยิงไป 19 ประตู และยังไม่เสียประตูเลย รั้งจ่าฝูงกลุ่ม E แบบโคตรมั่นคง ทิ้งอันดับสองอย่างตุรกีที่มี 12 คะแนนออกไป 3 แต้ม ส่วนจอร์เจียมีอยู่ 3 คะแนนจาก 5 นัด ประตูได้–เสีย 6-13 รั้งอันดับ 3 เหนือบัลแกเรียที่ยังไม่มีแต้มและเสียไปถึง 18 ประตู การลุ้นเข้ารอบของจอร์เจียเริ่มเลือนราง ขณะที่สเปนนับถอยหลังรอการันตีตั๋วฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เกมข้างหน้า
📅 ตารางบอล กลุ่ม E นัดถัดไป
มองไปข้างหน้า ตามหน้า ตารางบอล กลุ่ม E เกมต่อไป จอร์เจียต้องออกไปเยือนบัลแกเรีย ในแมตช์ที่โอกาสเก็บสามคะแนนยังพอมี เพราะคู่แข่งฟอร์มรูดยาว ขณะเดียวกัน สเปนจะเปิดบ้านดวลเกมใหญ่อีกครั้งกับตุรกี ซึ่งอาจเป็นแมตช์ชี้ชะตาจ่าฝูงกลุ่ม E อย่างแท้จริง แฟนบอลที่รักการเกาะติด โปรแกรมบอล ยุโรปห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะทั้งสองเกมอาจกำหนดทิศทางการเข้ารอบของกลุ่มนี้ทั้งหมด
📣 เช็ก บ้านผลบอล และคอบอลสายวิเคราะห์ ต้องไม่พลาด บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามทุกจังหวะของฟุตบอลทีมชาติยุโรปแบบเกาะติด ทั้งสกอร์สด ตัวจริง–สำรอง สถิติเกม และบทวิเคราะห์หลังเกมสไตล์จัดจ้าน บ้านกีฬา ขอชวนแฟนบอลทุกคนกดเข้าเช็ก บ้านผลบอล กับเราได้ทุกวัน อัปเดต ผลบอลสด พร้อมมุมมองเชิงลึก อ่านง่าย ได้อารมณ์คนดูบอลตัวจริง ไม่ว่าคุณจะเชียร์กระทิงดุหรือทีมเล็กในยุโรป บ้านกีฬา พร้อมเป็นเพื่อนข้างจอให้คุณเสมอ

