ลุ่มเจ้าพระยาลุ้นเหนื่อย! เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำพุ่ง 2,900 ลบ.ม./วินาที เตือน 4 จังหวัดนอกคันกั้นน้ำเฝ้าระวังใกล้ชิด

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยาวันนี้ไม่ใช่แค่ “ข่าวน้ำ” ธรรมดา แต่เป็นเกมใหญ่ของทั้งระบบชลประทานไทย เมื่อ เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ประกาศปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 2,800 เป็น 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบทยอยขยับตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 และจะถึงเป้าภายในเวลา 02.00 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 พร้อมคงอัตราการระบายระดับสูงต่อเนื่อง

ทั้งหมดนี้เพื่อรับมือมวลน้ำก้อนใหญ่ทางตอนบนที่ไหลลงมาจากภาคเหนือและลุ่มน้ำสะแกกรัง รวมถึงอิทธิพลของพายุ คัลแมกี (Kalmaegi) ที่กวาดฝนลงมาซ้ำเติมลุ่มเจ้าพระยาในช่วงไม่กี่วันมานี้ ทำให้กรมชลประทานต้อง “เล่นเกมเร็ว” เร่งระบายก่อนที่ปริมาณน้ำจะกดดันลุ่มน้ำตอนล่างหนักไปกว่านี้

ภาพรวมตัวเลขวันนี้: น้ำเหนือมาแรง ตัวเลข C.2 แตะเกือบ 3,000 ลบ.ม./วิ

ข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 12.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568

  • สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,988 ลบ.ม./วินาที
  • สถานี Ct.25 แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 174 ลบ.ม./วินาที
  • เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเดิมที่ 2,800 ลบ.ม./วิ พร้อมปรับขึ้นเป็น 2,900 ลบ.ม./วิ ภายในคืนเดียว

ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ประมาณ +17.7 เมตร รทก. ซึ่งถือว่าอยู่ในโซนที่ต้อง “จับตาใกล้ชิด” เพราะถ้าปล่อยให้กดดันเขื่อนนานเกินไป ปริมาณน้ำจะไหลลงท่วมพื้นที่ตอนล่างและลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างได้ง่ายขึ้น

เขื่อนเจ้าพระยา คือหัวใจของเกม “คุมลำน้ำเจ้าพระยา”

เขื่อนเจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่ อ.สรรพยา / สรรพยา–สรรพยาก็ว่ากันไป แต่พื้นที่จริงอยู่ในแนวลุ่มน้ำเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เป็นเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย สร้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดใช้ช่วงปี 2495–2500 เพื่อเป็นหัวใจหลักของโครงการชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา

หน้าที่หลักของเขื่อนแห่งนี้คือ

  • ควบคุมการไหลของแม่น้ำเจ้าพระยา จากตอนบนลงสู่ภาคกลางตอนล่าง
  • แบ่งน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน ทั้งฝั่งตะวันออก–ตะวันตก เพื่อหล่อเลี้ยงนาข้าวและเกษตรกรรมกว่า 11,600 ตารางกิโลเมตร หรือเป็นแสนๆ ไร่ใน 10 กว่าจังหวัดภาคกลางจนได้ฉายา “อู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ”
  • เป็น “วาล์วหลัก” ของการบริหารน้ำหลากในฤดูฝน และช่วยผ่อนน้ำก่อนลงถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล

พูดง่ายๆ ถ้าเปรียบลุ่มเจ้าพระยาเป็นสนามบอล เขื่อนเจ้าพระยา ก็คือ “เพลย์เมคเกอร์” ที่คอยคุมจังหวะเกมน้ำทั้งสนาม ถ้าเปิดแรงไป พื้นที่ท้ายน้ำรับไม่ไหว ถ้าปิดเกินไป น้ำเหนือก็ล้นพังทั้งระบบ

ทำไมตัวเลข 2,900 ลบ.ม./วิ ถึงน่าจับตา?

หลายคนอาจมองว่าตัวเลขแค่เพิ่มจาก 2,800 เป็น 2,900 ลบ.ม./วินาทีดูเหมือนเพิ่มไม่มาก แต่ในโลกของ “น้ำจริง” เพียง 100 ลบ.ม./วิ หมายถึงปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 360,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่าบ่อน้ำชุมชนหลายร้อยบ่อรวมกัน

ยิ่งเมื่อรวมกับมวลน้ำที่กำลังทะลักจากลุ่มน้ำปิง–น่าน และแม่น้ำสะแกกรังที่ยังเดินหน้าสมทบไม่หยุด ตัวเลขนี้จึงมีผลโดยตรงต่อระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร นอกคันกั้นน้ำ

ประสบการณ์จาก น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เคยสอนเรามาแล้วว่า เมื่อมวลน้ำสะสมมากกว่า 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตรในทั้งระบบ บวกกับฝนตกซ้ำและการระบายน้ำจำกัด ผลลัพธ์คือ “น้ำท่วมประวัติศาสตร์” เสียหายทั้งเศรษฐกิจและชีวิตผู้คนไปทั่วประเทศGlobal Water Partnership การบริหารน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาในแต่ละวันจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนกว่าที่ตัวเลขบนกระดาษจะบอก

พายุ “คัลแมกี” ตัวแปรสำคัญของเกมน้ำปีนี้

ปีนี้ลุ่มเจ้าพระยาต้องเจอของหนักจากพายุโซนร้อน “คัลแมกี” ที่ถล่มฟิลิปปินส์–เวียดนามก่อนจะส่งอิทธิพลฝนมาถึงไทย ทำให้หลายลุ่มน้ำภาคเหนือรับฝนก้อนใหญ่ต่อเนื่องในช่วงต้น–กลางเดือนพฤศจิกายน น้ำจากปิง–น่านถาโถมไหลลงสู่ จ.นครสวรรค์ และวิ่งต่อเข้า C.2 จนแตะเกือบ 3,000 ลบ.ม./วิ อย่างที่เห็นในตัวเลขวันนี้

ขณะเดียวกัน น้ำจากเขื่อนขนาดใหญ่ทางตอนบนอย่าง เขื่อนภูมิพล (ลุ่มน้ำปิง) และ เขื่อนสิริกิติ์ (ลุ่มน้ำน่าน) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเก็บกักและบริหารจัดการน้ำของลุ่มเจ้าพระยาทั้งระบบ ก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในการชะลอและทยอยระบายตามแผนป้องกันน้ำท่วม–ภัยแล้งระยะยาว

เมื่อมวลน้ำจากเขื่อนตอนบน รวมกับฝนตกซ้ำ และน้ำท่าจากลำน้ำสาขา อย่างแม่น้ำสะแกกรัง สุดท้ายปลายทางก็ต้องมาชนกันที่ “ประตูใหญ่” อย่างเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ดี

รายชื่อพื้นที่เสี่ยง 4 จังหวัดนอกคันกั้นน้ำ – ใครต้องลุกขึ้นดูของในบ้านวันนี้เลย

กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุชัดเจนว่า การเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,900 ลบ.ม./วิ จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงท้ายน้ำ “ขยับสูงขึ้น” โดยเฉพาะพื้นที่นอกคันกั้นน้ำใน 4 จังหวัดหลัก ดังนี้

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

  • คลองบางบาล
  • ต.หัวเวียง อ.เสนา
  • ต.ลาดชิด, ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่
  • ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา
  • ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล
  • ต.บ้านโพ อ.บางปะอิน
  • ต.ประตูชัย อ.เมือง

จังหวัดสิงห์บุรี

  • วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี
  • พื้นที่ริมน้ำใน อ.เมือง, อ.พรหมบุรี
  • วัดเสือข้าม และ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี

จังหวัดอ่างทอง

  • คลองโผงเผง, อ.ป่าโมก
  • ต.เทวราช อ.ไชโย
  • ต.ตลาดกรวด, ต.ย่านซื่อ, ต.บ้านแห, ต.จำปาหล่อ, ต.มหาดไทย, ต.โพสะ อ.เมือง
  • ต.บางจัก, ต.สี่ร้อย, ต.ท่าช้าง, ต.ไผ่จำศีล, ต.ศาลเจ้าโรง อ.วิเศษชัยชาญ
  • ต.โพธิ์รังนก, ต.บ่อแร่, ต.บางระกำ, ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง

จังหวัดชัยนาท

  • ต.โพธิ์นางดำออก, บ้านท่าทราย
  • ต.ตลุก, ต.หาดอาษา, ต.สรรพยา อ.สรรพยา

ชาวบ้านในพื้นที่เหล่านี้ โดยเฉพาะบ้านริมน้ำและพื้นที่การเกษตรต่ำกว่าตลิ่ง ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด และควรเริ่มยกของขึ้นที่สูงตั้งแต่วันนี้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ เอกสารสำคัญ หรือเครื่องมือการเกษตร

แผนเกมของกรมชลประทาน: ระบาย–เบี่ยง–หน่วง เพื่อลดแรงปะทะน้ำท่วม

นอกจากเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาแล้ว กรมชลประทานยังเดินเกมควบคู่หลายด้าน เช่น

  • เร่งระบายน้ำผ่าน สถานีสูบน้ำตามแนวคลองชายทะเล
  • เดินเครื่องสถานีสูบน้ำย่านสุวรรณภูมิ และพื้นที่ลุ่มชายฝั่ง ออกสู่อ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงน้ำออกจากระบบให้เร็วที่สุด
  • เบี่ยงน้ำบางส่วนเข้าสู่ระบบชลประทานฝั่งตะวันออก–ตะวันตกของลุ่มเจ้าพระยา เพื่อลดปริมาณน้ำที่วิ่งตรงลงแม่น้ำเจ้าพระยาสายหลัก

เป้าหมายคือ “ให้แม่น้ำเจ้าพระยารับแรงกดดันน้อยลง” และลดโอกาสที่ระดับน้ำจะล้นตลิ่งในเขตเมืองใหญ่ โดยเฉพาะพระนครศรีอยุธยา–อ่างทอง–สิงห์บุรี ที่เป็นจุดเปราะบางสำคัญ

คนลุ่มเจ้าพระยาควรทำอะไรตอนนี้? เช็กลิสต์สั้นๆ แต่สำคัญมาก

สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะ 4 จังหวัดที่ถูกระบุชื่อชัดเจน บ้านกีฬา ขอสรุปเป็นเช็กลิสต์ง่ายๆ แบบเอาไปใช้ได้จริงทันที

  1. ยกของขึ้นที่สูง
    • ย้ายปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ขึ้นให้พ้นระดับพื้น
    • ถ้ามีของสำคัญอย่างเอกสารบ้าน–โฉนด–เล่มทะเบียนรถ เก็บใส่กล่องกันน้ำไว้
  2. เตรียมทางหนีทีไล่ให้คนในบ้าน
    • วางแผนเส้นทางอพยพหากระดับน้ำขึ้นเร็ว
    • เตรียมไฟฉาย แบตสำรอง โทรศัพท์ให้พร้อมใช้งาน
  3. ดูแลผู้สูงอายุ–เด็กเล็ก–สัตว์เลี้ยงเป็นพิเศษ
    • จัดเตียงหรือมุมพักที่ปลอดภัยจากน้ำ
    • เตรียมอาหาร–ยา–ของใช้จำเป็นล่วงหน้าอย่างน้อย 3–5 วัน
  4. ตรวจระบบไฟบ้านอย่างเคร่งครัด
    • หากน้ำเริ่มแตะระดับปลั๊ก ควรตัดไฟบางส่วนหรือทั้งบ้าน และให้ช่างไฟช่วยตรวจสอบอย่างจริงจัง
  5. ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานรัฐ “ทุกวัน”
    • สถานการณ์น้ำเปลี่ยนได้ทุก 6–12 ชั่วโมง การตามข่าวจากกรมชลประทาน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดคือเรื่องจำเป็น ไม่ใช่ตัวเลือก

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การ “ตื่นตระหนก” แต่คือการ “ตื่นรู้” เพราะน้ำเคยสอนเราหลายครั้งแล้วว่า คนที่เตรียมตัวก่อน มักเสียหายน้อยกว่าเสมอ

มองเกมยาว: เขื่อนเจ้าพระยา กับอนาคตลุ่มน้ำที่ต้องอยู่กับน้ำให้เป็น

ในมุมกว้าง ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นทั้ง หัวใจเศรษฐกิจ–อาหาร–การอยู่อาศัย ของคนไทยนับสิบล้านคน จากนาข้าวในภาคกลาง โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ไปจนถึงเมืองใหญ่กรุงเทพฯ–ปริมณฑล การบริหารจัดการที่เขื่อนเจ้าพระยาจึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “ตัวเลขระบายน้ำ” แต่เป็นเรื่องของ ความมั่นคงทั้งระบบ

โลกทุกวันนี้ต้องรับมือทั้ง

  • ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ
  • ฝนที่ตกกระจุก–ทิ้งช่วง
  • เมืองที่ขยายตัวปิดทางน้ำธรรมชาติ

ยิ่งทำให้เขื่อน เจ้าพระยา เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และระบบคลองชลประทานทั้งลุ่ม ต้องทำงานประสานกันเหมือน “ทีมฟุตบอลที่เล่นเพรสซิ่งทั้งสนาม” ถ้าจุดใดพลาด จุดนั้นจะกลายเป็นแผลใหญ่ทันที

วันนี้การเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,900 ลบ.ม./วิ คือหนึ่งใน “จังหวะสำคัญ” ที่ทั้งรัฐ–ท้องถิ่น–ประชาชนต้องช่วยกันมองเกมให้ขาด ไม่ใช่แค่รอข่าว แต่ต้องลุกขึ้นเตรียมตัว ปรับตัว และเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำอย่างเข้าใจมากขึ้นในทุกปี

บ้านกีฬา จะเกาะติดทุกความเคลื่อนไหว ทั้งตัวเลขน้ำ–ประกาศเตือนภัย–เสียงจริงจากพื้นที่เสี่ยง มาถ่ายทอดให้คนไทยได้ตามสถานการณ์กันแบบอ่านง่าย เข้าใจไว และใช้รับมือได้จริงเหมือนเดิม

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา