
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ระหว่าง เอฟเอสเฟา ไมนซ์ 05 2-1 ฟิออเรนติน่า วันนี้ 7/11/68 – บ้านกีฬา
เกม ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก ที่โคฟาซ์ อารีน่า คืนนี้จัดเต็มทุกอารมณ์สำหรับสายเช็ก ผลบอลสด เมื่อ เอฟเอสเฟา ไมนซ์ 05 เปิดบ้านแซงชนะ ฟิออเรนติน่า 2-1 จากประตูชัยนาที 90+5 ของ แจ-ซอง ลี กลายเป็นค่ำคืนที่สาวกเจ้าถิ่นในมุมมองของ บ้านกีฬา ต้องจดจำ
ฟิออเรนติน่าออกนำก่อนจากจังหวะประสานงานของคู่หน้าตั้งแต่ครึ่งแรก แต่ไมนซ์ไม่ยอมง่ายๆ แก้เกมด้วยการส่งตัวรุกสำรองลงมารัวชุดใหญ่ครึ่งหลัง เปลี่ยนรูปเกมจากภาพที่กำลังจะพ่ายคาบ้าน กลายเป็นชัยชนะสุดเดือดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เรียกเสียงเฮสะเทือนทั้งสนาม และอัปเดตหน้าเว็บ บ้านผลบอล ให้กระพริบกันทั้งประเทศ
ครึ่งแรก: ฟิออเรนติน่าคมกว่า นำก่อน 1-0
เปิดเกมมาเป็นฝั่งม่วงมหากาฬที่ดูนิ่งกว่า ใช้ระบบ 3-1-4-2 คุมจังหวะบอลสั้นกลางสนาม ก่อนจะมาได้ประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 16 เมื่อ ซิม่อน โซห์ม หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วครอสให้ โรแบร์โต้ ปิคโคลี ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ ไมนซ์โดนกดดันตั้งแต่ต้นเกม เกมรับสามเซ็นเตอร์ต้องวิ่งไล่ตัดบอลกันเหนื่อย
ไมนซ์พยายามโต้กลับด้วยการโยนยาวไปให้ เนลสัน ไวเปอร์ ค้ำกับกองหลังฟิออเรนติน่า แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คม ทั้ง พอล เนเบิล และ อายกึน ซีบ์ หาโอกาสยิงจะแจ้งไม่ค่อยได้ จบ 45 นาทีแรกทีมเยือนนำ 1-0 แถมยังคุมจังหวะเกมได้ดีกว่าเล็กน้อย แม้ตัวเลขการครองบอลทั้งสองฝั่งจะสูสี
ครึ่งหลัง: ซุปเปอร์ซับลงมาพลิกโลก สายดราม่าทดเจ็บ
กลับมาครึ่งหลัง โบ เฮนริกเซ่น แก้เกมทันที ส่ง ซิลวาน วิดเมอร์ ลงมาเติมเกมริมเส้นแทน ฟิลิปป์ เอ็มเวเน่ จากนั้นนาที 59-60 เปลี่ยนทีเดียวสองคนส่ง ไคชู ซาโนะ กับ แจ-ซอง ลี ลงมาแทน เลอันโดร มาโลนีย์ และ อายกึน ซีบ์ เพื่อเร่งสปีดเกมรุก
การเปลี่ยนตัวได้ผลทันตา นาที 68 แจ-ซอง ลี ลากตัดจากซ้ายเข้าในก่อนแทงทะลุช่องให้ เบเนดิกต์ ฮอลเลอร์บัค หลุดเข้าไปซัดตีเสมอ 1-1 จุดไฟในสนามให้ลุกโชน ไมนซ์เดินหน้าบุกต่อเนื่อง ขณะที่ฟิออเรนติน่าเริ่มถอยไปตั้งโซนรับลึกและเน้นสวนกลับ
ดราม่ามาแตกเอาในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+5 เมื่อแนวรับทีมเยือนสกัดกันไม่ขาด บอลทะลักมาเข้าทาง แจ-ซอง ลี แต่งหนึ่งจังหวะก่อนกดด้วยซ้ายผ่านมือ มาร์ติเนลลี เข้าไปอย่างเฉียบขาด กลายเป็นประตู 2-1 ให้ไมนซ์คัมแบ็กคว้าชัยสุดมันส์ ท่ามกลางความหัวเสียของแนวรับอย่าง มาริน ปอนกราชิช ที่โดนใบเหลืองจากจังหวะประท้วงผู้ตัดสิน ลอว์เรนซ์ วิสเซอร์ ในช่วงวุ่นวายท้ายเกม

👥 รายชื่อนักเตะตัวจริง, นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
ไมนซ์ 05 – ระบบ 3-4-2-1
ผู้รักษาประตู
- 27 โรบิน เซนท์เนอร์ (7.1)
กองหลังสามคน
- 48 แคสเปอร์ โปตูสกี้ (7.3)
- 21 ดานี่ คอสต้า (6.3)
- 2 ฟิลิปป์ เอ็มเวเน่ (6.7)
มิดฟิลด์และวิงแบ็ก
- 31 โดมินิค โคห์ร์ (6.7)
- 24 เซยะ คาวาซากิ (7.3)
- 15 เลอันโดร มาโลนีย์ (6.1)
- 10 (กัปตัน) นาดีม อามิรี่ (6.5)
ตัวรุกหลังหน้าเป้า
- 8 พอล เนเบิล (6.8)
- 11 อายกึน ซีบ์ (6.5)
กองหน้าตัวเป้า
- 44 เนลสัน ไวเปอร์ (5.9)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 30 ซิลวาน วิดเมอร์ (6.6) ลงแทน เอ็มเวเน่ นาที 46
- 6 ไคชู ซาโนะ (7.3) ลงแทน มาโลนีย์ นาที 59
- 7 แจ-ซอง ลี (8.2) ลงแทน ซีบ์ นาที 60
- 17 เบเนดิกต์ ฮอลเลอร์บัค (7.1) ลงแทน เนเบิล นาที 65
- 14 วิลเลียม โบวิ่ง (6.8) ลงแทน อามิรี่ นาที 81
ตัวสำรองไม่ได้ลง
ดาเนียล บัทซ์, ลาสเซ รีสส์, นิโคลาส เฟอรัทช์นิค, อันเดรียส ฮันเช่-โอลเซ่น, อาร์กโนด์ นอร์ดิน, ดาเนียล ไกลเบอร์, เบน จุสตุส บอบเซียน
ตัวเจ็บ / ติดโทษ
แอนโธนี คาชี่, แม็กซิม ดาล, แม็กซิม ไลท์ช์
นักเตะที่โดดเด่นฝั่งไมนซ์นอกจาก แจ-ซอง ลี คือ ไคชู ซาโนะ ที่ลงมาขยันวิ่งเชื่อมเกมและได้แอสซิสต์ลูกชัย, แคสเปอร์ โปตูสกี้ ที่ยืนเกมรับนิ่ง และ เซยะ คาวาซากิ ที่เติมเกมรุกฝั่งซ้ายตลอดทั้งเกม
ฟิออเรนติน่า – ระบบ 3-1-4-2
ผู้รักษาประตู
- 30 โตมมาโซ มาร์ติเนลลี (6.3)
กองหลังสามคน
- 6 (กัปตัน) ลูก้า รานิเอรี (6.5)
- 5 มาริน ปอนกราชิช (6.6)
- 29 นิโคโล ฟอร์ตินี (6.6)
มิดฟิลด์ตัวรับและวิงแบ็ก
- 14 ฮันส์ นิโคลุสซี คาวิกลียา (7.2) ยืนหน้าเซ็นเตอร์คุมจังหวะเกม
- 2 โดโด (7.2) วิงขวา
- 18 ปาโบล มารี (6.9) วิงซ้าย
- 27 แชร์ เอ็นดูร์ (6.5) กลางเชิงรุก
คู่ศูนย์หน้า
- 7 ซิม่อน โซห์ม (7.9)
- 91 โรแบร์โต้ ปิคโคลี (5.9)
ตัวสำรองที่ถูกใช้งาน
- 8 โรลันโด้ มานดราโกรา (6.8) ลงแทน เอ็นดูร์ นาที 59
- 20 มอยเซ่ คีน (6.0) ลงแทน ปิคโคลี นาที 60
- 15 ปีเอโตร โคมุซโซ (6.6) ลงแทน ปาโบล มารี นาที 69
- 44 นิโคโล ฟาจิโอลี (6.5) ลงแทน โซห์ม นาที 85
ตัวสำรองไม่ได้ลง
1 ลูก้า เลซเซรินี, 43 ดาบิด เด เคอา, 26 มัตเตีย วิตี้, 60 เอดดี้ กัวดิโอ, 65 ฟาเบียโน่ ปาริซี่, 24 อาเมียร์ ริชาร์ดสัน, 9 เอดิน เซโก้
ตัวเจ็บ / ติดโทษ
โรบิน โกเซนส์, คริสเตียน คูอาเม่, ทาริค แลมพ์ตีย์
🔍 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับแบบละเอียด
รูปเกมวันนี้ชัดเจนว่าเป็นการวัดแท็กติกกันระหว่าง 3-4-2-1 ของไมนซ์ กับ 3-1-4-2 ของฟิออเรนติน่า แดนกลางถูกอัดแน่นใส่กันตั้งแต่นาทีแรก ซึ่งถ้ามองในมุม วิเคราะห์บอล แท้ๆ ไมนซ์เริ่มเกมด้วยไอเดียบีบเพรสสูง แต่โดนจังหวะหลุดโซนครั้งเดียวแล้วเสียประตูทันทีจากการสลับตำแหน่งของคู่หน้าทีมเยือน
ฟิออเรนติน่าใช้ โซห์ม ถ่างออกไปเล่นระหว่างไลน์กับ โดโด ทางขวา ทำให้จังหวะหลุดขึ้นบอลด้านนี้อันตรายมาก ขณะที่ คาวิกลียา ยืนหน้าสามเซ็นเตอร์ รับผิดชอบทั้งการไล่ตัดเกมและคุมสปีดบอล เปิดทางให้ เอ็นดูร์ เติมขึ้นไปช่วยสองกองหน้า โครงสร้างเกมรับของทีมเยือนช่วงครึ่งแรกจึงดูแน่นและรับมือกับบอลยาวของไมนซ์ได้ดี
แต่ครึ่งหลังทุกอย่างเปลี่ยนเมื่อไมนซ์ส่ง ซาโนะ และ แจ-ซอง ลี ลงมา ทั้งสองคนเพิ่มมิติการรับส่งบอลเท้าสู่เท้ามากขึ้นจากเดิมที่เน้นโยนยาว ทำให้แนวรับฟิออเรนติน่าต้องถอยลึก กองกลางอย่าง คาวิกลียา กับ มานดราโกรา ถูกบีบให้วิ่งตามบอลตลอดเวลา ช่องว่างหน้ากองหลังเริ่มเปิด และถูกลงโทษจากลูกตีเสมอของ ฮอลเลอร์บัค ที่มาจากการต่อบอลสั้นเจาะระหว่างไลน์อย่างสวยงาม
เกมรับของไมนซ์เองก็จัดว่าแน่นขึ้นเรื่อยๆ โปตูสกี้ อ่านเกมบล็อกบอลกลางอากาศได้ดี ขณะที่ วิดเมอร์ ที่ลงมาครึ่งหลังช่วยเพิ่มความดุดันริมเส้นขวาทั้งรุกและรับ ทำให้คู่หน้าของฟิออเรนติน่าเริ่มหายไปจากเกม ภาพรวมต้องยอมรับว่าแท็กติกการแก้เกมของ ไมนซ์ แซงหน้า ดานิเอเล กัลล็อปป้า ในช่วง 30 นาทีท้ายเต็มๆ

📊 สถิติการแข่งขันบอกอะไรบ้าง
ตัวเลขหลังเกมออกมาสูสีอย่างน่าสนใจ ไมนซ์ยิงทั้งหมด 8 ครั้ง เข้ากรอบ 4 เท่ากับฟิออเรนติน่าที่มีโอกาส 9 ครั้ง แต่ก็เปลี่ยนเป็นประตูได้แค่ลูกเดียว การครองบอลแทบแบ่งกันครึ่งต่อครึ่ง 49% ต่อ 51% ทีมเยือนจ่ายบอลมากกว่าที่ 404 ครั้งเทียบกับ 309 ครั้งของเจ้าถิ่น แถมมีความแม่นยำในการจ่ายสูงถึง 85% ขณะที่ไมนซ์อยู่ที่ 84%
ด้านเกมดุเดือด ฟาวล์รวมกันถึง 28 ครั้ง ไมนซ์ทำ 16 ฟิออเรนติน่า 12 และทั้งสองทีมโดนใบเหลืองฝั่งละ 3 ใบ แม้จะไม่มีใบแดงแต่จังหวะปะทะหนักๆ เกิดขึ้นตลอด โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่ ปอนกราชิช มีปากเสียงกับผู้ตัดสินจนโดนจดชื่อเพิ่ม ในเรื่องลูกตั้งเตะ ไมนซ์ได้เตะมุม 3 ครั้ง มากกว่าฟิออเรนติน่าที่ได้ 2 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นกลายเป็นจังหวะกดดันต่อเนื่องจนถึงประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
⏱ เหตุการณ์สำคัญของเกม
- ⚽ 16′ ฟิออเรนติน่านำ 0-1 ซิม่อน โซห์ม หลุดขึ้นขวาก่อนเปิดให้ โรแบร์โต้ ปิคโคลี ยิงจ่อๆ เข้าไป
- ⏱ 45+2′ จบครึ่งแรก ฟิออเรนติน่าคุมสกอร์นำ 1-0
- 🔁 46′ ไมนซ์เปลี่ยนตัวคนแรก ส่ง ซิลวาน วิดเมอร์ ลงแทน ฟิลิปป์ เอ็มเวเน่ เพื่อเร่งเกมริมเส้น
- 🟨 48′ เลอันโดร มาโลนีย์ ทำฟาวล์กลางสนาม โดนจดชื่อเป็นหนึ่งในใบเหลืองของเจ้าถิ่น
- 🟨 50′ แชร์ เอ็นดูร์ เข้าปะทะหนักโดนใบเหลืองใบแรกของฟิออเรนติน่า
- 🔁 59′ ไมนซ์ปรับแดนกลาง ส่ง ไคชู ซาโนะ แทน มาโลนีย์ ส่วนทีมเยือนส่ง โรลันโด้ มานดราโกรา แทน เอ็นดูร์
- 🔁 60′ ทั้งสองทีมเปลี่ยนกองหน้า ไมนซ์ส่ง แจ-ซอง ลี แทน ซีบ์ ขณะที่ฟิออเรนติน่าถอด ปิคโคลี ออกแล้วส่ง มอยเซ่ คีน ลงมา
- 🟨 62′ พอล เนเบิล ทำฟาวล์ตัดเกมโดนใบเหลือง
- 🟨 63′ ปาโบล มารี เข้าสกัดแรงเกินโดนใบเหลืองฝั่งทีมเยือน
- 🔁 65′ เบเนดิกต์ ฮอลเลอร์บัค ลงมาแทน เนเบิล เพิ่มความสดแดนหน้าให้ไมนซ์
- ⚽ 68′ ไมนซ์ตีเสมอ 1-1 แจ-ซอง ลี แทงบอลทะลุช่องให้ ฮอลเลอร์บัค หลุดเข้าไปยิงเสียบเสาอย่างเฉียบคม
- 🔁 69′ ฟิออเรนติน่าปรับแนวรับ ถอด ปาโบล มารี ออกแล้วส่ง ปีเอโตร โคมุซโซ ลงมา
- 🔁 81′ ไมนซ์แก้เกมอีกครั้ง ส่ง วิลเลียม โบวิ่ง ลงมาแทน อามิรี่ เพื่อเติมสปีดเกมรุกด้านซ้าย
- 🔁 85′ ม่วงมหากาฬถอด ซิม่อน โซห์ม ออก แล้วใช้ นิโคโล ฟาจิโอลี ลงมาช่วยปั้นเกม
- 🟨 90+5′ ท้ายเกมเกิดเหตุชุลมุน มาริน ปอนกราชิช มีปากเสียงกับผู้ตัดสินจนโดนใบเหลือง
- ⚽ 90+5′ ประตูชัย 2-1 ของไมนซ์ ไคชู ซาโนะ โยกหลบก่อนจ่ายคืนให้ แจ-ซอง ลี กดเต็มข้อในเขตโทษ บอลพุ่งเสียบมุมให้เจ้าบ้านพลิกคว้าชัยสุดดราม่า
⭐ Player of the Match – แจ-ซอง ลี ฮีโร่ตัวจริงเสียงจริง
รางวัล Man of the Match ไม่มีใครเถียง แจ-ซอง ลี ได้ไปเต็มๆ ด้วยเรตติ้งสูงสุดในสนาม 8.2 ทั้งที่ลงเล่นเป็นแค่ตัวสำรอง นาที 60 แต่สร้างความแตกต่างชัดเจน เขามีส่วนร่วมกับสองประตูของทีมอย่างเต็มตัว จ่ายให้ ฮอลเลอร์บัค ตีเสมอ 1-1 ก่อนตัวเองจะซัดประตูชัย 2-1 ในช่วงทดเวลา
ลีใช้จุดเด่นเรื่องการหาพื้นที่ระหว่างไลน์และการจ่ายบอลคมๆ เจาะตรงจุดอ่อนแนวรับฟิออเรนติน่าที่เริ่มล้า แถมยังช่วยเพรสซิ่งตอนเสียบอล ไม่ปล่อยให้ คาวิกลียา ยิงจ่ายเกมสบายๆ หากไมนซ์เดินหน้าลึกในทัวร์นาเมนต์นี้ต่อไป ชื่อของ แจ-ซอง ลี จะต้องถูกยกขึ้นมาเป็นกุญแจสำคัญของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย

📈 สถานการณ์ในตารางคะแนน ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ ไมนซ์ 05 เก็บเพิ่มเป็น 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด ยิงได้ 4 เสีย 1 ผลต่าง +3 รั้งอันดับ 3 ของกลุ่มในตารางคะแนนยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก ไล่จี้สองทีมบนหัวตารางแบบหายใจรดต้นคอ และยังรักษาสถิติชนะรวดในรอบแบ่งกลุ่มต่อไป
ส่วน ฟิออเรนติน่า หลังจากออกสตาร์ตแรงเก็บ 6 แต้มจากสองนัดแรก เกมนี้ปราชัยเป็นนัดแรก ทำให้มี 6 คะแนนเท่าเดิม ผลต่างประตูได้เสีย +2 หล่นไปอยู่โซนกลางตารางที่อันดับ 8 รูปเกมวันนี้จะเป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่าหากทีมยังหลุดสมาธิช่วงปลายเกมแบบนี้ การลุ้นเข้ารอบน็อกเอาต์อาจไม่ใช่งานง่ายอีกต่อไป
📅 ตารางบอลและโปรแกรมนัดถัดไปของทั้งสองทีม
หลังจบภารกิจยุโรป ทั้งสองทีมต้องหันกลับไปโฟกัสเกมลีกของตัวเอง ซึ่งแฟนบอลสามารถเช็ก ตารางบอล ได้ชัดๆ ดังนี้
สำหรับไมนซ์ 05 ในศึกบุนเดสลีกา จะออกไปเยือน ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในเกมสุดสัปดาห์ จากนั้นกลับมาเล่นในบ้านรับการมาเยือนของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ โปรแกรมต่อเนื่องแบบนี้ทำให้โค้ชเฮนริกเซ่นอาจต้องโรเตชั่นขุมกำลังพอสมควร แต่ฟอร์มกำลังมั่นใจจากชัยชนะเหนือฟิออเรนติน่าจะเป็นแรงส่งชั้นดี
ด้านฟิออเรนติน่า ต้องกลับไปสู้ศึกกัลโช่ เซเรีย อา เริ่มจากการบุกไปเยือน เจนัว ก่อนจะเปิดบ้านรับศึกใหญ่กับ ยูเวนตุส เกมเหล่านี้จะเป็นบททดสอบสภาพจิตใจหลังเพิ่งพลาดท่าโดนยิงทดเจ็บในยุโรป ใครอยากตามลุ้นต่อ แนะนำเปิดหน้า ตารางบอล และเช็กโปรแกรมทีมรักให้ดีๆ เพราะช่วงนี้คิวแข่งถี่ยิบชนิดแฟนบอลห้ามกะพริบตา
📰 ติดตาม บ้านผลบอล และข่าวบอลมันส์ๆ กับ บ้านกีฬา
ใครที่ตามเชียร์ไมนซ์หรือฟิออเรนติน่า รวมถึงสาวกคอบอลยุโรปสายเช็กสกอร์สด บอกเลยว่าห้ามพลาดการอัปเดต บ้านผลบอล ผ่านมุมมองของ บ้านกีฬา เราจะเก็บทุกจังหวะดราม่า ทุกตัวเลขสถิติ และทุกไฮไลต์สำคัญมาเล่าให้ฟังแบบถึงอารมณ์ พร้อมเสิร์ฟข้อมูลทั้งผลแข่งแบบเรียลไทม์ สรุปหลังเกม และมุมมองเชิงลึกให้แฟนบอลได้อินกันต่อเนื่อง
อยากรู้ว่าเกมหน้าใครจะเป็นฮีโร่คนต่อไป หรือทีมไหนกำลังฟอร์มแรงจนต้องจดชื่อไว้ในโพยบอล เปิดหน้าเว็บแล้วตาม บ้านกีฬา เอาไว้ให้ดี รับรองว่าข่าวบอลเด็ดๆ และสรุปสกอร์สไตล์ บ้านผลบอล จะไม่หลุดมือคุณอย่างแน่นอน

