
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง คริสตัล พาเลซ 0-0 ไบรท์ตัน โฮฟ อัลเบี้ยน วันนี้ 9/11/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก คู่เดือดที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค “อินทรีผงาด” คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านรับ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน โฮฟ อัลเบี้ยน จบลงด้วยสกอร์ 0-0 แต่รูปเกมไม่ได้จืดจางอย่างบนหน้ากระดาษ เพราะตลอด 90 นาทีบวกทดเวลา ทั้งสองทีมอัดกันเต็มสูบ เกมเข้มข้น ดวลแท็กติกกันแบบไม่มีใครยอมใคร แถมมีทั้งจังหวะจุดโทษที่ VAR ริบคืนและใบเหลืองหลายใบให้ลุ้นกันยาวๆ แฟนที่กดเช็ก ผลบอล หรือเปิดดูแบบเกาะจอผ่านสัญญาณ ผลบอลสด นี่คือหนึ่งในเกมที่ไม่ควรมองข้ามเลย
⏱️ ครึ่งแรก: พาเลซรัดกุม ไบรท์ตันคุมบอล
เริ่มเกม พาเลซของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์วางแผนมาเน้นรัดกุม ชัดเจนว่าเน้นเกมรับเหนียวแน่นก่อน โดยปล่อยให้ไบรท์ตันของฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์เป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่า ทีมเยือนต่อบอลลื่นไหล เซ็ตเกมจากแนวรับผ่านคู่เซ็นเตอร์ ลูอิส ดังค์ – แจน พอล ฟาน เฮคเคอ และดันฟูลแบ็กขึ้นสูงตลอด
อย่างไรก็ตาม จังหวะจบสกอร์ของนกนางนวลยังไม่คมพอ โอกาสยิงตรงกรอบในครึ่งแรกมีไม่มาก ขณะที่พาเลซอาศัยจังหวะสวนกลับของอิสไมล่า ซาร์ และความแข็งแรงของฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า พาบอลบุกใส่แนวรับทีมเยือนอยู่เป็นระยะ แต่ติดเซฟบาร์ต แฟร์บรุกเกน กับจังหวะสุดท้ายที่ยังไม่เฉียบคม ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
🔄 ครึ่งหลัง: ดราม่าจุดโทษ–VAR ใบเหลืองปลิวว่อน
ลงมาครึ่งหลัง ไบรท์ตันยิ่งเร่งเครื่อง ครองบอลเหนือต่อเนื่อง พาเลซต้องถอยลงมาตั้งบล็อกลึก แต่เกมนี้แนวรับเจ้าบ้าน โดยเฉพาะเจย์ดี คานวอต กับคู่เซ็นเตอร์อย่างคริส ริชาร์ดส์ และมักซีม ลากรัวซ์ ยืนตำแหน่งและอ่านเกมได้ยอดเยี่ยม ช่วยกันบล็อกลูกครอสและจังหวะยิงได้หลายครั้ง
ไฮไลต์ของครึ่งหลังมาในช่วงนาที 60-65 เมื่อไบรท์ตันได้จุดโทษจากจังหวะที่จอร์จินโญ่ รัตเตอร์ ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้จุดโทษทันที ทำแฟนเจ้าบ้านหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม แต่หลังเช็ก VAR กลับคำตัดสิน ยกเลิกจุดโทษ พร้อมแจกใบเหลืองให้รัตเตอร์ข้อหา “พุ่งล้ม” กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม
จากนั้นทั้งสองทีมเริ่มเปิดหน้าแลกมากขึ้น เปลี่ยนตัวเติมความสดพร้อมเสี่ยงเกมรุก ท้ายเกมอารมณ์เริ่มเดือด มีจังหวะปะทะและโวยวายจนเจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า กับโยเอล เฟลต์มัน ได้ใบเหลืองช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สุดท้ายไม่มีใครยิงกันได้ จบเกม 0-0 แบ่งแต้มกันไปแบบสุดดุเดือด แม้บนสกอร์บอร์ดจะนิ่งสนิทแต่ในสนามไฟแลบทั้งเกม

🧾 รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
🦅 คริสตัล พาเลซ (3-4-2-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.98
ผู้รักษาประตู
- ดีน เฮนเดอร์สัน (7.2) กัปตันทีม เซฟสำคัญหลายครั้ง คุมพื้นที่ในกรอบเขตโทษดีมาก
กองหลัง
- คริส ริชาร์ดส์ (7.1) ยืนดวลลูกกลางอากาศแน่น
- มักซีม ลากรัวซ์ (6.7) อ่านเกมดี เคลียร์บอลทิ้งได้บ่อย
- ดานิโล่ มูโยซ (6.5) ขยันขึ้น–ลงริมเส้นฝั่งขวา ช่วยทั้งเกมรับและเติมเกมรุก
กองกลางตัวรับและวิงแบ็ก
- เจย์ดี คานวอต (7.9) แบ็กซ้ายตัวเก่ง วิ่งไม่มีหมด เกมนี้คือ Player of the Match
- เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า (7.4) คุมจังหวะกลางสนาม ตัดเกมหนักแน่น
- อดัม วอร์ตัน (6.8) เชื่อมเกมระหว่างรับกับรุกได้ดี ก่อนถูกเปลี่ยนออก
- ไทริค มิตเชลล์ (7.8) เติมเกมซ้อนทางซ้าย ทำให้ฝั่งนี้ของพาเลซอันตรายตลอด
กองกลางตัวรุกและกองหน้า
- ไดอิจิ คามาดะ (6.7) พยายามหาพื้นที่ระหว่างไลน์แนวรับไบรท์ตัน
- อิสไมล่า ซาร์ (6.9) ตัวสปีดจัด สร้างปัญหาในจังหวะสวนกลับ
- ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (6.9) ยืนค้ำ บังบอลและพักบอลให้เพื่อนเล่นต่อ
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- เยเรมี ปิโน่ (6.4) นาที 66 แทน อดัม วอร์ตัน เพิ่มความวูบวาบริมเส้น
- วิลล์ ฮิวจ์ส (6.5) นาที 83 แทน ไดอิจิ คามาดะ เติมพลังกลางสนามช่วงท้ายเกม
ตัวสำรองไม่ได้ใช้
เรมี แม็ทธิวส์, วอลเตอร์ เบนีเตซ, นาธาเนียล ไคลน์, บอร์นา โซซ่า, จัสติน เดเวนนี่, โรมัน เอสเซ, คริสแทนตัส อูเช่
🐦 ไบรท์ตัน โฮฟ อัลเบี้ยน (4-2-3-1) – เรตติ้งเฉลี่ย 6.80
ผู้รักษาประตู
- บาร์ต แฟร์บรุกเกน (7.0) เซฟลูกสำคัญจากซาร์และมาเตต้า ช่วยทีมรอดพ้นการเสียประตู
กองหลัง
- เฟอร์ดี้ คาดิโอกลู (7.3) เติมเกมรุกฝั่งซ้ายตลอดทั้งเกม
- ลูอิส ดังค์ (7.6) กัปตันทีม คุมแผงหลังนิ่งเหมือนเดิม อ่านบอลโดดเด่น
- แจน พอล ฟาน เฮคเคอ (7.6) เล่นคู่ดังค์ได้ลงตัว เข้าปะทะสะอาด
- ดีเอโก้ โกเมซ (7.8) ฟูลแบ็กฝั่งขวาที่กลายเป็นตัวสร้างเกมรุกสำคัญ
คู่กลาง
- คาร์ลอส บาเลบา (6.6) ช่วยตัดเกมและดันบอลจากแดนกลาง แม้จะมีจังหวะเสียฟาวล์จนโดนเหลือง
- มัทไธส์ วีเฟอร์ (6.7) คอยคุมจังหวะและเชื่อมบอลสั้นในแดนกลาง
สามตัวรุกด้านหลังหน้าเป้า
- ยานนี่ มินเทห์ (6.1) พยายามลากเลื้อยทางขวาแต่ยังทะลุแนวรับพาเลซลำบาก
- ยาซีน อยารี (6.8) เล่นระหว่างไลน์ได้ดี มีจังหวะจ่ายคิลเลอร์พาสแต่เพื่อนปิดสกอร์ไม่ได้
- จอร์จินโญ่ รัตเตอร์ (6.5) มีส่วนในจังหวะดราม่าจุดโทษที่โดน VAR ริบคืนและถูกใบเหลืองฐานพุ่งล้ม
กองหน้า
- แดนนี่ เวลเบ็ค (6.2) เคลื่อนที่เปิดพื้นที่ให้เพื่อน แต่ไม่มีจังหวะจบสกอร์จังๆ
ตัวสำรองที่ลงสนาม
- โยเอล เฟลต์มัน (6.6) นาที 75 แทน คาร์ลอส บาเลบา ลงมาช่วยขันเกมรับฝั่งขวา
- คาราลัมปอส คอสตูแลส (6.3) นาที 75 แทน จอร์จินโญ่ รัตเตอร์ เติมความสดแดนหน้า
- แม็กซิม เด เคย์เปร์ (6.5) นาที 85 แทน ดีเอโก้ โกเมซ เปลี่ยนสไตล์ฟูลแบ็ก
- สเตฟานอส ตซิมาส (6.4) นาที 85 แทน แดนนี่ เวลเบ็ค หาโอกาสยิงท้ายเกมแต่ไม่ผ่านแนวรับพาเลซ
ตัวสำรองไม่ได้ใช้
เจสัน สตีล, โอลิวิเยร์ บอสคายี่, ดีเอโก้ ค็อปโปลา, โจ ไนต์, เนเฮมียาห์ โอริโอลา
📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
ในมุมมอง บ้านกีฬา ถ้าพูดเรื่องแท็กติกแบบสาย วิเคราะห์บอล เกมนี้คือการดวลกันของระบบ 3-4-2-1 ของพาเลซ กับ 4-2-3-1 ของไบรท์ตันอย่างแท้จริง
ฝั่งเจ้าบ้านใช้แผงหลังสามคนแล้วดันวิงแบ็กมิตเชลล์กับคานวอตขึ้นสูง เวลาตั้งรับจะถอยลงมาเป็นบล็อก 5-4-1 ปิดพื้นที่ในเขตโทษ ช่วยกันแพ็คตรงกลางให้แน่น ทำให้ไบรท์ตันที่ถนัดต่อบอลตามช่องเจาะยากมาก หลายครั้งต้องออกบอลไปด้านข้างแล้วโยนเข้ากรอบ ซึ่งเป็นน้ำหนักถนัดของริชาร์ดส์และลากรัวซ์ที่โหม่งเคลียร์สบาย
ในเกมรุก พาเลซวางแผนเล่นเร็ว ใช้การสวนกลับจากบอลยาวของเฮนเดอร์สันให้มาเตต้าพักแล้วไหลต่อให้คามาดะหรือซาร์หลุดขึ้นไปด้านข้าง จุดแข็งคือความเร็วของฝั่งซ้าย คานวอต–มิตเชลล์ที่โอเวอร์แลปกันตลอด ทำให้แบ็กขวาไบรท์ตันต้องระวังเป็นพิเศษ
ขณะที่ไบรท์ตันยังคงสไตล์ทีมสายเกมรุก ครองบอลถึง 58% ขึ้นเกมจากแผงหลัง และใช้คู่กลางบาเลบา–วีเฟอร์ช่วยหมุนบอล กางโครงสร้างขึ้นมาเป็น 2-3-5 เวลาโหมบุก ตัวรุกสี่ห้าคนเติมเข้าเขตโทษพร้อมกัน จุดเด่นคือการเวียนตำแหน่งของมินเทห์ อยารี และรัตเตอร์ที่เปลี่ยนพื้นที่กันตลอด แต่วันนี้พื้นที่ระหว่างไลน์ของพาเลซถูกปิดดี ทำให้ต้องยิงจากนอกกรอบหรือเปิดจากด้านข้างเป็นส่วนใหญ่
เกมรับของไบรท์ตันใช้การเพรสสูงช่วงต้นเกม พยายามบีบให้พาเลซเล่นพลาดจากแดนหลัง แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลังเริ่มเพลี้ยงพล้ำในจังหวะสวนกลับ จึงต้องลดระดับเพรสลงและถอยยืนกลางสนามมากขึ้น เพื่อไม่ให้พื้นที่ด้านหลังแบ็กหลุดจนเกินไป ถือเป็นเกมที่ทั้งสองทีมอ่านกันได้ดี ปรับหมากระหว่างเกมตลอด

📈 สถิติการแข่งขันบอกอะไรบ้าง
ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพชัดเจนว่าไบรท์ตันเหนือกว่าทางเทคนิค แต่พาเลซเหนียวแน่นและวินัยเกมรับยอดเยี่ยม เจ้าบ้านมีโอกาสยิงทั้งหมด 11 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ส่วนทีมเยือนยิง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 3 แต่ครองบอลมากถึง 58% ต่อ 42% การส่งบอลของนกนางนวลอยู่ที่ 397 ครั้ง ความแม่นยำสูงถึง 91% ขณะที่พาเลซส่งบอล 204 ครั้ง ความแม่นยำ 83%
ฟาวล์รวมกัน 22 ครั้ง พาเลซทำ 10 ไบรท์ตัน 12 ใบเหลืองออกไปทั้งหมด 5 ใบ เจ้าบ้าน 1 ใบ ทีมเยือน 4 ใบ แสดงให้เห็นถึงความดุเดือดของเกมในช่วงท้าย ลูกเตะมุมก็สะท้อนการบุกต่อเนื่องของไบรท์ตันที่ได้ถึง 8 ครั้ง ขณะที่พาเลซมี 4 ครั้ง แต่สุดท้ายทั้งคู่จบสกอร์ไม่ได้
🧨 เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚠️ นาที 60 คาร์ลอส บาเลบา ทำฟาวล์หนักกลางสนาม โดนใบเหลือง
- 🎥 นาที 63 จอร์จินโญ่ รัตเตอร์ เรียกจุดโทษให้ไบรท์ตัน แต่หลังเช็ก VAR ผู้ตัดสินยกเลิกจุดโทษ
- 🟨 นาที 65 รัตเตอร์โดนใบเหลืองข้อหาพุ่งล้ม หลัง VAR ชี้ชัดว่าไม่ได้โดนเสียบแบบชัดเจน
- 🔁 นาที 66 พาเลซเปลี่ยน เยเรมี ปิโน่ ลงมาแทน อดัม วอร์ตัน เสริมความเร็วริมเส้น
- 🔁 นาที 75 ไบรท์ตันเปลี่ยนคู่ทีเดียว ส่ง โยเอล เฟลต์มัน ลงแทน บาเลบา และคาราลัมปอส คอสตูแลส ลงแทน รัตเตอร์ เพื่อเร่งเกมรุก
- 🔁 นาที 83 วิลล์ ฮิวจ์ส ลงแทน ไดอิจิ คามาดะ เพิ่มความสดแดนกลางให้พาเลซ
- 🔁 นาที 85 ไบรท์ตันส่ง แม็กซิม เด เคย์เปร์ แทน ดีเอโก้ โกเมซ และสเตฟานอส ตซิมาส แทน แดนนี่ เวลเบ็ค ลุยเต็มที่ช่วงท้าย
- 🟨 นาที 90+1 เจฟเฟอร์สัน เลอร์ม่า โดนใบเหลืองจากจังหวะโวยวายผู้ตัดสิน
- 🟨 นาที 90+5 โยเอล เฟลต์มัน รับใบเหลืองช่วงท้ายเกมเช่นกัน หลังมีจังหวะปะทะและโต้เถียง
⭐ Player of the Match
เกมนี้รางวัล Player of the Match ตกเป็นของ เจย์ดี คานวอต แบ็กซ้าย คริสตัล พาเลซ ด้วยคะแนนสูงสุด 7.9 ฟอร์มของเจ้าตัวคือทุกอย่างทางฝั่งซ้าย ทั้งสปีดต้นจัด จังหวะดวลตัวต่อตัวไม่กลัวใคร ไล่บีบบาเลบาและมินเทห์จนเล่นไม่ออก อีกทั้งยังเติมเกมรุกได้ดุดัน ครอสบอลลุ้นทำประตูหลายครั้ง
ในยามที่ทีมต้องถอยลงไปตั้งรับ คานวอตอ่านเกมดี สไลด์บล็อกหลายครั้ง ช่วยปิดพื้นที่ระหว่างเซ็นเตอร์กับวิงแบ็กได้เนียนกริบ ถ้าไม่มีเขาในวันนี้ พาเลซอาจไม่รอดคลีนชีตแบบนี้ก็ได้

📊 สถานการณ์ในตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก
ผลเสมอ 0-0 ทำให้ภาพรวมใน บ้านผลบอล ตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ยังเบียดกันสนุก พาเลซเก็บเพิ่มเป็น 17 คะแนนจาก 11 นัด สถิติชนะ 4 เสมอ 5 แพ้ 2 ยิงได้ 14 เสีย 9 ประตู ได้เปรียบเรื่องผลต่างประตู ทำให้รั้งอันดับ 10 ของตาราง ยังอยู่ในโซนกลางที่หายใจได้คล่อง มีลุ้นขยับขึ้นไปครึ่งบนหากรักษาฟอร์มเหนียวแน่นแบบนี้ต่อ
ด้านไบรท์ตันได้เพิ่มเป็น 16 คะแนนจาก 11 นัด ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 3 ยิง 17 เสีย 15 ผลต่าง +2 รั้งอันดับ 11 จ่อๆ หลังพาเลซ ห่างโซนยุโรปเพียงไม่กี่แต้มเท่านั้น แต่การเก็บได้แค่แต้มเดียวในเกมที่ครองบอลมากกว่าแบบนี้อาจทำให้แฟนบอลเสียดาย เพราะถ้าคมกว่านี้นิดเดียว มีสิทธิ์กระโดดขึ้นไปเบียดพื้นที่หัวตารางแล้ว
📅 ตารางบอลพรีเมียร์ลีกนัดถัดไปของทั้งสองทีม
มองไปข้างหน้าในมุมสายเช็ก ตารางบอล และ โปรแกรมบอล แฟนบอลทั้งสองทีมยังมีเกมสำคัญรออยู่
คริสตัล พาเลซ ต้องออกไปเยือนวูล์ฟส์ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดถัดไป ก่อนจะมีโปรแกรมใหญ่ในเวทียุโรป บุกเยือนสตราส์บูร์กในยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญของสภาพทีมที่มีตัวเจ็บหลายราย รวมถึงต้องบริหารแรงให้ดี
ฝั่งไบรท์ตันจะได้เล่นในบ้านต่อเนื่อง เริ่มจากเปิดบ้านรับเบรนท์ฟอร์ดในลีก ถ้าคว้าชัยได้จะพุ่งขึ้นไปเกาะกลุ่มท็อปเท็นแบบจริงจัง จากนั้นยังมีเกมเยือนฟอเรสต์ที่ซิตี้ กราวด์ ซึ่งไม่ใช่งานง่ายแน่นอน โปรแกรมทั้งสองทีมเข้มใช้ได้ แฟนๆ เตรียมกาปฏิทินรอดูได้เลย
🏠 ติดตาม บ้านผลบอล และความมันส์พรีเมียร์ลีกได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากเกาะติดทุกจังหวะสำคัญของลีกผู้ดี ตั้งแต่สกอร์สด นาทีต่อนาที ไปจนถึงบทวิเคราะห์หลังเกมแบบเข้มข้นดุดัน ไม่ว่าจะเป็น บ้านผลบอล, สรุป ผลบอลวันนี้, หรือคอลัมน์เจาะลึกแท็กติกสไตล์แฟนบอลตัวจริง บ้านกีฬา ขอชวนทุกคนตามเช็กข่าวและสกอร์กันต่อได้ทุกวัน เราจะอัปเดตให้แบบครบเครื่อง ทั้งสกอร์สด ตารางคะแนน และโปรแกรมนัดต่อไปของทุกทีมในพรีเมียร์ลีก

