
จาก : ผลบอลสด ลาลิกา ระหว่าง ราโย่ บาเยกาโน่ 0-0 เรอัล มาดริด วันนี้ 9/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกลูกหนัง ลาลีกา คู่ดึกที่บาเยกาส จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 ระหว่าง ราโย่ บาเยกาโน่ กับ เรอัล มาดริด เกมนี้แฟนบอลที่ตามเช็ก ผลบอลสด กับ บ้านกีฬา ได้เห็นภาพชัดเลยว่า ราชันชุดขาวบุกอยู่ฝั่งเดียวแทบทั้งเกม แต่เจอเจ้าบ้านตั้งโซนต่ำ ขยันไล่บี้ และมีออกุสโต บาตาย่า ยืนเฝ้าเสาแบบ “ปิดล็อกทุกมุม” ทำให้จ่าฝูงต้องยอมกลับบ้านพร้อมหนึ่งแต้มเท่านั้น
🔎 ครึ่งแรก: มาดริดคุมบอล แต่ติดด่านสุดท้าย
ครึ่งแรกเป็นฝั่งเรอัล มาดริดที่ครองบอลเหนือกว่า ชัดเจนจากเปอร์เซ็นต์บอล 55% ต่อ 45% พยายามต่อบอลสั้นจากแดนหลังผ่านคู่กลางอย่างเบลลิงแฮมกับวัลเวร์เด้ แล้วแทงออกปีกให้วินิซิอุส จูเนียร์ และบราฮิม ดิอาซ ดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับแบ็กของราโย่
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่ราชันหลุดเข้าเขตโทษ จะมีทั้งแนวรับเจ้าถิ่นบล็อกไว้ และบาตาย่าพุ่งปัดช่วยทีมไว้ตลอด จังหวะสวนกลับของราโย่ก็ไม่ธรรมดา ใช้สปีดของอัลบาโร การ์เซีย กับเด ฟรูโตส โจมตีพื้นที่ว่างด้านข้าง บังคับให้แนวรับมาดริดต้องถอยลึก ขณะที่ใบเหลืองเริ่มทยอยออกทั้งฝั่งราติอู การ์เซีย และฝั่งราชันอย่างฮอยเซนกับบราฮิม สะท้อนให้เห็นว่าเกมเข้าปะทะกันหนักมาก
ช่วงท้ายครึ่งแรกเจ้าบ้านเริ่มหายใจหายคอได้บ้าง เปลี่ยนเอาอัลฟอนโซ เอสปิโน ลงมาเพิ่มความสดทางซ้าย ก่อนจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 0-0 แต่รูปเกมดุเดือด ใบเหลืองออกกันไปหลายใบแล้ว
🔥 ครึ่งหลัง: เปลี่ยนเกมกันรัวๆ แต่สกอร์ยังไม่ขยับ
เริ่มครึ่งหลัง ชาบี อลอนโซ ขยับแก้เกมทันที ถอดดีน ฮอยเซนออกส่งเอแดร์ มิลิเตาลงมาเพิ่มความแน่นในแนวรับ จากนั้นทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกมากขึ้น ราชันส่งบอลบุกเป็นชุดผ่านเท้าของอาร์ดา กึเลอร์ ที่คอยสร้างสรรค์เกมระหว่างไลน์ กับคีลียัน เอ็มบัปเป้ ที่ถ่างออกมารับบอลด้านซ้าย สลับกับวินิซิอุสเพื่อหาเหลี่ยมยิง
นาที 71 เป็นจุดเปลี่ยนฝั่งเจ้าบ้านเมื่อราโย่เปลี่ยนสองตัวรวด ส่งฟราน เปเรซกับออสการ์ บาญเลนตินลงมาไล่เพรสแดนกลาง ขณะที่ราชันถอดบราฮิมออกพัก แล้วส่งดานี เซบายญอสลงมาคุมจังหวะบอล ผลคือเกมตรงกลางแน่นขึ้น แต่โอกาสชัด ๆ ยังเป็นทีมเยือนที่ได้ลุ้นมากกว่า
ช่วงท้ายเกมนาที 79 โรดรีโก ถูกส่งลงมาโจมตีริมเส้น ส่วนวินิซิอุสถ่างกว้างยิ่งขึ้น เรอัล มาดริดโหมบุกใส่ ราโย่ถอยลงไปยืนหน้ากรอบเขตโทษเป็นแผงห้า บาตาย่าต้องออกแรงเซฟอีกหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงไกลของวัลเวร์เด้และจังหวะโขกของเอ็มบัปเป้ในช่วงทดเจ็บ แต่สุดท้ายสกอร์ยังคงนิ่งที่ 0-0 เจ้าบ้านแชร์แต้มจากจ่าฝูงได้อย่างสมศักดิ์ศรี

📋 รายชื่อ 11 ตัวจริงและคะแนนนักเตะ
🟥 ราโย่ บาเยกาโน่ (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- 13 ออกุสโต บาตาย่า – 8.0 (เซฟแล้วเซฟอีก สมฐานะฮีโร่ของทีม)
กองหลัง
- 2 อันเดรย์ ราติอู – 7.6 (แบ็กขวาขยัน วิ่งขึ้นลงทั้งเกม มีใบเหลืองต้นครึ่งแรก)
- 24 ฟลอเรียน เลอเฌิน – 6.8 (คุมโซนกลางรับ ลูกกลางอากาศใช้ได้)
- 32 โนเบล เมนดี้ – 7.6 (ชนทุกลูก ตัดบอลหลายครั้ง)
- 3 ฆาบี ชาวาร์เรีย – 7.3 (แบ็กซ้ายเติมเกมรุกดีและรับเหนียว)
กองกลางตัวรับ
- 6 ปาเธ ซิสส์ – 6.9 (ยืนปักหลักหน้าเซ็นเตอร์ สกัดจังหวะสำคัญหลายครั้ง)
- 17 อูไน โลเปซ – 6.6 (ช่วยเชื่อมเกมกลางสนาม ก่อนถูกเปลี่ยนออกปลายเกม)
ตัวรุกด้านหน้า
- 19 ฆอร์เก เด ฟรูโตส – 6.2 (พยายามลากเลื้อยริมเส้น มีใบเหลืองก่อนพักครึ่ง)
- 7 อีซี ปาลาซอน (กัปตัน) – 7.0 (ตัวปั้นเกมคอยเชื่อมจากกลางไปหน้า)
- 18 อัลบาโร การ์เซีย – 6.2 (ใช้สปีดเล่นงานแนวรับราชัน มีใบเหลืองจากถ่วงเวลา)
กองหน้า
- 4 ปาช่า ดิอาซ – 6.7 (พักบอลได้ดี แต่โอกาสยิงน้อย ถูกถอดตั้งแต่นาที 27)
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- 22 อัลฟอนโซ เอสปิโน – 7.3 (ลงนาที 27 แทน ดิอาซ เติมเกมซ้ายจัดจ้าน)
- 21 ฟราน เปเรซ – 6.6 (นาที 71 แทน ปาลาซอน ช่วยเพรสแดนกลาง)
- 23 ออสการ์ บาญเลนติน – 6.6 (นาที 71 แทน เด ฟรูโตส ลงมาไล่บอลไม่หยุด)
- 15 เคร์ราร์ด กุมบาว – 6.6 (นาที 83 แทน โลเปซ ช่วยอุดหน้าแผงหลังช่วงท้าย)
- 9 อาเลมาว – 6.5 (นาที 83 แทน การ์เซีย วิ่งกดดันแนวรับมาดริด)
🤍 เรอัล มาดริด (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู
- 1 ติโบต์ กูร์กตัวส์ – 7.0 (ไม่โดนทดสอบหนักมาก แต่เซฟจังหวะสำคัญไว้ได้)
กองหลัง
- 17 ราอูล อาเซนซิโอ – 7.3 (ยืนฝั่งขวา ช่วยทั้งรุกและรับ เติมเกมบ่อย)
- 24 ดีน ฮอยเซน – 6.6 (ออกสตาร์ตตัวจริง มีใบเหลืองก่อนโดนเปลี่ยนพักครึ่ง)
- 6 เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า – 6.8 (ยืนเซ็นเตอร์จำเป็น อ่านเกมดี ก่อนถูกดันออกมาพัก)
- 18 อัลบาโร การ์เรราส – 7.2 (แบ็กซ้ายหนุ่ม วิ่งขึ้นลงไม่หมด เติมครอสหลายครั้ง)
กองกลาง
- 8 (กัปตัน) เฟเดริโก วัลเวร์เด้ – 6.8 (เดินเครื่องแดนกลาง ยิงไกลได้ลุ้น)
- 5 จู๊ด เบลลิงแฮม – 7.2 (ขับเคลื่อนเกมรุกจากกลาง มีจังหวะสอดเข้ากรอบเขตโทษบ่อย)
ตัวรุกด้านหน้า
- 15 อาร์ดา กึเลอร์ – 7.6 (สร้างสรรค์เกมระหว่างไลน์ แจกบอลสวยๆ หลายครั้ง)
- 7 วินิซิอุส จูเนียร์ – 7.2 (จี้บอลใส่แบ็กเจ้าถิ่นตลอดเกม แต่ยังหาจังหวะจบคมๆ ไม่ได้)
- 21 บราฮิม ดิอาซ – 6.5 (เคลื่อนที่หาช่องดี แต่มีใบเหลืองและถูกเปลี่ยนออกนาที 71)
กองหน้า
- 10 คีลียัน เอ็มบัปเป้ – 6.7 (ได้โอกาสยิงบ้าง แต่โดนบล็อกและติดเซฟบ่อยครั้ง)
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
- 3 เอแดร์ มิลิเตา – 6.8 (นาที 46 แทน ฮอยเซน เติมความแข็งแกร่งแนวรับ)
- 19 ดานี เซบายญอส – 6.9 (นาที 71 แทน บราฮิม ช่วยคุมจังหวะและจ่ายบอลทะลุช่อง)
- 11 โรดรีโก – 6.4 (นาที 79 แทน กามาวินก้า ลงมาลากเลื้อยทางขวา เพิ่มความอันตรายริมเส้น)
- 12 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 6.7 (นาที 83 แทน วัลเวร์เด้ เปิดบอลยาวแม่นยำ)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งาน: อันดรีย์ ลูนิน, เซร์คิโอ เมสเตร, ฟราน การ์เซีย, ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องด์ เมนดี้, เอนดริก, กอนซาโล การ์เซีย
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในมุมมอง วิเคราะห์บอล แท็กติก เกมนี้ราโย่วาง 4-2-3-1 แบบโคตรระมัดระวัง แผงแบ็กโฟร์ยืนค่อนมาทางหน้ากรอบเขตโทษ ปิดพื้นที่ระหว่างไลน์ ไม่ปล่อยให้เอ็มบัปเป้และวินิซิอุสได้หันหน้าเข้าหาประตูง่ายๆ คู่กลางอย่างซิสส์กับโลเปซคอยไล่บี้ตัดเกมไม่ให้เบลลิงแฮมหมุนตัวเล่นสบาย เมื่อเสียบอลก็ถอยลงยืนเป็นบล็อก 4-5-1 ทำให้ช่องว่างในพื้นที่สุดท้ายแทบไม่มี
ในทางกลับกัน เรอัล มาดริดเน้นการต่อบอลเท้าสู่เท้า ใช้การสลับตำแหน่งของสามตัวรุกด้านหน้าเพื่อดึงแนวรับออกจากตำแหน่ง แต่จุดอ่อนอยู่ที่สปีดการเล่นในพื้นที่สุดท้ายไม่เร็วพอ จังหวะเปิดบอลจากริมเส้นหลายครั้งยังติดหัวเซ็นเตอร์หรือหลุดออกเสาไกล แม้จะมีตัวอย่างกึเลอร์ที่คอยแทงคิลเลอร์พาส แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้
ช่วงหลังมาดริดพยายามแก้เกมด้วยการส่งมิลิเตาลงมาคุมลูกโด่งและดันแบ็กเติมสูงขึ้น รวมถึงการใส่โรดรีโกมาเล่นด้านขวาแล้วขยับเอ็มบัปเป้เข้าไปอยู่ในพื้นที่เขตโทษมากขึ้น ทว่าบล็อกจากเลอเฌินกับเมนดี้ บวกกับฟอร์มสุดหนึบของบาตาย่า ทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยคำว่า “ยิงยังไงก็ไม่เข้า”
ราโย่เองในเกมรุกเน้นสวนกลับเร็ว ใช้ความไวของปีกสองฝั่ง แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความเฉียบคม หลายครั้งเลือกจ่ายช้า หรือยิงห่างกรอบ ทำให้ไม่สามารถลงโทษจังหวะหลุดโซนของแนวรับราชันได้

📊 สถิติการแข่งขัน
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพได้ชัดเจน เรอัล มาดริดกดดันตลอด 90 นาที มีโอกาสยิงทั้งหมด 13 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ครั้ง ขณะที่ราโย่ยิง 11 ครั้ง เข้ากรอบเพียง 2 ครั้งเท่านั้น การครองบอลราชันเหนือกว่าที่ 55% ต่อ 45% พร้อมกับจำนวนการส่งบอล 390 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 90% ส่วนราโย่ส่งบอล 262 ครั้ง ความแม่นยำ 89% ซึ่งถือว่าดีมากสำหรับทีมที่เล่นเกมรับเป็นหลัก
ด้านเกมรับ ราโย่ต้องทำฟาวล์มากถึง 17 ครั้ง แลกกับใบเหลือง 3 ใบ เพื่อหยุดแนวรุกทีมเยือน ในขณะที่มาดริดฟาวล์เพียง 7 ครั้ง รับใบเหลือง 2 ใบ ทั้งสองทีมไม่มีใบแดง เกมนี้จึงจบลงแบบกร่อยๆ แต่ก็เข้มข้นในเชิงแท็กติก ลูกเตะมุมราชันได้ถึง 8 ครั้ง เทียบกับเจ้าบ้าน 5 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเจ้าถิ่นต้องเคลียร์บอลหนีอันตรายหน้าประตูอยู่ตลอด
⏱️ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ นาที 15 อันเดรย์ ราติอู ฟาวล์ตัดเกมริมเส้น รับใบเหลืองใบแรกของเกม
- 🔁 นาที 27 ราโย่เปลี่ยนตัวเร็ว ส่งอัลฟอนโซ เอสปิโน ลงแทนปาช่า ดิอาซ ปรับรูปแบบการยืนริมเส้นซ้าย
- ⚠️ นาที 33 อัลบาโร การ์เซีย โดนใบเหลืองจากการถ่วงเวลาในจังหวะทุ่ม
- ⚠️ นาที 36 ดีน ฮอยเซน ฟาวล์ใส่แนวรุกเจ้าถิ่น รับใบเหลืองใบแรกของราชัน
- ⚠️ นาที 44 บราฮิม ดิอาซ ทำฟาวล์กลางสนาม โดนใบเหลืองตามไปอีกคน
- ⚠️ นาที 45+3 ฆอร์เก เด ฟรูโตส ฟาวล์หนักโดนจดชื่อปิดท้ายครึ่งแรก
- 🔁 นาที 46 เรอัล มาดริดส่งเอแดร์ มิลิเตา ลงแทนฮอยเซน เสริมความแข็งแกร่งแนวรับ
- 🔁 นาที 71 ราโย่เปลี่ยนสองคนรวด ส่งฟราน เปเรซ และออสการ์ บาญเลนติน แทนอีซี ปาลาซอน กับเด ฟรูโตส เพื่อเพิ่มพลังเพรสซิ่ง
- 🔁 นาที 71 ราชันขยับส่งดานี เซบายญอส แทนบราฮิม ดิอาซ ปรับสมดุลกลางสนาม
- 🔁 นาที 79 โรดรีโก ลงแทนกามาวินก้า เพิ่มตัวรุกริมเส้นขวาให้ทีมเยือน
- 🔁 นาที 83 ราโย่เติมกลางและหน้า ส่งเคร์ราร์ด กุมบาว กับอาเลมาว ลงแทนอูไน โลเปซ และอัลบาโร การ์เซีย รับมือช่วงท้ายเกมที่มาดริดบุกหนัก
🌟 Player of the Match: ออกุสโต บาตาย่า
ไม่แปลกที่รางวัล Player of the match จะตกเป็นของ ออกุสโต บาตาย่า ผู้รักษาประตูราโย่ที่ได้คะแนนสูงถึง 8.0 ตลอดทั้งเกมเขาโชว์ซูเปอร์เซฟหลายครั้ง ทั้งลูกยิงไกลของวัลเวร์เด้ บอลปั่นโค้งของวินิซิอุส และจังหวะเข้าชาร์จของเอ็มบัปเป้ในช่วงท้าย นอกจากการเซฟแล้ว การออกมาตัดลูกครอสและสั่งการแนวรับยังช่วยให้ทีมยืนกันเป็นระเบียบ ไม่เสียสมาธิในจังหวะกดดันจัด ๆ หากไม่มีบาตาย่า เกมนี้คงไม่จบด้วยสกอร์ 0-0 แน่นอน

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนลาลีกา
ผลเสมอเกมนี้ทำให้ เรอัล มาดริด เก็บเพิ่มเป็น 31 คะแนน จาก 12 นัด สถิติชนะ 10 เสมอ 1 แพ้ 1 ยังยืนหนึ่งบนหัวตาราง นำบาร์เซโลน่าที่มี 28 แต้มอยู่ 3 คะแนน แต่ถือว่าเป็นการสะดุด เพราะหากคว้าชัยได้จะฉีกหนีคู่แข่งมากกว่านี้
ด้าน ราโย่ บาเยกาโน่ เก็บแต้มสำคัญขยับเป็น 15 คะแนน จาก 12 นัด ผลงานชนะ 4 เสมอ 3 แพ้ 5 ประตูได้ 12 เสีย 14 ผลต่าง -2 อยู่อันดับ 12 กลางตารางแบบสบายๆ ยังไม่ต้องกังวลโซนตกชั้น แถมได้กำลังใจเพียบจากการหยุดจ่าฝูงได้ในบ้านตัวเอง
📅 ตารางบอลและโปรแกรมนัดถัดไปของทั้งสองทีม
สำหรับแฟนบอลที่รอตามเช็ก ตารางบอล ต่อจากเกมนี้ โปรแกรมข้างหน้าของทั้งสองทีมแน่นเอี๊ยดทีเดียว
🟥 โปรแกรมราโย่ บาเยกาโน่
- ลาลีกา: เรอัล โอเบียโด้ พบ ราโย่ บาเยกาโน่ – วันที่ 23/11/25 เวลา 20:00 น.
- ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก: สโลวาน พบ ราโย่ บาเยกาโน่ – วันที่ 28/11/25 เวลา 00:45 น.
ทีมของอีญีโก เปเรซ ยังต้องหมุนเวียนผู้เล่นอย่างระวัง เพราะมีทั้งเกมลีกและเวทียุโรปให้ลุยต่อเนื่อง ใครจะตามเล่นบอลหรือดูฟอร์มต่อ อย่าลืมดูโปรแกรมใน ตารางบอล บ้านกีฬาไว้ให้ดี
🤍 โปรแกรมเรอัล มาดริด
- ลาลีกา: เอลเช่ พบ เรอัล มาดริด – วันที่ 24/11/25 เวลา 03:00 น.
- ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก: โอลิมเปียกอส พบ เรอัล มาดริด – วันที่ 27/11/25 เวลา 03:00 น.
ชาบี อลอนโซ ต้องรีบเคลียร์ปัญหาจังหวะจบสกอร์ให้ได้ ก่อนจะไปเยือนเอลเช่ในลีก และบุกกรีซฉะโอลิมเปียกอสในถ้วยใหญ่ยุโรป ใครอยากตามฟอร์มราชันแบบวันต่อวัน กดดู โปรแกรมบอล และอัปเดตผ่าน บ้านกีฬา ได้ตลอด
📣 ติดตาม บ้านผลบอล และความเคลื่อนไหวลูกหนังได้ที่ บ้านกีฬา
ใครพลาดชมเกมสดระหว่างราโย่ บาเยกาโน่ กับเรอัล มาดริด ไม่ต้องกังวล บ้านกีฬาเกาะติดทุกแมตช์ให้แฟนบอลแล้ว ทั้งสรุปหลังเกม สถิติลึก ๆ และมุมมองแบบคนดูบอลตัวจริง อัปเดต บ้านผลบอล, สกอร์สด และข่าววงในทุกลีกใหญ่ครบจบในที่เดียว กดติดตามเราไว้ แล้วทุกคืนบอลเตะ คุณจะไม่พลาดทุกจังหวะสำคัญของโลกฟุตบอล

