ดัลลาส แมฟเวอริคส์ สั่นสะเทือนอีกระลอก!
อนาคตของ นิโค แฮร์ริสัน ผู้จัดการทั่วไปของ ดัลลาส แมฟเวอริคส์ อาจไม่มั่นคงอีกต่อไป หลังทีมออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้อย่างย่ำแย่ จนเสียงวิจารณ์เริ่มดังสนั่นทั่วลีก NBA และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของแฟรนไชส์แห่งนี้ในไม่ช้า
ตามรายงานของ ทิม แม็คมาน ผู้สื่อข่าวสาย NBA ชื่อดังจาก ESPN ที่เปิดเผยผ่านรายการ Howdy Partners ระบุว่า แฮร์ริสันกำลังอยู่ในสถานการณ์กดดันสุดขีด เมื่อทีมเริ่มต้นซีซั่นด้วยผลงาน ชนะเพียง 3 แพ้ 7 นัด ซึ่งเป็นหนึ่งในสถิติเปิดฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดของทีมในรอบหลายปี
“คำถามที่สมเหตุสมผลในตอนนี้คือ งานของนิโค แฮร์ริสันกำลังอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรงหรือไม่” แม็คมานกล่าว “นั่นเป็นคำถามที่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง ตอนนี้ผมยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด แต่เมื่อคุณพูดคุยกับผู้คนรอบลีกเกี่ยวกับแมฟเวอริคส์ นี่คือคำถามแรกที่พวกเขาจะถามถึง”
แฮร์ริสัน ผู้บริหารมากประสบการณ์ แต่อนาคตไม่แน่นอน
แฮร์ริสัน วัย 52 ปี เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของแมฟเวอริคส์ตั้งแต่ปี 2021 โดยก่อนหน้านั้นเขามีชื่อเสียงจากการทำงานกับแบรนด์กีฬา Nike ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญของทีมที่หวังจะยกระดับโครงสร้างการบริหารให้เข้ากับยุคใหม่ของ NBA
อย่างไรก็ตาม แม้จะเคยพาทีมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ NBA ปี 2024 ได้สำเร็จ แต่ชื่อของแฮร์ริสันกลับถูกจารึกในประวัติศาสตร์ในฐานะ “ผู้วางหมากผิดพลาดครั้งใหญ่” หลังตัดสินใจ เทรด ลูก้า ดอนชิช สุดยอดซูเปอร์สตาร์และแฟรนไชส์เพลเยอร์ของทีม ไปให้กับ แอลเอ เลเกอร์ส ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นดีลที่สร้างแรงสั่นสะเทือนวงการและทำให้แฟนบอลแมฟเวอริคส์ทั่วโลกเดือดพล่าน
ดีล “ดอนชิช” จุดชนวนแฟนบอลไม่พอใจ
การปล่อยตัวดอนชิชถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวแฮร์ริสันพังทลาย แฟนบอลจำนวนมากมองว่าเป็นการทำลายอนาคตของทีมด้วยมือของตัวเอง เพราะหลังจากนั้นฟอร์มของแมฟเวอริคส์ก็ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง แม้จะได้ผู้เล่นระดับรองเข้ามาเสริม แต่ไม่สามารถทดแทนบทบาทและอิทธิพลของดอนชิชได้แม้แต่น้อย
ผลลัพธ์คือกระแสต่อต้านที่ท่วมท้นทั้งในโซเชียลมีเดียและสนามแข่งขัน แฟน ๆ หลายคนตะโกนเรียกร้องให้บอร์ดบริหาร ปลดแฮร์ริสันออกจากตำแหน่ง โดยเร็ว ก่อนที่ทีมจะดิ่งลงเหวไปมากกว่านี้
ปัญหาภายในทีม และแรงกดดันจากผลงาน
นอกจากดีลดอนชิชที่กลายเป็นตราบาปแล้ว แฮร์ริสันยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการบริหารทีมในหลายประเด็น ทั้งการเลือกโค้ช การเสริมทัพที่ขาดทิศทาง และการใช้เงินที่ไม่คุ้มค่าในตลาดผู้เล่นเสริมฤดูกาลที่ผ่านมา แม้เจ้าตัวจะพยายามปรับโครงสร้างทีมให้เข้าสู่ยุคใหม่ แต่ผลงานในสนามกลับไม่สะท้อนแนวทางนั้น
ในขณะที่ฝั่งผู้บริหารระดับสูงของแมฟเวอริคส์ยังคงสงวนท่าที ไม่มีใครออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าววงในระบุว่า หากทีมยังคงมีผลงานตกต่ำเช่นนี้ต่อไป ตำแหน่งของแฮร์ริสันอาจไม่รอดถึงสิ้นปี
ทีมต้องการทางรอด ก่อนสถานการณ์จะสายเกินไป
ในโลกของ NBA ความอดทนมีขีดจำกัด ทีมใหญ่ที่ลงทุนมหาศาลย่อมต้องการผลลัพธ์ในทันที โดยเฉพาะในยุคที่การแข่งขันดุเดือดและเต็มไปด้วยผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ หากแมฟเวอริคส์ยังคงไร้ทิศทางและไม่สามารถกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะได้เร็ว ๆ นี้ บทสรุปของแฮร์ริสันอาจจบลงไม่ต่างจากผู้บริหารหลายคนก่อนหน้า ที่ต้องออกจากตำแหน่งท่ามกลางเสียงวิจารณ์
มุมมองจากแฟนบอลและผู้เชี่ยวชาญ
แฟน ๆ หลายคนมองว่าการปลดแฮร์ริสันอาจเป็นทางออกเดียวที่จะเปิดทางให้ทีมกลับมาสร้างใหม่อย่างเป็นระบบ มีเสียงเรียกร้องให้หาผู้บริหารที่มีประสบการณ์ด้านบาสเกตบอลโดยตรงมากกว่าแบ็กกราวด์สายการตลาดแบบแฮร์ริสัน ขณะที่บางกลุ่มยังให้โอกาสเขา โดยเชื่อว่าทีมต้องใช้เวลาในการปรับสมดุลใหม่หลังเสียผู้เล่นสำคัญไป
ดัลลาส แมฟเวอริคส์ กับบทเรียนการบริหารในโลกกีฬาสมัยใหม่
กรณีของแฮร์ริสันถือเป็นตัวอย่างสำคัญของความเสี่ยงในโลกการบริหารทีมกีฬา ยุคที่ “ชื่อเสียงในอดีต” ไม่สามารถการันตีความสำเร็จในสนามได้อีกต่อไป การบริหารสโมสรใน NBA ต้องผสมผสานระหว่างความเข้าใจเกมอย่างลึกซึ้งและการมองการณ์ไกลทางธุรกิจ หากขาดสมดุลเพียงด้านเดียว ผลลัพธ์ก็อาจพังพินาศได้ดังเช่นที่แมฟเวอริคส์กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ดัลลาส แมฟเวอริคส์ ยังมีโอกาสกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้ หากบอร์ดบริหารตัดสินใจเด็ดขาดและปรับโครงสร้างให้เข้ากับยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกผู้บริหารที่เหมาะสม การสร้างทีมเยาวชน หรือการดึงซูเปอร์สตาร์กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง แฟน ๆ ยังคงรอวันที่ทีมรักจะกลับมามีชีวิตชีวาเช่นเดิม
ติดตามข่าวบาสเกตบอลระดับโลกและความเคลื่อนไหววงการกีฬาได้ที่ บาสสดบ้านกีฬา เว็บไซต์ที่แฟนกีฬาไทยไว้วางใจมากที่สุด

