กระแส รถไฟฟ้า ในไทยยังแรงไม่มีตก ล่าสุด “เอ็มจี” กดหมุดเขย่าตลาดอีกระลอก ด้วยการปรับราคา MG4 Electric และ NEW MG S5 EV Plus แบบจัดหนักสูงสุดถึง 190,000 บาท ก่อนมาตรการ EV 3.0 จะสิ้นสุด พร้อมโปร “END OF SEASON DEAL” ที่เรียกได้ว่าถ้าเล็ง รถไฟฟ้า MG อยู่แล้ว ไม่ควรปล่อยให้หลุดมือ
บ้านกีฬาเลยขอพามาเจาะลึกแบบ “ครบทุกมุม” ทั้งเรื่องราคา สมรรถนะ ดีไซน์ การใช้งานจริง และของแถมต่าง ๆ ที่เอ็มจีเทลงมาให้แบบเต็มคัน

ภาพรวมดีล EV MG : เคลียร์สต๊อกก่อนจบ EV 3.0
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์–ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นหลักคือ MG4 และ NEW MG S5 EV Plus เพื่อตอบรับโค้งสุดท้ายของมาตรการสนับสนุน EV 3.0 ของภาครัฐ
ดีลนี้ไม่ใช่แค่ลดเล่น ๆ แต่คือการ “ปรับโครงราคา” ให้รถไฟฟ้าเข้าถึงง่ายขึ้น เหมาะทั้งคนที่กำลังคิดเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาใช้ EV คันแรก หรือคนที่อยากได้รถสำรองไว้ใช้งานในเมืองระยะยาว
จุดสำคัญคือ โปรนี้มีเวลา! ใช้ร่วมกับงาน Motor Expo 2025 และสิ้นสุดวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ใครเล็งอยู่ต้องวางแผนให้ดี

MG4 Electric : รถไฟฟ้าทรงแฮตช์แบ็ก ราคาดิ่งสุด 190,000 บาท
แม้โฟกัสหลักของข่าวนี้จะอยู่ที่ MG S5 EV Plus แต่ฝั่ง MG4 ก็ลดเดือดไม่แพ้กัน
- MG4 D Standard Range RWD
จาก 709,900 บาท เหลือ 519,900 บาท
ลดไปเน้น ๆ 190,000 บาท - MG4 D+ Long Range RWD
จาก 769,900 บาท เหลือ 629,900 บาท
ลด 140,000 บาท
จุดเด่นของ MG4 คือแพลตฟอร์ม EV แท้ และการรับประกันแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง ชุดมอเตอร์ และชุดควบคุมมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน ทำให้ภาพรวม “ค่าดูแลระยะยาว” ค่อนข้างคุ้ม เหมาะกับคนที่อยากเริ่มต้นโลก EV ด้วยงบไม่ถึง 6 แสน
แต่ถ้าอยากได้รถสูง นั่งสบาย ลุคครอสโอเวอร์ ข้ามไปดูพระเอกของเราอย่าง NEW MG S5 EV Plus ได้เลย

NEW MG S5 EV Plus : B-SUV ไฟฟ้า 100% ที่วิ่งไกลสุดในคลาส
NEW MG S5 EV Plus ถูกวางให้เป็นรถ B-SUV ไฟฟ้า 100% ที่เน้น “ครบทุกด้าน” ทั้งแรง วิ่งไกล เทคโนโลยีล้นคัน และราคาที่กดลงมาให้ดุที่สุดในเซกเมนต์
สมรรถนะจัดเต็มด้วยกำลังสูงสุด
- 245 แรงม้า (180 kW)
- แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร
- อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. แค่ 6.1 วินาที (ในรุ่นท็อป)
แบตเตอรี่ขนาด 62.2 kWh (LFP) ให้วิ่งได้ไกลสุดถึง 550 กม./ชาร์จ (NEDC) และชาร์จไวจาก 10–80% ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที ถือว่าเป็นตัวเลขที่ตอบโจทย์ทั้งสายเดินทางไกล และสายขับในเมืองที่ไม่อยากชาร์จบ่อย

ราคา MG S5 EV Plus 2025 หลังลด — ค่าตัวใหม่โหดกว่าเดิม
MG จัดเต็มปรับลดราคาลงทุกรุ่นย่อยของ MG S5 EV Plus ดังนี้
- MG S5 EV D+ Standard RWD
จาก 749,900 บาท เหลือ 619,900 บาท
ลด 130,000 บาท - MG S5 EV X+ Sunroof Standard RWD
จาก 839,900 บาท เหลือ 729,900 บาท
ลด 110,000 บาท - MG S5 EV V+ Sunroof Long Range RWD
จาก 959,900 บาท เหลือ 849,900 บาท
ลด 110,000 บาท
สั้น ๆ คือ ตอนนี้ ราคาเริ่มต้น MG S5 EV Plus อยู่ที่เพียง 6.199 แสนบาท ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งใน รถไฟฟ้า B-SUV ที่ “ราคา/สิ่งที่ได้” ดุเกินหน้าเกินตาคู่แข่งหลายเจ้า

โปร END OF SEASON DEAL : ของแถมแน่นแบบรถพร้อมใช้
นอกจากราคาที่ลดลงแล้ว ยังมีชุดสิทธิพิเศษที่ทำให้รถคันนี้ “ออกแล้วจบ” แบบไม่ต้องวิ่งหาอะไรเพิ่มให้วุ่น
สิทธิพิเศษ MG S5 EV Plus
- รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 140,000 กม.
- รับประกันมอเตอร์ขับเคลื่อน และแบตเตอรี่ High-Voltage แบบ Lifetime Warranty
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. 1 ปี
- ฟรี ค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น
- ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.99% นาน 48 เดือน
- ฟรี Home Charger พร้อมติดตั้ง
พูดแบบสายบอลก็คือ “นี่มันแพ็กเกจทีมใหญ่ลุยบอลยุโรป” ของโลก EV ชัด ๆ คือออกปุ๊บพร้อมเล่น ไม่ต้องค่อย ๆ ทยอยซื้อเพิ่ม

ดีไซน์ภายนอก MG S5 EV Plus สปอร์ต ดุดัน สไตล์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า
ดีไซน์ของ NEW MG S5 EV Plus ถูกวางให้ตอบโจทย์ทั้งคนเมืองและคนชอบความสปอร์ต
- ด้านหน้ามาในสไตล์ กระจังหน้าปิดทึบ ตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่
- ชุดไฟหน้ามาแบบแยก 2 ชั้น
- ด้านบนเป็น DRL LED เส้นเรียวยาว 3 ดวงต่อเนื่องกัน
- ด้านล่างเป็นชุดไฟส่องสว่างในกรอบทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
- มีระบบควบคุมเปิด–ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ด้านหน้าตรงกลางยังมีช่องดักอากาศแบบ Active Grille ที่เปิด–ปิดได้ เพิ่มทั้งภาพลักษณ์สปอร์ตและประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ เสริมด้วยพาร์ตสีดำรอบคันที่ชายล่างตัวรถ
ด้านข้าง
- เส้นสายลากยาวจากฝากระโปรงหน้าจรดไฟท้ายให้ฟีลลิ่งคล่องตัว
- ชายประตูตกแต่งโครเมียม
- มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ ตัดกับกระจกมองข้างสีดำพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
- ขอบหน้าต่างคาดด้วยคิ้วโครเมียมยาวจากเสา A ไปจนถึงเสา C ให้ความหรูหรา
ส่วนล้อ
- รุ่น D+ ใช้ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สีดำ
- รุ่น X+ และ V+ ใช้ล้ออัลลอย 18 นิ้ว เติมฟีลสปอร์ตเต็มตา
ด้านบน
- มีแร็คหลังคาโครเมียม รองรับไลฟ์สไตล์บรรทุกสัมภาระ ไปเที่ยว ดูบอลต่างจังหวัด หรือแคมป์ปิ้ง
- เสริมด้วยสปอยเลอร์หลังคาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3
ด้านท้าย
- ไฟท้ายทรงตัว Y พาดยาวเต็มฝาท้าย มีโลโก้ MG อยู่ตรงกลาง
- มาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติด้านหน้า
- ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันเตะเปิด
มิติตัวถัง
- ยาว 4,476 มม.
- กว้าง 1,849 มม.
- สูง 1,621 มม.
- ฐานล้อ 2,730 มม.
ขนาดโดยรวมถือว่ากำลังดีสำหรับการใช้งานจริงในเมือง ขับง่าย จอดง่าย แต่ยังมีพื้นที่โดยสารและเก็บของเหลือ ๆ สำหรับครอบครัวหรือสายท่องเที่ยว

ภายใน MG S5 EV Plus : กว้าง นั่งสบาย เทคโนโลยีแน่น
ห้องโดยสารออกแบบโทน ทูโทน เทา–ดำ ใช้วัสดุ Soft Touch ให้ความรู้สึกพรีเมียมในทุกจุดสัมผัส
เบาะและการจัดวาง
- รองรับ 5 ที่นั่ง เบาะหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์
- รุ่น V+ มีรูระบายอากาศที่เบาะ เพิ่มความสบายในอากาศร้อน
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางในทุกรุ่น
- เบาะผู้โดยสารหน้า ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ในรุ่น X+ และ V+
- เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 พร้อมที่วางแขนและที่วางแก้ว (X+ และ V+)
ด้านหน้าคอนโซล
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง
- หน้าจอแสดงผลดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว
- หน้าจออินโฟเทนเมนต์สัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android แบบไร้สาย (X+ และ V+)
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
- กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down
- แอร์อัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์แถวหลัง
- ระบบ Intelligent Smart Access
- ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายในรุ่น X+ และ V+
- ระบบเสียง 6 ลำโพงใน X+ / V+ (รุ่น D+ ให้มา 4 ลำโพง)
- ซันรูฟพาโนรามาในรุ่น X+ และ V+
พื้นที่เก็บของด้านท้าย
- ความจุ 453 ลิตร
- พับเบาะหลังเพิ่มได้สูงสุดถึง 1,441 ลิตร ใช้งานจริงได้สบายทั้งขนของ ดูบอลทริปยาว หรือใส่อุปกรณ์แคมป์

เทคโนโลยีความปลอดภัย : จัดเต็มระดับ EURO NCAP 5 ดาว
NEW MG S5 EV Plus ได้มาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก EURO NCAP พร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่แน่นคัน ได้แก่
ระบบพื้นฐาน
- เบรกมือไฟฟ้า EPB
- ระบบ Auto Hold (AVH)
- ABS / EBD / EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- CBC, TCS, HAS ฯลฯ
ระบบช่วยขับขั้นสูง (ADAS)
- ระบบตรวจลมยาง TPMS
- ระบบเตือนเสี่ยงชนด้านหน้า FCW
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ AEB
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
- ระบบควบคุมความเร็วช่วงรถติด TJA
- ระบบช่วยประคองเลน LKA / LDP / LDW / ELK
- ระบบเตือนมุมอับสายตา BSD, LCA
- เตือนรถตัดหลังขณะถอย RCTA, ช่วยเบรกขณะถอย RCTB
- ระบบเตือนเปิดประตู DOW และเตือนการชนด้านหลัง RCW
กล้องและการมองเห็น
- รุ่น X+ และ V+ มี กล้องมองภาพรอบคัน 3D Around View Monitor
- รุ่น D+ มีกล้องมองหลังมาตรฐาน
เสริมด้วยถุงลมนิรภัยรอบคัน ISOFIX และระบบล็อกต่าง ๆ ครบ เหมาะกับทั้งครอบครัวและสายเดินทางไกลที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

ขุมพลังและสมรรถนะการขับขี่
มอเตอร์วางที่เพลาหลัง (RWD) ให้ฟีลขับสนุกและบาลานซ์ดี
- รุ่น D+ / X+
- กำลังสูงสุด 125 kW (170 แรงม้า)
- แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร
- 0–100 กม./ชม. ประมาณ 8 วินาที
- แบตเตอรี่ LFP ขนาด 50 kWh
- วิ่งได้ราว 416 กม. (NEDC)
- รุ่น V+
- กำลังสูงสุด 180 kW (245 แรงม้า)
- แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร
- 0–100 กม./ชม. แค่ 6.1 วินาที
- แบตเตอรี่ NMC 64 kWh
- วิ่งได้ไกลสุด 550 กม. (NEDC)
รองรับระบบชาร์จเร็ว DC
- สูงสุด 140 kW ในรุ่น V+ (10–80% น้อยกว่า 30 นาที)
- สูงสุด 88 kW ในรุ่น D+ และ X+
รองรับ V2L จ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้สูงสุด 6 kW ใช้ได้จริงทั้งตั้งแคมป์ ดูบอลนอกบ้าน หรือเป็นแหล่งไฟสำรองเวลาไฟดับ
โหมดขับขี่ 5 แบบ
- Comfort / Normal / Sport / Snow / Custom
และมีระบบ KERS (ระบบกู้พลังงานเบรก) เลือกปรับได้ 4 ระดับ พร้อม One Pedal ขับในเมืองสบาย ใช้คันเร่งเดียวควบคุมทั้งเร่งและหน่วง
การเซ็ตช่วงล่าง
- ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท
- ด้านหลังแบบอิสระ 5-Link
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ
ตัวรถถูกออกแบบให้กระจายน้ำหนักแบบ 50:50 และจุดศูนย์ถ่วงต่ำ (Low Centre of Gravity) ช่วยให้เกาะถนนดี เข้าโค้งมั่นใจ ขับเร็วก็ไม่โคลงจนเวียนหัว

ทำไม MG S5 EV Plus ถึงน่าจับตาในยุค EV บูม
ในยุคที่ราคาน้ำมันผันผวน และระบบชาร์จสาธารณะเริ่มครอบคลุมมากขึ้น การมีรถไฟฟ้า B-SUV ที่ราคาแตะระดับ 6–8 แสน แต่ให้ทั้ง
- ระยะทางวิ่งไกล
- เครื่องเสียงและจอใหญ่ครบ
- เทคโนโลยีความปลอดภัยจัดเต็ม
- รับประกันมอเตอร์–แบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน
ทำให้ MG S5 EV Plus กลายเป็นตัวเลือกที่ “จริงจัง” ไม่ใช่แค่ของเล่นหรือรถสำรอง แต่เป็นรถใช้งานหลักสำหรับครอบครัวได้สบาย

สำหรับคนที่มองหา รถไฟฟ้าใช้งานจริง ขับไปทำงาน ดูบอล นัดเพื่อน ตะลุยทริปต่างจังหวัด แบบไม่ต้องลุ้นเรื่องชาร์จบ่อย รุ่นนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่ควรไปลองขับด้วยตัวเอง
ใครสนใจ โปรนี้วิ่งถึง 10 ธันวาคม 2568 และมีในงาน Motor Expo 2025 ด้วย ใครเล็งอยู่ บอกเลยว่าเป็นช่วงที่ “ตัวเลขหน้ากระดาษ” สวยกว่าช่วงไหนของปี
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

