
จาก : ผลบอลสด เซเรียอา ระหว่าง โบโลญญ่า 2- 0 นาโปลี วันนี้ 9/11/68 – บ้านกีฬา
ศึกกัลโช่ เซเรียอา ค่ำคืนนี้ที่สตาดิโอ เรนาโต้ ดัลลาร่า กลายเป็นเวทีที่แฟนบอลสายเช็ก ผลบอลสด ต้องหันมามอง เมื่อโบโลญญ่าของ วินเชนโซ่ อิตาเลียโน่ เปิดบ้านรับนาโปลีทีมใหญ่ของอันโตนิโอ คอนเต้ และจบลงด้วยสกอร์ 2-0 แบบหักปากกาเซียน บ้านกีฬา ขอย้ำเลยว่านี่คือหนึ่งในแมตช์ที่เปลี่ยนหน้าตา บ้านผลบอล เซเรียอา ฤดูกาลนี้แบบชัด ๆ
ประตูของเจ้าถิ่นมาจาก ธีส์ ดัลลิงกา นาทีที่ 50 ก่อนเป็น จอห์น ลูคูมีย์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งขึ้นมาโหม่งลูกเตะมุมปิดบัญชี นาที 66 ส่งให้บอโลญญ่าคว้า 3 แต้มสุดสำคัญ ไล่จี้กลุ่มท็อปโฟร์แบบหายใจรดต้นคอ ส่วนนาโปลีของคอนเต้กลับบ้านมือเปล่า เกมรุกตัน เกมรับหลวม โดนเสียงโห่จากแฟนทีมตัวเองไปเต็ม ๆ
⏱ ครึ่งแรก: นาโปลีคุมบอลแต่เจาะไม่เข้า
ครึ่งแรกเริ่มมาไม่ทันไร โบโลญญ่าต้องเสียผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่าง ลูคาช สโกรุปสกี้ ตั้งแต่นาทีที่ 8 จากอาการเจ็บ ทำให้ มัสซิโม เปสซิน่า ถูกส่งลงมาเฝ้าเสาแทน แต่แม้จะเสียจังหวะเล็กน้อย เกมรับเจ้าถิ่นก็ยังยืนกันแน่นในระบบ 4-2-3-1
นาโปลีเน้นคุมบอลจากกลางสนามผ่านสามมิดฟิลด์ สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เอลิฟ เอลมาส ใช้การต่อบอลสั้นดึงจังหวะไปเรื่อย ขณะที่แนวรุกอย่าง มัตเตโอ โปลิตาโน่, ราสมุส ฮอยลุนด์ และ อ็องเดร-ฟรองก์ อ็องกีสซ่า พยายามสลับตำแหน่งหาช่องยิง
สถิติครึ่งแรกแม้นาโปลีจะครองบอลเหนือกว่าเล็กน้อย แต่แทบไม่มีจังหวะจบสกอร์จะแจ้ง เกมถูกบีบให้อยู่หน้าเขตโทษโบโลญญ่า ซึ่งมี ลูคูมีย์ กับ เฮกเกม ยืนคุมพื้นที่ได้เนียนกริบ ขณะที่ฝั่งเจ้าบ้านใช้จังหวะสวนกลับของ ธีส์ ดัลลิงกา, ริคคาร์โด้ ออร์โซลินี่ และ โจนาธาน โรว์ ลากกินระยะ แต่ก็ยังเจาะแนวรับนาโปลีไม่เข้า ทำให้จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 0-0
🔥 ครึ่งหลัง: ดัลลิงกาปลดล็อก ลูคูมีปิดเกม
เริ่มครึ่งหลัง โบโลญญ่าแก้เกมทันที ส่ง นิโคโล กัมบิอักกี ลงมาแทน โจนาธาน โรว์ เพื่อเพิ่มความจัดจ้านริมเส้น และการเปลี่ยนตัวนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแมตช์
นาทีที่ 50 แฟนเจ้าถิ่นได้เฮลั่น กัมบิอักกีตัดเข้าในจากฝั่งซ้ายแล้วเปิดเรียดทะลุช่องให้ ธีส์ ดัลลิงกา สอดเข้าไปยิงจ่อ ๆ ส่งบอลผ่านมือ วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช เข้าไปอย่างเด็ดขาด โบโลญญ่านำก่อน 1-0
หลังเสียประตู นาโปลีพยายามเร่งเครื่อง แต่ดันโดนเกมสวนกลับของเจ้าบ้านเล่นงานต่อเนื่อง จนถึงนาที 61 อิตาเลียโน่ส่ง เฟเดริโก แบร์นาร์เดสคี ลงมาแทน เยนส์ อ็อดการ์ด เพิ่มทีเด็ดลูกนิ่งและการครอสบอล
แล้วนาที 66 สกอร์ก็ไหลเป็น 2-0 จากจังหวะเตะมุมฝั่งขวาที่ เอมิล โฮล์ม เปิดโค้งมาเสาแรก จอห์น ลูคูมีย์ โฉบขึ้นโขกเต็มหน้าผาก บอลพุ่งเสียบตาข่ายแบบ มิลินโควิช-ซาวิช หมดสิทธิ์เซฟ กลายเป็นประตูที่สะท้อนให้เห็นความเด็ดขาดของเจ้าถิ่นแบบชัดเจน
ช่วงท้ายเกม นาโปลีถอดตัวรุก-ตัวรับชุดใหญ่ส่ง ดาวิด เนเรส, โนอา ล็อง, มาตีอัส โอลีเวร่า และ ฆวน เชซุส ลงมา แต่ก็ยังเจาะเกมรับโบโลญญ่าไม่เข้า แถมตัวรุกใหม่อย่าง เนเรส กับ ล็อง ยังโดนเหลืองจากจังหวะฟาวล์หงุดหงิดอีกต่างหาก หมดเวลาการแข่งขัน โบโลญญ่าคว้าชัย 2-0 อย่างสมศักดิ์ศรี

👥 รายชื่อ 11 ตัวจริงและคะแนนนักเตะ
🔴 โบโลญญ่า (4-2-3-1) – ผู้จัดการทีม: วินเชนโซ่ อิตาเลียโน่
ผู้รักษาประตู
- 1 ลูคาช สโกรุปสกี้ – 6.4 (เจ็บ ถูกเปลี่ยนออก นาที 8)
- 25 มัสซิโม เปสซิน่า – 6.8 (ลงสำรอง นาที 8 ทำหน้าที่ได้มั่นคง เซฟจังหวะสำคัญช่วงท้ายเกม)
กองหลัง
- 2 เอมิล โฮล์ม – 7.9 (แบ็กขวาขึ้นลงตลอดเกม แอสซิสต์ให้ลูคูมีย์โขกประตูที่สอง)
- 14 โทเบียส เฮกเกม – 6.9 (ยืนเซ็นเตอร์คู่ลูคูมีย์ อ่านเกมดี เคลียร์บอลหลายครั้ง)
- 26 จอห์น ลูคูมีย์ – 8.6 (เซ็นเตอร์ฮีโร่ ทำ 1 ประตู ลูกกลางอากาศแน่นจนได้รางวัล Man of the Match)
- 33 จูเลียน มิรันดา – 7.3 (แบ็กซ้ายเติมเกมบุกบ่อย ครอสบอลกดดันแนวรับนาโปลี)
กองกลางตัวรับ
- 4 โตมาสโซ โปเบกา – 6.6 (วิ่งตัดเกมกลางสนามหนักหน่วง ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 81)
- 19 ลูอิส เฟอร์กูสัน (กัปตัน) – 6.9 (คุมจังหวะเกมรุก-รับ วางบอลยาวขึ้นหน้าได้เนียนตา)
กองกลางตัวรุก/ริมเส้น
- 7 ริคคาร์โด้ ออร์โซลินี่ – 6.2 (ขยับหาช่องยิงตลอด แต่จบไม่คม ได้ใบเหลืองนาที 74)
- 21 เยนส์ อ็อดการ์ด – 6.5 (ยืนเพลย์เมกเกอร์คอยเชื่อมเกม ก่อนถูกถอดนาที 61)
- 11 โจนาธาน โรว์ – 6.9 (ลากเลื้อยทางซ้าย มีส่วนปั่นป่วนแนวรับ ก่อนโดนเปลี่ยนตอนพักครึ่ง)
กองหน้า
- 24 ธีส์ ดัลลิงกา – 7.9 (ยิงเปิดหัวให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ยืนค้ำกองหลังนาโปลีได้เยี่ยม)
ตัวสำรองที่ลงเล่น
- 28 นิโคโล กัมบิอักกี – 7.3 (ลงช่วงพักครึ่ง แอสซิสต์ยิงประตูแรกให้ดัลลิงกา)
- 10 เฟเดริโก แบร์นาร์เดสคี – 6.7 (นาที 61 เพิ่มมิติการเปิดบอลและลูกนิ่ง)
- 16 นิโคโล คาเซเล – 6.7 (นาที 81 ลงมาช่วยยืนแนวรับแทน ออร์โซลินี่)
- 6 นิโคลา โมโร – 6.6 (นาที 81 ลงมาแพ็คกลางสนามปิดเกม)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
อุคโก ฮัปโปเนน, ลอเรนโซ เด ซิลเวสตรี, คาราลัมบอส ลีโคเกียนนิส, มาร์ติน วิติก, อิบราฮิม ซูเลมานา, นาดีร์ ซอร์เตอา, โจวานนี ฟับเบียน, เบนฮามิน โดมิงเกซ
🔵 นาโปลี (4-3-3) – ผู้จัดการทีม: อันโตนิโอ คอนเต้
ผู้รักษาประตู
- 32 วานย่า มิลินโควิช-ซาวิช – 6.2 (เซฟได้หลายจังหวะ แต่สองประตูที่เสียแทบหมดสิทธิ์ป้องกัน)
กองหลัง
- 22 โจวานนี ดิ โลเรนโซ (กัปตัน) – 6.2 (พยายามเติมเกมรุกทางขวา แต่โดนโบโลญญ่าดักไว้บ่อย)
- 13 อาเมียร์ ราห์มานี – 6.3 (คุมแผงหลังได้ดีช่วงครึ่งแรก ก่อนหลุดช่วงโดนสองประตู)
- 4 อาเลสซานโดร บูโอนจอร์โน – 6.6 (แน่นลูกพื้น แต่จังหวะลูกเซตพีซยังมีหลุดตำแหน่ง)
- 3 มิเกล กูตีเอร์เรซ – 6.6 (แบ็กซ้ายเติมค่อนข้างสูง ก่อนถูกเปลี่ยนออกนาที 77)
กองกลาง
- 68 สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า – 6.6 (ตัวคุมจังหวะเกม สร้างความแตกต่างได้บ้างแต่ยังไม่พอ)
- 8 สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ – 6.6 (วิ่งไล่บีบคู่แข่งตลอด แต่เกมรุกยังมีส่วนร่วมไม่มาก ก่อนโดนถอดนาที 82)
- 20 เอลิฟ เอลมาส – 6.2 (เชื่อมเกมแดนกลาง-หน้า แต่ไอเดียจ่ายทะลุช่องยังไม่เข้าเป้า ถูกถอดนาที 67)
แนวรุกสามประสาน
- 21 มัตเตโอ โปลิตาโน่ – 6.5 (สร้างจังหวะได้บ้างทางขวา แต่ถูกจับตาย ก่อนโดนเปลี่ยนออกนาที 67)
- 19 ราสมุส ฮอยลุนด์ – 5.8 (แทบไม่มีพื้นที่ เล่นลำบาก จังหวะฟาวล์นอกบอลโดนใบเหลืองนาที 63)
- 99 อ็องเดร-ฟรองก์ อ็องกีสซ่า – 6.5 (ถูกดันขึ้นไปยืนริมเส้นซ้าย เกมนี้ไม่ค่อยมีทีเด็ดในพื้นที่สุดท้าย)
ตัวสำรองที่ลงเล่น
- 7 ดาวิด เนเรส – 6.5 (นาที 67 แทนโปลิตาโน่ ได้บอลเยอะแต่จังหวะสุดท้ายยังฝืด แถมโดนเหลืองนาที 76)
- 70 โนอา ล็อง – 6.5 (นาที 67 แทนเอลมาส สร้างความแสบด้วยการลากเลื้อย แต่เสียบอลง่ายและโดนเหลืองนาที 70)
- 17 มาตีอัส โอลีเวร่า – 6.6 (นาที 77 แทนกูตีเอร์เรซ เติมเกมริมเส้นซ้ายได้ดีขึ้นเล็กน้อย)
- 5 ฆวน เชซุส – 6.9 (นาที 77 แทนบูโอนจอร์โน ลงมาช่วยเกมรับลูกกลางอากาศ)
- 27 ลอเรนโซ ลุกก้า – 6.5 (นาที 82 แทนแม็คโทมิเนย์ ยืนหน้าเป้าแต่แทบไม่มีโอกาสจบสกอร์)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน
มาติอัส แฟร์รันเต, นิกิต้า คอนตินี, ลูก้า มาริอานุชชี, แซม เบวกีม่า, ปาสกวาเล มาซโซกคี, อันโตนิโอ แวร์การา, จูเซ็ปเป อัมโบรซิโน
🧠 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในมุมมองของ บ้านกีฬา แท็คติกเกมนี้คือภาพชัดของคำว่า “โครงสร้างทีมชนะชื่อชั้นนักเตะ” โบโลญญ่ามาในระบบ 4-2-3-1 ที่เน้นการยืนบล็อกกลางสนามแน่น ๆ สองมิดฟิลด์อย่างโปเบกากับเฟอร์กูสันคอยปิดช่องตรงกลาง บีบให้นาโปลีต้องถ่างบอลออกด้านข้างตลอด เมื่อบอลออกข้าง แบ็กอย่างโฮล์มกับมิรันดาจะดันขึ้นมาบีบเร็ว ทำให้แนวรุกของนาโปลีไม่มีเวลาหันหน้าเข้าหาประตู
ส่วนการรุก เจ้าถิ่นใช้การเคลื่อนที่ของดัลลิงกาเป็นจุดศูนย์กลาง เขาคอยถ่างไปด้านข้างดึงตัวประกบ เปิดพื้นที่ให้ตัวรุกด้านหลังสอดขึ้นมาเล่นบอลที่สอง จังหวะประตูแรกถือเป็นตัวอย่างชัดเจน – ดัลลิงกาถอยมาดึงเซ็นเตอร์ ก่อนสปรินต์เข้าไปพื้นที่ว่างรับบอลจากกัมบิอักกี จบสกอร์แบบคมกริบ
ฝั่งนาโปลีในระบบ 4-3-3 เน้นครองบอลและต่อบอลสั้นจากหลังขึ้นหน้า สร้างรูปแบบเกมตามสไตล์คอนเต้ยุคเน้นคอนโทรล แต่ปัญหาคือจังหวะสุดท้ายไม่คม และผู้เล่นแดนหน้าขาดการเคลื่อนที่หลากหลาย ฮอยลุนด์ ถูกลูคูมีย์ตามประกบจนเล่นไม่ออก โปลิตาโน่กับอ็องกีสซ่าต้องถ่างไปรับบอลลึก ทำให้ในกรอบเขตโทษแทบไม่มีตัวรอทำประตู
เมื่อเพิ่มดูในเชิง วิเคราะห์บอล เรื่องเกมรับ นาโปลีเสียสมาธิในลูกเซตพีซอย่างชัดเจน ลูกเตะมุมประตู 2-0 พวกเขาปล่อยให้ลูคูมีย์หลุดมาจากเสาไกลแล้วย้อนมาที่เสาแรกโดยไม่มีใครตามประกบ ถือเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ทีมลุ้นแชมป์ไม่ควรพลาด ขณะที่โบโลญญ่าป้องกันพื้นที่ในกรอบเขตโทษได้อย่างรัดกุม แทบไม่ปล่อยให้ทีมเยือนมีโอกาสยิงจ่อ ๆ เลยตลอด 90 นาที

📊 สถิติการแข่งขัน
แม้ตัวเลขการครองบอลจะบอกว่านาโปลีเหนือกว่าเล็กน้อย (51% ต่อ 49%) แต่รูปเกมจริงคือโบโลญญ่าคมกว่าอย่างชัดเจน เจ้าถิ่นสร้างโอกาสยิงทั้งหมด 11 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ลูก และเปลี่ยนเป็น 2 ประตูเต็ม ๆ ขณะที่นาโปลียิงได้เพียง 4 ครั้ง เข้ากรอบแค่ลูกเดียวตลอดเกม ทั้งที่พวกเขาจ่ายบอลมากถึง 491 ครั้ง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 92% เมื่อเทียบกับโบโลญญ่าที่จ่าย 292 ครั้ง ความแม่นยำ 90%
จำนวนฟาวล์ของทั้งสองทีมเท่ากันที่ 15 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเกมนี้มีการปะทะกันดุเดือดพอสมควร ใบเหลืองแบ่งเป็น โบโลญญ่า 1 ใบ (ออร์โซลินี่) ส่วนนาโปลี 3 ใบ จาก ฮอยลุนด์, โนอา ล็อง และ ดาวิด เนเรส ลูกเตะมุมโบโลญญ่าทำได้ 5 ครั้ง มากกว่านาโปลีที่มีโอกาสเพียง 4 ครั้ง และหนึ่งในนั้นก็คือลูกเตะมุมที่กลายเป็นประตูปิดกล่องของลูคูมีย์นั่นเอง
⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚕️ 8′ – โบโลญญ่าเปลี่ยนตัวจำเป็น มัสซิโม เปสซิน่า ลงเฝ้าเสาแทน ลูคาช สโกรุปสกี้ ที่เจ็บเล่นต่อไม่ไหว
- 🔁 46′ – โบโลญญ่าปรับเกมรุก ส่ง นิโคโล กัมบิอักกี ลงแทน โจนาธาน โรว์
- ⚽ 50′ – ประตู 1-0 โบโลญญ่า นิโคโล กัมบิอักกี เปิดเรียดจากฝั่งซ้ายให้ ธีส์ ดัลลิงกา วิ่งสอดมาซัดไม่เหลือ
- 🔁 61′ – เฟเดริโก แบร์นาร์เดสคี ลงมาแทน เยนส์ อ็อดการ์ด เสริมลูกนิ่งให้เจ้าถิ่น
- 🟨 63′ – ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำฟาวล์นอกบอล โดนใบเหลือง
- 🔁 67′ – นาโปลีแก้เกมรุก ส่ง ดาวิด เนเรส แทน มัตเตโอ โปลิตาโน่
- 🔁 67′ – โนอา ล็อง ลงแทน เอลิฟ เอลมาส เพิ่มความจี๊ดริมเส้น
- 🟨 70′ – โนอา ล็อง ทำฟาวล์หนัก โดนใบเหลือง
- 🟨 74′ – ริคคาร์โด้ ออร์โซลินี่ พุ่งเสียบกลางสนาม รับใบเหลืองใบเดียวของโบโลญญ่าในเกมนี้
- 🟨 76′ – ดาวิด เนเรส โดนเหลืองจากการเข้าสกัดช้า
- 🔁 77′ – นาโปลีส่ง มาตีอัส โอลีเวร่า แทน มิเกล กูตีเอร์เรซ ปรับเกมรับฝั่งซ้าย
- 🔁 77′ – ฆวน เชซุส ลงแทน อาเลสซานโดร บูโอนจอร์โน เสริมความแข็งแกร่งหลังบ้าน
- ⚽ 66′ (เหตุการณ์สำคัญย้อนเรียงเวลา) – โบโลญญ่าหนี 2-0 จากลูกเตะมุม เอมิล โฮล์ม เปิดให้ จอห์น ลูคูมีย์ โหม่งเต็ม ๆ
- 🔁 81′ – นิโคลา โมโร ลงแทน โตมาสโซ โปเบกา และ นิโคโล คาเซเล ลงแทน ริคคาร์โด้ ออร์โซลินี่ โบโลญญ่าล็อกเกมรับ
- 🔁 82′ – ลอเรนโซ ลุกก้า ลงมาแทน สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เพิ่มหัวหอกในกรอบเขตโทษ
(หมายเหตุ: ลำดับนาทีตามเหตุการณ์สำคัญ อาจสลับแสดงเล็กน้อย แต่ทุกเหตุการณ์ครบตามข้อมูล)
⭐ Player of the Match – จอห์น ลูคูมีย์
แมนออฟเดอะแมตช์ของเกมนี้ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่า จอห์น ลูคูมีย์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวโคลอมเบียที่ได้คะแนนสูงถึง 8.6 ไม่ใช่แค่โขกประตูตอกฝาโลง 2-0 เท่านั้น แต่ตลอดทั้งเกมเขายังเป็นกำแพงเหล็กที่ทำให้ ฮอยลุนด์ แทบไม่ได้หายใจ สกัดบอลกลางอากาศชนะแทบทุกครั้ง อ่านเกมดักตัดบอลก่อนถึงเขตโทษได้เนียนตา
บ้านกีฬา มองว่าลูคูมีย์คือหัวใจเกมรับของโบโลญญ่าในยุคอิตาเลียโน่ หากรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไป มีโอกาสสูงที่ชื่อของเขาจะติดลิสต์ทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลแน่นอน

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนนเซเรียอา
หลังจบเกมนี้ โบโลญญ่าขยับมี 21 แต้มจาก 11 นัด ด้วยผลงานชนะ 6 เสมอ 3 แพ้ 2 ประตูได้-เสีย 18-10 รั้งอันดับ 5 ของตาราง ไล่จี้นาโปลีที่ยังมี 22 แต้มอยู่เหนือเพียง 1 คะแนน ขณะที่กลุ่มบนสุด อินเตอร์ กับ โรม่า มี 24 แต้ม ส่วนมิลานและนาโปลีนั่งกลุ่มไล่ล่าตามหลัง
ชัยชนะนัดนี้จึงไม่ใช่แค่ 3 คะแนนธรรมดา แต่คือการส่งสัญญาณชัดว่าโบโลญญ่าพร้อมแล้วที่จะเบียดแย่งพื้นที่ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแบบเต็มตัว ส่วนฝั่งนาโปลี แพ้เกมที่ 3 ของฤดูกาล ทำให้แรงกดดันบนบ่าของคอนเต้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เพราะถ้าฟอร์มสะดุดต่อเนื่อง อาจโดนทีมอย่างยูเวนตุสหรือโคโม่ไล่จี้แต้มทันในไม่ช้า
📅 ตารางบอลเซเรียอานัดถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปข้างหน้าในเชิง ตารางบอล และ โปรแกรมบอล โบโลญญ่าต้องออกเยือนอูดิเนเซ่ ในเกมเซเรียอาวันที่ 22 พฤศจิกายน จากนั้นมีศึกหนักในยูฟ่า ยูโรปา ลีก เปิดบ้านรับอาร์เบ ซัลซ์บวร์กวันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งจะเป็นบททดสอบว่าพวกเขาพร้อมหมุนเวียนทีมรับศึกหลายรายการแค่ไหน
ฝั่งนาโปลี โปรแกรมข้างหน้าหนักไม่แพ้กัน เริ่มจากเกมลีกเปิดบ้านดวลอตาลันต้าในวันที่ 23 พฤศจิกายน ก่อนต่อด้วยแมตช์ชี้ชะตาในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก พบกับการาบัค วันที่ 26 พฤศจิกายน หากคอนเต้ไม่เร่งคืนฟอร์มโดยเร็ว เสียงวิจารณ์จากแฟนบอลและสื่ออิตาลีมีสิทธิ์ดังขึ้นเรื่อย ๆ
🏠 ติดตามบ้านผลบอลและข่าวบอลมันส์ ๆ ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากตามเช็กสกอร์สด อัปเดตอันดับตาราง และอ่านบทวิเคราะห์เกมเดือดแบบนี้ต่อเนื่อง อย่าลืมติดตามเช็ก บ้านผลบอล และคอนเทนต์ลูกหนังทุกลีกดังได้ที่ บ้านกีฬา เราจะพาแฟนบอลไปเกาะทุกกระแส ตั้งแต่เกมใหญ่ระดับยุโรปจนถึงบอลเล็กที่มีเรื่องราวน่าสนใจแบบไม่ให้พลาดแมตช์สำคัญเลย

