จาก : ผลบอลสด ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ระหว่าง โปแลนด์ 1-1 เนเธอร์แลนด์ วันนี้ 15/11/68 – บ้านกีฬา
บ้านกีฬา เกาะติดบรรยากาศแบบ ผลบอลสด เกมเดือด ศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม G ที่กรุงวอร์ซอว์ โปแลนด์เปิดบ้านรับมือจ่าฝูงเนเธอร์แลนด์ เกมนี้คือศึกชิงแต้มสำคัญ เพราะก่อนเตะ “อัศวินสีส้ม” นำเป็นจ่าฝูง ส่วนโปแลนด์รั้งอันดับ 2 ไล่หลังเพียง 3 คะแนน ผลสุดท้ายทั้งสองทีมแบ่งแต้มกันไปด้วยสกอร์ 1-1 แต่เนื้อในเกมอัดแน่นไปด้วยจังหวะดุเดือดและแท็กติกชั้นสูงตลอด 90 นาที
⏱ ครึ่งแรก: โปแลนด์รอโต้ทีเดียวหาย คามินสกี้กดเปิดหัว
เปิดเกมมา เนเธอร์แลนด์ของโรนัลด์ คูมัน ครองบอลได้มากกว่าชัดเจน เดินเกมจากแดนหลังผ่าน เฟรงกี้ เดอ ยอง กับ ไรอัน กราเวนเบิร์ช คุมจังหวะ บีบโปแลนด์ให้ถอยลงไปตั้งโซนรับลึก แต่จังหวะเข้าทำยังไม่คมมากพอ จบโอกาสด้วยการยิงไกลเสียส่วนใหญ่
โปแลนด์ของ ยัน อูร์บัน เน้นรับแน่นในระบบ 3-4-2-1 อัดกลางให้แน่นแล้วรอโต้กลับ ใช้ความขยันของ ยาคุบ คามินสกี้ กับ มิคาล สโคราช์ ฉีกไปริมเส้นเพื่อเปิดทางให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หาเหลี่ยมทำประตู แม้จะมีช่วงกดดันยาว แต่แนวรับเจ้าถิ่นยังยืนระยะได้ดี
นาที 13 บาร์ตอซ คาปุสต์กา โดนใบเหลืองจากจังหวะตัดเกมกลางสนาม ตามด้วย นาที 17 ปิออตร์ ซีลินสกี้ รับใบเหลืองอีกคน ทำให้โปแลนด์ต้องเล่นระมัดระวังมากขึ้น ทว่าพอหลุดบล็อกเนเธอร์แลนด์ได้ เกมรุกเจ้าบ้านก็มีพิษทันที
และแล้วนาที 43 แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮสนั่นสนาม เมื่อโปแลนด์ต่อบอลจากกลางสนามทะลุขึ้นหน้า เลวานดอฟสกี้ ลากดึงกองหลังอัศวินสีส้มก่อนจ่ายต่อเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ยาคุบ คามินสกี้ แต่งหนึ่งจังหวะแล้วซัดเรียดเสียบเสาอย่างเด็ดขาด ส่งโปแลนด์นำ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกแบบสุดมัน
🔁 ครึ่งหลัง: เดปายยิงคืนเร็ว อัศวินสีส้มบุกทั้งเกมแต่เจาะเพิ่มไม่เข้า
กลับมาครึ่งหลังยังไม่ทันตั้งตัว เนเธอร์แลนด์ไล่ตีเสมอได้ทันควัน นาที 47 จากการทำเกมกดดันทางกราบซ้าย บอลถูกไหลเข้ากลางให้ เมมฟิส เดปาย แตะหาช่องแล้วยิงด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งหนีมือ คามิล กราบารา เข้าไปแบบสุดคม สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 อย่างรวดเร็ว
หลังตีเสมอ ทีมเยือนยิ่งคุมจังหวะบอลได้มากขึ้น เดินหน้าบดอย่างต่อเนื่อง ใช้การเติมเกมรุกของ ดอนเยล มาเลน และ โคดี กั๊กโป ฉีกแนวรับโปแลนด์ให้ถอยลึก แต่อย่างไรก็ตาม เกมรับโซนต่ำของเจ้าถิ่นยังเหนียวแน่น บล็อกทุกลูกยิงในเขตโทษได้เกือบหมด
โปแลนด์มีจังหวะโต้กลับลุ้นประตูชัยอยู่หลายหนจากการพาบอลของ คามินสกี้ และ สโคราช์ แต่เมื่อเกมเริ่มหนักขึ้น อูร์บันเลือกถอดสองตัวรุกหลักออกช่วงท้าย ส่ง ฟิลิป โรซกา และ อดัม บูคซา ลงมาช่วยเช็คเกมรับในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ช่วงท้ายเกมมีดราม่าเพิ่มเมื่อ ยาน พอล ฟาน เฮคเก้ ตัวสำรองเนเธอร์แลนด์โดนใบเหลืองท้ายเกมจากจังหวะฟาวล์ตัดโอกาสสวนกลับ นาที 90+6 แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมโปแลนด์เสมอเนเธอร์แลนด์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้มในค่ำคืนสุดตึงเครียด
📋 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🇵🇱 โปแลนด์ – ระบบ 3-4-2-1
ผู้รักษาประตู
- คามิล กราบารา (6.8)
กองหลัง
- ยาน ซิโอว์คอฟสกี้ (5) (6.8)
- โตมาช เคนจิโอรา (4) (6.9)
- ยาคุบ คิวิออร์ (14) (6.8)
วิงแบ็ก / กองกลางริมเส้น
- แมตต์ แคช (2) (6.9) – ถูกเปลี่ยนออก 81′
- มิคาล สโคราช์ (19) (7.4)
กองกลางตัวกลาง / เพลย์เมกเกอร์
- เซบาสเตียน ซิมานสกี้ (20) (6.6) – ถูกเปลี่ยนออก 13′
- นิโคลา ซาเลฟสกี้ (21) (6.5) – ถูกเปลี่ยนออก 82′
- ปิออตร์ ซีลินสกี้ (10) (6.8) – ใบเหลือง 17′
ตัวรุก
- ยาคุบ คามินสกี้ (13) (7.7) – ผู้ทำประตู 43′ ถูกเปลี่ยนออก 90+2′
กองหน้า
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (9 – กัปตันทีม) (7.1) – แอสซิสต์ 43′ ถูกเปลี่ยนออก 90+2′
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- บาร์ตอซ คาปุสต์กา (8) (6.7) ลง 13′ แทน ซิมานสกี้
- พาวเวล วสโซเว็ก (15) (6.6) ลง 81′ แทน แคช
- คามิล โกรซิชกี (11) (6.9) ลง 82′ แทน ซาเลฟสกี้
- ฟิลิป โรซกา (6) ลง 90+2′ แทน คามินสกี้
- อดัม บูคซา (16) ลง 90+2′ แทน เลวานดอฟสกี้
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน: มาตูสซ์ โคชาลสกี, บาร์โตมิแย ดรากอฟสกี, ครีสปิน เชสนิยัก, บาร์โตสซ์ เบเรสซินสกี, คัคเปอร์ โควลอฟสกี, คารอล ชวีเดอร์สกี
🇳🇱 เนเธอร์แลนด์ – ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู
- บาร์ต แฟร์บรุกเกน (1) (7.1)
กองหลัง
- ลุตชาเรล เกร์ทรูดา (2) (7.3) – ถูกเปลี่ยนออก 74′
- ยูร์เรียน ทิมเบอร์ (3) (7.3)
- เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (4 – กัปตันทีม) (7.2)
- มิกกี ฟาน เดอ เฟน (15) (7.1)
กองกลางตัวรับ / กลางคุมเกม
- เฟรงกี้ เดอ ยอง (21) (7.1)
- ไรอัน กราเวนเบิร์ช (8) (7.3) – ถูกเปลี่ยนออก 89′
ตัวรุกริมเส้นและกลางรุก
- ดอนเยล มาเลน (18) (6.4)
- ยูสติน ไคลเวิร์ต (19) (6.6) – ถูกเปลี่ยนออก 74′
- โคดี กั๊กโป (11) (7.0)
กองหน้า
- เมมฟิส เดปาย (10) (7.4) – ผู้ทำประตูตีเสมอ 47′ ถูกเปลี่ยนออก 89′
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- ยาน พอล ฟาน เฮคเก้ (12) (6.8) ลง 74′ แทน เกร์ทรูดา – ใบเหลือง 90+6′
- ทิจจานี เรย์นเดอร์ส (14) (6.6) ลง 74′ แทน ไคลเวิร์ต
- เยอร์ดี้ เชาเตน (16) (6.5) ลง 89′ แทน กราเวนเบิร์ช
- เอมานูเอล เอเมฆา (9) (6.6) ลง 89′ แทน เดปาย
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน: โรบิน โรฟส์, มาร์ค เฟล็คเคน, นาธาน อาเก้, มัทไธส์ เดอ ลิกต์, ชาบี ไซมอนส์, ควินเทน ทิมเบอร์, ลูเซียโน วาเลนเต้, โนอา ลัง
ผู้ตัดสิน: เมาริซิโอ มาเรียนี (อิตาลี)
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในมุมมองของ บ้านกีฬา เกมนี้คือบทเรียนเชิงแท็กติกของทั้งสองฝั่งอย่างแท้จริง เมื่อมองในภาพรวมเชิง วิเคราะห์บอล โปแลนด์เลือกยืนระบบ 3-4-2-1 ตั้งรับลึกแล้วใช้การโต้กลับเป็นอาวุธหลัก สามเซ็นเตอร์แบ็กช่วยกันปิดพื้นที่หน้ากรอบเขตโทษ ไม่ให้ เดปาย ได้หันหน้าเข้าหาประตูบ่อยนัก วิงแบ็กสองฝั่งถอยลงมาเป็นไลน์ 5 เวลาไม่มีบอล ทำให้ช่องว่างด้านข้างลดลงอย่างชัดเจน
จุดเด่นคือการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกที่รวดเร็ว เมื่อแย่งบอลได้ ซีลินสกี้ จะเป็นคนออกบอลแรกทะลุช่องไปหาพื้นที่ว่างด้านข้าง ให้ สโคราช์ หรือ คามินสกี้ สปรินต์หนีขึ้นหน้า แล้วค่อยหยอดให้ เลวานดอฟสกี้ ในเขตโทษ การประสานงานจังหวะเดียวลักษณะนี้เองที่นำไปสู่ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 43
ด้านเนเธอร์แลนด์จัด 4-2-3-1 เน้นครองบอลและโจมตีด้วยการเคลื่อนที่สลับตำแหน่งของแนวรุกสามคนหลังหน้าเป้า เดปายบ่อยครั้งถอยลงมาล้วงบอล ทำให้ เดอ ยอง กับ กราเวนเบิร์ช มีทางเลือกจ่ายเพิ่ม และเปิดช่องให้ มาเลน หรือ กั๊กโป สอดเข้าเขตโทษแทน จุดแข็งคือการวนบอลจากซ้ายไปขวาอย่างใจเย็นจนเจอช่อง ซึ่งประตูตีเสมอก็มาจากจังหวะเซ็ตบอลในลักษณะนี้
เกมรับของอัศวินสีส้มใช้การเพรสซิ่งกลางสนาม ไม่ไล่บ้าคลั่ง แต่คุมโซนบีบพื้นที่ เมื่อโปแลนด์พยายามออกบอลจากฝั่งตัวเองมักโดนตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม อย่างไรก็ตาม การเสียประตูบ่งบอกว่าพวกเขายังมีจุดอ่อนตอนถอยลงรับลึก หากโดนเปลี่ยนแกนเร็วๆ แนวรับสี่คนมีระยะห่างกันให้คู่แข่งเล่นสวนกลับใส่ได้
สรุปแล้ว โปแลนด์เล่นตามแผนได้อย่างมีวินัย ใช้เกมรับแน่นและเคาน์เตอร์ที่เฉียบคมหยุดเกมรุกเนเธอร์แลนด์ไว้ได้ ขณะที่ทีมเยือนโชว์ให้เห็นถึงคุณภาพการครองบอลและการสร้างสรรค์โอกาส แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอจะคว้าชัยในเกมนัดสำคัญนี้
📊 สถิติการแข่งขัน
ถ้าดูจากตัวเลขหลังเกมจะเห็นว่าเกมนี้สูสีแต่มีรายละเอียดน่าสนใจ โปแลนด์สร้างโอกาสยิงได้ถึง 14 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง มากกว่าเนเธอร์แลนด์ที่ยิงเพียง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเมื่อได้สวนกลับ เจ้าถิ่นมีความอันตรายสูงและเลือกจบสกอร์ได้ดีกว่าในหลายๆ จังหวะ
อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนครองบอลเหนือกว่าชัดเจนที่ 58% ต่อ 42% ของโปแลนด์ หมายความว่าอัศวินสีส้มคุมจังหวะเกมได้แทบตลอด ใช้การต่อบอลสั้นขึ้นเกมจากหลังไปหน้า ขณะที่โปแลนด์ต้องเล่นแบบใช้พลังงานเยอะในการไล่ประกบและบีบพื้นที่
เนเธอร์แลนด์ทำฟาวล์ 14 ครั้งมากกว่าโปแลนด์ที่ทำ 9 ครั้ง สะท้อนว่าทีมเยือนจำเป็นต้องตัดเกมโต้กลับหลายครั้งเพื่อไม่ให้คู่แข่งหลุดเดี่ยว ส่วนใบเหลืองเจ้าถิ่นโดนไป 2 ใบ ขณะที่เนเธอร์แลนด์ได้ 1 ใบในช่วงทดเวลา บริเวณลูกนิ่งทั้งคู่มีโอกาสจากลูกเตะมุมใกล้เคียงกัน โปแลนด์ได้ 2 ครั้ง เนเธอร์แลนด์ 3 ครั้ง แต่ไม่มีลูกเซตพีซไหนเปลี่ยนเป็นประตูได้เพิ่ม
⏱ เหตุการณ์สำคัญในเกม
- ⚠️ 13′ บาร์ตอซ คาปุสต์กา (โปแลนด์) รับใบเหลืองจากการตัดเกมกลางสนาม
- ⚠️ 17′ ปิออตร์ ซีลินสกี้ (โปแลนด์) โดนใบเหลืองจากจังหวะเสียบสกัดหนัก
- ⚽ 43′ โปแลนด์ขึ้นนำ 1-0 – ยาคุบ คามินสกี้ ยิงด้วยขวาในเขตโทษ หลังรับบอลจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
- ⚽ 47′ เนเธอร์แลนด์ตีเสมอ 1-1 – เมมฟิส เดปาย รับบอลหน้ากรอบแล้วกดเต็มข้อ บอลพุ่งเสียบมุม
- 🔁 74′ เนเธอร์แลนด์เปลี่ยนคู่: ยาน พอล ฟาน เฮคเก้ ลงแทน ลุตชาเรล เกร์ทรูดา / ทิจจานี เรย์นเดอร์ส ลงแทน ยูสติน ไคลเวิร์ต
- 🔁 81′ โปแลนด์ส่ง พาวเวล วสโซเว็ก ลงแทน แมตต์ แคช เพื่อเสริมความสดริมเส้น
- 🔁 82′ คามิล โกรซิชกี ถูกส่งลงมาแทน นิโคลา ซาเลฟสกี้ เพิ่มความเก๋าในเกมรุกฝั่งซ้าย
- 🔁 89′ เนเธอร์แลนด์ส่ง เยอร์ดี้ เชาเตน และ เอมานูเอล เอเมฆา ลงสนาม แทน ไรอัน กราเวนเบิร์ช กับ เมมฟิส เดปาย
- 🔁 90+2′ โปแลนด์เปลี่ยนสองคนรวด ฟิลิป โรซกา และ อดัม บูคซา ลงแทน ยาคุบ คามินสกี้ กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
- 🟨 90+6′ ยาน พอล ฟาน เฮคเก้ (เนเธอร์แลนด์) ได้ใบเหลืองจากการฟาวล์ตัดโอกาสสวนกลับ
🌟 Player of the Match – ยาคุบ คามินสกี้
บ้านกีฬา ขอยกให้ ยาคุบ คามินสกี้ คือแมนออฟเดอะแมตช์แบบไร้ข้อกังขา ปีกตัวจี๊ดทีมชาติโปแลนด์รายนี้ไม่เพียงยิงประตูขึ้นนำให้ทีม แต่ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม เขาสร้างปัญหาให้แนวรับเนเธอร์แลนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการเลี้ยงกินตัว การสลับตำแหน่งกับ สโคราช์ และการหุบเข้ากลางเพื่อหาช่องยิงเอง
สถิติส่วนตัวของคามินสกี้โดดเด่นทั้งโอกาสยิง การดวลชนะตัวต่อตัว และความขยันช่วยไล่บอลลงต่ำ เมื่อทีมต้องการเกมรับ เขาพร้อมลงมาปิดพื้นที่ริมเส้น เมื่อทีมได้โต้กลับ เขาคือคนแรกที่สปรินต์ขึ้นหน้า ผลงานระดับนี้ทำให้คะแนนประเมินจากหลายสำนักวางเขาไว้สูงสุดในสนาม และเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้โปแลนด์แบ่งแต้มสำคัญจากจ่าฝูงกลุ่มได้สำเร็จ
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม G
หลังจบเกมนี้ เนเธอร์แลนด์ยังคงรั้งจ่าฝูงกลุ่ม G ด้วยผลงานลงเล่น 7 นัด ชนะ 5 เสมอ 2 ยังไม่แพ้ใคร ยิงไป 23 ประตู เสียแค่ 4 มี 17 คะแนน นำโปแลนด์อันดับสองอยู่ 3 แต้มเหมือนเดิม
ด้านโปแลนด์เก็บเพิ่มเป็น 14 คะแนนจาก 7 นัด ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 11 เสีย 5 ยังคงยึดตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป พร้อมรักษาช่องว่างจากฟินแลนด์อันดับ 3 ที่มี 10 คะแนน เอาไว้ได้ ถือว่าแต้มนี้มีค่ามหาศาลในการลุ้นตั๋วสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 ของทัพอินทรีขาว
ส่วนทีมอื่นในกลุ่มอย่าง มอลตา และลิทัวเนีย ยังตามหลังไกล ทำให้ภาพรวมลุ้นตั๋วใบใหญ่เริ่มชัดเจนว่าเป็นศึกสองม้าระหว่างเนเธอร์แลนด์กับโปแลนด์ในช่วงโค้งสุดท้ายของรอบคัดเลือกกลุ่มนี้
📅 ตารางบอล ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม G นัดถัดไป
มองไปข้างหน้าในมุม ตารางบอล กลุ่ม G นัดต่อไปถือว่าสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากทั้งสองทีมเตรียมลงสนามพร้อมกันในคืนวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 เวลา 02:45 น.
โปแลนด์จะออกไปเยือน มอลตา เกมที่หลายคนมองว่าอินทรีขาวต้องชนะเท่านั้นเพื่อตุนแต้มให้แน่น ก่อนปิดกลุ่มอย่างเป็นทางการ ขณะที่เนเธอร์แลนด์จะกลับไปเล่นในบ้านพบ ลิทัวเนีย ซึ่งบนกระดาษแล้วอัศวินสีส้มเหนือกว่าชัดเจน หากเก็บชัยได้ก็มีโอกาสสูงที่จะการันตีการจบอันดับหนึ่งของกลุ่ม
โปรแกรมแบบนี้ทำให้แฟนบอลต้องจับตาว่า ใครจะพลาดก่อนระหว่างสองทีมใหญ่ของกลุ่ม เพราะเพียงแค่สะดุดเสมอหรือแพ้ในเกมที่ “ควรชนะ” ทุกอย่างอาจเปลี่ยนหน้าตาตารางทันที บ้านกีฬา ขอบอกเลยว่าโค้งสุดท้ายของรอบคัดเลือกกลุ่ม G ยังเดือดไม่จบง่ายๆ แน่นอน
📺 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ๆ ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามลุ้นทุกประตู ทุกแต้มของศึกคัดบอลโลก กลุ่ม G รวมถึงลีกใหญ่ยุโรปแบบใกล้ชิด อย่าลืมกดติดตาม บ้านผลบอล สดใหม่ทุกวันกับ บ้านกีฬา เราพร้อมอัปเดตสกอร์แบบเรียลไทม์ วิเคราะห์เกมก่อน-หลังแข่ง มองมุมแท็กติก และเก็บทุกดราม่าจากในสนามส่งตรงถึงหน้าจอคุณ แฟนบอลตัวจริงห้ามพลาด อัปเดตทุกคืนก่อนใครที่ บ้านกีฬา
