กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 เตือนประชาชนทั่วไทยโดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เฝ้าระวังฝนตกหนักจากอิทธิพลของ หย่อมความกดอากาศต่ำ “คัลแมกี” (KALMAEGI) ที่อ่อนกำลังลงจากพายุโซนร้อน แต่ยังคงส่งแรงกระเพื่อมก่อให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ พร้อมเตือนชาวเรือใน ทะเลอันดามัน และ อ่าวไทย ให้หลีกเลี่ยงการออกจากฝั่ง เนื่องจากคลื่นสูงถึง 3 เมตร
🌧 พายุ “คัลแมกี” อ่อนกำลัง แต่ฤทธิ์ยังแรง
พายุ คัลแมกี (KALMAEGI) มีต้นกำเนิดจากมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก เคลื่อนตัวเข้าสู่ฟิลิปปินส์ตอนกลางในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ก่อนจะอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนเข้าสู่เวียดนาม ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัด Cebu และ Leyte ของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 60 ราย
หลังจากนั้น ระบบพายุได้อ่อนกำลังลงเป็น “หย่อมความกดอากาศต่ำ” เคลื่อนเข้าสู่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ด้านจังหวัดเลย ชัยภูมิ และนครราชสีมา ส่งผลให้หลายจังหวัดในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนตกชุกและตกหนักบางแห่ง
กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังจากพายุคัลแมกี ยังคงมีผลต่อประเทศไทยในระยะนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบนที่อาจมีฝนสะสมเพิ่มขึ้น เสี่ยง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง
🌀 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (8 พ.ย. 68)
- ภาคเหนือ: มีฝนฟ้าคะนอง 80% ของพื้นที่ ฝนหนักบริเวณ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22°C สูงสุด 28-32°C
บนยอดดอยอากาศหนาว 10-14°C - ภาคอีสาน: ฝนฟ้าคะนอง 60% โดยเฉพาะ เลย และชัยภูมิ
อุณหภูมิต่ำสุด 19-23°C สูงสุด 27-32°C - ภาคกลาง: ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ โดยเฉพาะ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24°C สูงสุด 28-32°C - ภาคตะวันออก: ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ โดยเฉพาะ สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี
คลื่นทะเลสูง 1–2 เมตร บริเวณมีฝนฟ้าคะนองสูงกว่า 2 เมตร - ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก): ฝนตกหนัก 70% โดยเฉพาะ ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล
คลื่นสูง 2–3 เมตร จุดที่มีพายุฝนคลื่นสูงเกิน 3 เมตร - กรุงเทพฯ และปริมณฑล: ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24–26°C สูงสุด 30–32°C
⚠️ กรมอุตุฯ เตือนระวังภัย – น้ำป่าไหลหลากและคลื่นแรงยังน่ากังวล
บ้านกีฬา ได้รับรายงานตรงจากกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าช่วงนี้ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและเชิงเขา เนื่องจากฝนที่ตกสะสมจากหลายวันก่อน รวมถึงผลกระทบต่อเนื่องจาก “คัลแมกี” ที่แม้จะสลายกำลังลงแต่ยังคงสร้างมวลความชื้นขนาดใหญ่ปกคลุมภาคเหนือและอีสานตอนบน
สำหรับภาคใต้ ลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ยังพัดแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้คลื่นทะเลอันดามันสูง 2-3 เมตร โดยเฉพาะในเขต ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนกว่าสภาพอากาศจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
🌍 ทำไมพายุ “คัลแมกี” ถึงกระทบไทยทั้งที่ไม่เข้าฝั่งโดยตรง?
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาอธิบายว่า แม้ศูนย์กลางพายุจะอยู่ไกลออกไปในทะเลจีนใต้ แต่ “วงลมขนาดใหญ่” รอบพายุยังคงดูดความชื้นและดึงมวลอากาศร้อนเข้ามาสู่ประเทศไทย ทำให้เกิดการยกตัวของเมฆฝนขนาดใหญ่ทั่วภาคเหนือและภาคกลาง
นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (Southwest Monsoon) ที่ยังไม่สิ้นสุดฤดูกาล เป็นตัวเร่งให้ฝนตกหนักมากขึ้น และเมื่อมาบวกกับมวลอากาศเย็นจากจีนที่เริ่มแผ่ลงมา จึงเกิดการปะทะของอากาศยิ่งทำให้สภาพอากาศแปรปรวนได้ง่าย
🌾 ผลกระทบต่อการเกษตรและการท่องเที่ยว
กรมอุตุฯ แนะนำเกษตรกรควรเตรียมแผนป้องกันความเสียหายต่อพืชผล โดยเฉพาะพืชไร่ที่ต้องการความชื้นพอเหมาะ เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง หรือข้าวนาปี หากฝนตกต่อเนื่องอาจเกิดน้ำขังในพื้นที่เพาะปลูกได้
ส่วนภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะฝั่งอันดามันและอ่าวไทยตอนบน เช่น ภูเก็ต พังงา สมุย ชุมพร ต้องระมัดระวังการทำกิจกรรมทางทะเลและงดการเดินทางทางเรือในระยะนี้ เนื่องจากคลื่นลมแรงและทัศนวิสัยต่ำ
🌤 เคล็ดลับรับมือช่วงพายุและฝนหนัก
- ติดตามพยากรณ์อากาศประจำวันจากกรมอุตุฯ – ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางทุกครั้ง
- เก็บของสำคัญขึ้นที่สูง – โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
- หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านทางน้ำไหลแรง – เพราะระดับน้ำอาจสูงและมีกระแสน้ำเชี่ยวกว่าที่เห็น
- หมั่นตรวจสอบระบบระบายน้ำรอบบ้าน – เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
- งดออกทะเลและระวังฟ้าผ่า – โดยเฉพาะช่วงบ่ายถึงค่ำที่มักเกิดพายุฟ้าคะนอง
🧭 สรุปสถานการณ์ “คัลแมกี” กับอากาศไทยวันนี้
แม้พายุ คัลแมกี จะสลายตัวเป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ยังคงมีอิทธิพลสำคัญต่อสภาพอากาศของไทยช่วงนี้ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประชาชนควรติดตามประกาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายและรับมือกับสถานการณ์ฝนที่ยังไม่สิ้นสุดในสัปดาห์นี้
พายุลูกนี้เตือนให้เราตระหนักว่า แม้พายุจะไม่เข้าประเทศโดยตรง แต่ผลกระทบทางอ้อมสามารถสร้างความเสียหายได้มหาศาล บ้านกีฬาแนะนำให้ทุกคนใช้ช่วงเวลานี้ในการตรวจสอบความพร้อมของบ้านเรือน ระบบไฟฟ้า และช่องระบายน้ำ เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติในอนาคต
ขอขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
📍 ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา
เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของ สภาพอากาศ พายุฝน มรสุม และข่าวภัยพิบัติ ที่อัปเดตก่อนใคร
