บ้านผลบอล สรุปหลังเกม ลาลีกา ดราม่าทดเจ็บ โอยาร์ซาบัลกดโทษไล่เจ๊า เอลเช่ 1-1 โซเซียดาดยังหนีครึ่งล่างไม่ขาด

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

จาก : ผลบอลสด ลาลิกา ระหว่าง เอลเช่ 1-1 เรอัล โซเซียดาด วันนี้ 8/11/68 – บ้านกีฬา

ศึก ลาลีกา คืนนี้ที่เอสตาดิโอ มาร์ติเนซ บาเยโร่ กลายเป็นอีกหนึ่งเกมดราม่าปิดท้ายวัน เมื่อ เอลเช่ ที่ฟอร์มกำลังเหนียว เปิดบ้านรับ เรอัล โซเซียดาด แล้วจบลงด้วยสกอร์ 1-1 จากประตูขึ้นนำของ อัลบาโร โรดริเกซ ก่อนจะโดนจุดโทษของ มิเกล โอยาร์ซาบัล ช่วงท้ายเกม นาที 89 ทำเอาแฟนเจ้าบ้านเงียบทั้งสนาม ส่วนสายเช็ก ผลบอลสด กับ บ้านผลบอล ต้องลุ้นกันยาวจนวินาทีสุดท้าย

⏱️ ครึ่งแรก: เอลเช่คุมบอล แต่ยังจบไม่คม

ครึ่งแรก เอลเช่ของ เอดู ซาราเบีย จัดระบบ 4-1-4-1 เน้นคอนโทรลบอลตั้งแต่แดนหลัง ไล่จาก มาติอัส ดิตูโร ที่วันนี้เล่นด้วยความมั่นใจ ต่อบอลสั้นขึ้นมาที่คู่เซ็นเตอร์อย่าง ชุสต์–อัฟเฟนกรูเบอร์ แล้วค่อยถ่ายออกด้านข้างให้ ปีดโรซา กับ นูเญซ เติมสูง เกมรุกเจ้าบ้านต่อบอลไหลลื่น ครองบอลเหนือกว่าแบบชัดเจน

โซเซียดาดของ เซร์คิโอ ฟรานซิสโก ตั้งรับในระบบ 4-1-4-1 เช่นกัน แต่รูปเกมชัดเจนว่ามาเน้นรอโต้กลับ มี โอยาร์ซาบัล ยืนเป็นจุดพักบอลร่วมกับ บรายส์ เมนเดซ และใช้ความเร็วของ ทาเคฟุสะ คูโบะ กับ ฆอน อารัมบูรู ทะลุขึ้นริมเส้น

แม้เอลเช่จะคุมบอลได้มากกว่า ยิงได้ลุ้นจากจังหวะไกลของ อเล็กซ์ เฟบาส และลูกโหม่งของ ราเฟล มิร์ แต่ก็ยังไม่ดีพอจะผ่านมือ อเล็กซ์ เรมีโร ไปได้ ส่วนโซเซียดาดเองก็มีจังหวะสวนกลับเร็วให้ คูโบะ ลากตัดเข้าในซัดเหน่ง ๆ แต่ติดเซฟ ดิตูโร ทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังนิ่งที่ 0-0 ตามหน้าเว็บ บ้านผลบอล

⏱️ ครึ่งหลัง: เกมเปิด แลกหมัดกันก่อนดราม่าทดเจ็บ

ครึ่งหลัง เอลเช่ยกระดับจังหวะเกมบุกเร็วขึ้น บอลจาก เฟบาส และ โรดริเกซ ถูกป้อนเข้าเขตโทษให้ มิร์ วิ่งสอดหาพื้นที่ต่อเนื่อง กระทั่งนาที 57 เจ้าถิ่นก็ปลดล็อกสำเร็จ เมื่อ อันโตนิโอ นูเญซ เติมขึ้นมาทางขวา เปิดต่ำเข้ากลางให้ อัลบาโร โรดริเกซ สอดมาซัดเน้น ๆ ตุงตาข่าย เป็นประตูนำ 1-0 ให้สาวกเจ้าถิ่นระเบิดเสียงเฮ

โดนก่อน โซเซียดาดต้องขยับหมาก ใส่ อาร์เซน ซาคาร์ยาน และ อูมาร์ ซาดิก ลงมาแทน กอนซาโล เกเดส กับ คูโบะ นาที 64 แล้วตามด้วยการส่ง ไอเฮน มูนญอซ และ ปาโบล มาริน ปรับแดนกลาง นาที 75 เกมรุกทีมเยือนเริ่มไหลลื่นขึ้นเรื่อย ๆ

ช่วงท้ายเกม ดราม่ามาอีกชุดเมื่อ ดานซี อัฟเฟนกรูเบอร์ ของเอลเช่โดนใบเหลืองจากจังหวะเสียบ นาที 73 ก่อนที่ฝั่งโซเซียดาดจะมาได้จุดโทษนาที 89 จากการทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็น โอยาร์ซาบัล กัปตันทีมที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ตีเสมอ 1-1 ให้ทีมเยือนแบบเจ็บจี๊ดสำหรับแฟนเจ้าบ้าน

ทดเวลาเจ็บ เอลเช่เปลี่ยน มิร์ เป็น อันเดร ซิลวา แล้วใส่ เฟเดริโก เรดอนโด เติมกลาง แต่ก็ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ สุดท้ายจบเกมแบ่งแต้มกันไปทีมละคะแนน ใครกดรีเฟรชดู ผลบอลสด ช่วงทดเจ็บต้องมีหัวใจเต้นแรงกันบ้างล่ะ

⚙️ รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว

🟢 เอลเช่

ระบบ 4-1-4-1

ผู้รักษาประตู

  • มาติอัส ดิตูโร – 9.1 (เซฟเป็นพัลวัน ตัวค้ำยันเกมรับ)

กองหลัง

  • 3 อเล็กซ์ ปีดโรซา – 7.0
  • 23 ไวคตอร์ ชุสต์ – 7.1
  • 22 ดานซี อัฟเฟนกรูเบอร์ – 6.2 (ใบเหลือง 73’)
  • 15 อันโตนิโอ นูเญซ – 7.2 (แอสซิสต์ประตูนำ 1-0)

กองกลาง

  • 8 มิเกล อากวาโด – 7.0
  • 14 อเล็กซ์ เฟบาส – 8.2 (เด่นสุดในแดนกลาง รุก–รับครบเครื่อง)
  • 30 โรดริโก เมนโดซา – 6.2
  • 20 อัลบาโร โรดริเกซ – 7.5 (ทำประตูขึ้นนำ 57’)
  • 17 โฮซาน (กัปตัน) – 6.7

กองหน้า

  • 10 ราเฟล มิร์ – 6.7

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • 39 เฮคตอร์ ฟอร์ต – 6.3 (แทน โฮซาน 74’)
  • 11 แฆร์มัน บาเลรา – 6.6 (แทน อัลบาโร โรดริเกซ 74’)
  • 21 เลโอ เปตร็อต – 6.4 (แทน ชุสต์ 84’)
  • 18 จอห์น เอ็นวันควโว – 6.4 (แทน อากวาโด 84’)
  • 5 เฟเดริโก เรดอนโด – 6.6 (แทน เมนโดซา 90’)
  • 9 อันเดร ซิลวา (ลง 90+4’ แทน มิร์)

ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน

  • 13 อินญากี เปญา, 4 บัมโบ ดียาบี, 16 มาร์ติม เนโต้, 7 ยาโก ซานติอาโก, 19 เกรดี เดียงกานา, 32 อดัม โบอายาร์

รายงานอาการบาดเจ็บ

  • เปโดร บีกาส – สถานะ: สงสัยลงสนาม (Doubtful)

🔵 เรอัล โซเซียดาด

ระบบ 4-1-4-1

ผู้รักษาประตู

  • 1 อเล็กซ์ เรมีโร – 6.9

กองหลัง

  • 11 กอนซาโล เกเดส – 6.3
  • 31 ฆอน มาร์ติน – 6.4
  • 5 อีกอร์ ซูเบลเดีย – 7.2
  • 17 เซร์คิโอ โกเมซ – 6.3

มิดฟิลด์ตัวรับ

  • 4 ฆูเลน โกร์โรตซาเตกี – 6.4

มิดฟิลด์ตัวรุกและริมเส้น

  • 18 การ์ลอส โซเลร์ – 6.5
  • 23 บรายส์ เมนเดซ – 7.5
  • 10 มิเกล โอยาร์ซาบัล (กัปตัน) – 7.3 (ยิงจุดโทษตีเสมอ)
  • 14 ทาเคฟุสะ คูโบะ – 6.8
  • 2 ฆอน อารัมบูรู – 6.7

ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน

  • 21 อาร์เซน ซาคาร์ยาน – 6.4 (แทน คูโบะ 64’ ได้ใบเหลือง 79’)
  • 15 อูมาร์ ซาดิก – 7.1 (แทน เกเดส 64’ เติมมิติในเขตโทษ)
  • 3 ไอเฮน มูนญอซ – 6.6 (แทน โซเลร์ 75’)
  • 28 ปาโบล มาริน – 6.2 (แทน เมนเดซ 75’)
  • 24 ลูก้า ซูชิช – 6.6 (แทน เซร์คิโอ โกเมซ 81’)
  • 6 อาริตซ์ เอลูสตอนโด (แทน อารัมบูรู 90’)

ตัวสำรองไม่ได้ใช้งาน

  • 13 อูไน มาเรโร, 16 ดูเย ชาเลต้า-คาร์, 20 อัลบาโร โอดริโอโซลา, 22 มิเกล โกติ, 40 อเล็กซ์ มาร์คัล, 8 เบญญัต ตูร์รีเอนเตส

ผู้เล่นบาดเจ็บ/พักยาว

  • ยานเกล เอร์เรรา, อันเดร์ บาร์เรเนตเชอา, ออร์รี สไตน์ ออสการ์สัน, ฆอน คาร์ริคาบูรู (ทั้งหมดสถานะ Out)
  • อาร์เซน ซาคาร์ยาน เคยอยู่ในกลุ่มสงสัย (Doubtful) แต่ผ่านเช็กฟิตลงเล่นได้

📊 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ

เกมนี้ทั้งสองทีมยืนระบบ 4-1-4-1 คล้ายกัน แต่รูปแบบการใช้งานต่างกันชัดเจน ซึ่งเป็นจุดที่คนชอบอ่าน วิเคราะห์บอล ต้องโฟกัส

ฝั่งเอลเช่ใช้ อากวาโด เป็นเบรกเกอร์หน้าเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่สกรีนเกมรุกโซเซียดาดก่อนถึงเขตโทษ แล้วให้ เฟบาส กับ เมนโดซา ขยับเชื่อมบอลระหว่างกลางกับคู่ริมเส้น นูเญซ–ปีดโรซาเติมสูงพร้อมกันหลายครั้ง กลายเป็นการ “บีบให้โซเซียดาดถอยทั้งแผง” จนช่วงยาว ๆ ในครึ่งแรกทีมเยือนแทบออกบอลจากแดนตัวเองไม่ได้

เวลาเอลเช่เสียบอล การเพรสซิ่งทันทีจากแถวสองอย่าง โรดริเกซ กับ โฮซาน ช่วยให้ทีมตัดบอลคืนได้ไว และเปิดโอกาสสับไกจากแถวสองบ่อยครั้ง จุดแข็งคือการเปลี่ยนแกนเร็ว ทั้งจากเท้าซ้ายของ เฟบาส และการวางบอลยาวจาก ดิตูโร ที่แม่นระดับเพลย์เมกเกอร์

ส่วนโซเซียดาดเน้นตั้งบล็อกต่ำ ปล่อยให้คู่เซ็นเตอร์กับ โกร์โรตซาเตกี จัดการปิดพื้นที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะหาจังหวะสวนกลับโดยใช้ความสามารถเฉพาะตัวของ คูโบะ และ โอยาร์ซาบัล ในการพาบอลออกจากมุมอับ จุดอ่อนคือเมื่อเสียบอลกลางทาง พื้นที่หน้ากองหลังเปิดโล่ง ทำให้เอลเช่จ่ายทะลุช่องหา มิร์ ได้หลายหน

หลังโดนนำ 1-0 ฟรานซิสโกปรับโครงสร้างเกมรุกทันทีจากการส่ง ซาดิก ลงมาเป็นหน้าเป้าแท้ ๆ แล้วขยับ โอยาร์ซาบัล ลงต่ำ ทำให้การต่อบอลระหว่างเส้นมีมิติมากขึ้น การโยนบอลจากด้านกว้างเริ่มสร้างปัญหาให้คู่เซ็นเตอร์เอลเช่ ซึ่งสุดท้ายก็กลายเป็นแรงกดดันต่อเนื่องจนมาได้จุดโทษตีเสมอในช่วงท้ายเกม

โดยรวม เอลเช่เล่นเป็นระบบกว่า ครองเกมและคุมจังหวะได้ดี แต่โซเซียดาดแม้จะเสียทรงช่วงต้น ก็ยังแสดงให้เห็นว่าจังหวะสุดท้ายยังมีของพอจะฉกแต้มกลับบ้านได้

📈 สถิติการแข่งขัน

ตัวเลขหลังเกมสะท้อนภาพชัดเจนว่าเอลเช่เป็นฝ่ายคุมเกมอยู่หมัด พวกเขาครองบอลถึง 61% ต่อ 39% ของโซเซียดาด ต่อบอลทั้งหมด 468 ครั้ง กับอีกฝั่งเพียง 270 ครั้ง แถมมีความแม่นยำในการจ่ายบอลสูงถึง 94% ขณะที่ทีมเยือนอยู่ที่ 84% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเรื่องความคมในกรอบเขตโทษ โซเซียดาดกลับทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ยิงทั้งหมด 12 ครั้ง เข้ากรอบ 5 หน ในขณะที่เอลเช่ยิง 11 ครั้ง เข้ากรอบ 3 หน ตัวเลขฟาวล์ก็แสดงให้เห็นว่าทีมเยือนเล่นดุดันกว่า ทำฟาวล์ถึง 15 ครั้ง เทียบกับเอลเช่ 11 ครั้ง และได้รับใบเหลือง 3 ใบ มากกว่าเจ้าถิ่นที่โดนเพียงใบเดียว ลูกเตะมุม โซเซียดาดได้ 3 ครั้ง ส่วนเอลเช่เพียงครั้งเดียว สะท้อนว่าช่วงท้ายเกมทีมเยือนกดดันหนักจนเกมไหลไปอยู่หน้าเขตโทษเจ้าบ้านเกือบตลอด

⏰ เหตุการณ์สำคัญของเกม

  • ⚽ 56’ – ฆอน อารัมบูรู ทำฟาวล์หนัก ในนาทีนี้เป็นสัญญาณว่าโซเซียดาดเริ่มเร่งเกมไล่บอลสูง
  • ⚽ 57’ – ประตู 1-0 เอลเช่: อันโตนิโอ นูเญซ เติมขึ้นขวาเปิดเข้าเขตโทษ อัลบาโร โรดริเกซ สอดมาซัดตุงตาข่าย เจ้าบ้านนำก่อนต่อหน้ากองเชียร์
  • 🔁 64’ – โซเซียดาดเปลี่ยนสองคนรวด: อูมาร์ ซาดิก แทน กอนซาโล เกเดส, อาร์เซน ซาคาร์ยาน แทน ทาเค คูโบะ เพื่อเติมความสดเกมรุก
  • 🟨 73’ – ดานซี อัฟเฟนกรูเบอร์ ของเอลเช่ โดนใบเหลืองจากการเข้าสกัดช้า
  • 🔁 74’ – เอลเช่แก้เกมริมเส้น ส่ง เฮคตอร์ ฟอร์ต แทน โฮซาน และ แฆร์มัน บาเลรา แทน โรดริเกซ
  • 🔁 75’ – โซเซียดาดขยับอีกชุด เปลี่ยน การ์ลอส โซเลร์ ออกให้ ไอเฮน มูนญอซ ลงไปเพิ่มพลังริมเส้น และดึง บรายส์ เมนเดซ ออกส่ง ปาโบล มาริน ลงสนาม
  • 🟨 79’ – อาร์เซน ซาคาร์ยาน รับใบเหลืองจากจังหวะเสียบตัดเกมกลางสนาม
  • 🔁 81’ – ลูก้า ซูชิช ลงมาแทน เซร์คิโอ โกเมซ เพื่อเน้นจ่ายคิลเลอร์พาสจากแถวสอง
  • 🔁 84’ – เอลเช่ปรับแดนหลังและกลาง ส่ง เลโอ เปตร็อต แทน ชุสต์ และ จอห์น เอ็นวันควโว แทน อากวาโด
  • ⚽ 89’ – ประตู 1-1 เรอัล โซเซียดาด: ทีมเยือนได้จุดโทษ และเป็น มิเกล โอยาร์ซาบัล ซัดไม่พลาด ตีเสมอแบบจุก ๆ ให้แฟนเจ้าถิ่นทั้งสนาม
  • 🔁 90’ – เอลเช่ถอด เมนโดซา ออก ส่ง เฟเดริโก เรดอนโด ลงคุมกลาง
  • 🔁 90+4’ – การเปลี่ยนตัวสุดท้ายของเอลเช่ อันเดร ซิลวา แทน ราเฟล มิร์ เพื่อหาความสดดันท้ายเกม
  • 🟨 90+5’ – ฆูเลน โกร์โรตซาเตกี ทำฟาวล์โดนใบเหลือง ปิดท้ายความเดือดก่อนเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้น

🌟 Player of the Match – มาติอัส ดิตูโร

ตำแหน่ง Player of the Match ไม่มีใครเถียงได้ นอกจาก มาติอัส ดิตูโร นายด่านเอลเช่ที่ได้คะแนนสูงถึง 9.1 เซฟแล้วเซฟอีกทั้งจากจังหวะยิงไกลของ คูโบะ และลูกโหม่งของ ซาดิก ในช่วงท้ายเกม หลายช็อตเป็น “เซฟเปลี่ยนโลก” ที่ถ้าไม่ปัดได้ เกมนี้เอลเช่อาจถึงขั้นแพ้คาบ้าน

จุดเด่นของ ดิตูโร ไม่ใช่แค่รีเฟล็กซ์ แต่รวมถึงการยืนตำแหน่งอ่านเกมล่วงหน้า ทำให้สามารถออกมาตัดบอลครอสจากริมเส้นได้หลายครั้ง แถมยังช่วยทีมตั้งเกมรุกด้วยการจ่ายบอลสั้น–ยาวแม่นยำ จนค่ำคืนนี้ชื่อของเขาถูกยกเป็นฮีโร่เบอร์หนึ่งของชาวเอลเช่แบบเต็มปาก

📌 สถานการณ์ในตารางคะแนนลาลีกา

ผลเสมอ 1-1 ทำให้ เอลเช่หลังผ่าน 12 นัด มีผลงาน ชนะ 3 เสมอ 6 แพ้ 3 ยิงได้ 13 เสีย 14 ประตู ได้เพิ่มเป็น 15 คะแนน รั้งอันดับ 9 ของตาราง อยู่กลางบนอย่างเหนียวแน่น ยังมีลุ้นขยับไปโซนยุโรปถ้ารักษามาตรฐานเกมเหย้าให้ได้แบบนี้ต่อเนื่อง

ด้าน เรอัล โซเซียดาด แข่ง 12 นัดเท่ากัน ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 5 ยิงได้ 14 เสีย 17 มี 13 คะแนน อยู่ที่อันดับ 14 ยังวนเวียนครึ่งล่างของตาราง ต้องเร่งฟอร์มด่วน ไม่อย่างนั้นจากทีมที่เคยลุ้นพื้นที่ยุโรป อาจต้องหันมามองโซนหนีตกชั้นแทนในช่วงโค้งสองของซีซั่น

📅 ตารางบอลลาลีกานัดถัดไป

สำหรับโปรแกรมใน ตารางบอล และ โปรแกรมบอล ลาลีกานัดถัดไป เอลเช่เจองานหินต่อเนื่อง เพราะต้องเปิดบ้านรับเรอัล มาดริด ในวันที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 03.00 น. ก่อนจะออกไปเยือนเคตาเฟ่ วันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 03.00 น. สองเกมนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญว่าทีมของซาราเบียพร้อมแค่ไหนในการยืนระยะในกลุ่มบนของตาราง

ฝั่งเรอัล โซเซียดาดมีภารกิจบุกเยือนโอซาซูนา วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 00.30 น. ก่อนกลับมาเล่นในบ้านพบ บียาร์เรอัล วันที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 20.00 น. ถ้าเก็บชัยได้สักนัดหรือสองนัดติดต่อกัน อันดับใน ตารางบอลลาลีกา มีโอกาสขยับขึ้นมาสูดอากาศโซนกลาง–บนทันที

📺 ติดตาม บ้านผลบอล และไฮไลท์ลาลีกาได้ที่ บ้านกีฬา

ใครพลาดเกมนี้หรืออยากย้อนดูจังหวะดราม่าจุดโทษของโอยาร์ซาบัล รวมถึงเช็กสรุปสกอร์ทุกคู่แบบเรียลไทม์ อย่าลืมกดบันทึกหน้าเว็บ บ้านผลบอล ของ บ้านกีฬา เอาไว้ เรารวบรวมทั้งสกอร์สด สถิติละเอียด ไฮไลท์ และวิเคราะห์ก่อน–หลังเกมให้ครบจบในที่เดียว แฟนบอลลาลีกาและคอลูกหนังทุกลีก เข้ามาเช็ก ผลบอลสด กันได้ทุกคืน บ้านกีฬาอยู่ข้างจอคุณเสมอ

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา